สาวน้อยกับงูเห่า

บทที่ 4 ผู้หญิงดวงแข็ง

โครม!


ฉันผลักประตูรถปิดเต็มไปด้วยอารมณ์โมโห เพราะยังเจ็บใจที่ยัยเด็กหน้าหมวยไม่หาย อุตส่าห์ว่าจะไปช๊อปปิ้งแก้เครียดซะหน่อย กลับกลายเป็นว่าเครียดยิ่งกว่าเดิม ดีที่รถที่ฉันขับเป็นรถกระบะของรีสอร์ตมันจึงทนมือทนเท้าของฉันมาถึงทุกวันนี้

ฉันก้าวฉับ ๆ เข้าไปในรีสอร์ตยังไม่ทันจะถึงห้องสำนักงานโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าก็ดังขึ้น


ตืดดดดดดดดดดดดดดดดด


ตืด ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ


บนหน้าจอโทรศัพท์ปรากฏเบอร์แปลก ๆ โทรเข้ามา ฉันลังเลที่กดรับเล็กน้อย เพราะปกติเบอร์โทรส่วนตัวของฉัน จะไม่ให้ลูกค้า หรือคนอื่นที่ไม่ใช่คนรู้จัก แต่แล้วฉันก็ต้องรีบกดรับ เพราะกลัวว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวติดต่อเข้ามาจองห้องพักซึ่งอาจจะเป็นลูกค้า VIP ที่ฉันลืมไปแล้วก็ได้


“สวัสดีค่ะ”

ฉันกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์ แต่ไม่เสียงตอบกลับมา ฉันจึงเอ่ยอีกครั้งว่า

“สวัสดีค่ะ รีสอร์ตเอื้องฟ้ายินดีให้บริการค่ะ”


แล้วน้ำเสียงนุ่มละมุนหูอันคุ้นหูก็ดังขึ้น


“สวัสดีหนูจี๊ด ผมทูนะ”


“ไอ้…..”

ฉันกำลังจะหลุดเรียกชื่อคนปลายสายไปว่า “ไอ้ปลาทู !” เหมือนสมัยเด็ก ๆ ที่เคยเรียกขาน แต่เมื่อระลึกได้ว่า พวกเราทั้งคู่ต่างโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว และเขาก็เป็นถึงหมอ หากเรียกไอ้ปลา หรือ ไอ้ทู เหมือนเก่าก็คงจะไม่เหมาะสม แล้วฉันจึงรีบกลืนคำเหล่านั้นลงไปในลำคอ แล้วพูดเปลี่ยนสรรพนามใหม่อย่างเกรงอกเกรงใจยิ่งขึ้นว่า

“เอ่อ... หมอทู เรียนหมอจบกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่”

ฉันรีบถามออกไป เพราะตั้งแต่จบมัธยม แล้วเจอกันที่มหาลัยบ้างเป็นบางครั้ง เพราะเรียนมหาลัยเดียวกัน แต่คนละคณะ หลังจากนั้นเกือบจะ 10 ปีแล้วที่เราทั้งคู่ไม่ได้ติดต่อกันเลย


“พอดีเราใช้ทุนจบแล้ว ก็เลยลาออกจากโรงพยาบาลของรัฐ ว่าจะมาเปิดคลินิกที่บ้านเราน่ะ จะได้ดูแลพ่อแม่ด้วย”


“ดีจังเลยเธอ ยินดีด้วย”

ฉันบอกเขาด้วยความรู้สึกยินดีกลับเขาจริง ๆ เพราะเขาเป็นลูกชายคนเดียวของเฒ่าแก่วิชัย กับนางกิมลั้ง เจ้าของร้านทองในจังหวัด


“คลินิกฉันใกล้จะเสร็จแล้ว แต่ว่ายังไม่มีคนช่วยรับคนไข้เลย เธอจบสาธารณสุขมาไม่ใช่เหรอ มาช่วยฉันรับคนไข้หน่อยสิ”

เสียงเขาเอ่ยชวนแกมบังคับ


“หมายถึงยังไงยะ”

ฉันยังไม่เข้าใจ


“ก็หมายถึงมาเป็นคนช่วยเก็บเงิน แล้วก็บริหารจัดการเล็ก ๆ น้อย ๆ คลินิกฉันเล็ก ๆ เอง ใหญ่ไม่เท่ารีสอร์ตเธอหรอก เรื่องแบบนี้ฉันว่าเธอทำได้สบายอยู่แล้ว อยากได้เงินเดือนเท่าไหร่ว่ามา”

หมอทูเสนอ


“คุณหมอปลาทูคะ ดิฉันไม่อยากเป็นลูกน้องคุณค่ะ เราเป็นเพื่อนกันนะเว้ย ถ้าฉันไปทำงานกับแก มีหวังเราต้องทะเลาะกันแน่ ๆ”

ฉันบอกเขาไปตามตรง เพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนกันมานานจึงไม่อยากจะเสียเพื่อน


“หนูจี๊ด เคยสัญญากับฉันไว้ไม่ใช่เหรอ ถ้าฉันกลับมาเปิดคลินิกที่บ้าน เธอจะยอมเป็นคนเก็บเงินให้ฉันน่ะ”

หมอทูรำลึกถึงความหลัง

ในขณะที่ฉันเองยังนึกไม่ออกว่าเคยไปบอกเขาไว้ตอนไหน แต่ก็ไม่กล้าพูดออกไป ได้แต่เลี่ยงไปว่า

“ขอคิดดูก่อนแล้วกัน”


“ได้ ฉันจะรอคำตอบจากเธอแล้วกัน เย็นนี้ว่างไหม ไปกินข้าวกัน”


“ทำไมอยู่ ๆ มาชวนฉันไปกินข้าวเนี่ย”

ฉันอุทานออกมาด้วยความฉงนใจ แค่หมอทูโทรมาก็แปลกใจมากพออยู่แล้ว ยิ่งเขาชวนไปกินข้าวเย็น ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกประหลาดใจมากยิ่งขึ้น


“ก็ไม่มีอะไร จำได้ไหมตอนเรียนมหาลัยน่ะ ห้าทุ่มกว่า ๆ ฉันเพิ่งผ่าก็อต*เสร็จแล้วเดินมาเจอเธอพอดี จากนั้นฉันก็ชวนแกไปกินก๋วยจั๊บ”


“เอ่อจำได้ หมอทูบอกว่าจะเลี้ยง ฉันจึงไปกินด้วย แต่นึกไม่ถึงว่ากลับกลายเป็นฉันต้องเลี้ยงเธอแทน ฮ่า ๆ”

หนูจี๊ดพูดไปขำไป เหตุการณ์นั้นเธอยังจำได้เสมอ วันนั้นเธอกับฝนไปทำธงวันมหิดลที่ฝั่งศิริราช พอใกล้ถึงจะเที่ยงคืน พี่ ๆ ปล่อยให้พักพวกเธอจึงออกไปเดินเล่นแล้วบังเอิญเจอกับปลาทู สมัยนั้นเขาสวมแว่นหนาเตอะ หัวฟู ๆ จนฉันจำแทบไม่ได้


“ก็แหม ตอนนั้นฉันเรียนหนักมากจนเบลอ ลืมเช็กกระเป๋าตังค์ เลยไม่รู้ว่าเงินไม่เหลือแล้ว ฮ่า ๆ”


“นั่นดิ ก๋วยจั๊บแค่ถ้วยละ 25 บาท เมื่อไหร่จะจ่ายคืนฉันยะ”

ฉันแกล้งทวงค่าก๊วยจั๊บ ทุกครั้งที่นึกถึงเหตุการณ์ตอนนั้นก็นึกขำตลอด และนั่นก็เป็นวันสุดท้ายที่ฉันได้เจอกับหมอทู


“วันนี้แหละ ฉันจะจ่ายโดยการเลี้ยงข้าวเธอเป็นการตอบแทนดีไหม”


“ก็ดีนะ”

ฉันตอบรับไป เพราะนาน ๆ ทีจะมีคนมาเสนอตัวขอเลี้ยงข้าวเย็นฟรี ๆ ทั้งที


“อ่อ น้องสาวฉันจะไปด้วยนะ เธอไม่ว่าอะไรใช่ไหม”

ปลายสายถามเหมือนจะเกรงใจบางอย่าง


“หมอทูแอบมีน้องสาวตอนไหนเนี่ย”

ฉันอุทานเสียงหลง เมื่อนึกขึ้นได้ว่าอาจจะเป็นคนที่หมอทูกำลังดู ๆ ใจกันอยู่จึงแซวขึ้นว่า “น้องหรือแฟนคะ บอกมาตรง ๆ เธอเป็นลูกคนเดียวฉันจำได้”


“ฮ่า ๆ นิสัยหัวหน้าห้องของเธอ ช่างจดช่างจำรายละเอียดของเพื่อน ๆ ไม่เปลี่ยนเลยนะ”


“ก็แง๋แหละ ไม่งั้นคุณแม่เธอจะไว้ใจฉันฝากให้ช่วยดูแลเธอตอนที่อยู่โรงเรียนรึไง”

ฉันโม้ออกไปพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เมื่อนึกถึงนางกิมลั้งที่แอบมากระซิบเธอให้ช่วยดูแลลูกชายหัวแก้วหัวแหวนให้หน่อย เพราะเกรงว่าปลาทูจะแอบหนีเรียน หรือคบเพื่อนที่ไม่ดี


“ครับท่านหัวหน้าห้องฮ่า ๆ น้องคนนี้เป็นสาวเจ้าของร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตข้าง ๆ คลินิกนะ เขาช่วยผมหลายอย่างเลยจึงอยากจะชวนกันไปกินข้าวด้วยกันน่ะ”


“อ่อ ได้สิ กินข้าวด้วยกันหลาย ๆ คนก็สนุกดีเหมือนกัน”


“งั้นเย็นนี้เดี๋ยวฉันไปรับนะ”


“อืม”

ฉันทำเสียงตอบรับในลำคอ ไม่รู้ทำไมในหัวใจของฉันจึงรู้สึกได้ถึงวันวานที่จะหวนกลับขึ้นมาอีกครั้ง จึงทำให้ฉันยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าเขาจะวางสายไปนานแล้ว


................จบตอน...........................



-------> กติกาอ่านฟิน ๆ จนจบเรื่อง <--------

1. หลังการอัพเดท 1- 24 ชม. ไรท์ จะเปิดให้อ่านฟรี

(ซึ่งอาจจะเป็น 1 ชม. แล้วติดเหรียญทันที หรือปล่อยไว้สัก 24 ชม. ค่อยมาติดเหรียญ ขึ้นอยู่กับอารมณ์ติส ๆ ของไรท์ 5555++++ ดังนั้น ไม่อยากพลาดอ่านฟรี กดไลค์ กดติดตาม เก็บเข้าชั้นหนังสือไว้นะคะ)

2. ไรท์เขียนสด แล้วลงให้อ่านรายตอนทันที ดังนั้น เนื้อหาในนี้จะสดใหม่ ไม่มีการพิสูจน์อักษร หรือขัดเกลาใด ๆ ทั้งสิ้น (โปรดเข้าใจนะคะ)

3. ระหว่างที่ E-Book ยังไม่ออก ไรท์จะติดเหรียญเบา ๆ เป็นค่าน้ำชา 55555++++ ดังนั้น ใครตามมาอ่านทีหลังยังสามารถตามเก็บจนจบเรื่องได้

4. เมื่อ E-Book วางจำหน่ายแล้ว ไรท์จะอัพราคาเหรียญทุกตอนให้ใกล้เคียงกับราคา E-Book ซึ่งงจะติดเหรียญแบบมหาโหดมาก (ไรท์เตือนแล้วนะ 555555+++++)

ดังนั้น ไม่อยากพลาด "ของดี ของฟรี ของถูก" ***กดติดตาม เก็บเข้าชั้นหนังสือไว้นร่า***

***สำหรับใครทีชอบงานละเอียด งานสวย มีการจัดแต่งและพิสูจน์อักษรเรียบร้อย รอสอย E-Book นะคะ***

^___________^

รักคนอ่านทุกท่านค่ะ ขอขอบพระคุณสำหรับกำลังใจที่ให้กันเสมอมาค่ะ

รีวิวจากผู้อ่าน
ยังไม่มีรีวิวสำหรับเรื่องนี้

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว