อสูรซ่านสวาท

บทที่ 18

..........หลังจากวินธรรพ์พารินนะมาบ้านความสัมพันธ์จึงใกล้ชิดสนิทสนมกันมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ทุกวันเจอกันในมหาวิทยาลัยได้ทานอาหารร่วมกัน เย็นเลิกเรียนก็ขับรถตามไปส่งถึงบ้านรินนะ ตลอดเวลาเหล่านั้นยังไม่เคยมีโอกาสอยู่ลำพังด้วยกันสองต่อสอง มีคนขับรถหรือไม่ก็เพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยอยู่เป็นเพื่อนตลอดเวลาเลยทำได้อย่างมากเพียงแค่จับมือกันเท่านั้น

ในตอนเย็นช่วงวันที่มีพายุเข้าได้พากันมาเดินเล่นในสวนสาธารณะประจำหมู่บ้านที่มีบึงน้ำกว้างเรียงรายด้วยต้นไม้ใหญ่ปลูกไว้โดยรอบ เป็นช่วงฤดูฝนท้องฟ้าหม่นครึ้มอยู่ก่อนแล้วไม่นานฝนได้เทลงมามืดฟ้ามัวดินหลบไม่ทันเสื้อผ้าจึงเปียกชุ่มไปด้วยกัน วินธรรพ์เอ่ยชวนรินนะแล้วเดินนำหน้าไปยืนใต้ต้นไม้

“ยืนหลบใต้ต้นหูกวางนี่ก่อนเถอะ”

มีสโมสรห้องกระจกอยู่ระยะห่างไปเล็กน้อย แต่มีคนในหมู่บ้านหลบฝนอยู่นับสิบคนทั้งวินธรรพ์และรินนะไม่อยากไปอยู่แออัดร่วมกับผู้คนมากมาย ที่สำคัญในใจของทั้งสองอยากอยู่ใกล้ชิดเพียงเรามีเราด้วยกันยืนแนบซบไหล่เบียดกันให้กระแสไออุ่นส่งผ่านถึงใจ รู้สึกว่าคิดถูกแล้วที่มายืนด้วยกันตรงนี้เสมือนอยู่ในโลกส่วนตัวใต้ต้นหูกวางแผ่กิ่งก้านสาขาใหญ่ใบหนาแน่นเรียงซ้อนกันถึงสามชั้นช่วยป้องกันสายฝนที่กำลังพรั่งพรูมีเพียงไม่กี่หยดที่เล็ดรอดหล่นลงมาต้องผิวกาย ล้อมรอบด้วยม่านฝนเม็ดใหญ่เทลงมากั้นสายตาผู้คนภายนอกต้นไม้นี้ไม่มีใครมองเห็นสองคนที่ยืนหลบฝนอยู่

แต่กว่าจะมาถึงใต้ต้นไม้นี้เสื้อผ้าโดนฝนจนเปียกชุ่มไปหมดทั้งตัวเสื้อผ้าฝ้ายเบาบางที่สวมใส่ได้แนบเนื้อจนแลเห็นเงาของสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้เนื้อผ้าเนินเนื้อหนั่นนูนนวลเนียนกลมกลึงในบราเซีย แม้ไม่ได้คิดลามกแต่ใจข้างในนั้นสั่นไหวตื่นเต้นขอบคุณฟ้าฝนเป็นใจไม่เคยได้อยู่ลำพังในที่ลับสายตาคนเหมือนอย่างขณะนี้ วินธรรพ์มองด้วยความหลงใหลในรูปร่างเรือนกายอยากได้ครอบครองจับจองเป็นเจ้าของเธอทั้งตัว วูบหนึ่งฉุกคิดอยากจูบปากแดงจิ้มลิ้มของสาวน่ารักข้างกาย

รินนะรู้สึกเก้อเขินอายกับสายตาวินธรรพ์ที่จ้องมองลามเลียสำรวจเรือนร่างของเธอข้างในหัวอกนั้นมันร้อนรุ่มพึงพอใจในแววตาคู่นั้นที่เธอได้เงยหน้ามองสบตากันนิ่งนาน จนกระทั่งเขาก้มลงมาสัมผัสได้ถึงเรียวปากอุ่นร้อนต้องกัน รู้ตัวได้ในนาทีนั้นว่าผู้ชายที่เธอชอบกำลังจูบเธอ อยากให้เขาจูบนานเนิ่นช้าเขาก็ทำให้เธอได้ดังใจปรารถนา ได้ยินเสียงหัวใจตนเองเต้นร้องบอกว่า... หลงรักเขาเหลือเกิน

..........หลังฝนซาจึงพากันเดินกลับเข้าบ้าน

“รีบอาบน้ำก่อนเถอะค่ะวินธรรพ์เดี๋ยวจะเป็นหวัดไป”

“รินนะนะล่ะอาบก่อนคุณเป็นผู้หญิงร่างกายอ่อนแอเจ็บป่วยง่ายกว่าผู้ชาย”

สองหนุ่มสาวต่างเป็นห่วงเป็นใยในกันและกันเกี่ยงงอนให้ต่างฝ่ายอาบน้ำก่อน สุดท้ายรินนะต้องยอมจำนนในเหตุผลของเขา เธอได้เข้าห้องน้ำไปรีบอาบน้ำอย่างเร็วไวไม่อยากให้เขาต้องทนหนาวเย็นจากเสื้อผ้าเปียกชุ่มน้ำฝนอยู่นาน

“ฉันอาบน้ำเสร็จแล้วค่ะ วินธรรพ์รีบเข้าไปอาบน้ำบ้างเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันไปหยิบผ้าขนหนูในตู้ให้นะคะ”

รินนะบอกแล้วเดินออกจากห้องน้ำไปยังตู้เสื้อผ้าหยิบผ้าขนหนูพร้อมเสื้อคลุมอาบน้ำเดินเข้าไปให้วินธรรพ์ซึ่งเดินเข้าไปภายในห้องน้ำแล้วแต่ยังไม่ได้ล็อคประตู

วินธรรพ์ถอดเสื้อผ้าเปียกออกเปลือยท่อนบนแล้วเหลือแต่กางเกงยังไม่ได้ถอด

“อุ๊ย! ขอโทษค่ะที่เสียมารยาทไม่ทันดูว่าคุณถอดเสื้อแล้วพอดีจะเอาผ้าขนหนูมาให้”

แม้ปากกล่าวคำขอโทษฝ่ายชายแต่สายตาของรินนะมองจ้องไม่กระพริบที่มัดกล้ามแน่นแผ่นหน้าอกตลอดถึงต้นแขนและหน้าท้องแบนเรียบอย่างสมบูรณ์แบบเพศชายอันน่าพิสมัยจนก่อให้เกิดอารมณ์พิศวาส

สายตาของรินนะแบบนั้นมันทำให้วินธรรพ์เขินขึ้นมาเล็กน้อย แต่ภาคภูมิใจในรูปร่างเรือนกายของตนเองไม่เสียแรงที่ชอบออกกำลังกายดูแลร่างกายของตนเองสม่ำเสมอ แล้วพร้อมกันนั้นก็ไม่ลดละที่จะส่งสายตาหวานหวามให้สาวน่ารักที่ใจหมายปอง

“ไม่เป็นไรครับผมเป็นผู้ชายถอดเสื้อแค่นี้ไม่ถือว่าโป๊อะไร ขอบคุณสำหรับผ้าขนหนูนะครับ”

รินนะยื่นผ้าขนหนูให้ขณะกล่าวถ้อยคำน่าฟังที่วินธรรพ์ไม่คาดคิดว่าจะได้ยินมาก่อนนั่นทำให้เหมือนต้องมนต์สะกดงงงัน

“ฉันชอบคุณค่ะวินธรรพ์”

ไม่ใช่เพียงแค่พูดจากปากแค่นั้นแต่เธอยังใช้วงแขนโอบรอบคอของเขาให้โน้มกายก้มหน้าลงมาใกล้ชิดใบหน้าของเธอ แล้วจุมพิตเพียงแผ่วเบาเร้าใจเสน่หา แล้วแหงนหน้าชม้ายมองสบตาด้วยสายตาแสดงความหลงใหลในตัวเขา

วินธรรพ์เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาไม่ใช่ปูนปั้นมันย่อมมีความรู้สึกตอบสนองต่อสิ่งเร้า ยิ่งโดนเล้าโลมจากสาวน่ารักน่าหลงใหลที่ใจแอบรักแอบหวังคลั่งไคล้ใครมันจะไปอดใจไหว จึงเป็นฝ่ายดึงตัวเธอเข้ามากอดแล้วจูบซ้ำแต่เพิ่มความหนักหน่วงร้อนแรงด้วยไฟพิศวาสในใจของเขาได้ลุกโชนขึ้นมาแล้ว ยากจะหยุดยั้งกลีบปากใหญ่ไล้คลึงเคล้าเรียวปากเล็กจิ้มลิ้มน่ารักนานเนิ่นนาน

“อย่าหาว่าผมฉวยโอกาสเลยนะ แต่เราไม่เคยมีเวลาได้อยู่กันตามลำพังเท่าไหร่ผมอยากนอนกอดคุณจูบคุณใจจะขาด”

กล่าวคำสารภาพจบมือของวินธรรพ์ก็เชยคางน้อยของสาวน่ารักเชิดขึ้นจูบย้ำซ้ำอีกไม่ปล่อยให้เธอได้เผยอปากเรียกร้องอันใด

ไม่นานต่อจากนั้นเขาอุ้มเรือนร่างของเธอยกลอยขึ้นเหนือพื้นพาเดินออกจากห้องน้ำนำไปวางบนฟูกนอน

รินนะรู้สึกละอายขึ้นมาเมื่อแผ่นหลังของตนได้โดนฟูกนอนพร้อมกับเรือนร่างของตนตกอยู่ภายใต้เรือนร่างสูงใหญ่ทาบทับเบื้องบนถึงเพิ่งกล่าวคำห้ามปราม...

“อย่าค่ะ...”

ถ้อยคำห้ามปรามเหมือนคำยั่วยุเพราะมันช่างแผ่วเบาเสียจนไม่อาจหยุดยั้งอารมณ์ใคร่อยากได้ใกล้ชิดสนิทล้ำลึกในเรือนร่างบางเล็กที่ใจเขาใฝ่ปรารถนา เฝ้าดอมดมกลิ่นสะอาดหอมของพวงแก้มสาวหลังเธอเพิ่งอาบน้ำมาไม่นานเคล้าคลอด้วยปลายจมูกซุกไซ้ข้างใบหูละประซอกคอเรื่อยลงมา

สร้างความเพลิดเพลินพอใจให้รินนะแทบลืมไปเลยว่าที่บ้านชั้นล่างยังมีคนอื่นอยู่

“เดี๋ยวแม่บ้านกับคนขับรถจะมาเห็นเข้านะคะวินธรรพ์”

“อย่าร้องเสียงดังสิครับรับรองเขาคงไม่ขึ้นมาดูหรอก”

ความจริงยังมีสิ่งที่กลัวเธอยังไม่เคยเสียตัวเลยไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้

“ฉันกลัวค่ะ”

“ผมจะรับผิดชอบทุกอย่างไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เป็นของผมนะครับรินนะ”

พูดจบวินธรรพ์จึงรีบจูบปิดปากป้องกันไม่ให้เธอส่งเสียงให้ใครได้ยินหรือมาร่วมรู้เห็นความรักที่เป็นความลับ

เสื้อผ้าถูกมือของชายคนรักค่อยปลดเปลื้องให้หลุดออกจนเหลือเนื้อตัวเปล่าเปลือยไปด้วยกันเบียดเสียดสีแนบเนื้อนุ่มรุ่มร้อนกับอ้อมกอดเล้าโลม ยิ่งโดนจูบซ้ำย้ำละเมียดละไมลิ้นของเขากวาดไล่เล่นกับปลายลิ้นเธอกระตุ้นให้หัวใจเต้นแรงหายใจหอบเหนื่อย

สองอุ้งมือใหญ่ของชายหนุ่มผู้ร้อนแรงเสน่หาได้จับไหล่สาวคนรักกดลงนอนหงายภายใต้เรือนร่างของเขาที่พลิกกายขึ้นทาบทับเป็นผู้นำพาความรักใคร่ให้ลื่นไหลสุขสัมผัสเคล้าคลึงด้วยอ้อมอกอุ่นร้อนแนบอกร่องสองเต้าถัน ปากประกบปากฝากรักฝากจูบเร่งร้อนเต็มไปด้วยความอ่อนหวาน

ต่อเมื่อโดนมือของคนรักลูบลงมาตรงจุดศูนย์กลางระหว่างร่องโคนขาอันสุดสงวนแห่งเพศหญิงร่างกายตอบรับสะดุ้งเฮือกทรมานด้วยความต้องการโหยหา

วินธรรพ์ปล่อยให้สาวคนรักดิ้นเร่าร้อนทรมานด้วยความปั่นป่วนยั่วยวนหัวใจของเขาจนทนไม่ไหว เมื่อนั้นจึงพร้อมจะรวมสองร่างเป็นหนึ่งเดียวเชื่อมต่อกันราวกับเสียบปลั๊กไฟฟ้าแรงสูงส่งกระแสแห่งความหวิวซ่านแผ่กระจายไปทั่วเรือนกายทั้งสองร่างอันร้อนรุ่มสุมไฟเสน่หา

“เจ็บค่ะ...”

รินนะร้องน้ำตาเล็ดเรือนร่างยังไม่คุ้นกับสิ่งภายนอกที่แทรกเข้ามา

วินธรรพ์หยุดนิ่งรู้อยู่แล้วว่าเธออาจจะเจ็บจึงปล่อยให้ร่างกายของสาวคนรักพร้อมรับกับความรักใคร่ที่เขากำลังจะมอบให้ รั้งรอรักอยู่พักหนึ่งไม่นานจึงดำเนินการส่งความรักไปสู่ความสุขถึงที่สุดแห่งหัวใจ

“ผมรักคุณที่สุด”

พร้อมกระซิบสารภาพรักจากใจเขายังไม่เคยรักใครนี่เป็นครั้งแรกของเขาเองเช่นกันที่ได้สมรักสมใจกับหญิงสาวผู้เป็นรักแรก

จากนั้นต่างลุกขึ้นเพื่อไปอาบน้ำด้วยกัน เหลือบมองเห็นผ้าปูที่นอนเปื้อนเลือดพรหมจรรย์ครั้งแรกของสาวคนรักให้รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เป็นของกันและกัน วินธรรพ์จูบหน้าผากรินนะอย่างทะนุถนอมเหลือเกิน

..........ตอนเช้าหกโมงวินธรรพ์ได้ลงมาทานอาหารเช้าพร้อมกับรินนะในชุดเสื้อผ้าของเมื่อวานซึ่งรินนะได้ใช้เครื่องซักผ้าเป่าแห้งให้แล้วจึงได้มีชุดใส่เรียบร้อย แม้จะอยู่ในชุดเสื้อผ้าปกติแต่การเดินลงมาจากชั้นบนพร้อมกันของสองหนุ่มสาวนั้นทำให้แม่บ้านของเธอสงสัย

“เอ๋! คุณวินธรรพ์ค้างคืนที่นี่หรือคะคุณรินนะ”

แม่บ้านเอ่ยถามตาโตมองด้วยความแปลกใจ

“อย่าบอกเรื่องนี้กับพี่โทชิเป็นอันขาดนะ ฉันกลัวพี่ชายจะโกรธแล้วเรียกตัวฉันกลับญี่ปุ่น”

รินนะสั่งห้ามแม่บ้านที่คอยดูแลเธอ

มาถึงตอนนี้แม่บ้านย่อมเข้าใจได้ในทันทีโดยไม่ต้องอธิบายอะไรให้มากความ รู้หน้าที่ของตัวเองว่าต้องเก็บไว้เป็นความลับในเรื่องส่วนตัวของเจ้านาย

“ค่ะ ฉันจะเก็บไว้เป็นความลับที่สุดไม่บอกใครค่ะ”

..........ในตอนเย็นมีชาวญี่ปุ่นผู้ชายมาหารินนะ วินธรรพ์เห็นเข้าพอดีหลังจากให้คนขับรถตามมาส่งรินนะถึงบ้านเหมือนทุกวัน ผู้ชายคนนั้นมาคนเดียวยืนอยู่ข้างรถยนต์ยุโรปหรูหราบ่งบอกความมีฐานะซึ่งจอดรออยู่ในรั้วบ้านก่อนแล้ว

รินนะเห็นทั้งคนและรถยนต์ก็จำได้ในทันทีจึงตกใจ แน่นอนตั้งใจว่าจะไม่แนะนำทั้งวินธรรพ์และหนุ่มชาวญี่ปุ่นคนนั้นให้ได้รู้จักกันเป็นอันขาด จึงให้คนขับรถจอดรถอยู่หน้าบ้านแล้วลงรถไปบอกวินธรรพ์ที่นั่งอยู่ในรถที่ขับตามหลังมา

“พอดีพี่ชายมาเยี่ยมฉันค่ะ เย็นนี้ฉันไม่ว่างแล้วและไม่สะดวกแนะนำให้รู้จักกันค่ะ คือฉันยังไม่ได้บอกพี่ชายเรื่องของเรา ต้องขอโทษนะคะวินธรรพ์วันนี้ช่วยกลับไปก่อนเถอะค่ะ”

วินธรรพ์เชื่อตามคำบอกเล่าของรินนะเมื่อเธอยังไม่อยากเปิดเผยความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างเธอกับเขาให้พี่ชายของเธอรับรู้ก็ไม่เป็นไร เอาไว้รอเวลาเหมาะสมค่อยเปิดเผยทีหลังดีกว่า คิดเช่นนั้นจึงให้คนขับรถกลับรถออกไปทางเดิม

“พี่ทาคาระ... พี่มาที่นี่ทำไม”

เป็นคำทักทายคนคุ้นเคยที่เธอไม่เคยนึกอยากเจอหน้าเลย ไม่ใช่มีความโกรธเกลียดแค้นเคืองต่อกันอันใดหากแต่เบื่อเพื่อนของพี่ชายคนนี้ที่คอยตามตื้อตัวเธอตั้งแต่อยู่ที่ญี่ปุ่นแล้ว นี่เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เธอนึกอยากท่องเที่ยวไปยังประเทศอื่นเพื่อพบปะเจอะเจอผู้คนหน้าใหม่ โดยหวังว่าจะเจอใครสักคนที่เธอรักและอยากแต่งงานด้วยซึ่งไม่ใช่เขาคนนี้

ทาคาระ ฮิโนดะ คือเพื่อนสนิทสมัยเรียนมหาวิทยาลัยของโทชิพี่ชายเธอ เขาเป็นลูกผู้ดีตระกูลเศรษฐีแห่งจังหวัดอาโอโมริ บุคลิกตลอดจนรูปร่างหน้าตาค่อนข้างดูดีตาตี่เรียวรีเฉียงขึ้นจมูกเป็นสันตรงริมฝีปากกว้างคางแหลมไว้ผมทรงตัดสั้นเหมือนนายทหาร ผิวขาวเหลืองรูปร่างสันทัดไม่อ้วนไม่ผอม ส่วนสูง 175 เซนติเมตร กิจการทางบ้านเป็นเจ้าของตลาดสินค้าทางการเกษตร

“คิดถึงรินนะว่าที่คู่หมั้นของพี่เลยมาเยี่ยมนะสิ”

“แล้วพี่ทาคาระเช่าพักโรงแรมอยู่แถวไหนคะ”

“พี่เพิ่งลงจากเครื่องบินแล้วตรงดิ่งมาหารินนะเลยยังไม่เช่าโรงแรม แหม... เราออกจะสนิทกันให้พี่พักที่บ้านนี่ด้วยสิครับ บ้านหลังนี้สวยน่าอยู่ดีพี่ชอบ”

ทาคาระพูดจายิ้มแย้มพยายามทึกทักในใจนึกอยากรวบรัดน้องสาวที่น่ารักของเพื่อนสนิทเอามาเป็นคู่หมั้นในเร็ววันแต่จนแล้วจนรอดยังไม่มีโอกาสสักที แต่คราวนี้เธอมาอยู่ห่างจากบ้านเกิดเมืองนอนมาทำให้เขาเห็นหนทางสะดวก

“ไม่ได้ค่ะมันไม่งามเรายังไม่ได้เป็นอะไรกัน ฉันรู้จักโรงแรมที่พักหรูสะดวกสบายจะแนะนำให้พี่ทาคาระไปเช่าพัก แล้วขับรถตามมานะคะ”

บอกกับเพื่อนสนิทของพี่ชายแล้วสั่งคนขับรถของตนเองออกรถเพื่อนำทางไปยังโรงแรมดังกล่าว

.

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว