บทนำ
ในหัวใจ
เสียงรถพยาบาลดังไม่ขาดสาย ร่างบางเดินเข้ามายังโรงพยาบาลด้วยความเคยชิน เธอมองไปยังเตียงคนไข้ที่ล้อมรอบไปด้วยผู้คนด้วยหัวใจที่หดหู่ ยังดีที่อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้เลือกเรียนทางด้านนี้ แต่ยังไงๆเธอก็ต้องวนเวียนกับที่นี่อยู่ดีเพราะพ่อสุดที่รักที่เป็นเจ้าของโรงพยาบาลแห่งนี้นั่นเอง แพรวานิลโตมากับพ่อคนเดียว แม่ของเธอเสียชีวิตไปตั้งแต่เธอยังเด็กๆ ทำให้หญิงสาวสนิทและใกล้ชิดกับผู้เป็นพ่ออย่างมาก
“สวัสดีค่ะคุณแพม มาหาคุณพ่อเหรอคะ” พยาบาลสาววัยกลางคนเดินเข้ามาทักทายหญิงสาวด้วยรอยยิ้ม
“ค่ะ ว่าแต่คุณพ่อมีเคสเหรอคะ” แพรวานิลยิ้มให้และตอบกลับอย่างสุภาพเช่นกัน
“ใช่แล้วค่ะ วันนี้อุบัติเหตุเยอะมากมีเคสผ่าตัดกันไม่ได้หยุดเลย เดี๋ยวยังไงดิฉันขอตัวก่อนนะคะ” พยาบาลสาววัยกลางคนพูดจบก็รีบเดินจ้ำอ้าวออกไปทันที
แพรวานิลเดินเข้ามายังห้องพักส่วนตัวของบิดาด้วยความเคยชิน ตลอดทางที่เดินเข้ามาเธอได้รับแต่รอยยิ้มจากเหล่าพยาบาลหรือแม้แต่คนไข้ที่รู้ว่าเธอเป็นลูกของนายแพทย์ธีรวัตร
เวลาผ่านไปราวสี่ชั่วโมงที่แพรวานิลเข้ามารอผู้เป็นพ่อ ร่างหนาที่คุ้นตาเดินเข้ามาในห้องพักแพทย์ด้วยความเหนื่อยล้าที่แสดงออกมาอย่างชัดเจน
“แพม มานานหรือยังลูก” ธีรวัตรเอ่ยถามลูกสาวคนสวยที่นั่งหันหลังเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ หญิงสาวหันกลับมายังต้นเสียงแล้วถอดหูฟังออก ก่อนจะลุกขึ้นมาสวมกอดบิดา
“เหนื่อยมั้ยคะ วันนี้คุณพ่อมีผ่าตัดอีกหรือเปล่า”
“ไม่มีแล้วล่ะลูกพ่อออกเวรพอดี วันนี้วันหนักของพ่อกับหมอบอสเลยทีเดียว”
“หมอบอสเหรอคะ พ่อหมายถึงพี่บอสที่แพมเคย..?”
“ใช่แล้วลูก ก็พี่บอสที่เราเคยรู้จักนั้นแหละ พี่เค้าจบหมอแล้วมาทำงานที่โรงพยาบาลเรา ถือว่าเราโชคดีมากนะที่ได้พี่เค้ามาช่วย ไม่อย่างงั้นพ่อคงเหนื่อยแย่เลย” ธีรวัตรหันมายิ้มให้ลูกสาว
แพรวานิลใจกระตุกทันทีที่ได้ยินชื่อของผู้ชายคนนี้ คนที่อยู่ในใจเธอมาตลอด ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนเขาก็ยังคงอยู่ในใจเธอเสมอ
“อ้าว พูดถึงก็มาพอดีเลย นี่ไงลูกแพม พี่บอสที่เราเคยรู้จัก ตอนนี้กลายเปลี่ยนพี่หมอไปแล้วนะ” ธีรวัตรพูดไปโดยที่ไม่ได้หันมามองสีหน้าที่ซีดลงของลูกสาว แพรวานิลจ้องมองใบหน้าที่หล่อเหลา เขาเปลี่ยนไปมาก มากเสียจนเธอแทบจะจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ใบหน้าที่ดูสุขุมและเรียบเฉยดูผิดจากวันวานที่มีแต่เสียงหัวเราะและความสดใสประดับอยู่
สิงขรเองก็ตกใจไม่แพ้กันเมื่อต้องมาเจอกับแพรวานิลอีกครั้ง เธอยังคงเหมือนเดิม จะมีก็แต่ใบหน้าที่สวยขึ้นมากจากอดีตที่ผ่านมา ธีรวัตรเคยพูดถึงหญิงสาวให้เขาฟังอยู่บ่อยๆ แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะได้เจอกับเธออีกครั้ง
งานเลี้ยงวันปัจฉิมของนักเรียนชั้นม.6 สิงขรที่เป็นหนึ่งในหนุ่มฮอตติดอันดับของโรงเรียนด้วยหน้าตาที่หล่อเหลาและยังมีผลการเรียนที่ไม่ธรรมดาทำให้สาวๆไม่ว่าจะเป็นรุ่นน้องหรือว่าเพื่อนร่วมชั้นต่างก็ให้ความสนใจแก่ชายหนุ่ม ในมือถือดอกไม้ไว้เต็มหลายดอก เสื้อนักเรียนถูกแปะไว้ด้วยสติกเกอร์รูปหัวใจสีแดงและสีชมพูแทบจะเต็มไปทั้งหน้าอก ชายหนุ่มเดินมายังรถมอเตอร์ไซด์ราคาแพงของตนเองเพื่อเก็บของขวัญที่ได้มา “เข้าไปสิแก บอกพี่เค้าไปเลยว่าแกรู้สึกยังไงกับเค้า พี่เค้าก็สนิทกับครอบครัวแกจะตายไป บอกๆไปเถอะ” เสียงของเด็กผู้หญิงที่แว่วมาเป็นระยะๆทำให้สิงขรหันไปทางต้นเสียง คิ้วหนาขมวดเข้าหากันด้วยความอยากรู้ ไม่นานร่างบางที่เขารู้จักก็เดินเข้ามาพร้อมกับกล่องอะไรสักอย่างในมือ
“แพม ยังไม่กลับบ้านอีกเหรอ บอกพ่อหรือยังเนี่ย” สิงขรถามด้วยความแปลกใจเพราะปกติแล้วพ่อของหญิงสาวจะมารับกลับบ้านหลังจากเลิกเรียนตรงเวลาทุกครั้งถ้าเขาว่าง
“เอ่อ บอกแล้วค่ะว่าจะอยู่งานเลี้ยงคืนนี้ แล้วพี่บอสล่ะคะกำลังจะกลับแล้วเหรอ” แพรวานิลตอบด้วยน้ำเสียงที่ออกจะสั่นเพราะความประหม่าในเรื่องที่กำลังจะพูดกับชายหนุ่ม
“ยังหรอก พี่เอาของมาเก็บที่รถน่ะ ว่าแต่แพมเถอะมีอะไรจะคุยกับพี่หรือเปล่า”ชายหนุ่มเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม “อ้อ แล้วของขวัญนี่ของพี่หรือเปล่าเนี่ย หรือว่าของหนุ่มที่ไหน” สิงขรถามอีกครั้งเมื่อหญิงสาวยังเอาแต่จ้องหน้าเขาอยู่อย่างนั้น
“อ๋อ ใช่ค่ะ แพมตั้งใจเอามาให้พี่บอส” แพรวานิลพยักหน้าพลางยื่นกล่องของขวัญมาตรงหน้าชายหนุ่ม
“ขอบคุณครับ เดี๋ยวพี่จะกลับเข้าไปหาเพื่อนแล้ว แพมมีอะไรอีกหรือเปล่า”
“ไม่มีค่ะ” แพรวานิลปฏิเสธออกไปเพราะไม่กล้าที่จะพูดความในใจกับสิงขร ชายหนุ่มลูบหัวแล้วยิ้มให้เธอก่อนจะหันหลังให้แล้วเดินออกไปจากจุดที่เธอยืนอยู่ สมองอีกฝั่งกำลังประท้วงเธออย่างหนักให้เรียกชายหนุ่มไว้ แพรวานิลรวบรวมความกล้าอย่างถึงที่สุดแล้วตะโกนตามหลังชายหนุ่มไป
“พี่บอสคะ แพมมีเรื่องจะบอกค่ะ” เสียงจากด้านหลังทำให้ชายหนุ่มหันกลับไปด้วยความแปลกใจ สิงขรเดินกลับไปยังที่เก่าแล้วมองใบหน้าแพรวานิลด้วยความสงสัย
“คือ แพมมีเรื่องอยากจะบอกให้พี่บอสรู้น่ะค่ะ ก่อนที่พี่บอสจะจบไป”
“ครับ” ชายหนุ่มพยักหน้าให้
“แพม แพมชอบพี่บอสนะคะ ชอบมานานแล้วด้วย” คำสารภาพตรงๆของหญิงสาวทำให้สิงขรนิ่งงันไปทันที ชายหนุ่มสับสนกับเหตุการณ์ตรงหน้า อยู่ดีๆแพรวานิลก็มาบอกชอบเขา ไม่ใช่ว่าเขาไม่ได้รู้สึกดีกับเธอหรือไม่ใช่เพราะหญิงสาวไม่สวย แต่เพราะเขาไม่เคยคิดว่าเธอจะคิดเกินเลยคำว่าพี่น้องไป
“อย่าล้อเล่นสิแพม แพมเนี่ยนะชอบพี่” ชายหนุ่มแสร้งทำเป็นตลกเพื่อกลบเกลื่อน
“แพมพูดจริงๆนะคะ” ร่างบางหน้าเสียและเริ่มมีน้ำตาคลอพร้อมที่จะไหลลงมา
“อย่ามายุ่งกับพี่เลย พี่ไม่ใช่คนดีอย่างที่แพมคิด แล้วอีกอย่างพี่ไม่ได้ชอบแพม ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยไปมากกว่าคำว่าพี่น้อง”
พอพูดจบน้ำตาของหญิงสาวก็ไหลลงมาทันที แพรวานิลนิ่งไปกับเหตุการณ์ตรงหน้า ร่างบางยืนนิ่งไม่ไหวติงกับอะไรทั้งสิ้น เพราะไม่คิดว่าสิงขรจะตอบกลับมาด้วยถ้อยคำแบบนี้”
“กลับบ้านดีๆนะ ต่อจากนี้เราคงไม่ค่อยได้เจอกันดี พี่ขอให้แพมตั้งใจเรียนแล้วก็เป็นเด็กดีของพ่อนะ” สิงขรกล่าวทิ้งท้ายแล้วเดินจากไป ชายหนุ่มหลับตาด้วยความหนักใจ ภาพของแพรวานิลที่ร้องไห้ออกมาด้วยความผิดหวังและเสียใจทำให้เขารู้สึกสงสารเธอแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ถึงแม้ว่าเขาจะดูเป็นเด็กเรียน เป็นคนร่าเริง แต่ความจริงแล้วเขาทำร้ายหัวใจผู้หญิงมานับไม่ถ้วน
แพรวานิลกลับบ้านไปโดยที่ไม่ได้บอกเพื่อนๆ ตั้งแต่วันนั้นเป็นวันสุดท้ายที่เธอได้เจอกับสิงขร เป็นครั้งสุดท้ายที่เต็มไปด้วยความทรงจำที่โหดร้ายกับเธอเสมอ หญิงสาวเรียนจบมัธยมปลายในอีก 1 ปีต่อมา และไปเรียนต่อที่ต่างประเทศตามคำแนะนำของบิดาที่อยากให้เธอมีความรู้ที่มากขึ้นและได้ออกไปเจอกับโลกภายนอกด้วยตัวเอง