31. คำสารภาพรักบนเตียงนอน
ชาหอมลังเลที่จะเปิดประตูอยู่ชั่วครู่แต่เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูแรงขึ้นเธอรู้ดีว่าไม่กี่วินาทีตรัยต้องเปิดเข้ามาแน่เธอจึงรีบเปิดประตูเสียก่อนพร้อมกับปั้นสีหน้าให้เป็นปกติ
“มีอะไรคะ?”
“เธอกลับมานานแล้วเหรอ?”
ตรัยถามพลางเดินเข้ามาภายในห้องมองกวาดตาสำรวจไปรอบๆอย่างพินิจ
“ใช่ค่ะ มีอะไรเหรอคะ?”
“เมื่อกี้ฉันว่าฉันเห็นเธอในร้านอาหารฝรั่งเศส เธอไปหรือเปล่า?”
“ทำไมฉันต้องไปร้านอาหารฝรั่งเศสด้วยล่ะคะ? คุณจำคนผิดแล้วล่ะ”
ชาหอมพยายามโกหกให้แนบเนียนที่สุดขณะที่อีกฝ่ายสังเกตเห็นบางสิ่งจึงเดินเข้าไปยังตะกร้าใส่เสื้อผ้าที่ใช้แล้ว
“คุณตรัยนั่นคุณจะทำอะไร? นั่นของส่วนตัวของฉันนะ”
ตรัยใช้มือหยิบของบางอย่างในตะกร้าออกมาเป็นเสื้อแขนยาวสีดำมีฮู้ดคลุมศีรษะที่เธอใส่พรางตัวนั่นเอง!
“เดี๋ยวนี้พัฒนาขึ้นด้วยการเป็นstalkersแล้วเหรอ?”
“พูดอะไรไม่เห็นรู้เรื่อง!” ชาหอมยังปากแข็ง “ฉันหิวละออกไปหาอะไรกินที่ครัวดีกว่า”
ชาหอมเปิดประตูห้องแต่มาเฟียมาดดุก้าวเท้ามาปิดบานประตูพร้อมกับยืนขวาง
“ฉันจะไม่ถามว่าเธอไปที่นั่นได้ยังไง? แต่ที่ฉันอยากรู้คือเธอได้ยินอะไรบ้าง?”
“ฉันบอกว่าฉันไม่รู้เรื่องยังไงคะ อีกอย่างช่วยกรุณาถอยด้วยค่ะฉันจะลงไปที่ครัว”
นอกจากจะไม่ถอยตรัย อาทิตยารวบร่างงามระหงของชาหอมขึ้นมาอุ้มพาเดินมาที่เตียงนอนก่อนจะวางร่างของเธอลงบนที่นอน ชาหอมพยายามจะขยับแต่ไม่กี่อึดใจต่อมาร่างกำยำของเขาก็ขึ้นคร่อมร่างงามระหงของเธอ
“ผู้ร้ายปากแข็ง บอกมาว่าได้ยินอะไรบ้าง?”
ตรัยเลื่อนใบหน้าคมสันจนเกือบจะแนบชิดใบหน้าสวยเชิดจนได้กลิ่นหอมจากร่างงามระหงที่นุ่มนวลตรงหน้า เมื่อไม่สามารถจะโกหกได้อีกต่อไปชาหอมจึงตัดสินใจเผชิญความจริงตรงหน้าให้รู้แล้วรู้รอดเสียเลย
“ได้ยินว่าชื่อของฉันถูกคุณเอาไปแอบอ้าง”
“แอบอ้างเรื่อง...?”
“ไปอ้างกับพี่เจนนี่เพื่อให้พี่เขาตัดใจจากคุณ”
“อ่อ ที่ฉันบอกกับเจนนี่ว่า...”
“อย่าพูด!” ชาหอมรีบห้าม “ถ้าคุณไม่คิดแบบนั้นจริงๆอย่าพูดมันออกมา ฉันเป็นคนเชื่อและไว้ใจคนง่ายฉันไม่อยากผิดหวัง”
แววตาหญิงสาวตรงหน้าของตรัยช่างเต็มไปด้วยความหวั่นไหว
“ฉันรักเธอชาหอม”
ดั่งถูกมนต์สะกดและเวลาทั้งโลกหยุดหมุนเมื่อคำสารภาพรักรวมไปถึงแววตาของตรัยนั้นแน่วแน่เกิดกว่าที่เธอจะละสายตาไปมองที่อื่นได้ ใบหน้าคมสันของมาเฟียมาดดุค่อยๆเลื่อนลงมาจุมพิตที่ริมฝีปากของเธออย่างแผ่วเบาแล้วพูดต่อ
“ฉันรักเธอมานานแล้ว อาจจะรักตั้งแต่ครั้งกันด้วยซ้ำ”
“คุณ.....โกหก”
“ฉันพูดจริง ฉัน-รัก-เธอ-ชา-หอม”
พูดจบตรัยประทับรอยจูบลงไปยังริมฝีปากกระจับบางอีกครั้งแต่คราวนี้ไม่ใช่แค่จุมพิตเขาใช้ลิ้นดุนเข้าไปภายในปากของหญิงสาว มือข้างหนึ่งปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวของเธอที่สวมใส่ขณะที่มืออีกข้างลูบไล้ไปตามขาอ่อนที่เรียบเนียน ลิ้นของตรัยตวัดแลกกับชาหอมสลับกับดูดลิ้นและริมฝีปากของเธอชุดลำลองรวมถึงบราถูกปลดกองอยู่ข้างเตียงนอนพร้อมกับชุดของมาเฟียมาดดุ เสียงครางแผ่วเบาของหญิงสาวที่กำลังถูกตรัยสูดดมพรมจูบไปตามซอกคอที่หอมหวนไล่ลงไปดูดเลียยอดถันสีอ่อนชูชัน มือที่ใหญ่โตของเขาทำหน้าที่กรีดร่องแคมสวรรค์ที่ถูกปกปิดด้วยกางเกงในสีฟ้าตัวจิ๋วทำหน้าที่ควบคู่กับการบดริมฝีปากไปทั่วปทุมถันเสียงและสัมผัสดูดเนื้อสาวแผ่วเบาทำให้ชาหอมยิ่งดิ้นเร่าด้วยความเสียวสยิวแล้วยิ่งดิ้นเร่าเข้าไปอีกเมื่อใบหน้าคมสันไล่ดูดเนื้อสาวของเธอลงไปยังหน้าท้องแบนราบจนเธอต้องเผลอเกร็ง ขาคู่งามอ้าออกด้วยรู้ทันว่าสิ่งที่เขาต้องทำคือสิ่งใด? กางเกงในตัวจิ๋วถูกปลดเสียงดูดธารน้ำรักที่หลั่งรินออกมาจากจากแคมสวรรค์ทำให้ชาหอมแทบคลั่งยิ่งตรัยสอดลิ้นแทงเข้าออกด้านในแคมจนเธอเผลอโยกตาม เขาเล่นสนุกแบบนั้นอยู่ครู่ใหญ่จนเสียงครางแผ่วเบาค่อยๆเร่งระดับพร้อมลมหายใจถี่รัว
“คุณ...ฉัน....เสียวววว อูยยยยย ซี๊ดดดดด”
ร่างงามระหงเกร็งพลางสูดลมหายใจหนักขึ้นไม่กี่อึดใจกำหนัดของเธอถูกปลดปล่อยด้วยความสุขสมจนร่างงามกระตุกหลายครั้งด้วยการหายใจหอบ ตรัยจูบปากแลกลิ้นให้ชาหอมระบายความเสียวซ่านที่เพิ่งคลายไปเมื่อครู่
“อย่าลืม...ถุงยาง”
ชาหอมกระซิบด้วยเสียงกระเส่าเตือนอีกฝั่งให้อยู่ในกติกาที่เธอกำหนด
“อยู่ห้องนู่น”
“งั้นคุณก็ไปเอามา ถ้าไม่ใช้ถุงยางฉันไม่เอาด้วย”
“มีวิธีง่ายกว่านั้น”
ตรัยลุกขึ้นยืนด้วยร่างกายเปลือยเปล่าก่อนจูงมือของชาหอมในร่างเปลือยให้ลุกขึ้น
“คุณจะทำอะไรคะ?”
“ก็จะพาเธอไปนอนที่ห้องนอนฉัน”
ร่างเปลือยเปล่ากำยำรวบร่างงามระหงของอีกฝ่ายอุ้มประคองชาหอมมีท่าทีขัดขืนเล็กน้อย
“จะบ้าหรือไงคุณตรัย? ตอนออกจากห้องใครเห็นจะทำยังไง?”
“ชั้นสามตอนเย็นเป็นต้นไปไม่มีใครขึ้นมานอกจากฉันกับเธอ ไม่มีใครเห็นหรอก”
“แต่ฉันอาย!”
“ระหว่างอายกับให้ฉันไม่ใช้ถุงยางเธอเลือกละกันว่าเอาแบบไหน?”
ชาหอมจนใจในตัวเลือกเธอไม่พูดอะไรอีกโดยตรัยพาร่างเปลือยเปล่าของเขากับเธอเดินเปิดประตูห้องนอนของหญิงสาวไปอีกห้องที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เมื่อประตูเปิดเข้าไปภายในห้องนอนMaster Bedroomนั้นโอ่อ่ากว้างขวางกว่าห้องนอนของเธอพอควรในห้องนั้นตกแต่งด้วยโทนสีดำและน้ำตาลให้ความรู้สึกเคร่งขรึมและอบอุ่น ตรัยพาร่างงามระหงวางลงบนเตียงนอนขนาดKing Sizeอย่างอ่อนโยนแล้วจึงเอี้ยวตัวไปหยิบซองถุงยางในลิ้นชักตรงโต๊ะข้างเตียงนอน
“ถึงขนาดเตรียมพร้อมคงพาผู้หญิงมาห้องคุณบ่อยๆสินะ”
ชาหอมถามพร้อมกับมองค้อน
“ฉันเตรียมไว้ใช้กับเธอนั่นแหละ เธอยังไม่อยากท้องไม่ใช่เหรอ?” เมื่อสวมถุงยางเสร็จตรัยรวบขาคู่งามเข้ามาชิดขอบเตียง “แล้วเธอก็คือผู้หญิงคนแรกที่ฉันพาเข้ามาแล้วมีเซ็กส์ด้วยให้ห้องนี้”
พูดจบตรัยก้มลงไปดูดเลียยอดถันชูชันอย่างแรงจนร่างงามระหงเกร็งอีกครั้งพลางมือที่ใหญ่ลูบไล้ไปบนร่องแคมที่มีน้ำรักของหญิงสาวเอ่อล้น
----ตัดฉากNC20+----
เมื่อผ่านพ้นศึกสวาททั้งสองคนต่างซุกร่างกายเปลือยเปล่าใต้ผ้าห่มผืนหนาร่างงามระหงที่ขาวเนียนและส่งกลิ่นหอมอยู่ภายในอ้อมกอดของตรัย อาทิตยาที่กำลังใช้มือลูบศีรษะของชาหอมอย่างอ่อนโยน
“ขี้โกง”
ชาหอมพูดพลางมองเขาด้วยสายตาค้อน
“ฉันขี้โกงอะไรอีกล่ะ?”
“บอกรักฉันแล้วก็ฉวยโอกาส...ฟอร์มหมาแก่”
ตรัยยิ้มให้กับคำตัดพ้อของหญิงสาวสวยในอ้อมกอดแล้วค่อยๆเลื่อนใบหน้าคมสันไปใกล้จนจมูกแทบชนกัน
“รักฉันไหมชาหอม?”
“อือ”
ชาหอมตอบสั้นๆพร้อมกับหลบสายตาด้วยความขวยเขินจนตรัยต้องเอามือมาจับเกยที่คางแล้วถามอีกครั้ง
“คำว่า ‘อือ’ ไม่ใช่คำตอบ รักฉันไหม หืม?”
“รัก”
ตรัยประทับรอบจูบที่ริมฝีปากกระจับบางนั้นอย่างนุ่มนวลก่อนจะมองดูใบหน้าสวยเชิดด้วยรอยยิ้มละไม
“จริงสิ เธอบอกว่าหิวนี่ไปหาอะไรกินไหม?”
“ฉันไม่อยากออกแล้ว เดี๋ยวฉันไปหานมในครัวทานก็ได้”
“งั้นเดี๋ยวไปหยิบให้ เธอรอที่นี่นะ”
ตรัยลุกขึ้นใส่ชุดลำลองเดินออกห้องนอนไปยังครัวที่ชั้นหนึ่งเขาหยิบขนมปังแผ่นพร้อมกับแฮมแผ่นชีสและผักมาทำแซนวิชแบบง่ายๆใส่จานเคียงคู่ไปกับแก้วนมถือขึ้นไปยังห้องนอน ซึ่งชาหอมได้กลับไปเปลี่ยนชุดมารออยู่ก่อนแล้วเขาวางจานแซนวิชกับแก้วนมไว้ตรงชุดโซฟาภายในห้อง
“กลัวเธอไม่อิ่มก็เลยทำแซนวิชมาให้ด้วย”
“ขอบคุณค่ะ”
ชาหอมเดินมานั่งตรงโซฟาพร้อมกับหยิบแซนวิชทานโดยมีตรัยนั่งมองเธออยู่ด้านข้าง เมื่อทานจนเสร็จตรัยส่งทิชชู่เปียกแอลกอฮอลล์ให้หญิงสาวเช็ดทำความสะอาดมือของเธอ
“เดี๋ยวฉันกลับไปนอนที่ห้องนะ คุณจะได้นอนสบายๆ”
“เธอนอนที่นี่แหละและไม่ต้องไปนอนที่ห้องนั้นละ พรุ่งนี้ฉันจะให้ป้าหงส์พาคนมาย้ายของเธอให้มาอยู่ห้องนี้ให้หมด”
“โห บอกรักฉัน เอาฉัน แล้วจับมาอยู่ด้วยกันฉันสามีภรรยาเลยเหรอคะ? ใจร้อนไปไหม?”
“ถ้าเธอไม่ติดว่าเรียนอยู่ฉันจับเธอแต่งงานจดทะเบียนสมรสกับฉันพรุ่งนี้เลยด้วยซ้ำ”
ตรัยพูดด้วยสีหน้าจริงจังจนชาหอมเผลอยิ้มออกมา
“นี่ฉันควรจะดีใจและฉลองไหมที่เลื่อนสถานะจากนางบำเรอของคุณมาอยู่กินเป็นภรรยาแบบนี้?”
“แล้วเธออยากจะฉลองกับฉันคืนนี้เลยไหมล่ะ?”
ไม่ถามเปล่าตรัยดึงร่างงามระหงมาโอบกอดพลางมองไปที่ใบหน้าสวยเชิด สัมผัสที่เนียนนุ่มและกลิ่นหอมจากร่างของหยิงสาวขับกำหนัดของเขาขึ้นอีกครั้ง
“ความจริงถุงยางฉันยังเหลืออีกเยอะนะ จัดกันอีกไหม?”
“หึ ฉันเพิ่งทานทั้งแซนวิชและนมไปนะคะ”
“งั้นก็จูบกันจนกว่าจะพร้อมโอเคไหม?”
ไม่ถึงนาทีจากนั้นร่างของตรัย อาทิตยากับชาหอมโอบกอดกันบนเตียงนอนทั้งสองผลัดกันแลกลิ้นดูดปากกันและกันอยู่นานสองนานก่อนที่เสื้อผ้าของทั้งคู่จะถูกปลดออกอีกครั้ง...
เป็นเช้าที่ดูแปลกตาสำหรับบรรดาคนรับใช้รวมไปถึงป้าหงส์หัวหน้าแม่บ้านที่ตรัย อาทิตยาจูงมือของชาหอมเข้ามาภายในห้องทานอาหารสีหน้าของทั้งสองเต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่างมีสุขอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน
“ป้าหงส์ผมรบกวนพาคนไปย้ายของชาหอมทั้งหมดมาจัดไว้ที่ห้องนอนของผมด้วย”
“ได้ค่ะคุณตรัย”
ป้าหงส์รับคำด้วยความยินดี ระหว่างนั้นหลี่เฉียงเดินเข้ามาภายในห้องอาหารพร้อมกับยื่นวางซองสีชมพูไว้บนโต๊ะอาหารที่ตรัยนั่งอยู่
“จดหมายเรียนเชิญให้คุณตรัยไปงานกาล่าดินเนอร์อีกสามวันข้างหน้าครับ”
“ใครเชิญ?”
“เสี่ยวิทูรย์ครับ เจ้าของโรงแรมห้าดาวแถวถนนสุขุมวิทและที่ภูเก็ต...คุณตรัยจะไปไหมครับ? แต่ผมแจ้งล่วงหน้าไว้ก่อนว่างานนี้คุณเจนนี่ได้รับเชิญไปด้วย”
“เจนนี่ไปงานนี้ทำไม?”
“คุณเจนนี่เป็น Brand Ambassador ของผลิตภัณฑ์จิวเวลลี่Diamond stoneที่คุณก้อยลูกสาวเสี่ยวิทูรย์เป็นเจ้าของครับ”
ตรัย อาทิตยาคิดใคร่ครวญพร้อมกับมองหน้าชาหอมไปด้วย
“เธอไปงานนี้กับฉันนะชาหอม”
“ฉัน” ชาหอมชี้ที่ตัวเองอย่างฉงน “ฉันจะไปงานกาล่าดินเนอร์ทำไมคะคุณตรัย?”
“ไปเปิดตัวในฐานะ ‘คู่หมั้นของฉัน’ ให้กับคนอื่นรู้”
ทุกคนในห้องทานอาหารต่างหันมามองตรัย อาทิตยาเป็นสายตาเดียวโดยเฉพาะหลี่เฉียงที่ดูจะตื่นเต้นเสียยิ่งกว่าชาหอมเสียอีก
“งี้ก็หมายความว่าคุณตรัยจะประกาศให้สังคมรู้ว่าคุณคบกับคุณชาหอมใช่ไหมครับ?”
“ใช่! ตอนนี้เธอเป็นคนดังมีคนจับตาเธออยู่มากมายสู้เปิดตัวไปเลยว่าเธอกำลังคบกับฉันและอยู่ในฐานะคู่หมั้น เวลาคนมารู้ว่าเธออยู่กับฉันที่นี่ภายหลังเขาจะไม่เอาเรื่องนี้ไปนินทาได้ไง”
ตรัยยื่นมือที่ใหญ่ไปกุมมือบอบบางของชาหอมที่ยังคงนั่งนิ่งพูดไม่ออกในการตัดสินใจที่เด็ดขาดรวดเร็วของมาเฟียมาดดุภายในใจของเธอเอ่อล้นไปด้วยความดีใจจนริมฝีปากสั่นน้อย ๆ
“ค่ะ ฉันจะไปงานนี้กับคุณ”
ตรัย อาทิตยายิ้มรับคำตอบนั้นเขากับเธอในเวลานี้ช่างเต็มไปด้วยความสุขอย่างเปี่ยมล้นจนมิอาจรับรู้ได้ถึงลางร้ายที่กำลังก่อตัวเป็นบททดสอบสำคัญในความรักของทั้งคู่ในเวลาต่อมา!
อดุลย์เดินทางไปที่โรงงานก่อนที่เลขาจะรายงานว่ามีคนมารอพบเขาที่ห้องรับรอง เมื่อไปถึงความตกใจและประหลาดใจได้เข้ามาเมื่อเห็นร่างของคนคุ้นเคยที่ไม่คาดคิดว่าจะได้เจอกันอีกนั่งรออยู่ตรงชุดโซฟารับแขกภายในห้องรับรอง พลวัฒน์ลุกขึ้นยืนยิ้มพลางเดินเข้ามาสวมกอดรุ่นน้อง
“อดุลย์...พี่กลับมาแล้ว พี่กลับมาเพื่อมาเอาทุกอย่างคืน!”
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว