ในหัวใจ

บินเข้ากองไฟ nc++

จ้องตากันซักครู่ นีรวาก็เป็นฝ่ายยอมแพ้ถอนสายตาออกจากสายตาร้อนแรงของชายหนุ่มก่อน แล้วหญิงสาวจึงยกมือซ้ายมาจับมือขวาของชายหนุ่มบีบเบาๆ สัมผัสถึงความหยาบกร้านของฝ่ามือหนาที่มีตุ่มไตรอยด้านมากมายจากการจับอาวุธ รอยแผลเป็นจากการฟาดฟันกับศัตรูมาอย่างยาวนาน จึงตระหนักถึงชีวิตสมบุกสมบันที่ผ่านมาของชายหนุ่ม รำพึงในใจขึ้นว่า


'ถ้าจำไม่ผิดจากที่เหล่าหวางเฟยเคยกล่าวถึง คืออดีตเฉิงอ๋องจากไป ตั้งแต่หนุ่มน้อยคนนี้อายุแค่สิบสองปี ความรับผิดชอบอันหนักหน่วงและการเป็นเสาหลักของวงศ์ตระกูลคงกดทับบนบ่าสองข้างของหนุ่มน้อยคนนั้น โถ! หนุ่มน้อยที่น่าสงสาร ถึงเจ้าจะอายุน้อยกว่าข้าอยู่หลายปีแต่ข้ากลับเพิ่งมาตระหนักได้ตอนนี้ว่า ถึงเราจะเป็นกำพร้าบิดาเหมือนกัน แต่เจ้ากลับผ่านชีวิตมาอย่างหนักหน่วงโชกโชน อาจยิ่งกว่าที่ข้าจะคาดคิด ดังนั้นเพื่อให้ชีวิตเจ้าสดใส มีสีสัน ไม่ทึบทึมอย่างที่ข้าคาดว่าจะเป็น ข้าจะเอ็นดูกลั่นแกล้งเจ้าให้ยิ่งมากขึ้นดีหรือไม่' ระหว่างที่ลูบคลำถูไถตุ่มไตตามนิ้วมือของชายหนุ่ม นีรวาก็คิดอยู่ในใจอย่างหมายมาด


ชายหนุ่มด้วยความอ่อนเพลียจึงพริ้มตาหลับลง ปล่อยใจล่องลอยรับสัมผัสสบายจากมือนุ่มของหญิงสาว


'จ้าวหนี่วา หญิงสาวนางนี้ คงมิใช่เป็นเพียงหมอรักษาโรคอย่างเดียว แต่คงเคยเป็นหมอนวดด้วยแน่แท้ ดังนั้นข้าจะลองข่มกลั้นความอับอาย ให้เจ้าปรนนิบัติเช็ดตัว นวดตัวให้ข้าดูสักครั้ง' ชายหนุ่มรำพึง ขัดใจกับความรู้สึกปวดเมื่อยทั่วร่างที่นอนท่าเดิมมาหลายวันหลายชั่วยาม แต่สัมผัสสบายจากฝ่ามือ นานเข้ากลับทำให้ชายหนุ่มรู้สึกร้อนรุ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ความตื่นเต้นกำลังพุ่งสูงขึ้น กลับได้ยินนีรวากล่าวขัดด้วยน้ำเสียงประหลาดขึ้นว่า


"ลื้อมีลายมืออาภัพ ชีวิตจะซวยซ้ำซวยซ้อน แต่จะมีบริวารดีคอยช่วยเหลือ มีคนวาสนาดี มีเทวดาฟ้าดินคอยอุปถัมภ์ค้ำชูให้รอดพ้นเคราะห์ร้ายที่คอยถาโถมเข้ามาได้ ลายมือกึ่งดีกึ่งไม่ดีแบบนี้ อั๊วะว่า ลื้อต้องคอยทำบุญของที่เป็นคู่ ดูจากเส้นลายมือที่เลวร้ายที่สุดตอนนี้ คือเส้นคู่ครอง อั๊วะหายังไงก็หาไม่เจอ กลายเป็นรอยด้านกลบไปหมด"


ความรู้สึกตื่นเต้นวูบวาบที่กำลังพุ่งสูง กลับถูกขัดด้วยน้ำเสียงและคำพูดคำจาแปลกประหลาดของหญิงสาว


"เฮอะ! ไร้สาระ! ข้าไม่เชื่อเรื่องการทำนายทายทัก"


"ดีแล้วที่ไม่เชื่อ เพราะเมื่อกี้เป็นคำทำนายมั่วซั่วที่ข้าด้นสดคิดขึ้นเอง"


แต่ในใจนีรวากลับคิดว่า ผู้ชายคนนี้ชีวิตอาภัพจริงๆ เส้นชีวิตก็สั้นกุด มีรอยแผลเป็นตัดผ่านเส้นชีวิตแบบนี้อายุไม่ยืนเลยจริงๆ แต่ไม่เป็นไร นีรวาคนนี้เป็นคนวาสนาดี เป็นคนดวงแข็ง เส้นชีวิตยืนยาว คงช่วยปัดเป่าเคราะห์ร้ายให้ท่านได้บ้าง


"ท่านเล็บยาวแล้วนะนี่ ถ้ายังไงวันพรุ่ง ข้าจะมาตัดเล็บให้ท่านละกัน เพราะต่อไปเวลาแผลตกสะเก็ดใกล้จะหายจะคันมาก เดี๋ยวท่านเผลอแกะเกา แผลก็ไม่หายกันพอดี"


เงยหน้าขึ้นส่งรอยยิ้ม ส่งสายตาแห่งความปรารถนาดีไปให้ชายหนุ่ม ทำให้ชายหนุ่มที่แทบจะไม่เคยมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้า อดไม่ได้ที่จะต้องยิ้มตอบกลับมาด้วยแววตาทอประกายเจิดจ้า

ความรู้สึกมากมายซาดซัดอยู่ในใจ อุ่นร้อนเหมือนมีธารน้ำพุร้อนไหลผ่านภายในโพรงอกที่เคยว่างเปล่าเย็นชากลับมีความรู้สึกอบอุ่นชนิดหนึ่งที่ไม่เคยได้รับมาก่อนก่อกำเนิดขึ้น ตั้งแต่ยังเด็ก ชายหนุ่มกึ่งถูกทอดทิ้งให้เติบโตมาตามลำพังด้วยตนเอง และด้วยยศศักดิ์ ทำให้ผู้คนรอบข้างล้วนยำเกรงไม่กล้าเข้าใกล้ ส่วนบิดามารดาก็ไม่เคยอยู่ติดบ้าน ออกไปรบราฆ่าฟัน เป็นเสาหลักของบ้านเมืองตลอดเวลา แม้แต่การปรนนิบัติเล็กน้อย เช่น การตัดเล็บ กลับไม่เคยได้รับมาก่อน เมื่อชายหนุ่มได้จินตนาการถึงช่วงเวลาที่จะมีคนผู้หนึ่งคอยตัดเล็บให้อย่างอ่อนโยน ก็ยิ่งรู้สึกอุ่นซ่านในใจ


รอจนกระทั่งนีรวาก้มหน้า ถอนสายตาลงไปแล้ว ชายหนุ่มจึงยกมือข้างที่ว่างจากการจับจองของหญิงสาวขึ้นมาลูบหน้าอก เพื่อได้ยืนยันว่าจิตใจที่อบอุ่นดวงนี้ของตนกำลังเต้นอยู่ แล้วพรูลมหายใจเบาๆเพื่อคลายความอุ่นร้อนจนอึดอัดที่เกิดขึ้นภายในใจ แล้วจึงกลับไปพริ้มตาหลับ ตั้งใจรับรู้สัมผัสที่อบอุ่นจากมือนุ่มอย่างละโมบ


ส่วนนีรวา เมื่อมองดูว่ามือของชายหนุ่มสะอาดสะอ้านดีแล้ว ก็เช็ดขึ้นมาจากข้อมือถึงหัวไหล่ เสร็จแล้วจึงสลับไปเช็ดอีกข้าง ต่อมาเมื่อเริ่มเช็ดตัวลูบไล้ไปบนแผ่นอก ชายหนุ่มขมวดคิ้วมุ่นทันที


นีรวาด้วยความมันเขี้ยวอยากกลั่นแกล้ง เมื่อลูบไปถึงจุดหนึ่งที่เป็นป้านกลมสีน้ำตาล ที่มีสีเข้มกว่าสีผิวบริเวณอื่น นีรวาจึงค่อยๆใช้ผ้าลูบวนช้าๆเบาๆจนขึ้นแดงเป็นตุ่มใต

ชายหนุ่มสูดลมหายใจแรง กลั้นเสียงครางในลำคอไว้


"เจ้าทำอะไร รีบๆเช็ดให้เสร็จสิ ข้าไม่ชอบ"

"ไม่ชอบจริงหรือเพคะ พอดีตรงนี้มันดูแดงก่ำผิดปกติ ไม่รู้ไปเปื้อนอะไรมานะเพคะ หม่อมฉันเลยต้องตั้งใจเช็ดนานหน่อยเพคะ"

นีรวาแอบหัวเราะขำในใจ แล้วจึงเริ่มปรนนิบัติอีกข้างอย่างเท่าเทียมลูบไล้จนแดงก่ำพอๆกัน ทำให้ชายหนุ่มก็ต้องคอยกลั้นหายใจเป็นช่วงๆ


จากนั้นมือขวาของนีรวาเช็ดไล่ลงล่างไปเรื่อยๆ ลากมาจนถึงแอ่งเล็กๆกลางท้องก็หยุดมือไว้


"ตรงนี้เปื้อนเยอะเลยเพคะหม่อมฉันยิ่งต้องตั้งใจเช็ดนานขึ้นอีก และคงต้องลงแรงมือมากหน่อยเพราะมีคราบดำดูติดแน่นเหลือเกินเพคะ" มือขวาไล่วนเบาๆด้านนอกพร้อมๆกับค่อยๆลูบลึกลงไปในหลุมเล็กๆนั้น


ครั้งนี้ชายหนุ่มสะดุ้ง ขนลุกเป็นตุ่มไตทั่วตัวขึ้นมาทันที "เจ้าเช็ดตรงนั้นพอหรือยัง"


นีรวาอมยิ้มไม่ตอบแต่มือกลับเลื่อนลงไปอีกจนเกือบจะไล่ถึงตรง 'จุดนั้น'

ชายหนุ่มเผลอเกรงตัวรับขึ้นมาทันควัน


แต่เธอก็หยุดมือชะงักนิ่งเมื่อเกือบจะถึงทันที แล้วเปลี่ยนทิศทางลากลูบจากซ้ายไปขวากลับไปกลับมา อ้อยอิ่งบริเวณนี้อยู่นาน จนชายหนุ่มกลั้นหายใจไม่ไหวต้องถอนหายใจเฮือกเสียงดังออกมา


นีรวาได้แต่อมยิ้มไม่กล่าวแกล้งแซวออกมา แล้วจึงลุกเดินไปทางปลายเท้าของชายหนุ่ม ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งที่ปลายเตียง ยื่นมือขวาไปจับเท้าขวาของชายหนุ่ม


ด้วยความตกใจชายหนุ่มรีบชักเท้าหนี

"เท้าเป็นของต่ำ ไม่ได้สกปรกอะไร ก็ไม่ต้องเช็ดก็ได้"


"ไม่ได้เพคะต้องเช็ดให้สะอาด 'ทุกซอกทุกมุม' เพคะ"

มือซ้ายถือผ้าค่อยค่อยเช็ดเท้าให้ชายหนุ่มอย่างละเอียด ส่วนมือขวาก็ไม่ได้ว่างงานปลายนิ้วทั้งห้าหมุนวนถูไถอยู่ใต้ฝ่าเท้า


ชายหนุ่มพยายามชักเท้าหนีอย่างแรง


"อยากขยับสิเพคะ ครู่เดียวก็เช็ดตรงนี้เสร็จแล้ว"

กล่าวว่า 'ครู่เดียว' แต่ในความเป็นจริง มือขวากลับลูบวนอยู่ใต้ฝ่าเท้าอยู่นานหลายรอบ

จนชายหนุ่มทนไม่ไหว ทั้งที่พยายามกัดปากแต่ก็ต้องเปล่งเสียงหัวเราะเบาๆ ในลำคอออกมา


"แหม! ชอบใช่มั้ยเพคะ"


"หยุด!หยุด! เจ้าหยุดมือเดี๋ยวนี้"


"เพิ่งรู้นะเพคะ ว่าท่านแม่ทัพใหญ่ที่ต้องไร้จุดอ่อน กลับมีจุดอ่อนเล็กๆที่ฝ่าเท้านี่เอง จุ๊จุ๊ ถือเป็นความลับของเราสองคนนะเพคะ ได้กำจุดอ่อนของท่านไว้ หม่อมฉันลำบากใจจริงๆเพคะ"


ปรนนิบัติเช็ดเท้าทั้งสองข้างของท่านอ๋องเสร็จ จึงค่อยๆเช็ดขึ้นมาจากข้อเท้าขวา ไล่ขึ้นมาเรื่อยๆ จึงพบจุดอ่อนอีกจุดหนึ่งของชายหนุ่มเพิ่มขึ้นมาอีก เมื่อตอนลูบไล้จนถึงหลังข้อพับเข่า ตรงจุดนี้เช่นกันที่ชายหนุ่มสะดุ้ง พยายามจะชักขาหนี แต่นีรวาหรือจะยอมจึงทดลองเกาเบาๆที่ข้อพับ ชายหนุ่มต้องกลั้นหัวเราะ จนสะเทือนทั้งตัว


"แหม! จุดอ่อนมีหลายที่เลยนะเพคะ แล้วยังมีตรงไหนอีกน้า"

หลังจากแกล้งเกาหลังเข่าขวาของชายหนุ่มจนพอใจ จึงค่อยๆเช็ดขึ้นไปทางต้นขา ยิ่งเช็ดยิ่งช้า ยิ่งใกล้จะถึงขาหนีบชายหนุ่มยิ่งกลั้นใจยิ่งเกร็งขึ้นโดยไม่รู้ตัว แต่หญิงสาวก็หยุดตรงขอบขาหนีบพอดี ชายหนุ่มถึงเริ่มหายใจคล่องขึ้นใหม่


นีรวาจึงสลับไปเช็ดขาอีกข้างตั้งแต่ข้อเท้าไล่ขึ้นมา เมื่อเช็ดขาทั้งสองข้างเสร็จ นีรวาจึงลุกขึ้นไปเปลี่ยนผ้าชุบน้ำ


"เสร็จแล้วรึ!"


"ยังไม่เสร็จเพคะยังเหลือด้านหลังกับ 'ตรงนั้น' อีกเพคะ"


พูดเสร็จรีบเดินไปที่เป้าหมายอย่างมุ่งมาดทันที นีรวาทรุดตัวลงด้านข้าง เมื่อนั่งอย่างมั่นคง มือซ้ายจึงค่อยค่อยเลิกชายผ้าผืนเล็กที่ปิดส่วนนั้นของชายหนุ่มไว้ มือขวาที่ถือผ้าอยู่ค่อยๆเคลื่อนมือเข้าไปใต้ผ้าช้าๆ



Talk###


หลังจากแต่งไปแต่งมาเลยเพิ่งรู้สึกว่าเป็นการเช็ดตัวทีนานมากจริงๆ ดังนั้นไรท์ขอแยกบทออกเป็นอีกบทหนึ่งนะเจ้าคะ

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว