87. เจ้าหนี้ซาตาน

2

เขมชาติกระแทกลมหายใจเมื่อตอบเพื่อนออกไป

“หนี้อะไรวะ” ชานนท์เลิกคิ้วถาม

“หนี้ที่บ้านเค้า” เขมชาติตอบสั้น หัวใจของเขาว้าวุ่นไปหมด มัวแต่นึกถึงคนที่เพิ่งวิ่งหนีออกไปเมื่อครู่ นี่เขาจะสนใจเธอทำไมกันนะ

“มาใช้หนี้ด้วยการเป็นเมียแกนี่นะ” ชานนท์ยิ่งอยากรู้เข้าไปใหญ่

“นางบำเรอ” เขมชาติแก้คำพูดของเพื่อน

“เออๆๆ นั่นแหละ ใช้หนี้โดยการมานอนกับแกนี่เหรอ”

“มีลูกให้ฉัน แล้วเธอก็ไปตามทางของเธอ” คนตอบใบหน้าบึ้งตึงบ่งบอกว่าหงุดหงิดมากแค่ไหน

“แกกับป้าของแกใจร้ายไปหรือเปล่าวะ” ชานนท์ได้ฟังก็แทบกินข้าวไม่ลง

“เธอต้องการแค่เงิน อยากสุขสบาย ก็เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ ไม่อยากรับภาระอะไรหรอก เธอคลอดลูกก็ค่อยให้เงินไปสักก้อน” เขาจำได้ว่าป้าของเขาพูดกับเขาแบบนั้นตอนที่บอกให้เขารับเธอมาอยู่ด้วยเพื่อผลิตลูกให้

“แต่ฉันดูคุณปัทไม่น่าจะใช่คนแบบนั้น”

“เมื่อก่อนพิมพ์อรก็ไม่เห็นจะเป็นคนแบบนั้น”

“คนเราไม่เหมือนกันไปซะหมดหรอกว่ะเขม แกได้เขาเป็นเมียแล้ว ลองเปิดใจมองเขาดีๆ สิวะ” ชานนท์เห็นท่าทางของปิ่นปัทมาแล้ว ไม่น่าจะเป็นคนไม่ดีอย่างพิมพ์อร อดีตภรรยาของเพื่อนรัก

“ถ้าอย่างนั้นฉันต้องเปิดใจกับโสเภณีทุกคนที่นอนด้วยอย่างนั้นเหรอวะไอ้นนท์”

“เค้าไม่เหมือนผู้หญิงแบบนั้น เหมือนที่แกนอนด้วย” ชานนท์เถียง

“ผู้หญิงที่ยอมตกปากรับคำมานอนกับผู้ชายง่ายๆ ก็เหมือนกันหมดนั่นแหละ”

“แต่เค้าเป็นหนี้ป้าของแก อาจจะไม่มีทางเลือก”

“เป็นหนี้ก็ต้องจ่าย ไม่จ่ายก็โดนยึดบ้านเป็นของธรรมดา เพราะเค้าเอาบ้านมาจำนองป้าของฉันเอาไว้ ถ้าไม่ใจง่าย รู้จักรักศักดิ์ศรีสักนิดก็หาทางอื่นทำมาหากินไปสิ ก็อยากเป็นหนี้ทำไมวะ ถ้าลูกหนี้ทุกคนไม่จ่าย เจ้าหนี้ก็ต้องผ่อนผัน หรือยกหนี้ให้เหรอไงวะ” เขมชาติพูดด้วยน้ำเสียงกระแทกกระทั้น แท้ที่จริงแล้ว เขาเองก็รู้อยู่เต็มอกว่าปิ่นปัทมาโดนหลอก แต่เขากลับไม่อยากยอมรับ บางทีเธออาจจะโกหก หาว่ามารดาเลี้ยงใส่ร้ายก็ได้ คนเราเดี๋ยวนี้แผนการซับซ้อนออกเยอะแยะไป

“ไม่ใช่แบบนั้น”

“แกกำลังเข้าข้างผู้หญิงคนนั้น” เขมชาติมองเพื่อนนิ่ง สีหน้าบ่งบอกถึงความไม่ชอบใจ

“ไอ้บ้า ฉันไม่ได้คิดอกุศลกับเค้า แกคิดมากเกินไป” ชานนท์รีบปฏิเสธ

“ฉันยังไม่พูดอะไร แกร้อนตัว”

“บะ! ไอ้บ้านี่ ก็สายตาแกมันคิด ไม่ต้องพูดฉันก็รู้ว่าแกคิดยังไง” ชานนท์หน้าหงิกใส่เพื่อนรัก

“ถ้าแกอยากได้ รอให้ฉันเบื่อก่อน”

“ไอ้ห่านี่ ไม่เอาโว้ย!” ชานนท์โวยวายเสียงดังใส่เพื่อน เขมชาติหันไปทานอาหารของตัวเองเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ที่พูดออกไปเมื่อกี้เขาอยากตบปากตัวเองนัก


“พี่ปัท ไปกับปลายเถอะนะ กลับบ้านกัน อย่าอยู่กับคนใจร้ายแบบนี้เลย” ปลายรุ้งตามพี่สาวมาหลังบ้าน ปลอบใจคนที่ร้องไห้ ปกติพี่สาวของเธอเป็นคนเข้มแข็ง ไม่ค่อยร้องไห้ แต่เธอดูสถานการณ์แล้ว เขมชาติน่าจะโหดร้ายกว่าที่เห็นนัก

“แต่ถ้าพี่ไป คุณนายจะยึดบ้านเราแน่นอน พี่น่ะไม่เป็นไร แต่ปลายกับคุณน้าล่ะ”

“โธ่... พี่ปัท ขนาดคนที่ก่อหนี้สินยังไม่รู้สึกอะไรเลย พี่จะไปเครียดทำไม เราก็ไปตายเอาดาบหน้าสิ เรามีวิชาความรู้นะพี่ ไม่อดตายแน่นอน” ปลายรุ้งพูดอย่างขัดใจ

“แต่บ้านหลังนั้นเป็นสมบัติชิ้นเดียวที่พ่อทิ้งไว้ให้เรา”

“ถึงเราจะรักษาเอาไว้ไม่ได้ แต่เราก็ทำเต็มที่แล้ว พ่อต้องเข้าใจ พี่เชื่อปลายเถอะ อย่าอยู่ที่นี่อีกเลย” ปลายรุ้งอ้อนวอนพี่สาว เธอไม่อยากให้ปิ่นปัทมาคิดถึงแต่คนอื่น ควรคิดถึงตัวเองให้มากๆ

“งั้นพี่จะไปกับปลาย” ปิ่นปัทมาตัดสินใจในที่สุด แม้จะเสียดายบ้านหลังนั้นที่บิดาอุตส่าห์ทำงานหาเงินมาซื้อเอาไว้ให้เธอกับน้องได้อยู่ จะได้ไม่ต้องไปเช่าคนอื่น แต่ที่สุดแล้วเธอก็ไม่มีปัญญาหาเงินมาไถ่ถอนคืนได้ เพราะจำนวนหนี้นั้นหลายล้านบ้าน มารดาเลี้ยงก็ไม่ได้ทำงานทำการอะไร เธอกับน้องก็ยังไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่งและมั่นคงพอ แม้การทำขนมส่งขายจะรายได้ดี แต่ก็พอเลี้ยงตัวเอง ไม่สามารถเอาไปปลดหนี้ก้อนโตได้เลย

“เงินทองข้าวของ ทรัพย์สมบัติเป็นของนอกกายพี่ปัท ปลายไม่อยากเห็นพี่ปัทต้องมาทุกข์กับผู้ชายใจร้ายคนนี้ เราไปกันเถอะนะ พูดดูถูกพี่ปัทว่าไม่ใช่เมีย เห็นพี่เป็นอะไร นางบำเรอหรือยังไงกัน” ปลายรุ้งทนเห็นพี่สาวอยู่กับผู้ชายใจร้ายอย่างเขมชาติไม่ได้

“พี่ขอเก็บข้าวของแป๊บนึง ปลายรอพี่หน่อยนะ” ปิ่นปัทมาปาดน้ำตาทิ้ง เธอจะไม่อ่อนแอร้องไห้อีกต่อไปแล้ว

“เดี๋ยวปลายช่วยเก็บจ้ะ จะได้เสร็จเร็วๆ จะได้ไปจากที่นี่เสียที ตอนแรกนึกว่าพี่ปัทจะมาอยู่ที่นี่แล้วดีเสียอีก ที่แท้ก็แย่กว่าเดิม” ปลายรุ้งพูดอย่างเห็นใจพี่สาว เธอเองก็รู้สึกผิดเพราะสาเหตุนั้นมาจากมารดาของตัวเอง

ปิ่นปัทมากับปลายรุ้งเก็บข้าวของเสร็จก็เดินออกจากบ้าน เธอคิดว่าจะไปลาคุณนวลแขก่อน แต่ปลายรุ้งบอกว่าไม่เห็นจำเป็นต้องไปลาเจ้าหนี้หน้าเลือดพรรค์นั้น

“จะไปไหน” เสียงแข็งกระด้างเอ่ยถามเมื่อเห็นสองสาวถือกระเป๋าเสื้อผ้าเดินผ่านหน้าเขากับเพื่อนรักไป

“ก็เห็นอยู่ว่าจะกลับไปอยู่บ้าน” ปลายรุ้งหันไปตอบ แม้จะกลัวอีกฝ่ายอยู่เหมือนกัน แต่ก็รักพี่สาวมากกว่า ยังไงก็ต้องปกป้องพี่สาวคนเดียวให้ถึงที่สุด

“ถ้าเธอไป หนี้สินทั้งหมด...”

“ช่างหัวมัน” ปลายรุ้งสวนกลับในขณะที่เขมชาติยังพูดไม่ทันจบประโยค

“เด็กอะไร ผู้ใหญ่พูดกันอยู่ก็แทรกขึ้นมาฉอดๆ เขาไม่พูดกับตัวเองก็อยากจะสอดเข้ามา ไร้มารยาทสิ้นดี” ชานนท์ตำหนิปลายรุ้ง

“แล้วนายเผือกอะไรด้วย”

“ยายเด็กนี่ หาว่าฉันเสือกรึไง”

“ฉันบอกว่าเผือก ไม่ใช่เสือก คุณด่าตัวเองนะ” ปลายรุ้งพูดอย่างยียวน

“ฮึ่ม!” ชานนท์คำราม อยากจะจับมาตีก้น หักคอสวยๆ นั้นนักถ้าทำได้

“ขอตัวก่อนนะคะ คุณจะทำอะไรก็แล้วแต่คุณเถอะค่ะ” ปิ่นปัทมาพูดแบบไม่มองหน้าใคร ก่อนจะดึงน้องสาวเดินออกไปจากบ้าน

“เธอจะไปไหน ปิ่นปัทมา” น้ำเสียงเข้มงวดของคุณนวลแขทำให้ปิ่นปัทมาชะงัก

“คือว่าปัท จะไปจากที่นี่ค่ะ” ปิ่นปัทมาตอบออกไป รู้สึกกดดันเมื่อเจอกับคนตรงหน้า

“ถ้าเธอไป ฉันจะยึดบ้านและที่ดินของเธอวันนี้ เธอเก็บข้าวของไปอยู่ที่อื่นได้เลย”

“คุณนายคะ ขอให้ปัทกับน้องหาที่อยู่ใหม่ให้ได้ก่อน ได้ไหมคะ”

“ไม่ได้ ฉันผัดผ่อนหนี้สินให้เธอกับครอบครัวมานานแล้ว ถ้าฉันอะลุ่มอล่วยให้เธอ ใครๆ ก็ต้องมาขอฉันอีก แล้วฉันจะให้คนกู้ยืมเงินไปทำไม ทำทานให้คนไปไม่ดีกว่ารึ” คุณนวลแขพูดเสียงเฉียบ ไม่มีความปรานีอยู่น้ำเสียง

“งั้นก็แล้วแต่คุณนายเถอะค่ะ” ปิ่นปัทมาเม้มปากแน่นก่อนจะมองหน้าน้องสาวและตัดสินใจอีกครั้ง เธอจะไม่อยู่กับคนใจร้ายอย่างเขมชาติ วันดีคืนดีเขาอาจจะไม่พอใจ ทำร้ายทุบตีเธอก็ได้ เขาดูอารมณ์ร้าย โมโหก็รุนแรงจนเธอกลัว

“ก็ตามใจแล้วกัน ได้ข่าวว่าแม่เลี้ยงของเธอกำลังโดนทวงหนี้อีกรอบนี่นา คราวนี้หนักกว่าเก่า ถึงเธอจะไม่อยู่บ้านหลังนั้นอีกแล้วก็จะโดนตามทวงหนี้โหด อย่าว่าแต่บ้านเช่าเลย ที่ซุกหัวนอนยังไม่รู้จะมีหรือเปล่า”

“คุณนาย!!!” ปิ่นปัทมากับปลายรุ้งตกใจกับเรื่องราวที่ได้รับรู้

“ถ้าเธอยังอยู่ที่นี่ ฉันอาจจะช่วยอีกครั้งก็ได้” คุณนวลแขใช้เงื่อนไขเรื่องหนี้สินมาบีบปิ่นปัทมาอีกครั้ง และครั้งนี้ดูจะหนักหนากว่าครั้งก่อน เพราะเจ้าหนี้รายใหม่ โหดร้ายกว่าคุณนวลแขหลายเท่านัก

ปิ่นปัทมานอนลืมตาโพรงในความมืด ในที่สุดเธอก็หนีไปไหนไม่พ้น

รีวิวจากผู้อ่าน
ยังไม่มีรีวิวสำหรับเรื่องนี้

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว