และแล้วก็เดินทางมาถึงวันแข่งขันโมโตครอสประจำจังหวัดนครนายก กุสุมาลย์ยังจำบรรยากาศในงานของเมื่อปีที่แล้วได้อยู่เลย เพราะเป็นงานระดับจังหวัด ย่อมต้องมีผู้คนให้ความสนใจ คนใหญ่คนโตก็ต้องมาทำพิธีเปิดงานไปตามประสา ทว่าปีนี้ดูจะหนาตากว่าปีที่แล้ว ถึงกระนั้นก็ไม่ได้ทำให้แชมป์หนึ่งสมัยประหม่าได้
เพราะคนที่ประหม่าคือชยางกูรต่างหาก
แฟนลงแข่ง เขาย่อมต้องมา วันซ้อมเขายังมาเลย นับประสาอะไรกับวันแข่งจริง เพราะหากวันนี้เขาไม่อยู่ที่สนามวิบาก เชื่อได้เลยว่าชะตาคงใกล้ขาดแล้วเป็นแน่ แต่เขาคิดไม่ถึงว่า ‘คนอื่นๆ’ ก็จะมาด้วย เจ้านายกับภรรยานั้นพอจะทราบอยู่แล้วว่าจะมา แถมยังให้ดิฐากรและอรัณย์ติดสอยห้อยตามมาด้วย แม้แต่จีรกิตติ์และครอบครัวยังมากันครบทั้งห้าชีวิต ครอบครัวของนักการเมืองหนุ่มอย่างธนบดีก็มา เพราะเป็นคนสำคัญของจังหวัด
รวมไปถึงนายอำเภอคณิศ ผู้ว่าฯ รองผู้ว่าฯ มากันครบ นี่มันงานแข่งขันโมโตครอสหรืองานรวมตัวคนมีหน้ามีตาในสังคมกัน ขนมาทั้งจังหวัดเลยหรือ
มันคงไม่เป็นอะไรหากเขาไม่กลายเป็นดาวเด่นจนหลายสายตาจับจ้องมาเป็นตาเดียว!
ครอบครัวเพียรกุลมาที่นี่ทุกคน หากฝากเฉือน้อยไว้ที่บ้านก็จะต้องอยู่กับแม่บ้าน กุสุมาลย์จึงขอให้เขาพาลูกชายไปเชียร์ตัวเองด้วย เจ้าก้อนสีส้มจึงนั่งอยู่ในกระเป๋าที่คุณยายเป็นคนซื้อให้
ภายในเต็นท์ที่ถูกกางเพื่อบังแดดนั้นมีเหล่าประธานการจัดงานและคนใหญ่คนโตนั่งรวมกันอยู่มาก เขาก็นั่งอยู่กับน้องๆ และเจ้านาย รวมถึงท่านส.ส. และภรรยา ส่วนพ่อแม่นักการเมืองหนุ่มนั้นรวมโต๊ะอยู่กับผู้ใหญ่ของจังหวัด
เดิมทีความสนใจของทุกคนเพ่งไปที่เฉือน้อย แม้แต่เมียเจ้านายที่แพ้ขนแมวยังอยากเล่นด้วย แต่ก็ไม่สามารถทำได้ ทำได้เพียงมองเจ้าเหมียวผ่านกระจก คนอื่นๆ ที่นั่งร่วมวงก็ให้ความสนอกสนใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสองแฝดปาเก๋าและปาโก๋ อยากให้เขาพาเฉือน้อยออกจากกระเป๋า ทว่าก็ไม่อาจทำได้
“เพิ่งรู้ว่าเฮียเลี้ยงแมวด้วย” อรัณย์เอ่ยขึ้น เพราะหลังจากเข้าไปเก็บของเขาก็ไม่ได้กลับเข้าไปเหยียบบ้านหลังนั้นอีกเลย
“แฟนอยากเลี้ยง”
ดิฐากรเป็นฝ่ายถามต่อ “แล้วไม่พาแฟนมาด้วยอะ หรือเขาทำงานวันเสาร์”
คำพูดของลูกน้องเรียกความสนใจของปราชญาธิปได้เป็นอย่างดี เพียงเท่านั้นเขาก็เข้าใจได้ว่าไอ้พวกนี้ยังไม่รู้เรื่องของชยางกูร จึงได้นึกขันอยู่ในใจ เพราะหลังจากที่รู้ เจ้านายอย่างเขาก็ไม่ได้คิดที่จะแพร่งพรายเรื่องส่วนตัวของลูกน้องให้คนอื่นรับทราบ แม้แต่เพื่อนสนิทอย่างธนบดีที่เป็นคนรู้จักกับกุสุมาลย์ เขาก็ไม่พูด
ดิฐากรมางานนี้เพราะเจ้านาย รวมถึงอรัณย์ที่มาเพื่อดูแลความเรียบร้อยให้ปราชญาธิปและอัสมา ทั้งสองจึงคิดว่าพี่ใหญ่อย่างชยางกูรก็คงมาตามคำสั่งของเจ้านาย ถึงกระนั้นก็มั่นใจว่าหากหนุ่มรุ่นพี่จะพาแฟนมาด้วย ปราชญาธิปคงจะไม่ติเตียนอะไร เพราะน้องเล็กของกลุ่มก็ยังพาเมียและลูกมาด้วยเลย แบ่งกันอุ้มคนละไม้คนละมือ ปาเก๋าอยู่กับดิฐากร ปาโก๋อยู่กับอรัณย์ ลูกสาวคนเล็กผู้เป็นพ่อเป็นฝ่ายรับผิดชอบ แต่สองแฝดก็วอแวอยู่แต่กับเฉือน้อยที่พวกเขาก็เพิ่งรับรู้ถึงการมีอยู่ก็วันนี้
“ปกติเขาก็ทำนั่นแหละ แต่วันนี้หยุด”
จีรกิตติ์พูดบ้าง “หยุดแล้วไม่พามาให้น้องให้นุ่งเห็นหน้าพี่สะใภ้บ้างล่ะ”
“บอกตอนไหนว่าเขาไม่มา”
คำตอบของพี่ใหญ่ในกลุ่มทำให้น้องๆ ทั้งสามหันมองกันทันที ต่างกับปราชญาธิปที่นั่งอมยิ้มกับบทสนทนาของทั้งสี่
ไอ้เฉื่อยมันดึงเชิงชะมัด
หนุ่มรุ่นน้องทั้งสามหันซ้ายแลขวาเพื่อมองหาพี่สะใภ้ที่ก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหน้าตาเป็นเช่นไร แต่ก็มองหาตามสัญชาตญาณ ก่อนกลับมาทิ้งสายตาไว้ที่ผู้พูด อรัณย์เป็นฝ่ายถามขึ้น “คนไหนอะ”
ปราชญาธิปนึกอยากตบกบาลลูกน้องสักคนละสองสามที เผื่อสมองจะกลับเข้าที่เข้าทาง ทั้งๆ ที่อรัณย์เป็นฝ่ายคาบข่าวมาบอกเขาเองแท้ๆ ว่าผู้หญิงที่ชยางกูรพาเข้าบ้านนั้นขี่รถมอเตอร์ไซค์วิบาก แต่ ณ เวลานี้ที่ตัวมันมานั่งชิดขอบสนามวิบาก กลับนึกไม่ได้ว่า ‘พี่สะใภ้’ ของตนจะเป็นใคร มันก็ต้องเป็นคนที่จะลงสนามสิวะไอ้เบื๊อก!
เพราะถ้าไม่ใช่หวังมาดูฝีมือน้องสะใภ้ เขาก็คงไม่ให้ว่าที่คุณแม่มาทนอากาศร้อนอย่างตอนนี้หรอก
ทว่าในจังหวะนั้นเองที่เสียงของใครบางคนดังขึ้น แม้ไม่ดังมากแต่สามารถเรียกความสนใจจากผู้คนที่อยู่ในเต็นท์ได้ดีทีเดียว
“เฉื่อย พาหลานมาหาม้าหน่อยลูก”
การที่คนระดับคุณนายขวัญเรือนจะเรียกขานถึงใครสักคนนั้นย่อมต้องเป็นที่ให้ความสนใจแก่คนระดับเดียวกัน ยิ่งพูดถึงหลาน ทั้งๆ ที่รู้กันอยู่ว่าเจ้าของธุรกิจซีเมนต์ผสมเสร็จยังไม่มีหลานนั้นยิ่งสร้างความฉงนให้คนที่ได้ยิน แม้แต่ผู้ว่าราชการจังหวัดยังหันมาเลิกคิ้วใส่
“คุณลี่มีหลานแล้วรึ นี่ผมพลาดข่าวดีไปตอนไหนครับเนี่ย”
ขวัญเรือนพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม “หลานชายด้วยนะคะ” ก่อนจะหันไปทางแฟนลูกสาวที่เดินมาพร้อมกระเป๋าแมว
ทุกย่างก้าวของชยางกูรมีสายตาหลายคู่จับจ้องอยู่ตลอดทาง จนกระทั่งเดินมาหยุดอยู่ใกล้ๆ กับที่นั่งของพวกผู้ใหญ่ เขาค้อมศีรษะอย่างมีมารยาทก่อนจะส่งเจ้าเหมียวให้หญิงวัยกลางคน ทว่าหล่อนไม่รับในทีแรก กลับเอ่ยปากให้เขานั่งลงในวงล้อมของตนที่เต็มไปด้วยคนมีสี เขาหรือจะขัดได้ จึงเลือกที่จะนั่งข้างเลปกรแล้วค่อยส่งเฉือน้อยให้คุณยายที่ยื่นมือมารับหลังเขานั่งลงเรียบร้อยแล้ว
“นี่ล่ะ หลานชายลี่” จบประโยค เสียงหัวเราะชอบใจของคนอื่นๆ ก็ดังขึ้น “ลูกชายเจ้าก้านน่ะ”
ชายวัยกลางคนคนหนึ่งซึ่งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดโพล่งขึ้น “ลูกหนูก้านกับใครล่ะ”
ขวัญเรือนมุ่นคิ้วใส่ผู้พูด “อะไรกัน ลี่เพิ่งรับมาจากมือพ่อเขาแท้ๆ”
คำตอบนั้นสร้างเสียงฮือฮาขนาดย่อมได้เป็นอย่างดี ทุกสายตาหันมามองชยางกูรเป็นตาเดียว นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ชายหนุ่มประหม่าขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัว เพราะสิ่งที่ขวัญเรือนทำนั้นถือว่าเป็นการเปิดตัวแฟนลูกสาวต่อหน้าสาธารณะชนเลยก็ว่าได้
มารดาของธนบดีที่คุ้นหน้าคุ้นตากับผู้ติดตามของปราชญาธิปเอ่ยขึ้นด้วยความตกใจ “ตาเฉื่อยคบกับหนูก้านหรอกเหรอ”
ขวัญเรือนยิ้มกริ่ม “คนนี้ลูกเขยลี่เองแหละคุณดา จองตัวให้เจ้าก้านแล้ว”
คล้อยหลังประโยคนั้น เสียงพูดคุยก็ดังขึ้น ทว่าชยางกูรไม่อาจรับรู้อะไรได้อีกแล้ว แค่ตั้งใจมาดูแฟนสาวคนเก่งแข่งรถ ไม่ได้เตรียมใจมาเป็นดาวเด่นเลยสักนิด แต่คุณนายขวัญเรือนจัดให้จนจุกไปหมด
ด้านน้องๆ ในกลุ่มก็อยู่ในอารามตกใจเช่นเดียวกัน ทั้งสามสบสายตาที่สื่อความหมายโดยไร้คำพูด ทว่าต่างก็เข้าใจ เข้าใจว่าพวกเขาไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าทำไมแฟนของพี่ชายถึงเป็นกุสุมาลย์ ช่างยนต์คนนั้นที่พวกเขาเองก็เคยเห็นหน้าค่าตามาบ้างแล้ว ทว่าไม่มีอะไรให้ฉุกคิดเลยสักนิด ก่อนอรัณย์จะชะงักกึกให้กับความคิดของตน
“นั่นไง ทำไมกูถึงคิดไม่ได้นะ” ประโยคนั้นเรียกสายตาจากเพื่อนสนิทและรุ่นน้องให้หันมามอง “มึงจำที่กูเคยบอกได้ไหม ที่มีรถจอดอยู่หน้าบ้านกู
“...เออ วันนั้นเขาก็อยู่ที่นั้นนิ” จีรกิตติ์ผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราวได้แต่ทำหน้าฉงนจนดิฐากรนึกสงสาร “ไอ้อาร์มเคยเห็นรถวิบากจอดอยู่หน้าบ้าน เฮียบอกว่าเป็นของแฟน แล้ววันที่คุยเรื่องนี้กันที่ร้านผัดไทย แฟนเขาก็นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ พอพูดเรื่องนี้ยังหันไปมองเขาอยู่เลยเพราะเขาก็ขี่วิบาก แล้วทำไมถึงนึกไม่ออกว่าผู้หญิงที่เฮียพาเข้าบ้านจะเป็นคนนี้วะ ทั้งๆ ที่ก็โคตรเข้าข่าย”
ปราชญาธิปแค่นหัวเราะ ชำเลืองมองลูกน้องที่นั่งอยู่แถวหลัง “ไอ้พวกไม่ทันคน”
“นายรู้อยู่แล้วเหรอครับ” เป็นดิฐากรที่เอ่ยถาม
ปราชญาธิปก็พยักหน้าให้ “ไม่ได้โง่เหมือนพวกมึง” อัสมาอดไม่ไหวที่จะใช้ศอกกระทุ้งแขนสามี เธอพยายามที่ทำให้เขาเป็นคนใจดี น่ารัก แต่เขาก็เป็นคนเช่นนั้นแค่กับเธอ กับคนอื่นยังเป็นคนเดิมๆ เปลี่ยนไม่ได้
ก่อนที่อัสมา วรัสยาและพัณณ์พิศจะหันไปจับกลุ่มคุยกันในเรื่องนี้ตามประสาสาวๆ
นักการเมืองหนุ่มได้ทีพูดบ้าง “โปรด กูก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเฉื่อยจะสอยลูกอาหมอได้”
“เพิ่งคบกัน ไม่แปลกที่จะไม่รู้”
ธนบดีหันไปมองยังเก้าอี้แถวหน้าที่มีแต่ผู้ใหญ่ของจังหวัด เคลื่อนสายตาไปทาง ‘เขยคนรอง’ ของเพียรกุลที่นั่งคุยอะไรสักอย่างกับเลปกร ก่อนจะวกมาที่เพื่อนสนิท “มึงแม่งสั่งสอนได้ดี”
“มันหาของมันเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับกู” เพราะเขาก็มารู้ทีหลังเหมือนกันว่าลูกน้องคนสนิทคบกับลูกสาวผู้อำนวยการโรงพยาบาล แม้จะตะขิดตะขวงใจตั้งแต่ตอนรู้ว่าผู้หญิงที่ชยางกูรพาไปกกนั้นมีความเกี่ยวข้องกับมอเตอร์ไซค์เช่นนี้ แต่ก็ไม่มั่นใจนัก จนกระทั่งเจ้าตัวง้างปากบอกเอง “แต่เป็นคนนี้ก็ดีใจกับมันด้วย”
เขารู้ปูมหลังของลูกน้องคนนี้ดี กว่าจะถีบตัวเองมาได้ขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่แม้ชยางกูรจะเกิดมาในครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวย ทว่าจากการขยันทำงานนั้นก็ทำให้อีกฝ่ายมีเงินเก็บมากพอสมควร ฉะนั้นแล้วเขาไม่ได้ดีใจที่มันได้คบคนรวย เพราะชยางกูรในตอนนี้ห่างไกลคำว่าจนนัก แต่ดีใจที่เป็นคนนี้เพราะเป็นคนนี้ คนที่ครอบครัวก็ใจดีกับลูกน้องของเขา คนที่พ่อกับแม่ก็เข้ากับแฟนลูกสาวได้อย่างดี เท่านี้เขาก็พอใจแล้ว
“วันนั้นมึงยังบอกว่าน้องไม่เหมือนลูก ผอ. โรง’บาลอยู่เลย”
ปราชญาธิประบายยิ้ม “อ้อ วันนี้กูก็ยังมองว่าไม่เหมือนน่ะ”
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว