รอคอยให้เธอกดสะโพกลงมาเติมเต็มครั้งแล้วครั้งเล่า เขามองเธอด้วยสายตาเร่าร้อน
“คุณชอบ... แบบนี้ไหมคะ” ไพรหอมถามเสียงสั่น ใบหน้าของเธอแดงจัด
“ชอบมาก ขยับเร็วอีก” เขากระตุ้นสะโพกของเธอด้วยมือ ไพรหอมควบสะโพกลงไปบนแก่นกายของเขา เธอร้องครางเสียงหลง เพราะมันเสียวซ่านไปทุกรูขุมขน แก่นกายของเขาแทรกลึกเข้ามาภายในของเธอจนซ่านกระสัน
“แบบนั้นล่ะ เร็วอีก แรงอีก” เขากุมสะโพกเธอแทบกระชากให้เธอควบขี่ลงมาจนนับจังหวะไม่ถูก ไพรหอมสะบัดหน้าไปมา เธอกำจิกมือกับไหล่แกร่งของเขาแน่น รับรู้ถึงความเสียวแทบจะขาดใจ มันรุนแรงขึ้นตามอารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้น
“หอมจะขาดใจแล้วค่ะ” เธอบอกเขาเสียงสะอึกสะอื้น พันศึกจับสะโพกเธอยึดเอาไว้ ก่อนจะกดเธอไปกับโซฟาตัวยาวที่เขานั่งอยู่ในคราแรก
“มันจะยิ่งกว่าขาดใจเด็กน้อย เพราะเธอน่ารักแบบนี้ไง” พันศึกขยับสะโพกหนักหน่วงขึ้น เขาควบกายเร่งเร้า กล้ามเนื้อภายในของเธอบีบรัดเขาจนแทบขาดใจ การตอดรัดที่แน่นถนัดทำให้เขายิ่งโหมกายเข้าหาอย่างบ้าคลั่ง ไพรหอมหวีดร้องสุดเสียงเพราะเขากระชากเธอไปถึงสวรรค์อย่างรุนแรง ก่อนจะลอยละลิ่วไปปะทะกับกลุ่มเมฆที่ลอยตัวอยู่บนอากาศ และตกกระทบลงมายังพื้นโซฟานิ่มที่เขายังขยับกายฝังเข้ามาไม่หยุดหย่อน
พันศึกคำรามลั่นเมื่อเขาจับขาเธอแยกออกจากกว้าง จ้วงแทงเข้าไปอย่างฮึกเหิมก่อนจะปลดปล่อยธารร้อนออกมาจนหมดเนื้อหมดตัว ไหล่บ่าเข้าสู่กายสาวจนหมดสิ้น
เขาแช่นิ่งให้เธอดูดกลืนเขาทุกหยาดหยด ใบหน้าหล่อหลบซบอยู่กับอกสาวด้วยความเหนื่อยล้า ก่อนจะผงกขึ้นจุมพิตหน้าผากนูนเกลี้ยง คลอเคลียอยู่กับซอกคอหอมๆ
“กินยาตามที่ฉันสั่งหรือเปล่า” เขาเอ่ยถามเสียงหอบๆ ไพรหอมรีบพยักหน้า เธอไม่ค่อยรู้หรอกว่ามันเป็นยาอะไร เขาให้กินก็กินมันทุกวัน
“ดีมากเด็กน้อย อย่าขัดใจฉัน แล้วเธอจะอยู่ที่นี่อย่างสบาย” เขาอุ้มเธอกลับไปในห้องน้ำอีกครั้ง ไพรหอมกอดคอหนาของเขาเอาไว้ กว่าจะออกจากห้องน้ำเธอก็โดนเขากินอีกรอบ พอเห็นอาหารที่ถูกจัดวางเอาไว้ริมระเบียงบ้าน เธอก็เกิดความรู้สึกหิวจนแทบจะกินช้างได้ทั้งตัว
“หิวก็กินสิ ทำไมนั่งนิ่งอยู่แบบนั้นล่ะ” พันศึกเอ่ยถามเด็กสาวที่มัวแต่นั่งเหม่อ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าทำท่าจะกระโจนเข้าหาอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะด้วยความหิวจัด
“คุณไม่โกรธแม่ของหอมแล้วเหรอคะ”
“ทำไมเอาแต่ถามเรื่องนี้” น้ำเสียงของเขาดูรำคาญเล็กน้อย มองหน้าเด็กสาวนิ่ง
“หอมแค่ไม่สบายใจค่ะ”
“มานี่สิ” เขากวักมือเรียก ตบบนหน้าขาของตัวเอง ไพรหอมมองอย่างอายๆ เขาก็ตบหนักๆ ซ้ำๆ ลงบนตักอีกครั้ง เธอเลยเดินไปใกล้ๆ อย่างเกร็งๆ พันศึกเลยดึงหญิงสาวไปนั่งบนตักของตัวเอง
“อุ๊ย!” ไพรหอมอุทาน อ้อมแขนของเขาทำให้เธอสั่นสะท้าน
“ไหนบอกมาสิไม่สบายใจเรื่องอะไร” น้ำเสียงของเขาดูแปลกไป ไม่ได้ห้วนจัดดุดันใส่เธอเหมือนคราแรก
“หอม... แค่รู้สึกว่าคุณดีกับหอมมากๆ ค่ะ”
“ฉันเหรอ” เขาโยกร่างเล็กไปมา พันศึกเองยังตกใจที่เขาตกหลุมรักเด็กเข้าไปได้ยังไง มันตั้งแต่แรกเห็นนะหรือ เขาเคยถามตัวเองบ่อยๆ
“ค่ะ แม่ของหอมไม่ดี ทำให้คุณเดือดร้อนไม่พอใจ หอมเอ่อ...”
“อะไร” เขาเอ่ยถาม น้ำเสียงเรียบเรื่อย เลิกคิ้วขึ้นมองเธอข้างหนึ่ง
“ไม่ได้ชอบจะเป็นนางบำเรอของคุณหรอกนะคะ แต่คุณก็ดีกับหอมมาก” เธอพูดแล้วก้มหน้างุด รวบรวมกำลังใจแทบแย่กว่าจะพูดแบบนี้ออกมาได้
“ฉันใจร้ายไม่ใช่เหรอ” เขาถามเสียงยางคาง หลับตาพริ้มเมื่อสูดดมกลิ่นหอมจากเรือนผมของเธอ
“เมื่อก่อนก็ใจร้ายค่ะ” เธออุบอิบตอบ กลัวเขาว่าให้
“ตอนนี้ล่ะ”
“ก็ใจร้ายค่ะ”
“อ้าว... ไหนเมื่อกี้บอกใจดี”
“ก็มีใจดีมาผสมกับความใจร้ายค่ะ” ไพรหอมตอบพาซื่อ
พันศึกหัวเราะเมื่อเด็กสาวพูดจบ บางทีไพรหอมก็ซื่อเกินไป เขาเพิ่งมาคิดเอาเมื่อได้ใช้ชีวิตร่วมกับเธอ ไพรหอมไร้เดียงสานัก แต่เธอก็ไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับแม่ของเธอ เขาเพิ่งตระหนักข้อนี้เพราะมานั่งคิดทบทวนดูแล้ว ถ้าเธอกับยายมีชีวิตสุขสบายจากเงินของว่านจันทร์ ก็แสดงว่ามีส่วนได้รับโดยตรงจากเงินและของมีค่าที่ว่านจันทร์ขโมยเอาจากเขาไป แต่เธอกับยายนั้นอยู่แร้นแค้นและน่าสังเวชใจ
เขาเลยคิดสงสัยว่าว่านจันทร์นั้นไม่รักมารดาตัวเอง รักลูกสาวตัวเองเลยหรือไง ถึงได้ทิ้งขว้างคนในครอบครัวเช่นนี้ ตอนที่เขารู้จักกับว่านจันทร์ครั้งแรก เธอดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่พอมาเห็นครอบครัวของเธอที่ยังรอคอยความเมตตาจากคนอื่นๆ เขาจึงนึกสังเวชใจ คนเราแม้จะดูดี มีเงินทองใช้สอย แต่ก็หาได้สนใจบุพการีและสายเลือดในอก ปล่อยให้ตกระกรรมลำบาก ใช้ชีวิตไปตามยถากรรม อดๆ อยากๆ เจ็บป่วยก็ไม่มีเงินรักษา รักษาไปก็ยาพื้นๆ หายก็ช่างไม่หายก็ช่าง
“ฉันใจดีหรือใจร้ายก็แล้วแต่สถานการณ์”
“คุณเชื่อไหมคะ หอมไม่เคยกินอาหารน่าตาน่ากินพวกนี้เลย” ไพรหอมมองอาหารบนโต๊ะแล้วร้องไห้เบาๆ ทำไมนะเวลานี้เธอถึงได้คิดถึงยายเหลือเกิน แม้พันศึกจะดูใจร้าย แต่เขาก็ไม่เคยปล่อยให้เธออดอยาก ทุบตีทำร้ายทารุณกรรม และกักขังเธอไม่ให้เห็นแสงเดือนแสงตะวัน เด็กสาวคิดตามประสาเด็ก แม้ตัวเองจะคอยบำรุงบำเรอเขาอยู่บนเตียง แต่ถ้าเขาจะทำร้ายเธออย่างทารุณ เธอก็คงไม่ได้มานั่งอยู่ในอ้อมกอดเขาแบบนี้ แถมยังให้เครื่องประดับราคาแพงตั้งหลายชิ้น
บางทีเธอก็สงสัยว่าทำไมผู้หญิงบางคนถึงต้องเป็นเมียน้อยเป็นเมียเก็บ อาจเป็นเพราะของล่อตาล่อใจเหล่านี้ก็เป็นได้ เธอไม่เคยคิดจะทิ้งศักดิ์ศรีทำตัวแบบที่ผู้คนประณาม แต่พอได้มาใช้ชีวิตอย่างนี้ เธอก็อยากย้อนเวลากลับไป บางทีถ้าเธอทำแบบนี้ ยายอาจจะยังไม่ตาย ท่านอาจจะมีความสุขอยู่ในบ้านเล็กๆ สบายๆ สักหลัง มีเงินใช้ อยากกินอะไรก็ได้กิน ไม่ใช่อดๆ อยากๆ เลี้ยงเธออย่างแร้นแค้น เวลาเจ็บไข้ไม่สบายก็มีเงินไปรักษา ถ้าวันนั้นเธอทำตัวเหมือนที่คนอื่นประณาม แต่ทำให้ชีวิตของยายอยู่มาได้ถึงตอนนี้ และอย่างสุขสบายด้วย มันคงดีไม่น้อย เธอไม่จำเป็นต้องบอกท่านก็ได้นี่ว่าทำงานอะไร ให้ท่านรู้ว่าเธอทำงานสุจริตก็พอ ท่านจะได้อายุยืนกว่านี้
หลายครั้งที่เธอคิดว่าศักดิ์ศรีมันกินไม่ได้ แต่ความผิดชอบชั่วดีมันตีกันจนยุ่งเหยิงไปหมด โชคดีที่พันศึกยังไม่มีภรรยา เพราะเขาไม่เคยเอ่ยถึง แต่เธอก็แอบคิดว่าอายุเท่าเขาน่าจะมีภรรยาเป็นตัวเป็นตน แต่ถ้าเขามีภรรยา คงไม่มายุ่งกับแม่ของเธอก่อนหน้านี้
เด็กสาวถอนใจเฮือกใหญ่ ถ้าเธอไม่สนใจปากของชาวบ้าน สนใจเฉพาะเรื่องของตัวเองกับยาย ใครจะด่าจะว่าเป็นผู้หญิงยังไงก็ช่าง เธอไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ป่านนี้เธอคงไม่ต้องลำบากแบบนี้
“เป็นอะไร ถอนใจเฮือกๆ”
“ปะ... เปล่าค่ะ” ไพรหอมสะดุ้ง เพิ่งรู้ตัวว่าคิดกลับไปกลับมาเหมือนคนไม่ปกติ บางทีเธอก็ย้ำคิดย้ำทำ เหมือนคนไม่มีสติ
“เธอชอบกินอะไรล่ะ” พันศึกเอ่ยถาม เขาจับตามองคนในอ้อมแขนอยู่ตลอดเวลา เธอเป็นเด็กที่น่าสงสารจากที่เขาสืบประวัติมา
“หอมไม่ได้ชอบอะไรเป็นพิเศษหรอกค่ะ เพราะว่าตอนอยู่กับยาย หอมก็กินๆ ไปประทังความหิวเท่านั้น” เธอตอบตามจริง
“ทำไมล่ะ” เขาเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย
เพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้เว็บของคุณดียิ่งขึ้น และเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับคุณอย่างได้อย่างส่วนตัว ท่านสามารถอ่านนโยบายคุกกี้เพิ่มเติมได้ที่นี่
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว