หนึ่งเดือนต่อมา...
ร่างในชุดนักศึกษาเดินย่องๆ เข้าด้านหลังหญิงชราผมสีดอกเลากำลังตั้งหน้าตั้งตากวาดพื้นครัวแล้วแอบจิ้มเอว
“จ๊ะเอ๋!”
“อุ้ย!...ตาเถรแหกตก!” คนแก่อุทานตกใจไม้กวาดปลิวลอยออกจากมือไปตกที่พื้น คนแกล้งหัวเราะคิกคัก
“คุณยายขา โรสเองค่ะ”
“คุณโรสเล่นอะไรคะ ยายตกใจหมดเลย” ยายน้อมค้อนให้เด็กสาวขวับๆ นางเป็นคนบ้าจี้ตั้งแต่เด็กๆ
“ขอโทษค่ะ ไม่คิดว่าคุณยายจะบ้าจี้” เด็กสาวยกมือไหว้ขอโทษแล้วเดินไปหยิบไม้กวาดบนพื้นมาจัดการกวาดจนแล้วเสร็จ
“กลับมาเหนื่อยๆ ไปอาบน้ำแต่งชุดสวยๆ รอคุณอาเขมมาทานข้าวเย็นนะคะ” คนแก่ยิ้มอ่อนอกอ่อนใจ โตเป็นสาวแล้วก็ยังเล่นเหมือนเด็ก
“ดีใจจังจะได้ทานข้าวกับคุณอาแล้ว” เขมากรเดินทางไปทำงานบ่อย บางครั้งไม่ได้กลับบ้านเป็นเดือน ทิ้งให้หลานสาวอยู่กับคนใช้
“วันนี้คุณเขมจะพาแขกมาทานอาหารเย็นด้วยนะคะ”
คำพูดของยายน้อมทำให้มือจับช้อนหยุดชะงักเล็กน้อยก่อนจะตักขนมสีเหลืองทองเข้าปาก ทุกทีไม่เคยเห็นคุณอาพาใครมาบ้าน ยกเว้นพี่นัตตี้เพื่อนสาวประเภทสองคนเดียวสามารถเข้าออกในบ้านได้
“มากันกี่คนคะ”
“คุณเขมแจ้งว่ามาคนเดียวเป็นผู้ชายค่ะ” ยายน้อมพูดตามที่ได้รับคำสั่งมา อาหารถูกเตรียมเรียบร้อยหมดแล้วพร้อมเสิร์ฟทันที
“แฟนอาเขมหรือเปล่าคะ”
“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ เดี๋ยวมาถึงคุณโรสก็ลองสังเกตดูนะคะ” ยายน้อมยิ้มกับหลานสาวเจ้าของบ้านกำลังตักเม็ดขนุนเข้าปาก
“กินของหวานมากๆ เดี๋ยวน้ำหนักขึ้นก็อย่ามาบ่นว่าอ้วนทีหลังนะคะ” คนแก่แกล้งแซว “ไปค่ะไปอาบน้ำแต่งตัวรอคุณอาได้แล้ว”
“ค่ะ คุณยาย” ก่อนไปยังหยิบอีกชิ้นเข้าปาก คนแก่ถึงกับส่ายหน้า เห็นชอบทานของหวานแต่ไม่เห็นอ้วนสักที
โรสขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่แล้วลงมายังห้องอาหารหลังจากสาวใช้ขึ้นไปรายงานว่าเขมากรมาถึงบ้านพร้อมกับแขกหนุ่มหล่อ
แรกๆ ยังแซวสาวใช้ไปว่าเห็นใครก็บอกว่าหล่อไปหมด วันนี้ดูเหมือนคุณอาจะอารมณ์ดีจากเสียงหัวเราะดังออกมาถึงข้างนอก โรสยิ้มร่ามาแต่ไกลแต่พอเดินเข้าใกล้รูปร่างหน้าตาของคนนั่งคุยกับเขมากรก็คุ้นตาเหลือเกินเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน
สงสัยความคิดจะสื่อถึงกันได้ ทันใดนั้นผู้ชายนั่งหันหลังให้ประตูก็หันมาพอดี หัวใจเธอเต้นแรงแทบทะลุนอกอกขาแข็งอยู่กับที่ จะไม่ให้หัวใจวายได้ยังไงก็เมื่อ...
เขา...คือผู้ชายที่หล่อนเสียจูบไปเมื่อเดือนก่อน
“โรส...ยืนอยู่ทำไม มารู้จักเพื่อนอาหน่อย นี่พี่คณินเป็นเพื่อนของอาเองจ้ะ” เขมากรเรียกหลานสาวเข้ามาในห้องเมื่อพบว่าโรสเอาแต่ยืนนิ่งตรงหน้าประตู
“สวัสดีค่ะ คุณอา” คนพูดยกมือไหว้อย่างสวยงามแล้วฝืนยิ้มก่อนจะเดินค้อมตัวไปนั่งฝั่งตรงข้ามกับแขกหนุ่ม ก็ไม่รู้จะเรียกเขาว่าอะไรในเมื่อเป็นเพื่อนกับอาเขมก็คงต้องเรียกว่าอาตามกันไป
คณินยกมือรับไหว้หลานสาวของเขมากรโดยไม่ได้กล่าวทักทายแต่หันไปพูดกับหญิงสาวเชิญเขามาทานข้าว
“ตอนแรกที่บอกว่ามีหลาน พี่ไม่คิดว่าเขมจะมีหลานสาวโตเป็นสาว”
“โรสเป็นลูกของพี่ชายค่ะ พ่อแม่เลิกกันแล้วพี่ชายเสีย เขมเลยพามาอยู่ด้วย” เขมากรเล่าย่อๆ แล้วมองหลานสาว โรสเป็นเด็กเรียบร้อยไม่เคยทำให้หล่อนเดือดเนื้อร้อนใจ
“เรียนอยู่ปีไหนแล้วครับ” จู่ๆ เขาก็หันมาถามคนที่เอาแต่นั่งฟังเขาสนทนากัน
“ปีสี่แล้วค่ะ” คำตอบสั้นๆ แล้วไม่ยอมขยายความต่อ เขาถามคำก็ตอบคำไปอย่างนั้น
“จบแล้วคิดหรือยังว่าจะไปทำงานที่ไหน” คำถามกับสีหน้าเรียบเฉยของเขาก่อความรู้สึกอึดอัดหายใจไม่ค่อยเต็มปอด
“ยังไม่ทราบค่ะ แต่คิดว่าน่าจะไปทำกับเพื่อน” เสียงตอบอ้อมแอ้มไม่คิดว่าเขาจะมาสนใจเรื่องส่วนตัว
“จะไปทำกับเพื่อนทำไม ในเมื่อเจ้าของบริษัทนั่งอยู่ตรงนี้ ใช่ไหมคะพี่คณิน” เขมากรไม่ปล่อยให้โอกาสเสียเปล่ารีบฝากงานให้หลานสาวกับเจ้าของบริษัทใหญ่ทันที
โรสไม่รู้ว่าเขาตอบว่าอะไร ภายในห้องอาหารมีเสียงพูดคุยกันเบาๆ ระหว่างสองคน หญิงสาวใจตุ้มๆ ต่อมๆ คอยเงี่ยหูฟังถ้อยคำสนทนากลัวว่าแขกของคุณอาจะพูดอะไรเกี่ยวกับตัวเองหรือเปล่า โรสทานไปเรื่อยๆ นานๆ จะเงยหน้าขึ้นสักครั้ง ซึ่งอาการเหล่านี้อยู่ในสายตาของคณินทั้งหมด เขาหรี่ตามองหลานสาวเขมากรภายใต้สีหน้าเรียบเฉยกับดวงตาคู่คม
เพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้เว็บของคุณดียิ่งขึ้น และเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับคุณอย่างได้อย่างส่วนตัว ท่านสามารถอ่านนโยบายคุกกี้เพิ่มเติมได้ที่นี่