เริ่ม(รัก)ร้าย-ปราบพยศ

โดย  มณีภัทรสร

เริ่ม(รัก)ร้าย

ปราบพยศ

Prat2…


ลมกลางวันยังคงโชยให้ความเย็นสบาย พาทำให้สองร่างหญิงชายที่กำลังนอนก่ายกอดนัวเนียกันใต้ต้นสนป่าเคลิ้มหลับ บนพื้นดินหยาบใช้ใบกล้วยหักมุกปูรองกันเศษดินทิ่มตำ ต้นสนป่ามีลักษณะแผ่ขยายกิ่งก้านออกเป็นวงกว้าง ดังนั้นใบของมันเลยช่วยบดบังลำแสงจ้าจากดวงอาทิตย์ไม่ให้ลามเลียโดนผิวเนื้อมนุษย์ได้เป็นอย่างดี เลยทำให้มากอยาที่ต้องใช้พละกำลังติดต่อกันมาเป็นระยะเวลาหลายวันพล่อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว

ก่อนหลับใบหน้าของขุนโจรฉายแววสุขสม หัวใจเขาพองโตเหมือนได้น้ำทิพย์ชโลม นานเท่าไรแล้วนะ ที่เขาไม่ค่อยได้รู้สึกผ่อนคลายราวกับร่างกายนอนอยู่บนปุยเมฆดั่งเช่นวันนี้...

เวลาผ่านมาราวสองชั่วโมง ก่อนแพขนตางอนงามจะขยับไหวพร้อมกับร่างกายเริ่มอยู่ไม่เป็นสุข ท้องน้อยเกิดอาการปั่นป่วนราวกับมีผีเสื้อนับร้อยตัวบินผ่าน กลีบสาวฉ่ำชื้นด้วยราวาแห่งรักยังถูกสัมผัสในลักษณะจาบจ้วง

ไม่ต้องลืมตาดูก็รู้มันเกิดจากสาเหตุอะไร พ่อขุนโจรหื่นกามกำลังเรียกร้องอยากได้เธออีกครั้งแล้วนั่นเอง

คำหวานปัดมือแถวทรวงงามทิ้ง คนดื้อยังมีหน้าตวัดขึ้นมาลูบไล้โดยไม่คิดยอมแพ้ บดบี้ส่วนไหวต่อสัมผัสจนร่างงามไหวสะท้าน อารมณ์ปั่นป้วนพุ่งพล่านรุนแรงไต่ระดับขึ้นตามการสัมผัส ถึงกระนั้นคำหวานก็ยังอยากนอนต่ออีกสักหน่อย หรือถ้าจะให้ดีขอเธอหลับยาวแล้วตื่นขึ้นมาในเช้าของวันพรุ่งนี้เลยยิ่งดี

แต่ก็พอรู้ว่าคำขอนั้นไม่อาจเป็นจริง...

“ข้าอยากได้เอ็งอีกแล้วคำหวาน”

เสียงแหบพล่านั้นส่งผ่านถึงระบบประสาท แม้นว่าเศษเสี้ยวหนึ่งในความคิด มันก็อดจะรู้สึกภูมิใจในตัวเองหน่อยๆเสียมิได้ เมื่ออย่างน้อยๆในสถานการณ์คลุมเครือ เธอก็ยังเป็นที่ปรารถนาของเขาชนิดรุนแรงไม่มีตกด้วยซ้ำ นับตั้งแต่ครั้งแรกที่ตกเป็นของเขาจนลากยาวมาจวนเจียนได้เกือบสัปดาห์ มากอยาไม่เคยปล่อยให้เธอห่างกายเกินชั่วโมงด้วยซ้ำ

หากในความภูมิใจก็ยังมีตะกอนขุ่นปะปน มันจึงไม่อาจเรียกว่าเป็นความสุขได้ร้อยเปอร์เซ็นต์

“อืม...ข้ายังเหนื่อยอยู่เลย ขอพักอีกสักหน่อยไม่ได้หรือไง”

สาวเจ้าคงรู้ชะตากรรมของตัวเองดี ถูกก่อกวนหนักหน่วงเช่นนี้ เขาคงไม่ยอมปล่อยให้เธอได้พักอีกนาน

“เอ็งแค่นอนเฉยๆก็ได้ ประเดี๋ยวข้าจัดการทำให้เอง”

เสียงกระเส่าต่อรอง กลีบปากป้วนเปี้ยนอยู่แถวซอกคอหอมกรุ่น จงใจฝากรอยรักกลีบกุหลาบไว้ให้เป็นพยานหลายดอก ตามลีลารักอันแสนพลิ้วไหว

“กางขาออกอีกหน่อยสิ ข้าอยากทักทายเอ็งลึกๆ”

มากอยาขยับกายกำยำขึ้นคร่อมร่างอ่อนนุ่ม ตอนนี้อารมณ์พิศวาสเขากำลังพวยพุ่งขึ้นในจุดสูงสุด จนอยากยัดเยียดตัวตนของเขาไว้ในกายของสาวเจ้าเร็วๆ แล้วสวาปามกัดกินทุกส่วนให้จนอิ่มท้อง

“ก็ไหนเอ็งว่าให้ข้านอนเฉยๆไง อยากเข้ามาในตัวขาลึกๆ ก็ทำเอาเองสิ...” คำหวานเล่นแหง่ เลยถูกฝาดสะโพกเสียงดังเพลี๊ยะเสียหนึ่งที ก่อนจะถูกขย้ำบีบเคล้นจนเกิดรอยแดง

“โอ้ย!เอ็งมาตีข้าทำไม”

“ก็เอ็งมายั่วข้าก่อน ช่วยไม่ได้”

คนถูกยั่วโมโหฉีกปากยิ้มเยาะ ใช้หัวเข่าดันเรียวขาเพรียวออกกว้าง ขยุ้มปลายนิ้วมือทั้งห้าลงกับเนินสวาทลุกล้ำอย่างคนเอาแต่ใจ

คำหวานสะดุ้งเฮือก รีบตวัดฝ่ามือจิกเล็บลงกับลำแขนแข่งแรงทั้งสองข้าง ยึดไว้เป็นหลักไม่ให้ตัวเองดิ้นเร่าไปมากกว่านี้ “อ๊า...อ๊า...อ๊า...”

เรือนกายของคำหวานให้ความรู้สึกหวานหอมในห้วงฤทัยจนไม่อาจแปลออกมาเป็นคำพูดได้ แต่ที่รู้ๆคือเขาชอบที่จะแตะต้องเจ้าหล่อนอยู่ตลอดเวลา ต่อให้ร่วมรักกันทั้งวันทั้งคืนเขาเองก็ไม่คิดเบื่อหน่าย

โจรหนุ่มโน้มกายแนบหา บดเบียดผิวหยาบกระด้างเสียดสีไปตามผิวกายนวลเนียน ดวงหน้าสวยแดงก่ำสะบัดส่ายจนเส้นผมแผ่กระจายตัดกับสีเขียวของใบตอง เลือดลมแล่นพล่านราวกับถูกไฟร้อนพัดโหมไม่หยุดหย่อน ก่อนมากอยาจะเคลื่อนย้ายริมฝีปากร้อน ไต่ระดับลงมาหาก้อนเนื้อนุ่มคู่แฝดที่มีหัวจะงอยตั้งชูชันน่าดูดเลีย ชายหนุ่มไม่รอช้าเขาอ้าปากกว้างก่อนจะครอบมันไว้จนเต็มคำ พร้อมกับกัดกินรอบฐาน ราวกับเป็นขนมหวานรสโปรด

“เอ็งอยากได้ข้าเป็นผัวไหม?” จู่ๆก็โพล่งถามออกมา คนถูกถามยังไม่ทันได้ตั้งสติก็มีอันต้องบิดกายเร่าๆ ครางกระหึ่มอยู่ในลำคอ

“ทำ...ไม...เอ็ง...ถึงถาม...” พอได้จังหวะเจ้าตัวเลยถามกลับไปด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก กลีบสาวด้านล่างถูกเร่งเร้าด้วยปลายนิ้วเรียวสะอาดสอดลึกจนถึงผนังภายใน ติ่งสาวถูกขยี้จนแข็งเป็นไต ขนดกหนาเปียกชุ่มด้วยน้ำแห่งกามาไหลออกมาชนิดไม่มีหยุดพัก

จังหวะสอดเสียบไม่เอื้ออำนวยให้เจ้าหล่อนตอบในสิ่งที่ยังติดค้างในใจ ทำได้เพียงระบายลมหายใจร้อนผ่าวออกมาอย่างหนักหน่วง

“เอ็งหยุดนิ้วก่อนจะได้ไหม ข้าจะไม่ไหวแล้วนะ”

“ไม่ดีหรือ...เอ็งจะได้เสร็จบ่อยๆไง”

แทนที่จะหยุด มากอยากับกระชากเอวคอดกิ่วเข้าหาหน้าท้องแบนราบ กดมันเข้าหากล้ามเนื้อที่ขึ้นเป็นลอนลูกอย่างสวยงาม ชวนให้โพรงอกสาววูบโหวงร้อนฉ่าเป็นพักๆ คำหวานปล่อยมือออกจากลำแขนวกกลับขึ้นมาลูบไล้บนแผ่นหลังกว้าง กระซิบถามชิดใบหูใหญ่

“ว่ายังไง ทำไมเอ็งถึงถามข้า”

เรือนกายสมบูรณ์แบบของมากอยาเป็นสิ่งที่คำหวานชื่นชอบมากเป็นพิเศษ ส่วนใบหน้ารกรุงรังด้วยหนวดเคราก็ให้ความรู้สึกน่าค้นหา ตอนมันเคลื่อนไหวถูกเรือนกายเธอยังทำให้รู้สึกจักกะจี้แปลกๆ

โจรหนุ่มฝั่งลำอวบขนาดมหึมาลงบนผิวเนื้อนุ่มแล้วขยับเสียดสีไปมา เขายังอยากยืดเวลาเพราะมีเรื่องบางเรื่องต้องซักถาม

“ก็ข้าอยากรู้...” คนถามยื่นปากยาวลงมาจูบริมฝีปากแดงเจ่อ ลุกเร้าด้วยปลายลิ้นร้อนรุ่ม กวาดเอารสชาติฝาดเฝื่อนมาไว้ในโพรงปากของตัวเองจนพอใจ มากอยาจึงพูดในสิ่งที่เขาคิดว่ามันสมควรจะเป็นไป

“ถ้าเอ็งเต็มใจ พรุ่งนี้ข้าจะประกาศให้พวกชาวบ้านโจรได้รับรู้กันท้วนทั่ว เอ็งกับข้า เป็นผัวเมียกันอย่างถูกต้องและเอ็งก็เต็มใจ”

ประโยคนั้นของขุนโจรทำเอาร่างสาวเกร็งขึ้นขนัด ดวงตาดำขลับพล่ามัวราวกับได้ยินในสิ่งเหลือเชื่อ...

ก่อนจะมีคำพูดใดหลุดรอดออกจากปากอิ่มเต็ม ลำดุ้นแข็งกระโดกก็ทะยานเข้าสู่แหล่งหฤหรรษ์โดยทันที..

“อ๊ะ!ซีดดดดด”

คำหวานหลุดเสียงครางยาว ใบหน้าบิดเบี้ยว กระดกศีรษะทุยขึ้นมองจุดประสานด้วยสายตามหวานฉ่ำ เธอทั้งเจ็บและจุกก็จริงเพราะขนาดของเขานั้นใหญ่โตเกินมนุษย์ แต่ทุกอารมณ์พลุกพล่านนั้น มันมาพร้อมกับความเสียวซ่านผลุดพลายไปทั่วอารมณ์หวามลึก

ตับ ตับ ตับ ...

มากอยาโหมสะโพกหนั่นแน่นตอกอัดลำเอ็นเข้าหาร่องสาวอย่างบ้าคลั่ง สองมือป่ายสะเปะสะปะไปตามเรือนร่างอรชรอ้อนแอ้น สะดุดตรงไหนที่ให้ความรู้สึกถูกใจ เขาก็หยุดบีบเคล้นตักตวงความหอมหวานเอาไว้จนสมฤดี

“คำหวาน...อ๊า...อะ...”

แคลมสาวปลอกปลิ้นวาววับด้วยน้ำคาวขาวขุ่น คำหวานจำต้องแอ่นสะโพกผายขยับเคลื่อนไหวไปตามจังหวะเร่งเร้าดุเดือด เมื่อเธอสัมผัสได้ว่าเขากำลังจะถึงจุดหมายปลายทางเร็วๆนี้

แรงขยับเขยื้อนเป็นไปตามแรงอารมณ์รุ่มร้อน คำหวานเสร็จสมไปหลายครั้งหลายคา ทุกครั้งภายในเธอจะตอดรัดเขาอย่างหนักหน่วง ก่อนคลื่นพายุโหมกระหน่ำจะค่อยๆซาลงเรื่อยๆเมื่อจังหวะสุดท้ายใกล้เข้ามาทุกขณะ ร่างแข็งแกร่งโก่งตัวสูง มากอยาดึงลำออกมาเกินครึ่งแล้วกระทั้นกลับเข้าใส่อีกสองครั้งติด ด้วยจังหวะหนักหน่วงเพื่อพาตัวเองไปถึงฝั่งฝันได้สำเร็จ

“อะ..อะ...อร้าย!” มากอยาส่งเสียงคำรามลั่นไปทั่วทั้งบริเวณผืนป่าอันแสนเงียบสงบ

ตอนนั้นเองที่คำหวานโพลงคำพูดในความคิดออกมาจนได้ยินชัดแจ๋ว...

“ข้าจะเป็นเมียเอ็ง...มากอยา”


-----------------------------------------








รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว