และนี่คือ!!! วิญญาณคุณชายสุดเฮี้ยนกับนายนักเขียนสยองขวัญ

บทที่ 2 ปฏิกิริยาเมื่อเข้ามาที่นี่ครั้งแรก

ตอนที่ 12 เหมืองถ่านหิน (2)

แสงจันทร์จากดวงจันทร์สาดส่องลงบนดินโคลนที่เพิ่งถล่มพัง พ่อเองก็อยู่ใต้ดินนี้แล้วใช่ไหม พ่อไปหาคุณปู่กับคุณย่าแล้วเหรอ

เสี่ยวจือจือทนไม่ไหวอีกต่อไป ร้องไห้ออกมาเสียงดังลั่น

“พ่อคะ หนูจะไม่ดื้อแล้ว จะไปโรงเรียนอนุบาลทุกวัน พ่อออกมาได้ไหมคะ”

เธอนำจอบด้ามเล็กติดมาด้วย เดิมทีจอบนี้เอาไว้ให้พ่อถางหญ้าให้กับคุณปู่คุณย่า แต่ตอนนี้เธออยากจะขุดพ่อขึ้นมา

เสี่ยวจือจือร้องไห้ไปขุดไป เอ้อร์หู่เองก็ร่วมขุดด้วย...

โจวมู่ยังมีชีวิตอยู่...

ตอนที่ภูเขาถล่ม ตำแหน่งเขาอยู่ใกล้ที่สุด

ทันเพียงแค่พลิกตัวหมอบติดกับก้อนหินก้อนใหญ่ที่ใกล้ที่สุด จากนั้นก็ดับวูบ

จนกระทั่งตอนที่เขาลืมตาขึ้นมาอีกที รอบกายก็มืดสนิทเสียแล้ว เขาจะตายไม่ได้ เขายังอยากไปรับจือจือหลังเลิกเรียน ไปส่งจือจือเข้าเรียน ป้อนข้าวเธอ ใส่เสื้อผ้าใส่รองเท้าให้เธอ ล้างมือเช็ดมือให้เธอ เขาตายไม่ได้

โจวมู่ปัดป่ายมือไปรอบกาย คอยฟังเสียงอย่างตั้งใจ แยกแยะเสียงที่แตกต่างกันเพื่อวิเคราะห์ความแข็งของดินทราย เขาขุดรูทีละเล็กทีละน้อย

สุดท้าย เขายิ่งขุดก็ยิ่งประหลาดใจ ถึงจะมองไม่เห็นแต่ชั้นดินนี้นิ่มมาก คลำๆ ดูแล้วก็นุ่มยวบไปหมด

โจวมู่เอาใส่ปากชิมอยู่ชั่วครู่ ขมเล็กน้อย รสหนักและฝาด

เหมืองถ่านหิน!

เขาจำได้ว่าในคุกมีเถ้าแก่ถ่านหินอยู่คนหนึ่ง คุยโวเรื่องประวัติความร่ำรวยของบ้านตัวเองได้ทุกเมื่อ คนอื่นเล่าว่าเมื่อก่อนเขามีเงินจริงๆ เงินของเขานี่ซื้ออำเภอได้ทั้งอำเภอตามใจชอบเชียว!

โจวมู่รู้สึกว่าเลือดในกายเขาแข็งตัวขึ้นมาทันที

เขายังตายไม่ได้ ตายไม่ได้เด็ดขาด เขายังต้องหาเงินเยอะๆ แล้วมอบชีวิตที่ดีที่สุดให้แก่ลูกสาว

ยึดถือความคิดเช่นนี้แล้ว โจวมู่ก็ขุดต่อ มือเจ็บจนแตกไปนานแล้ว

เขาหมดแรงแล้ว เหนื่อยเหลือเกิน

ตอนนี้เอง เขาพลันได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็ก

ได้ยินเสียงของจือจือที่ร้องเรียกเขาว่าพ่อคะ

โจวมู่รู้สึกเพียงแค่ว่าความปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่ต่อนั้นแรงกล้าหาใดเปรียบ เขาจะตายทั้งแบบนี้ไม่ได้

สิบปีก่อน เขาทิ้งพ่อแม่ไป พอกลับมาก็เห็นเพียงแค่สุสานของพ่อกับแม่เท่านั้น

สามปีก่อน เขาเก็บลูกสาวกลับมาได้ ตอนนี้เขาจะทิ้งเธอไปอีกไม่ได้

โจวมู่ทุ่มเทแรงกายเต็มที่ เสียงนั้นค่อยๆ เขยิบเข้ามาใกล้ทีละน้อยๆ

กระทั่งได้ยินเสียงโครม หินในมือของเขากระทบเข้ากับหินก้อนใหญ่

โจวมู่ออกแรงดัน ทว่าไม่ขยับเลยสักนิด

แต่ว่าเวลานี้ เขาได้ยินเสียงของจือจืออย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง เธออยู่ที่ด้านนอกนั่น

จอบอันน้อยของเสี่ยวจือจือขุดไปถึงหินก้อนหนึ่ง

อุ้งเท้าของเอ้อร์หู่เองก็ขุดไปถึงหินก้อนนั้นเช่นกัน

“หินมันใหญ่ไป” เสี่ยวจือจือร้องไห้อีกครั้ง

เอ้อร์หู่เองก็จนปัญญา มันเป็นเพียงแค่เสือตัวหนึ่ง ไม่ใช่เครื่องขุดเจาะ อุ้งเท้าของมันไม่ได้มีเพื่อการขุดหินอยู่แล้ว

เสี่ยวฮวาเลื้อยลงมาจากตัวของเอ้อร์หู่ พยายามเลื้อยเข้าไปจากทางด้านข้างของหินให้ได้ เสี่ยวฮวาที่ปกติไร้ประโยชน์ที่สุด ถึงกับเลื้อยเข้าไปจากรอยแยกทางด้านหนึ่งของหินได้จริงๆ

“เป็นพ่อ เสี่ยวฮวาจะต้องเห็นพ่อแน่ๆ” เสี่ยวจือจือตื่นเต้นไม่หยุด

ตอนนี้คนในหมู่บ้านถือกระบอกไฟฉายและคบไฟเดินมาหา

หลี่ฉางเกิงคิดไม่ถึงว่าดึกดื่นขนาดนี้แล้ว สาวน้อยจะขึ้นมาถึงที่นี่โดยลำพัง

“ลุงหลี่คะ พ่อหนูอยู่ในนี้ รีบมาช่วยขุดทีค่ะ” เสี่ยวจือจือเห็นหลี่ฉางเกิงก็ร้องตะโกนด้วยความตื่นเต้น

หลี่ฉางเกิงไม่เชื่อ เมื่อกลางวันทุกคนพากันขุดมาทั้งวันแล้วไม่เจอคนเลยสักนิด ตรงที่ดินถล่มก็ไม่ใช่ตรงนี้ จะเป็นไปได้อย่างไร

แต่พอเห็นสายตามุ่งมั่นของยายหนูแล้ว หลี่ฉางเกิงถึงกับปฏิเสธไม่ออก

โจวมู่ไม่อยู่แล้ว และเขาแก่ที่สุด

จึงกัดฟันตะโกนออกไปว่า “มาช่วยกันขุดตรงนี้ให้หมด”

ทุกคนไม่นึกว่าจะได้เห็นหนูน้อยมาโผล่อยู่ที่นี่คนเดียว ต่างรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง แต่ก็ยังคงฟังคำพูดของหลี่ฉางเกิง ช่วยกันขุดขึ้นมา

สุดท้ายก้อนหินก็ถูกขุดออกไป และด้านล่างก็ดูเหมือนจะมีคนอยู่จริงๆ ทว่ามืดสลัวยิ่ง

“โจวมู่เหรอ”

“โจวมู่จริงๆ ด้วย!”

“ฮ้า! เขายังไม่ตาย”

คนในหมู่บ้านช่วยกันย้ายโจวมู่ขึ้นมาได้ก็พากันตะลึงงัน

ยามนี้เมฆหมอกหนาเองก็ได้ลอยผ่านพ้นดวงจันทร์ไปแล้ว แสงสว่างสาดส่องในค่ำคืนที่มืดมิด

ตอนนี้ผู้เฒ่าหลี่ผู้งมงายถึงกับคุกเข่าลงไป

“พระพุทธองค์สำแดงฤทธิ์แล้ว”

ทิศทางที่เขาคุกเข่าเป็นตำแหน่งของเสี่ยวจือจือพอดิบพอดี ใบหน้าของเสี่ยวจือจือต้องแสงจันทร์ที่สาดส่อง เผยแสงสว่างนุ่มนวล

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว