พ่ายรักเมียสวมรอย

แค่ตัวแทน

หากจะกล่าวถึงที่มาของเผ่าอสรพิษทะเลแห่งมหาสมุทรเสรีนั้น... แรกเริ่มเดิมทีมีต้นกำเนิดมาจาก เผ่าอสรพิษทะเลในมหาสมุทรกิเลนอัสนี ถือเป็น 1 ใน 7 อาณาจักรโลกใต้ทะเลที่ยิ่งใหญ่ของมหาสมุทรกิเลนอัสนี ตั้งอยู่ในเขตความลึกระดับ 5... ทว่าด้วยความที่เผ่าอสรพิษทะเลนั้น ความแข็งแกร่งถือเป็นสิ่งสำคัญ ฉะนั้นสายเลือดที่อ่อนแอต้องถูกกำจัด...

อสรพิษทะเลเกล็ดมรกต เดิมทีเคยเป็นหนึ่งในสายเลือดระดับสูง... ทว่าในยุคสมัยหลายพันปีหลังมานี้ สายเลือดอสรพิษทะเลเกล็ดมรกตอ่อนแอลงเรื่อย ๆ ไม่มีผู้ยิ่งใหญ่ปรากฏ จึงถูกขับไล่ออกจากสายเลือดระดับสูงของอาณาจักร และถูกกดดันเรื่อยมา จนสายเลือดนี้เกือบจะล่มสลาย

แต่แล้ว ราชันย์อสรพิษกลืนนภา ที่ยังวนเวียนหลบหนีออกมาจากหอคอยเต่าทมิฬ และเป็นที่กริ่งเกรงของอสรพิษในใต้หล้าจากสถานะที่ยิ่งใหญ่ ได้เอ่ยปากกับผู้นำเผ่าอสรพิษทะเลในโลกใต้ทะเล ทำการช่วยเหลือสายเลือดเกล็ดมรกตและผู้ติดตามอีกจำนวนหนึ่ง ให้ดำรงอยู่ต่อไปโดยจะแยกไปตั้งรกรากใหม่ในเขต มหาสมุทรเสรี

สำหรับสัตว์อสูรในโลกใต้ทะเลที่อาศัยอยู่ในเขตมหาสมุทรกิเลนอัสนีนั้น จะมองว่าเขตมหาสมุทรเสรีเป็นเขตน้ำตื้นที่อ่อนแอและขาดแคลนทรัพยากร จึงไม่เห็นอยู่ในสายตา... ยินยอมปล่อยให้ อสรพิษสายเลือดเกล็ดมรกตและผู้ติดตาม อพยพไปจากโลกใต้ทะเลมหาสมุทรกิเลนอัสนี เดินทางหลายหมื่นลี้ข้ามไปยังมหาสมุทรเสรีเพื่อรักษาชีวิต จวนจนมาตั้งรกรากใหม่ในปัจจุบันเมื่อไม่กี่พันปีก่อน

แน่นอนว่าการหยิบยื่นความเมตตาของ ราชันย์อสรพิษ ได้ทำให้เผ่าอสรพิษทะเลในมหาสมุทรเสรีสามารถอพยพและรอดชีวิต จึงมีความเคารพยำเกรงและนับถือ ราชันย์อสรพิษ ดุจดั่งเทพเจ้าที่มอบชีวิตใหม่ให้ ยอมสร้างสถานที่รวมไปถึงวังพิเศษเพื่อคอยตอนรับ ราชันย์อสรพิษ เสมอในยามที่แอบหนีออกมาจากหอคอยเต่าทมิฬ เป็นไม่ต่างอะไรกับสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ...

ซึ่งการที่เผ่าอสรพิษทะเลให้การสรรเสริญ ราชันย์อสรพิษ... เพราะไม่ทราบเหตุผลว่าแท้จริงแล้ว ราชันย์อสรพิษ มิได้มีความเมตตาใด ๆ ให้กับพวกมันสักนิดเดียว แต่งูเฒ่าตันหากลับตนนี้ เพียงแค่ถูกใจอสรพิษเพศเมียที่มีเกล็ดสีเขียวมรกตเท่านั้น!! จึงไม่อยากปล่อยให้สายเลือดที่ถูกตาต้องใจตน สูญสลายไปจากโลกใบนี้

และเมื่อ 50 ปีก่อน... ราชันย์อสรพิษ ได้แอบหลบหนีมาจากหอคอยเฉกเช่นที่มักจะทำบ่อยครั้ง และได้มาหาความสำราญตามประสางูเฒ่าตันหากลับ ชอบที่จะถูกรายล้อมไปด้วยอสรพิษสาว ๆ มากมาย และแน่นอนว่าผู้ที่มีเกล็ดสีเขียวมรกต ทั้งยังงดงามที่สุดในอาณาจักรนี้ก็คือ ราชินีอสรพิษทะเล!!

นางเองที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน อีกทั้งนางก็มิได้มีใจให้กับ จ้าวอสรพิษทะเล มาตั้งแต่แรกแล้ว... เมื่อนางรับหน้าที่นำอสรพิษสาวมาส่งบำเรอให้กับ ราชันย์อสรพิษกลืนนภา ในทุก ๆ ครั้งนางก็มักจะถูก งูเฒ่าตันหากลับ เอ่ยปากกระเซ้าหยอกเย้าอยู่เป็นประจำจนนางเขินอาย...

สุดท้าย นางก็ถูกอีกฝ่ายใช้เสน่ห์จากอำนาจบารมีที่ยิ่งใหญ่ ล่อลวงไปเสียจนได้... แม้นางจะทราบดีว่า ราชันย์อสรพิษ ก็มีคู่ครองที่น่าเกรงขามและน่าสะพรึงกลัวอยู่แล้ว นามว่า “ราชินีเกล็ดบูรพา” และในปัจจุบันนางยังมีความแข็งแกร่งยิ่งกว่า ราชันย์อสรพิษ ผู้เป็นสามีเสียอีก!! เหตุผลที่ ราชันย์อสรพิษ ต้องพยายามหลบหนีและต้องรีบกลับหลังจากออกมาได้ไม่นาน ก็เพราะ ราชันย์อสรพิษ หวาดกลัวต่อ ราชินีเกล็ดบูรพา ตนนี้...

นั่นจึงเป็นการลักลอบสมสู่กันของผู้ที่มีคู่ครองแล้วทั้งคู่ เป็นการสมสู่ด้วยความสมัครใจ จากความเผลอไผลไปตามการยั่วยุหว้านล้อม... ราชันย์อสรพิษ นอกจากจะแข็งแกร่งและอวดดีแล้ว ก็ยังเจ้าเล่ห์เพทุบาย ในด้านการล่อลวงผู้อื่นอย่างที่สุด หากเพ่งเล็งอสรพิษสาวตนใด ก็แทบไม่เคยพลาดเป้าหมายเลยสักครา...

และอีกเหตุผลหนึ่งที่ ราชินีอสรพิษทะเล ยินยอมพลีกาย เพราะนางคิดว่า ราชันย์อสรพิษ เป็นเพียงเศษเสี้ยวจิตวิญญาณที่ลักลอบออกมาจากหอคอยเท่านั้น ต่อให้สมสู่ร่วมกันได้ แต่ก็คงไม่น่าที่จะมีเชื้อเพื่อให้กำเนิดทายาทได้ นางจึงไม่ได้นึกสงสัยแม้แต่น้อย ว่าบุตรในครรภ์จะเป็นสายเลือดของ ราชันย์อสรพิษเกล็ดสีทอง จวบจนคลอดออกมาในวันนี้...

ปัจจุบัน...

ดวงตาของ จ้าวอสรพิษทะเล เดือดดาลไปด้วยความโกรธที่ลึกล้ำ ตนนั้นเสาะแสวงหาอสรพิษสาวที่งดงามไว้มากมาย โดยที่ตนก็ยังไม่กล้าแตะต้อง ทั้งหมดก็เพื่อจะนำมาคอยบำเรอความสุขให้กับ ราชันย์อสรพิษ... แต่ไม่คิดเลยว่า ราชันย์อสรพิษ จะตันหากลับ หื่นกามไม่เลือกหน้า กระทั่งราชินีคู่ครองของตน มันยังไม่ละเว้น!!

จ้าวอสรพิษทะเล แม้แต่จะเคียดแค้นชิงชัง แต่ไหนเลยจะสามารถทำอะไรกับราชันย์อสรพิษได้ สุดท้ายก็ยังต้องอยู่ภายใต้ร่มบารมีของ ราชันย์อสรพิษกลืนนภา อยู่ดี... โทสะที่เดือดพล่านนั้น จึงถูกเคลื่อนย้ายไปยัง อสรพิษตัวน้อย ที่ไม่ได้ประสีประสาเรื่องราวใด ๆ ในวัยแรกเกิด

“เช่นนั้นข้าก็จะต้องกำจัดมันทิ้ง!! หากพามันกลับไปยังอาณาจักรอสรพิษทะเล ให้อสรพิษในเผ่ามากมายได้พบเห็น... ตัวข้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด!!” จ้าวอสรพิษทะเล คำรามเสียงกึกก้อง... ราชินีอสรพิษทะเล แม้จะสงสารบุตรตัวน้อยที่นางอุ้มท้องมาถึง 50 ปี ทว่านางก็หวาดกลัวโทสะของ จ้าวอสรพิษทะเล มากยิ่งกว่า จึงไม่แต่นิ่งเงียบไม่กล้าคัดค้าน

หากนางยังปล่อยบุตรตนนี้เอาไว้ ก็จะกลายเป็นความผิดที่ทิ่มแทงใจให้ จ้าวอสรพิษทะเล เกลียดชังและตำหนินางทุกครั้งที่เห็น... ดังนั้นสู้ปล่อยให้ถูกสังหารไปเสีย ยังพอที่นางจะมีข้ออ้างลบล้างความผิดได้ ว่านางถูกบีบบังคับโดย ราชันย์อสรพิษ จึงไม่สามารถขัดขืน...

“ตาย!!”

จ้าวอสรพิษทะเล ตวัดฟาดปลายหาง... ความรุนแรงมากพอจะระเบิดคลื่นยักษ์ให้กระจายออกไปสองฝากฝั่ง แน่นอนว่าสำหรับอสรพิษที่เพิ่งเกิดมานั้น เพียงพอจะถูกสังหารได้นับร้อยรอบพันรอบ...

ทว่าตำแหน่งเดิมที่ อสรพิษน้อย เคยดำรงอยู่ กลับว่างเปล่า!!

ซุน หายใจหอบหนัก หลังจากรีดเค้นสายลมโดยรอบเพื่อฉุดกระชาก อสรพิษน้อย ให้พ้นจากรัศมีการโจมตี ทั้งยังดึงมาใกล้และกอดคว้าอสรพิษน้อยตัวนี้เอาไว้ รู้สึกเวทนาสงสารมันเกินกว่าจะปล่อยให้ตายไปโดยมิได้ทำความผิดอะไร หวนนึกถึงภาพสะท้อนของตนเองที่เกิดมากำพร้า ไม่มีบิดามารดาที่แท้จริง...

อสรพิษน้อย แม้ยังไม่เข้าใจเรื่องราว แต่มันก็สัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนที่ ซุน แสดงออกมา... อสรพิษน้อยยังไม่มีสัญชาตญาณที่ดุร้ายใด ๆ มันโอบรัดร่างของ ซุน อย่างแผ่วเบา กะพริบตาถี่ระรัวด้วยความสงสัยใคร่รู้ มองดูน่ารักน่าเอ็นดูเป็นอย่างมาก...

ซุน ยิ้มตอบรับ พร้อมกับลูบศีรษะของมันเบา ๆ
“ไม่เป็นไรนะ... ในเมื่อไม่มีใครรักเจ้า ก็มาอยู่กับข้า...”

“!!!!!!!!!!!” จ้าวอสรพิษทะเล ดวงตาแข็งกร้าวขึ้น
“ไม่ได้!! มันคือความอัปยศที่ต้องถูกทำลาย!!”

“ถ้าหากบุตรชายข้าต้องการเช่นนั้น ทำไมจะไม่ได้?” เหยาหมิง แค่นเสียงเย็นชาสวนกลับไป ทำเอา จ้าวอสรพิษทะเล ถึงกับสะอึกกลืนคำพูด ด้วยใบหน้าบิดงอ...

เหยาหมิง ชำเรืองมองไปยัง ซุน และ อสรพิษตัวน้อยที่คล้ายจะเข้ากันได้ดี... ก็อดนึกไม่ได้ว่านี่อาจจะเป็นแผนการที่เข้าท่าอยู่ไม่น้อย... เหยาหมิง จึงมองกลับไปยัง จ้าวอสรพิษทะเล พร้อมกับเอ่ยปากออกไปด้วยท่าทีเย็นชา

“จ้าวอสรพิษทะเล เจ้าอยากให้ข้าไว้ชีวิตเจ้างั้นสินะ.... ก็ได้!! เช่นนั้นข้าจะยอมปล่อยเจ้า รวมถึงราชินีของเจ้าไป แต่ข้าจะขอเก็บอสรพิษน้อยตัวนี้เอาไว้ หากวันใดตัวเจ้าหรือเผ่าอสรพิษทะเลของเจ้า โผล่ออกมาระรานมนุษย์บนผิวน้ำหรือชายฝั่งอีกครั้ง ข้าก็จะพาอสรพิษน้อยตัวนี้ ไปปรากฏโฉมที่อาณาจักรอสรพิษทะเลของเจ้า!!

ให้อสรพิษทุกตัวในเผ่าของเจ้า รับรู้กันไปเลยว่า เจ้าเป็นอสรพิษที่ถูกสวมเขา!!”

“!!!!!!!!!!!” จ้าวอสรพิษเบิกตากว้างในทัน แม้จะดีใจที่อีกฝ่ายยอมไว้ชีวิต ทว่าสิ่งที่อีกฝ่ายกุมเอาไว้นั้น กลับเป็นความลับที่เกี่ยวพันถึงศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิ ที่ไม่อยากให้ผู้ใดต้องมารับรู้!! สีหน้าของจ้าวอสรพิษถึงกับหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก ทำได้เพียงถลึงตามองไปยัง ราชินีของตนด้วยความเจ็บแค้นใจ

“ยังไม่รีบไสหัวไปอีก!! เท่านี้ยังทำข้าอับอายไม่พองั้นหรือ!!”

ราชินีอสรพิษทะเล ตัวสั่นเยือก ชำเรืองมองไปยังลูกน้อยที่เพิ่งเกิดด้วยความอาลัยอาวรณ์ แต่นางเองก็ไม่มีคุณสมบัติคู่ควรแก่การเป็นแม่ เพราะนางนั้นเห็นชีวิตของตนเองเป็นสำคัญยิ่งกว่า ถึงกับไม่ยอมทัดทานใด ๆ ยามที่ จ้าวอสรพิษทะเล คิดจะสังหาร...

“ลาก่อน...”

นางกล่าวสั้น ๆ ไม่มีโอกาสแม้จะตั้งชื่อบุตรของนางด้วยซ้ำ ก่อนจะมุดหายลงไปที่ใต้ทะเล... จ้าวอสรพิษทะเล ก็ไม่อาจทำอะไรได้แล้ว จึงได้แต่กล้ำกลืนฝืนทน มุดลงไปใต้ทะเลตามราชินีไปด้วยเช่นกัน...

บนผิวน้ำจึงเหลือแค่ เหยาหมิง และ ซุน ที่ถอนหายใจยาวพรืดใหญ่... รู้สึกว่าวันนี้จะเป็นวันที่มีเรื่องราวมากมายเสียเหลือเกิน แต่การที่ทั้งสองรอดชีวิตมาได้ ก็ทำให้ได้เติบโตพัฒนาขึ้น ทั้งยังได้รับบางสิ่งบางอย่างมากมายผ่านเหตุการณ์ในครั้งนี้...

อสรพิษน้อย เลื้อยพันคลอเคลียไปบนร่างของ ซุน ราวกับเป็นเรื่องสนุก ขนาดตัวของอสรพิษน้อยแม้จะยังไม่ใหญ่มากเมื่อเทียบกับสายพันธุ์ของตน แต่ลำตัวก็ใหญ่พอ ๆ กับแขนของมนุษย์และยาวเกือบหนึ่งจั้ง(ราว 2 เมตร) มีรัศมีลมปราณเจือจางแผ่ขยายออกมา

“ซุน... เจ้าแน่ใจแล้วหรือที่จะเลี้ยงดูมัน?! บอกตามตรงว่าบิดาก็ไม่ค่อยจะเห็นด้วยเท่าใดนัก เจ้าก็น่าจะเห็นแล้วถึงนิสัยของอสรพิษแต่ละตัวย่ำแย่เพียงใด แม้แต่ระดับราชันย์สัตว์อสูรอายุหลายหมื่นปีที่สมควรจะน่าเคารพนับถืออย่าง อสรพิษกลืนนภา ทว่าก็เป็นอย่างที่เจ้าเห็น ไม่อาจให้ความไว้วางใจได้เลยสักนิดเดียว...

ทางที่ดีหากเจ้าจะดูแลมัน อย่างน้อยก็ควรจะทำให้มันกลายเป็น สัตว์อสูรภายใต้การควบคุมอย่างถูกต้อง ด้วยการใช้ป้ายสะกดสัตว์อสูร... แม้ว่าผู้ใช้วิชานี้ในปัจจุบันจะหลงเหลือเพียงแค่ไม่กี่คน แต่หากติดต่อไปยัง จิวต้าว ที่กว้างขวางในทวีปนี้ ก็น่าที่จะพอตามหาผู้ใช้วิชาควบคุมสัตว์อสูร ช่วยเหลือในการสร้างป้ายสะกดสัตว์อสูรได้อยู่...” เหยาหมิง เอ่ยแนะนำด้วยความเป็นห่วง

อันที่จริง ซุน นั้นไม่ค่อยอยากจะใช้วิธีการเช่นที่ เหยาหมิง เสนอมา... เพราะสัตว์อสูรที่ถูกสะกดโดย ป้ายสะกดสัตว์อสูร นั้น จะสูญเสียสติสัมปชัญญะไปกว่าครึ่งหนึ่ง และยังมีการจองจำเศษเสี้ยวจิตวิญญาณบางส่วนไว้ภายในป้ายสะกด ทั้งหมดก็เพื่อทำให้การควบคุมนั้นได้ง่ายขึ้น...

แต่ข้อดีของ ป้ายสะกดสัตว์อสูร ก็คือสัตว์อสูรภายใต้การควบคุม จะไม่สามารถทรยศต่อผู้เป็นนายได้ มีจิตสำนึกที่เชื่อมโยงถึงกัน และยังสามารถทำให้สัตว์อสูรในการควบคุม เข้าไปหลบซ่อนตัวได้ในป้ายสะกดได้อีกด้วย ไม่ต่างจากการเก็บซ่อนในแหวนมิติ ให้ความสะดวกในการเดินทางร่วมกัน... เฝิงน้อย ที่เป็นสัตว์อสูรพาหนะของ ซุน ก็อยู่ในสภาพเช่นเดียวกันนั้น...

“เช่นนั้นก็คงช่วยไม่ได้... อย่างไรก็ดีกว่าปล่อยให้มันตายไปเช่นนี้...” ซุน เอ่ยเบา ๆ พลางลูบไปบนศีรษะของอสรพิษตัวน้อยด้วยความเอ็นดู...

ยิ่งชายหนุ่มพิจารณามองไปยังเกล็ดสีทองอร่ามบนร่างของ อสรพิษตัวน้อย ก็ยังรู้สึกไม่เข้าใจถึงเหตุผลที่มันเกิดขึ้นมา จึงเอ่ยถาม เฒ่าชีเปลือย ไปตรง ๆ “ร่างจิตวิญญาณของ ราชันย์อสรพิษ สามารถสืบทอดทายาทได้ด้วยงั้นหรือ?!”

เฒ่าชีเปลือย ชำเรืองมองไปยังอสรพิษตัวน้อย... “หากเป็นตามหลักการโดยสามัญแล้วล่ะก็ ย่อมไม่อาจทำได้... แม้แต่ตัวข้าเองในตอนนี้ ก็ไม่สามารถสืบทอดทายาทได้ ต่อให้สิงสู่อยู่ในร่างศพหลอมก็ตามที เพราะเป็นเพียงแค่ดวงวิญญาณ...

ทว่าหากเป็นเจ้างูเฒ่าตันหากลับนั่นล่ะก็ สามารถทำได้อย่างแน่นอน... ตามข้อมูลที่ได้รับมา เจ้าอสรพิษนั้น มันหลอมรวมเรือนกายตนเองกับราชันย์เต่าทมิฬเป็นหนึ่งเดียว เพื่อก้าวขึ้นเป็นราชันย์แห่งสัตว์อสูรในยุคสมัยหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าการหลอมรวมในครั้งนั้นพวกมันทั้งสองจะต้องเปลี่ยนมาใช้อวัยวะร่วมกันในบางส่วน ไม่สามารถแยกกายออกจากกัน... และในเมื่อเจ้าอสรพิษนั่น ใช้ศีรษะของมันกลายมาเป็นหางของเต่าทมิฬ ย่อมแปลว่ามันสละร่างกายครึ่งท่อนล่างของตนเองไป...

แต่ด้วยความที่มันบ้ากามตันหากลับเช่นนั้น... เจ้าคิดว่ามันจะยอมสละร่างกายท่อนล่างของมันทิ้งไปจริง ๆ หรือ?! คำตอบคือไม่เลย เจ้านั่นมันยังคงเก็บอวัยวะบางส่วนของตนเองเอาไว้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะส่วนที่ให้สนองตันหาของมัน ดังนั้นแม้ว่ามันใช้ร่างจิตวิญญาณเพื่อเดินทางไปไหนมาไหน แต่มันก็พกพาเอาอวัยวะส่วนสำคัญนั้นติดตัวไว้เสมอ ให้พร้อมใช้งาน...”

“!!!!!!!!!!!” ซุน ได้ยินเช่นนั้นก็เบิกตาโพลงขึ้นมาทันที...
“ชะ...เช่นนั้น อย่าบอกนะว่า?!”

เฒ่าชีเปลือย พยักหน้า...
“ข้าถึงได้เรียกมันว่า งูเฒ่าตันหากลับ อย่างไรเล่า?! ในตอนที่ต่อสู้กัน ข้านั้นรับรู้ถึงอวัยวะในส่วนนั้นของมันอย่างชัดเจน... เจ้างูบ้านั่นมันพกพาอัณฑะและองคชาตของตนเองติดตัวไว้ตลอดเวลาในมิติเก็บของที่มันสร้างขึ้น...

ดังนั้นต่อให้มันเป็นร่างจิตวิญญาณ มันก็สามารถดึงเอาอวัยวะส่วนนั้น สวมต่อเข้ากับร่างเทียมที่สร้างจากพิษบรรพกาล และใช้งานได้ไม่ต่างจากร่างจริง... เห็นถึงความพยายามเช่นนี้ของมันแล้ว ชัดเจนว่ามันคืองูสำส่อนที่สุด เท่าที่ข้าเคยเห็นมาอย่างไม่ต้องสงสัย...”

ซุน แทบจะสำลักลมหายใจเมื่อได้ยินเรื่องทั้งหมด
เพียงนึกภาพตาม ก็มากพอจะทำให้ใบหน้าบิดงอ...

...................................................

รีวิวจากผู้อ่าน
ยังไม่มีรีวิวสำหรับเรื่องนี้

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว