อสูรซ่านสวาท

บทที่ 4

“คาร์ล...ปล่อยฉันไป...ปล่อยฉันไป”

“คุณไม่ควรร้องขออะไรผมแบบนี้ นีนี่”

เขาตอบเสียงพร่าขณะยิ่งบดเบียดร่างหนาลงกับร่างกลมกลึงที่บิดเร่าอยู่ด้านล่าง ชายหนุ่มรู้สึกถึงความตื่นตัวทุกอณูของเรือนกาย ใช่...เขาอาจยังนึกถึงวรรษมล แต่ความแค้นคลั่งของเขากำลังโหมกระหน่ำลงบนเรือนร่างของผู้หญิงอีกคนที่เขาเกือบจะเคยรักเธอก่อนหน้านี้

คาร์ลอสไม่เคยลืม...ว่าก่อนที่เขาจะพบกับลูกสาวของแวววลีเขาได้พบกับหลานสาวคนสวยที่ทั้งอ่อนหวานและบอบบางอย่างรชนิชล เขามักแวะเวียนไปที่ร้านดอกไม้เพื่อให้เธอจัดช่อดอกไม้ให้เขาทั้งที่แทบไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องใช้มันเลย เขามองเธอบ่อยครั้ง ชอบมองใบหน้าแสนหวานและริมฝีปากนุ่มละมุนเหมือนกลีบกุหลาบที่ทำให้สติของเขาฟุ้งซ่านหลายหน จนกระทั่งวันหนึ่งที่เขารวบรวมความกล้าเอ่ยปากถาม

“นีนี่...คุณ...มี...เอ้อ...มีคนรู้ใจหรือยัง”

“ค่ะ...ฉันมี...แฟนแล้วค่ะ...คาร์ลอส”

แม้ไม่เคยเห็นผู้ชายของรชนิชลแต่เสียงนั้นยังดังก้องในหูของเขาตราบถึงวันที่เขาตัดสินใจที่จะรักวรรษมล ลูกสาวคนเดียวของแวววลี เพราะผู้หญิงคนนั้นมีหลายส่วนละม้ายคล้ายกับน้องสาวที่แม่ของเธอชุบเลี้ยง เขาทุ่มเททุกอย่างจนถึงวันนี้ที่เขาถูกหักหลัง เสียงแห่งความเจ็บแค้นติเตือนเขาในทุกวินาทีว่าครอบครัวนี้ไม่เคยมีใครจริงใจ

“ผมเกลียดพวกคุณทุกคน!...นีนี่...ผมจะไม่มีวันปล่อยคุณไป คุณต้องชดใช้ในสิ่งที่ครอบครัวของคุณทำไว้กับผม!”

“คาร์ล...โอ๊ย!”

สติของหญิงสาวยิ่งถูกกระชากลงต่ำเมื่อชายหนุ่มจับข้อมือทั้งสองไว้แล้วตรึงมันเหนือศีรษะของเธอพร้อมทั้งยัดเยียดริมฝีปากร้อนบนแก้มที่เปลี่ยนเป็นสีชมพูเข้ม รอยสากระคายจากขนเคราสั้นเสียดสีไปแทบทุกตารางนิ้วบนใบหน้าที่ส่ายสะบัดไม่ยินยอม ตอนนี้บนเรือนร่างงามไม่หลงเหลืออาภรณ์สักชิ้น เขาทึ้งมันออกจากร่างของเธอจนหมดเหมือนเสือที่กำลังฉีกทึ้งเหยื่ออย่างไร้ปราณี ร่างกลมกลึงที่เปลือยเปล่าบิดเร่าไม่ยอมแพ้ทั้งที่รู้ว่าไม่มีสิ่งใดปิดป้องเธอได้อีกแล้ว

“คาร์ล!...คาร์ล!”

รชนิชลเค้นเสียงออกจากลำคอและพยายามหยัดลำตัวขึ้นหวังจะดันร่างหนาไปให้พ้นแต่ยิ่งดึงดันก็เหมือนยิ่งยั่วยุและปลุกเร้าสึกนึกด้านมืดของคาร์ลอสที่มันกำลังกระโจนออกมาเหมือนสิงห์ร้ายกระโจนเข้าใส่เหยื่อด้วยความกระหายหิว

“ปล่อยฉัน...โอ๊ย!...ฉันเจ็บนะ...ปล่อยฉัน!”

“ร้องไป...อยากร้องก็ร้องซะให้พอ!”

ชายหนุ่มคำรามขณะกดข้อมือทั้งสองของรชนิชลไว้เหนือศีรษะและมืออีกข้างคลายหัวเข็มขัดออกก่อนที่กางเกงจะหลุดออกจากตัวเขา หญิงสาวเบิกตากว้างเมื่อคาร์ลอสปลดเปลื้องทุกอย่างออกจากตัวจนหมดแล้วถาโถมร่างกายใหญ่โตเข้าใส่ แม้จะรู้ว่าไม่มีทางหนีแต่ร่างเล็กก็ยังไม่ยอมละความพยายาม เรียวขางามพยายามยกขึ้นเพื่อหวังจะดันตัวเขาออกห่างแต่ที่ไหนได้มันกลับช่วยเปิดทางให้เขาแนบสนิทกับแกนกายของเธอมากขึ้น หญิงสาวร้องออกมาอย่างเสียขวัญเมื่อรู้สึกและสัมผัสได้ถึงความตื่นตัวของเขาที่ดุนดันอยู่กับตัวเธอ

“อื๊อ...คาร์ลอส...ฉัน...หายใจไม่ออก...หายใจไม่ออก”

“อย่ามาแกล้งทำเป็นไม่เคยดีกว่านีนี่...คุณมีแฟนแล้วทำไมจะไม่รู้จักเรื่องแบบนี้”

“ไม่...ฉันไม่นะคาร์ล”

คาร์ลอสเหยียดริมฝีปาก นัยน์ตาคู่งามของรชนิชลฉายความตกตื่นออกมาหากทว่าเขากลับรู้สึกราวกับมันเป็นการเสแสร้ง เขาก้มลงไปหาใบหน้าของหญิงสาวที่บิดเกร็งด้วยความตื่นกลัว

“หรือแฟนคุณไม่เคยทำแบบนี้”

“อื๊อ!”

หญิงสาวกำลังจะอ้าปากเถียงแต่กลับได้รับปลายลิ้นของเขาที่จ้วงเข้าไปลึกและริมฝีปากถูกประกบปิดไว้จนแน่น เขาคุกคามเธอด้วยปากกี่ครั้งกี่หนกันแล้ว เสียงกรีดร้องของหญิงสาวเหมือนถูกจุกกลับเข้าไปในอกที่หัวใจเต้นเร่าเร้าระรัว คาร์ลอสคงคิดว่าเธอเคยผ่านผู้ชายมาแล้ว เขาคิดว่าเธอเคยมีแฟนทั้งที่การปฏิเสธเขาครั้งนั้นก็แค่ยกข้ออ้างเพื่อให้เขาเบี่ยงเบนความสนใจไปหาวรรษมล

เธอหลอกเขาว่ามีแฟนแล้วและมันได้ผล ทั้งที่เธอเริ่มจะรักเขาแล้ว ถึงยังไม่เต็มหัวใจแต่เธอก็รู้สึกได้ว่าคาร์ลอสผิดหวังจากคำโป้ปดที่เธอทำเพื่อพี่สาว แล้วตอนนี้มันกลับเป็นคมดาบที่กลับมาทิ่มแทงตัวเธอ เขาคิดว่าเธอรู้จักเรื่องแบบนี้ ทั้งที่ร่างกายของเธอกำลังสั่นเร่าเพราะไม่เคยสัมผัสแม้แต่ปากและลิ้นของบุรุษเพศ

คาร์ลอสไม่ยอมถอนริมฝีปากออกง่าย ๆ เขาจูบเธอแล้วไม่อาจนับครั้งตั้งแต่หนแรกที่ทำให้รชนิชลแทบแทรกแผ่นดินที่โบสถ์ แม้ในขณะนั้นที่ชายหนุ่มก็รู้สึกถึงความตื่นเต้นผิดปกติของหญิงสาว เขาสัมผัสได้ถึงกายสะท้านสั่น สัมผัสถึงจุมพิตแม้จาบจ้วงแต่ก็ลึกล้ำและในเวลาเดียวกันที่ทุกส่วนของเรือนร่างแนบสนิทอยู่กับตัวเธอ

“คาร์ล...”

เสียงของรชนิชลแผ่วลงเมื่อเขาค่อย ๆ ถอนริมฝีปากออกแต่เขายังไม่ยอมปล่อยมือของหญิงสาวที่ถูกตรึงไว้เหนือศีรษะ ปากหยักหนายังคงอ้อยอิ่งอยู่บนกลีบปากนุ่มดุจกำมะหยี่ เธอได้ยินเสียงกระซิบของเขาแผ่วพร่า

“นีนี่...คุณปฏิเสธผมไม่ได้...จำไว้...ชีวิตของคุณ...เป็นของผม”

เสียงแน่นหนักกระชากสติของหญิงสาวที่กำลังสั่นเคลิ้มกลับมาจากภวังค์ที่ใกล้หลุดลอยอีกครั้ง คาร์ลอสกดลำตัวหนาหนักของเขาลงบนตัวเธอ หญิงสาวหายใจหอบเหนื่อยและได้ยินสียงหอบหายใจของเขาหนักหน่วงดุจเดียวกัน เขาปล่อยมือทั้งสองของเธอให้เป็นอิสระและตะปบมือหนาใหญ่ลงบนทรวงอกกลมกลึง รชนิชลเม้มปากเข้าหากันแน่นก่อนคิดจะตอบโต้กลับด้วยการจิกปลายเล็บลงบนแก้มสากระคาย หากก็สายไปเมื่อเขาคว้ามือเรียวบางข้างนั้นไว้ได้ นัยน์ตาสีอำพันเข้มขึ้นด้วยความร้อนรุ่ม

“คิดจะทำอะไร นีนี่!”

“ฉะ...ฉัน...”

คาร์ลอสขบกรามแน่น “ไม่ยักรู้ว่าชอบนี้...ถ้าชอบแบบซาดิสต์เดี๋ยวผมจะช่วยสนองความอยากให้!”

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว