บทที่ 1 “ย้อนอดีต”
เสียงไม้ตะพดกระทบพื้นไม้ดังกุกกักๆ พร้อมทั้งเสียงร้องตะโกนเอะอะโวยวายของชายชราที่เดินเข้ามาในบริเวณบ้านแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย มือเรียวใหญ่เหี่ยวย่นสีน้ำตาลคล้ำยังจับกุมมือเรียวบางของลูกสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ พรพรรณแม่หม้ายสาวสวยเซ็กซี่ วัย 22 ปี เอาแต่สะอึกสะอื้นร้องไห้ ใบหน้าของเธอนองไปด้วยน้ำตา เรียวแขนสลวยโอบกอดท้องโหนกนูนเล็กน้อยวัยสามเดือนไว้
“มีไครอยู่ไหม? บ้านหลังนี้มีคนอยู่ไหมออกมาคุยกันหน่อยสิ” กำนันปั่นตะเบ็งเสียงอันทรงพลังดังเรียกหาเจ้าของบ้าน มือที่ถือไม้ตะพดก็ยกขึ้นตอกย่ำไม้เท้าลงพื้นในห้องรับแขกเสียงดังกึกๆ
“พี่กำนันมีธุระอะไรจ๊ะ?” นางวรรณน้องสาวของนางทองกำลังทำกับข้าวอยู่ในครัวได้ยินเสียงเลยวิ่งออกมารับหน้าแทน
“แม่ทองไปไหน? บอกให้ออกมาคุยกับฉันสิ” กำนันปั่นเปล่งเสียงคู่บังคับนางวรรณ จนทำให้นางวรรณสั่นกลัว เธอรีบวิ่งเข้าไปตามนางทองออกมาตอนรับ
“พี่กำนัน!!” นางทองเดินลงบันไดมาจากชั้นบน ร่างของนางยังมีนางวรรณประคับประคองพาเดินลงมาอย่างช้าๆ
เสียงของกำนันปั่นดังพอที่จะทำให้ชายหนุ่มร่างโตที่นอนเมาค้าง ขดตัวงออยู่ภายในโรงรถข้างบ้าน สิงโตขยับตัวลุกนั่งอย่างยากลำบาก ขาข้างซ้ายยกชันขึ้น ส่วนอีกข้างเหยียดยาวออกไป แผ่นหลังอันหนาแน่นพักพิงล้อรถไถคันใหญ่ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งความเจ็บปวดยามคิดถึงใบหน้าหวานของหญิงสาวในดวงใจ ยามได้เห็นน้ำตาแห่งความเจ็บปวดบนใบหน้านวล เขาก็อาจจะทนได้ปวดจุกหัวใจเหลือเกิน
เมื่อคืนเขากลับไปหาน้ำผึ้งที่บ้านของเธอ แต่เจ้าหล่อนไม่ยอมออกมาคุยด้วย ไม่ยอมรับรู้และฟังคำอธิบายอะไรจากเขาเอาเสียเลย มือหนาทั้งสองข้างยกขึ้นเสยผมที่ยาวตกลู่ปกคลุมหน้าผาก กำมือเป็นกำปั้นทุบลงบนท้ายทอยสองสามที เป็นเพราะเมื่อคืนเขาดื่มหนักจนหมดสติ สงสัยพวกไอ้ดินไอ้กล้าคงพาเขากลับมาจากท้ายไร่แน่เลย ชายหนุ่มพยายามพยุงตัวเองลุกยืนเดินโซเซเข้าไปในบ้าน แต่ก็ต้องหยุดชะงักฟังเสียงอันทรงพลังของกำนันปั่น
“แม่ทองจะเอาอย่างไรก็ว่ามา จะมาปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้นะ” กำนันปั่นเอ่ยเสียงอันน่ากลัว ใบหน้าของเขาจับจ้องอยู่ที่นางทอง
“พี่กำนัน เชิญนั่งก่อนจ้ะ ใจเย็นๆ นะจ๊ะ” นางทองเปรยเสียงนุ่มนิ่มเชื้อเชิญให้สองพ่อลูกนั่งพักหายใจหายคอให้สบายใจ
“สิงโตไปไหน? บอกให้ออกมาคุยกันสิ” กำนันปั่นพาลูกสาวเข้าไปนั่งตามคำเชื้อเชิญของนางทอง แววตาดุดันของคนมีอายุกว่านางทองหลายปีก็สอดส่องหาร่างคนที่ทำผิดแล้วจะหลบหนี
“ทานน้ำเย็นก่อนนะ ค่อยพูดค่อยจากันจ้ะ” นางทองรินน้ำเย็นแช่ดอกมะลิใสแก้วสองใบ แล้วยื่นให้กำนันปั่นที่นั่งทำหน้าดำหน้าแดงถมึงทึง
“แม่ทองจะให้ฉันใจเย็นได้ไงดูลูกสาวฉันสิ ลูกชายของแม่ทองทำเลวไว้มากแค่ไหน” กำนันปั่นหันมองหน้าลูกสาว แล้วหันไปมองนางทองให้ดูลูกของตัวเอง
“ฉันเข้าใจจ้ะ พี่กำนันรอให้สิงโตกลับมาก่อนได้ไหม” นางทองนั่งไม่ติด ไม่รู้ว่าไอ้ลูกชายตัวดีมันหายไปไหน ตั้งแต่สองพ่อลูกไปร่มงานแต่งเมื่อสามวันก่อน และหลังจากช่วยงานครอบครัวของน้ำผึ้งจัดงานศพนายคะนึง ลูกชายของเธอก็หายเข้ากลีบเมฆไปเลย
“แม่ทองจะให้ฉันใจเย็นได้ไง แล้วนี่สิงโตไปไหน?”
“สิงโตคงจะอยู่ในไร่ เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะให้คนไปตามมาให้…”
“แม่ทองจะให้ลูกสาวฉันรอจนคลอดหรือ” กำนันปั่นยกมือชี้หน้านางทอง
“พี่กำนัน...ฉันว่ารอให้สิงโตกลับมาก่อนดีไหม แล้วค่อยมาคุยกัน หรือจะให้ฉันพาพ่อโตไปคุยที่บ้านพี่กำนันก็ได้นะจ๊ะ” นางทองพยายามพูดอย่างนอบน้อม เอาน้ำเย็นเข้าลูบจิตใจของชายชรารุ่นพี่ตรงหน้า
นางก็สงสารพรพรรณอยู่เหมือนกัน ด้วยความเป็นลูกผู้หญิงเหมือนกัน เพราะไอ้ลูกชายไม่รักดี มันชอบก่อแต่เรื่อง มันต้องรับผิดชอบและแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง
“แม่ทองจะให้ลูกสาวของฉันอุ้มท้องรอหรือ?”
“ไม่ใช่อย่างที่พี่กำนันคิดเลยนะจ๊ะ...”
“ลูกฉันท้องโตขึ้นทุกวัน เห็นไหมสามเดือนแล้ว ฉันไม่เห็นแม่ทองจะทำอะไรเลยสักอย่าง…”
“พี่กำนันฉันว่าจะพาพ่อโตไปคุยด้วยเหมือนกัน แต่ลูกชายฉันมันหายหัวไปไหนฉันก็ยังไม่รู้เลย” นางทองก็อ่อนใจอยู่เหมือนกัน สามเดือนแล้วที่สิงโตไม่ยอมเข้าบ้าน
“แม่ทองจะจัดการอย่างไรก็บอกมา จะยกขันหมากไปขอ หรือว่าจะให้นังหนูของฉันมาอยู่รอพ่อโตที่นี่ฮะ...”
“พี่กำนัน...ฉันไม่รู้เลยว่าลูกชายของฉันมันหายไปไหน พี่กำนันรอพ่อโตก่อนได้ไหม” นางทองใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว นางหายใจติดๆ ขัดๆ ใบหน้าอันอิดโรยจับจ้องมองร่างของพรพรรณที่เอาแต่นั่งก้มหน้าร้องไห้
“แม่ทองจะให้ฉันใจเย็นได้ไง ลูกสาวของฉันเสียหายนะ ท้องก็โตขึ้นทุกวัน” กำนันปั่นยิ่งมีอารมณ์โมโห ใบหน้าที่ดุดันมากขึ้น
“พ่อจ๋า...กลับบ้านเราเถอะ” พรพรรณหันใบหน้าที่นองไปด้วยน้ำตามองบิดา เธออับอายนางทองเป็นที่สุด ไม่อยากที่จะอยู่ในสภาพแบบนี้
“หยุดร้องไห้ได้แล้วนังหนู วันนี้พ่อจะทำให้สิงโตมารับผิดชอบในสิ่งที่เขาทำไว้กับลูกให้ได้” กำนันปั่นหันไปมองลูกสาว ชายชรายกมือขึ้นลูบเส้นผมนุ่มสลวยของลูกสาวคนเดียว เลี้ยงมาตั้งแต่อ้อนแต่ออดไม่เคยตบตี เขาไม่เคยเห็นลูกสาวคนเดียวเสียใจ และร้องไห้เสียน้ำตามากมายขนาดนี้
“ทำไมผมต้องรับผิดชอบครับ” สิงโตเดินโซเซเข้ามาในห้องเปล่งเสียงอันดังพอที่จะให้คนทั้งสามได้ยิน สายตาเข้มแฝงไปด้วยความเกลียดชัง จ้องมองสองพ่อลูกที่พากันมานั่งขู่เข็ญมารดาของเขาอย่างไร้เหตุผลที่สุด
“พี่โต!!...” / “พ่อโต!!...” / “โตลูกแม่!!” เสียงตกใจของคนทั้งสามดังขึ้นพร้อมกัน สายตาของกำนันปั่น พรพรรณ และนางทองหันไปมองหน้าของสิงโต ที่ยืนอยู่กลางห้อง ชายหนุ่มยืนแทบจะไม่ติดพื้น ร่างของคนตัวหนาเซไปเซมา
“พ่อโตพูดแบบนี้ไม่ได้นะ อย่าปัดความรับผิดชอบสิ” กำนันปั่นเปล่งเสียงเข้มออกไป ทั้งที่ยังนั่งกอดลูกสาวอยู่
“ฮืออ...พ่อจ๋า พรอยากกลับบ้าน” พรพรรณหันใบหน้าที่มีคราบน้ำตามองบิดา
หญิงสาวเปรยเสียงอันสั่นเครือกระซิบบอก เธอไม่กล้าที่จะหันไปมองสิงโตเลย ไม่อยากเจ็บยามเขาเอ่ยปัดความรับผิดชอบ
“ท้องกับใครมาก็ไม่รู้ จะมาให้ผมรับผิดชอบ” สิงโตเอ่ยเสียงเข้มออกไป ใบหน้าเข้มรวมทั้งแววตาแดงก่ำโกรธแค้นสองพ่อลูกนี่ที่สุด งานแต่งของเขาที่พังไม่เป็นท่าก็เพราะสองคนนี้
“พ่อสิงโตหมายความว่าไง?” กำนันปั่นเค้นเสียงถามสิงโตที่เอาแต่ยืนเซซ้ายเซขวา แล้วหันมองลูกสาวที่เอาแต่ก้มหน้าร้องไห้ มันยิ่งสร้างความโกรธเคืองโมโหมากขึ้น ไอ้เด็กเมื่อวานซืนบังอาจมาเอ่ยว่าจาจะไม่ยอมรับผิดชอบในสิ่งที่มันทำเลวไว้
“ทำไมลุงกำนันไม่ถามลูกสาวของลุงกำนันล่ะครับ ไปนอนกับใครมามั่ง แล้วจะมาให้ผมรับผิดชอบ” สิงโตเปล่งเสียงออกไปโดยไม่คิดถึงจิตใจของหญิงสาว
พรพรรณเงยหน้าอันเจ็บปวด ดวงตาพร่ามัวด้วยน้ำตามองหน้าสิงโตนั้นมันสั่นไหวระริก ร้าวรานไปทั้งทรวงอกยามที่ชายหนุ่มปฏิเสธไม่ยอมรับผิด นี่เขามองไม่เห็นคุณค่าของเธอเลยสินะ
“พ่อโตมันจะมากไปแล้วนะ ไม่เป็นลูกผู้ชายเอาเสียเลย...แม่ทองดูลูกชายของแม่ทองสิ เห็นแก่ตัวที่สุด” กำนันปั่นลุกขึ้นยืน มือหนึ่งใช้ไม้เท้ายันไว้ อีกมือหนึ่งยกขึ้นชี้หน้าชายหนุ่มที่เอาแต่ยืนจ้องมองมายังเขาและลูกสาว
“พี่โต!! คนเลวทำไมพูดแบบนี้ พรจะไปมีใครที่ไหนได้นอกจากพี่โตคนเดียว” พรพรรณเอาแต่นั่งร้องห่มร้องไห้เสียงดังยิ่งขึ้น ยามได้ยินสิ่งที่ชายหนุ่มเอ่ยออกมา เธอเงยใบหน้าอันระทมที่มีแต่น้ำตาจ้องมองหน้าชายหนุ่ม เจ็บเหลือเกินยาม เขาเคยบอกว่าจะรับผิดชอบในสิ่งที่เขาทำแต่พอเอาเข้าจริงๆ เขากับไม่คิดใส่ใจ
“เธอน่าจะรู้ตัวดีนะ ว่าท้องกับใคร ถึงมาให้ฉันเป็นแพะรับบาปแบบนี้ ไม่อายแก่ใจก็อายพ่อแม่ของเธอมั่งนะ พรพรรณ” ชายหนุ่มเค้นเสียงเข้มออกไปให้ได้ยินกันทั้งหมด เขาไม่คิดที่จะเกรงกลัวต่อลุงกำนันและมารดาเอาเสียเลย
“กรี๊ดดด!!... ไอ้พี่โตบ้า เลวที่สุด พูดออกมาได้ไง ฮืออ” เสียงกรีดร้องของหญิงสาว เนื้อตัวสั่นไหวเพราะแรงสะอื้น ยิ่งทำให้กำนันปั่นและนางทองที่นั่งอยู่ตกใจ
“นังหนูลูกพ่อ” กำนันปั่นมองลูกสาวคนเดียวที่เอาแต่กรีดร้อง เห็นลูกสาวเป็นแบบนี้เขาก็อยากจะฆ่าชายหนุ่มรุ่นลูกที่ยืนไม่สะทกสะท้านอะไรเลย
“พ่อจ๋า...พรอยากตาย ฮืออ...”
“หนูพร!!…” นางทองรีบเข้าไปโอบกอดปลอบขวัญ นึกเห็นใจและสงสารพรพรรณขึ้นมาจับใจ นางหันไปมองหน้าลูกชายที่ทำผิดแล้วไม่ยอมรับผิด
“ป้าทองจ๋า... พรท้องกับพี่โตลูกของพรก็เป็นลูกของพี่โต... ฮือออ...” พรพรรณกระซิบเสียงสั่นเครือ เนื้อตัวสั่นไหวเพราะแรงสะอื้น เธอซบหน้าใบหน้าตรงอกของนางทอง
“อย่าร้องไห้เลย หนูพรไม่ต้องกลัว ป้าจะไม่ลำเอียงกับหนูเด็ดขาด ลูกชายของป้ามันเลว มันต้องรับผิดชอบหนูแน่นอน นิ่งเสียนะอย่าร้อง...เชื่อป้า” หัวอกของลูกผู้หญิงด้วยกัน นางทองเห็นสภาพของพรพรรณแล้วก็อดที่จะสงสารไม่ได้ ไหนจะน้ำผึ้งสาวน้อยที่ไม่มีความผิดอะไรเลยสักนิด นางจะทำอย่างไรดีกับปัญหาชีวิตของลูกชาย ได้แต่ถอนหายใจเข้าออกแผ่วเบา
“ป้าทอง... ฮึกก... ฮืออ... พรไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้ พะ...พรเสียใจ” พรพรรณใช้สองแขนสลวยโอบกอดรอบเอวอวบท้วมของหญิงชราไว้ ร่างบางยังสั่นไหวเพราะแรงสะอื้น น่าสมเพชตัวเองจริงๆ ที่ต้องมาเจอสภาพอย่างนี้ ท้องโดยที่ชายหนุ่มไม่ยอมรับ เจ็บปวดทรมานหัวใจเหลือเกิน
“พ่อโตมันจะมากไปแล้วนะ ลูกสาวฉันถูกพ่อโตย่ำยี พ่อโตต้องรับผิดชอบ” เสียงเข้มของลุงกำนันปั่นเปล่งออกไป แววตาของชายชราแดงก่ำจ้องมองเข้าไปในดวงตาสีนิลของชายหนุ่มที่ยืนทำหน้าไม่มีความทุกข์ร้อนอะไรเลย อยากจะเดินเข้าไปหาแล้วเอาไม้ตะพดฟาดหัวไอ้คนชั่วนี่นัก
“ผมไม่เคยย่ำยีลูกสาวลุงกำนันเลยนะครับ...เธอมาให้ท่าผมเอง” สิงโตพูดหน้าตาย เขาส่งสายตาอันเหยียดหยันดูถูกดูหมิ่นจ้องมองร่างของพรพรรณที่อยู่ในอ้อมกอดของนางทอง ผู้หญิงมารยา อย่าหวังจะเข้าหามารดาของเขาแล้วจะได้ในสิ่งที่ต้องการ ไม่มีทาง ดวงตาสีเข้มแดงก่ำรวมทั้งใบหน้าของเขาก็บูดบึ้ง เกลียดผู้หญิงคนนี้ที่สุด
“โตหยุด... ไอ้ลูกชั่วมานั่งคุยกันเดี๋ยวนี้ ชอบทำเรื่องเลวร้ายดีนัก” นางทองทนฟังเสียงของลูกชาย พูดออกมาได้ไงเห็นแก่ตัวที่สุด ไอ้ลูกเลวปัดความรับผิดชอบ ถึงนางจะยังไม่เชื่อสนิทใจมากนักว่าพรพรรณจะท้องกับลูกชายของนางจริงๆ แต่นางก็ไม่อยากให้ลูกชายมาดูถูกผู้หลักผู้ใหญ่แบบนี้
นางทองผลักออกจากการกอดพรพรรณ แล้วพยุงตัวลุกขึ้นเดินเข้าไปหาลูกชาย มือเรียวอันเหี่ยวย่นตีและหยิกลูกชายไปหลายที นางรั้งร่างของชายหนุ่มเข้ามานั่งคุยกันให้รู้เรื่องว่าจะเอาอย่างไร จะปล่อยไว้แบบนี้คงไม่ได้แน่นอน
“แม่!! ผมไม่ผิดนะครับ... แม่จะให้ผมรับผิดชอบผู้หญิงคนนี้แล้วน้ำผึ้งล่ะ แม่จะให้ผมทิ้งเธอเหรอครับ” สิงโตยังมิวายเอ่ยเตือนมารดา เขาเดินโซเซตามหลังนางทอง ชายหนุ่มไม่ยอมที่จะนั่งคุยด้วยดีๆ
“ไอ้ลูกเลวกลิ่นเหล้าหึ่งเลยนะ นั่งลงเดี๋ยวนี้ จะยืนค้ำหัวผู้หลักผู้ใหญ่อีกนานไหม” นางทองสะกิดให้ลูกชายนั่งลงตรงข้างๆ
“แม่กับลุงกำนันจะเอาอย่างไรก็ว่ามา” สิงโตเอ่ยขึ้นแบบปัดไปที ไม่อยากจะนั่งอยู่ตรงนี้ เขาเดินอ้อมไปนั่งอีกฝั่ง พร้อมทั้งยกขาอีกข้างขึ้นไขว่ห้าง แผ่นหลังหนาแน่นพิงพนักโซฟา ยกแขนทั้งสองข้างกอดอก สายตาดวงเข้มดุดันก็มองสองพ่อลูกแบบไม่พอใจ โดยเฉพาะพรพรรณ ผู้หญิงมารยาร้อยเล่ห์ทำมาเป็นบีบน้ำตา
“โต!!... อย่าก้าวร้าวลุงกำนันแบบนี้” นางทองเปรยเสียงสะบัด ดุลูกชายชายที่ทำตัวแข็งกระด้างใส่ผู้มีอาวุโสกว่า นางอบรมสั่งสอนลูกชายเสมอให้นอบน้อมต่อผู้มีอายุกว่า
“ก็บอกผมมาสิ จะให้ผมพาพรพรรณไปทำแท้งก็บอกได้นะ... ผมจะพาไปเดี๋ยวนี้เลย...”
“โต!!...” / “สิงโต!!...” / “พี่โต!!...” เสียงของคนทั้งสามเปล่งดังขึ้นพร้อมกัน นางทอง กำนันปั่น แม้แต่พรพรรณ เขาทั้งสามไม่คิดเลยว่าสิงโตจะเอ่ยแบบนี้ออกมา
“อึกก... ฮืออ... พ่อจ๋า พรอยากกลับบ้าน” เสียงสะอึกผสมคำพูดอันสั่นเครือ เธอยิ่งอับอายขายหน้าเหลือเกิน ไม่คิดว่าสิงโตจะเป็นคนเห็นแก่ตัวที่สุด นี่เขาคิดที่จะฆ่าเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองจริงๆ หรือ
“แม่ทอง ฉันให้เวลาแม่ทองจัดการปัญหาต่างๆ ให้เรียบร้อยภายในสามวัน หลังจากนั้นแล้วรีบพาลูกชายของแม่ทองจัดขบวนขันหมากไปสู่ขอลูกสาวฉันให้ถูกต้องตามประเพณี ถ้าไม่ไปตามที่ฉันบอก แม่ทองคงรู้นะว่าอะไรจะเกิดขึ้น...”
“พี่กำนัน... เอ่อ... ฉันจะรีบจัดการให้จ้ะ” นางทองหันไปมองกำนันปั่น แล้วหันไปมองหน้าลูกชายตัวดี
“พ่อจ๋า...” พรพรรณเจ็บจุกปวดร้าวรานหัวใจยามเหลือบสายตามองคนตัวโต เขานั่งเป็นต่อไม่คิดที่จะใส่ใจเธอเลยสักนิด อยากจะรู้จริงๆ ว่าเขาแคร์ความรู้สึกของเธอบ้างหรือเปล่า
“กลับบ้านกันนังหนู” กำนันปั่นพยุงตัวลุกขึ้น แล้วยกมือชี้หน้านางทอง เปล่งเสียงดังกำชับให้สองแม่ลูกรับรู้ ชายชราเดินเข้าไปพยุงลูกสาวที่เอาแต่นั่งสะอื้น สายตาอันน่าเกรงขามของกำนันปั่นมองสิงโตที่นั่งทำตัวไม่ทุกข์ไม่ร้อน สักวันไอ้เด็กหนุ่มผู้หยิ่งจองหองคนนี้มันจะต้องเสียใจที่ทำสิ่งเลวร้ายไว้กับลูกสาวของกำนันปั่นอย่างเขา แล้วเขาจะรอสมน้ำหน้ามัน...
ห้าวันต่อมา...
พรพรรณนั่งกระสับกระส่ายอยู่บนกระท่อมปลายนา มือเรียวอวบยังลูบหน้าท้องโนนนูน สัมผัสสื่อสารให้สิ่งมีชีวิตข้างในรับรู้ว่าเธอรักและจะไม่ทำลายอย่างที่สิงโตพูดเด็ดขาด ตาดวงโตก้มมองเรียวขาอันสลวยทั้งสองข้างที่แกว่งไปมา ใจของหญิงสาวลอยนึกคิดหาคำพูด เธอจะเริ่มต้นพูดอย่างไร ขอร้องอย่างไรดี รับรู้ว่าหญิงสาวที่เธอจะมาพูดคุยด้วยก็สูญเสียสิ่งที่รักไปอยู่หมาดๆ แต่เธอต้องพูดคุยให้รู้เรื่อง จะเลือกว่าเป็นผู้หญิงเห็นแก่ตัวก็ยอมเหมือนกัน เพราะเธอทำเพื่อลูกในท้องของตัวเองต่างหาก
“พี่พร...” เสียงใสนุ่มนิ่มของหญิงสาวนามว่าน้ำผึ้งดังขึ้น เธอเดินเข้ามาหยุดยืนตรงปลายนา แววตาจ้องมองแผ่นหลังของคนที่ทำให้ชีวิตของเธอต้องพังทลาย พ่อต้องมาเสียชีวิต งานแต่งต้องถูกล้มเลิก
“น้องผึ้ง...” พรพรรณหันไปมองตามเสียง เธอยิ้มให้ แต่ไม่กล้าที่จะมองใบหน้าของหญิงสาวรุ่นน้องมากนัก เธอรู้สึกผิดในสิ่งที่ทำลงไป
“พี่พรอยากเจอผึ้งมีเรื่องอะไรเหรอจ๊ะ?” น้ำผึ้งสาวน้อยผู้น่ารัก ถึงจะเจ็บปวดเพราะคนตรงหน้ามากแค่ไหนแต่เธอก็อดกลั้น พร้อมที่จะเผชิญหน้าอยู่เหมือนกัน
“พี่ดีใจเหลือเกินที่น้องผึ้งออกมาหาพี่ ขอบใจนะจ๊ะ” พรพรรณรีบลุกขึ้นแล้วเดินอ้อมไปหาหญิงสาววัยยังน้อยกว่าเธอห้าปี
“พี่พรมีอะไรจะคุยกับผึ้งเหรอ?” น้ำผึ้งเปรยเสียงอันสั่นเครือ เธอพยายามปรับเสียงให้เป็นปกติเอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้า ถึงจะไม่อยากเจอและพูดคุยด้วยแค่ไหน แต่เธอก็อยากมาเคลียร์ปัญหาที่ค้างคาใจ ถึงจะเกลียดชังหญิงสาวรุ่นพี่ตรงหน้าที่ทำให้ชีวิตของเธอเป็นแบบนี้ แต่เธอก็ไม่อาจที่จะโทษพรพรรณฝ่ายเดียวเลยก็ไม่ได้ เป็นเพราะคนรักของเธอมีใจไม่หนักแน่นพอ คนมักมากอย่างสิงโต ตบมือข้างเดียวมันคงไม่ดัง ถ้าสิงโตหักห้ามใจตัวเองสักนิด เรื่องบัดสีบัดเถลิงแบบนี้มันคงไม่เกิดขึ้นแน่ ยิ่งคิดยิ่งช้ำใจ
“พิ...พี่เสียใจด้วยนะ เรื่องน้าคะนึง...” พรพรรณรู้สึกผิดอย่างมากมาย ที่ทำเรื่องเลวร้าย ไม่คิดเลยว่าสิ่งที่เธอไปประกาศปาวๆ วันนั้นมันจะเป็นตราบาปติดตัวเธออยู่ถึงทุกวันนี้
“พี่พรจะพูดอะไรก็พูดมาเถอะ... ผึ้งไม่อยากจะรื้อฟื้น” น้ำผึ้งมองอย่างเจ็บปวดยามหญิงสาวยกมือลูบท้องโหนกนูนนั่น ผู้หญิงคนนี้เห็นแก่ตัวที่สุด
“พิ...พี่ขอโทษ” พรพรรณยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เธอเงยหน้าอันเศร้าหมองมองหน้าหญิงสาวรุ่นน้อง ปวดใจทุกครั้งยามนึกถึงภาพของนายคะนึงล้มลงหมดสติ
“พี่พร…” เบือนสายตาหนี ไปมองทางอื่น ไม่อยากมองสิ่งอัปยศ
“พี่ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นแบบนี้เลย...พี่เสียใจจริงๆ พี่จะไม่ขอให้ผึ้งยกโทษให้พี่หรอกนะ” พรพรรณมองน้ำผึ้ง เธอรู้สึกผิดต่อครอบครัวของหล่อน ขาดเสาหลักไปก็คงลำบากแน่นอน
“พี่พรมีเรื่องแค่นี้ใช่ไหมคะที่จะคุยกับผึ้ง...”
“น้องผึ้งจ๊ะ... พี่ขอได้ไหม?” พรพรรณเปรยเสียงสั่นไหว เธอเงยหน้ามองน้ำผึ้ง สื่อแววตาขอร้องอ้อนวอน
“พี่พรจะขออะไรจากผึ้งจ๊ะ?”
“พิ...พี่อยากให้ผึ้งไปให้ไกลจากที่นี่” แววตาของพรพรรณเต็มไปด้วยน้ำตา เธอเจ็บปวดยามได้เอ่ยคำขอร้อง มันยิ่งทำให้เธอดูไร้ราคาไปเลยทีเดียว ไม่เหลือคุณค่าอะไรอีกแล้ว แม้แต่ศักดิ์ศรีของลูกผู้หญิงเธอก็ไม่เหลือ อับอายรุ่นน้องตรงหน้าสุดจะทน
“พี่พร!!...” น้ำผึ้งยังจับจ้องมองหน้าพรพรรณ เธอไม่คิดเลยว่าหญิงสาวรุ่นพี่จะมีจิตใจเห็นแก่ตัวได้แบบนี้
“พิ...พี่ขอร้อง คิดเสียว่าเพื่อเด็กในท้องของพี่” พรพรรณเปรยเสียงติดขัด ละอายใจอยู่เหมือนกันที่เอ่ยขอแบบนี้กับหญิงสาวตรงหน้า ไม่หลงเหลือความเป็นลูกผู้หญิงด้วยกันเลยแม้แต่น้อย
“ทำไมพี่พรไม่ไปคุยกับพี่โตละคะ?” น้ำผึ้งกลั้นเสียงอันสั่นเครือไว้ให้เป็นปกติ
“ถ้าไม่มีผึ้ง... พี่โตอาจกลับมาหาพี่” พรพรรณเปรยเสียงอันสั่นๆ น้ำตาคลอเบ้าตาดวงโตมองใบหน้าของน้ำผึ้ง เธอเจ็บปวดร้าวรานใจแค่ไหน ยามนึกถึงใบหน้าของสิงโต ผู้ชายเลวเห็นแก่ตัวคนนั้น เขาไม่เคยเหลียวมองและมาหาเธอเลย หลังจากบิดาพาเธอเข้าไปพูดคุยตกลงกับมารดาของชายหนุ่ม เขาก็เอาแต่จะหลบหน้าตลอด
“ผึ้งเลิกกับพี่โตแล้วค่ะ พี่พรไม่ต้องห่วงว่าผึ้งจะกลับไปยุ่งเกี่ยวกับพี่โตอีก” น้ำผึ้งเอ่ยบอกกับหญิงสาวตรงหน้า ถึงมันจะเจ็บปวดหัวใจแค่ไหนเธอก็จะต้องตัดมันทิ้งให้ได้
“พี่รู้ว่าผึ้งเลิกติดต่อกับพี่โตแต่ผึ้งรู้ไหม พี่โตเขาไม่เคยไปหาพี่เลย ขนาดพี่หอบเสื้อผ้ามาอยู่กับเขาที่บ้าน เขายังไม่เคยอยู่บ้านเลยสักวัน พี่ไม่รู้ว่าพี่โตเขาหายไปอยู่ที่ไหน” หญิงสาวระเบิดอารมณ์ใส่น้ำผึ้ง เธอยืนร้องไห้สะอึกสะอื้น สองมือเรียวยกขึ้นปิดใบหน้าของตัวเอง อับอายที่สุด ยอมเสียศักดิ์ศรีออกมาขอร้องหญิงสาวรุ่นน้องแบบนี้ เจ็บปวดทุกครั้งยามเอ่ยขอให้น้ำผึ้งไปจากที่นี่
ทำไมน้ำผึ้งจะไม่รู้ว่าชายหนุ่มหนีหายไปไหน เพราะทุกวัน ทุกคืนเธอเห็นเขามานั่งเฝ้าที่หน้าบ้าน บางวันก็เข้าไปนั่งเก้าอี้หวายใต้ถุนบ้านถ้ามารดาของเธอยอมให้เข้าไป
“พี่ขอร้องล่ะ ถ้าไม่มีผึ้ง พี่คิดว่าพี่โตจะต้องกลับมาหาพี่และลูกแน่ๆ ไปจากเสียตรงนี้นะจ๊ะ พี่ขอร้อง จะให้พี่ไหว้พี่ก็จะไหว้” พรพรรณยกมือขึ้นพนม เธอยอมทำทุกอย่างเพื่อลูกในท้อง เพื่อความรักที่มีต่อสิงโต
“อย่าเลยค่ะพี่พร พี่พรคิดว่าถ้าผึ้งไปแล้ว พี่โตเขาจะกลับไปหาพี่พรเหรอคะ?” น้ำผึ้งที่ยืนมองหญิงสาวตรงหน้า ผู้หญิงคนนี้มารยามากนัก
“พี่อยากให้ผึ้งไปจ้ะ” พรพรรณได้แต่ยืนมองหน้าน้ำผึ้ง เธอเดาใจหญิงสาวตรงหน้าไม่ถูกเลยว่าคิดอะไรอยู่ ความผิดผลาดที่เธอทำมันร้ายแรงก็จริง อับอายขายหน้าชาวบ้าน และทำให้ชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลต้องเสี่ยมเสีย แต่จะให้เธอทำอย่างไรได้ ในเมื่อหัวใจของเธอมันเรียกร้องรักคนที่มีเจ้าของ เลยพร้อมที่จะเป็นคนเห็นแก่ตัว และพร้อมที่จะเอาตัวเข้าแลก เพราะรักคำเดียวจริงๆ......