ระเบียบการหัวใจ -2 จูบนั้นสุดหวั่นไหว...5

โดย  ดากานดา อัคนียา

ระเบียบการหัวใจ

2 จูบนั้นสุดหวั่นไหว...5

สี่โมงเย็น เตยหอมไปถึงหน้ามหาวิทยาลัยของภาสกร เธอมองหาตู้โทรศัพท์หยอดเหรียญ โทร.ไปฝากข้อความบอกเขาว่าอยู่หน้ามหา’ลัยแล้ว รอเกือบยี่สิบนาที ก็เห็นภาสขี่มอเตอร์ไซค์ออกมา

“นึกว่ากล้าชิ่ง” เขาทักยิ้มๆ

ทันทีที่เห็นหน้าใสใจแกร่งสั่นไหว วันนี้เตยหอมรวบผมไปมัดเป็นจุกไว้กลางศีรษะด้านหลัง ผมเธอยาวไม่มากทำให้มีบางส่วนเลื่อนหลุดมาล้อมกรอบดวงหน้าเรียวรูปไข่ ดูเก๋ไก๋ไปอีกแบบ เสื้อยืดสีเข้มพอดีตัวกับกางเกงขาเดฟกระชับรูปร่างกะทัดรัด ส่งให้คนตัวเล็กน่าถนอมขึ้นไปอีก

เตยหอมมองสภาพของเขาตาปริบๆ หน้าบางส่วนเลอะคราบแป้งขาว ผมสีดำกลายเป็นสีเทาจากแป้ง ดูแล้วน่ารักไปอีกแบบ

ภาสมองสายตายิ้มๆ นั่น จึงเอียงตัวไปส่องกระจก เห็นสภาพตัวเองแล้วต้องก้มปัดผม เช็ดแป้งออกจากหน้า

“ตอนเพจดังกำลังแข่งกินวิบากหยุดกลางคันไม่ได้” เขาเลยรีบฝ่าแต่ละด่าน ไม่รู้ใครชนะ เล่นด่านสุดท้ายเสร็จก็ยืมรถเพื่อนบึ่งออกมาทันที

“ท่าทางน่าสนุกนะ” เตยหอมบอกยิ้มๆ

“เข้าไปดูเอง ขึ้นรถ” บุ้ยใบ้บอกให้เธอขึ้นนั่งซ้อนท้าย

การนั่งมอเตอร์ไซค์ไม่เป็นปัญหาสำหรับเตยหอม กว่าจะออกจากห้องได้ เธอก็จับชุดนั้นชุดนี้มาเลือกว่าควรใส่ตัวไหนดี ทั้งที่ความจริงเสื้อผ้าเธอมีไม่กี่ชุด ส่วนใหญ่เป็นเสื้อยืดกางเกงยีน หยิบกางเกงก็ลังเล หยิบกระโปรงตัวใหม่ที่ซื้อมายังไม่ได้ใส่สักครั้งก็ลังเล มองแล้วมองอีก เลือกแล้วเลือกอีก สุดท้ายก็ตกม้าตายที่เสื้อยืดสีน้ำเงินเข้มกับกางเกงยีน นึกดีใจหากใส่กระโปรงคงนั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์ลำบาก เหวี่ยงตัวขึ้นนั่งคร่อมเรียบร้อย ไพล่มือไปจับเหล็กด้านหลังเบาะ

ภาสหันกลับมามองหน้าใสก่อนส่ายหน้า เอื้อมมือดึงมือเล็กมากอดเอวตนเองไว้ ก่อนจะออกรถ

เตยหอมอยากจะทุบหลังกว้างสักตุบ ไม่รู้รึไงว่าเธออาย

ขับรถลัดเลาะกว่าสิบนาทีก็ถึงบริเวณงาน มหาวิทยาลัยนี้มีพื้นที่กว้างขวางจริงๆ

งานคึกคักมาก มีเสียงลั่นๆ มาจากกลางสนามบอลขนาดใหญ่ รอบๆ สนามรายล้อมด้วยร่มคันใหญ่กับเต็นท์หลากสี พอเดินไปใกล้จึงเห็นว่าภายใต้ร่มและเต็นท์มีของกินง่ายๆ ขนมนมเนย ผลไม้ น้ำ ของกินเล่นอีกหลากหลายวางขาย ชายหญิงวัยรุ่นช่วยกันขาย ตลอดทางก็มีหนุ่มๆ สาวๆ ยืนเลือกซื้อของกินประปราย

“อยากกินอะไรไหม”

ภาสจอดรถที่ยืมมาจากเพื่อนตรงจุดจอดสำหรับมอเตอร์ไซค์ ก่อนจะจูงมือบางพาเดินเข้างาน ผ่านซุ้มต่างๆ

“ไม่คิดว่างานจะใหญ่ขนาดนี้ ที่เห็นๆ นี่นักศึกษาของที่นี่หมดเลยเหรอ”

มหา’ลัยใหญ่ นักศึกษาก็คงเยอะตามด้วยไม่ใช่เรื่องแปลก

“คนนอกก็มี เป็นแบบนี้ทุกปีแหละ กินอะไร น้ำไหม” เขาถามแต่ไม่รอคำตอบ แวะสั่งน้ำเปล่ากับแตงโมปั่นร้านที่เดินไปถึงทันที

เตยหอมหันกลับมามองก็พบว่า หนุ่มสาวพ่อค้าแม่ขายรวมถึงคนที่ยืนซื้อของต่างสะกิดกันมองเขาก่อนมองเลยมาที่เธอ หากไม่มีใครกล้าพูดอะไร เธอทำไม่รู้ไม่ชี้มองเมินร้านอื่นๆ แทน คนเดินสวนไปมาก็ยังมอง

ภาสเหลือบมอง หน้านวลมีเหงื่อเม็ดเล็กผุดตามไรผม อากาศวันนี้ค่อนข้างร้อนทีเดียวขนาดว่าแดดร่มลมตก โดยไม่คิดอะไรมาก ยื่นมือไปไล้เม็ดเหงื่อ เธอหันขวับมามองค่อยๆ เบี่ยงหน้าหลบมือ แก้มใสเริ่มซับสีเรื่อ เขาเลิกคิ้วยิ้มๆ พอดีกับด้านหลังบอกว่าน้ำได้แล้ว เขาหันไปจ่ายเงิน รับแก้วน้ำแตงโมปั่นมายื่นให้เตยหอม

เธออุบอิบขอบคุณ แก้มร้อนผ่าวเพราะรู้จากหางตาว่ามีหลายคนคอยมอง

สงสัยเขาคงฮอตไม่เบา

ภาสไม่สนใจใคร เดินหิ้วถุงขวดน้ำเปล่ามือหนึ่ง อีกมือก็จับมือบางเดินผ่านซุ้มต่างๆ ไปเรื่อย ปล่อยให้เตยหอมกวาดสายตามองร้านรวงที่นักศึกษาจากทุกคณะมาออกร้าน

“เพื่อนนายไปไหนซะล่ะ”

เตยหอมใช่ว่าจะปล่อยให้เขาจับจูงนาน หลังการดึงมือออกครั้งที่สาม เธอก็ทำทีสนใจร้านขายคุกกี้ นั่นแหละเขาถึงยอมปล่อยมือให้เธอได้หยิบถุงขนม แต่ก็แค่หยิบๆ ดูไม่ซื้ออะไร

“อยู่กับฉันถามหาเพื่อนฉัน” เสียงห้าวเปรยเบาๆ

เอ้า...ตานี่ เตยหอมกลอกตา เขาแกล้งซื่อหรือไม่เข้าใจจริงๆ นะว่ามันเป็นการหาเรื่องคุย

มองหน้าตึงๆ ของหนุ่มหล่อข้างกายแล้วเสียงอ่อน

“ปกติเห็นอยู่ด้วยกัน”

“ไอ้โจมันถูกจับไปเป็นมาสคอตเรียกแขก ถึงซุ้มบริหารเดี๋ยวก็เห็น ส่วนไอ้เพียวคงอยู่กลางสนาม”

เดินกันไม่นานก็ถึงซุ้มบริหาร เตยหอมรู้เพราะมีป้ายกระดาษเขียนปักไว้ มาสคอตหมีตัวใหญ่กระโดดเข้ามาขวางหน้า เต้นล่อหลอกเอียงซ้ายเอียงขวา ดูน่ารักจนอดยิ้มไม่ได้ ยื่นมือไปจับมือที่ยื่นออกมา มาสคอตหมีตัวใหญ่ทำท่าจะพุ่งเข้ามากอดเมื่อคนดูชอบใจ

ร่างบางของเตยหอมถูกตวัดดึงออกพ้นรัศมีเสียก่อน พร้อมกันนั้นร่างสูงก็เอี้ยวตัวไปเตะขาข้างหลังเจ้าหมีขี้เล่นดังตุบ

“โอ๊ย!”

เสียงร้องพร้อมกับที่มาสคอตดึงส่วนหัวหมีออก เป็นโจนั่นเอง

เขาชี้หน้าเพื่อน พูดเสียงดัง

“ไอ้ภาส กูล้อเล่นนิดเดียว เตะซะแรงเลยนะมึง”

“รู้มั่งคนไหนเล่นได้ คนไหนเล่นไม่ได้” ภาสจ้องกลับกดเสียงต่ำ มือยังกอดเอวบางไม่ปล่อย

เป็นเตยหอมเองที่รู้สึกตัวก่อน เป็นฝ่ายเบี่ยงออก เพื่อนๆ ของเขาพากันหัวเราะขำ บางคนถึงกับส่งเสียงแซว

โจว่าเพื่อนไม่ได้ก็หันมาหาหญิงสาวข้างกายเพื่อน

“เธอทำอะไรมันเตยหอม เพื่อนฉันถึงเป็นแบบนี้ เล่นของใส่แหงๆ”

ผู้ถูกกล่าวหาส่ายหน้ายิกๆ

“อย่าไปสนคนบ้าเลย อากาศร้อนมันเลยบ้า” ภาสพูดกวนๆ ก่อนฉุดมือสาวเจ้าให้เดินตามเข้าไปในเต็นท์

เตยหอมเขินตัวจะแตก เธอยังสังเกตเห็นว่า ภายใต้เต็นท์เล็กๆ ที่เรียงต่อกันนั้น น่าจะมีคนนอกซึ่งเป็นเพื่อนของพวกเขาอยู่ด้วย เพราะบางคนดูมีอายุเยอะกว่าที่จะเป็นนักศึกษา ทำให้เธอลดความแปลกแยกในใจลงไปมากโข

“มึงจะไม่แนะนำหน่อยเหรอวะสาวที่ไหนน่ารักจัง”

เพื่อนผู้ชายคนหนึ่งชะโงกหน้ามายิ้มทะเล้น

“เตยหอมแฟนกู มีหมวกอีกไหมวะไอ้เกริก”

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว