ตอนพิเศษ 1 ยั่วรักแม่ทัพ
หลังสงครามกลางเมืองหนิงอันสงบลง ข่าวการเสียชีวิตของว่าที่พระชายาในชินอ๋องเล่าลือไปทั่วทั้งสามแคว้น ตระกูลมู่ถูกสังหารโดยไม่รอการสอบสวนความผิดทั้งตระกูล แม้แต่รัชทายาทหยวนหรงหยางซิ่นก็ถูกปลดออกจากตำแหน่ง เนรเทศไปยังหัวเมืองใต้ ไม่มีราชโองการห้ามเข้ามายังเมืองหลวงเด็ดขาด
ชินอ๋องกลายเป็นบุรุษที่เย็นชาอีกครั้ง เขาย้ายไปอยู่ที่วังมรกตชายแดนทางใต้ นานครั้งจึงจะเข้ามาตรวจตราความเรียบร้อยในเมืองหลวง หลิวหนิงเฉินได้เลื่อนตำแหน่งเป็นแม่ทัพ ทำหน้าที่รักษาการแทนหยวนหรงหย่งหมิง แต่งานหนักที่ได้รับกลับไม่ทำให้เขาหวั่นใจเท่ากับ
องค์หญิงม่อฉ่ายอี้
องค์หญิงจากแคว้นเหลียนที่เดินทางมาเพื่อเจริญสัมพันธไมตรีเมื่อหลายปีก่อน หลิวหนิงเฉินเคยพบเจอนางในบางครั้ง ยามที่มีงานเลี้ยงในวังหลวง แน่นอนว่าในสายตาบุรุษทุกคนนางคือสตรีที่งดงามเป็นอย่างยิ่ง แต่ไม่ใช่สำหรับเขา...
สองปีก่อน
ข่าวองค์หญิงเหมยปี้เหยาท้าประลองกับว่าที่พระชายาในชินอ๋อง ผู้ชนะจะได้ตำแหน่งพระชายาเอกนั้นเป็นที่กล่าวถึงไปทั่วทั้งหนิงอัน องค์หญิงม่อฉ่ายอี้ได้ให้การช่วยเหลือบางประการกับว่าที่พระชายาเยว่เอ๋อร์ ทำให้ว่าที่พระชายาเยว่เอ๋อร์ชนะการประลองในครั้งนั้นมาได้ และเพราะเหตุผลนี้องค์หญิงม่อฉ่ายอี้จึงได้ใช้มาเป็นข้ออ้างในการขอให้ชินอ๋องขอพระราชทานสมรสให้นางและเขา
“แล้วสักวันเจ้าจะมาขอบคุณเปิ่นหวาง”
เป็นคำพูดที่ชินอ๋องตรัสกับเขาในวันที่เขาไปขอให้ทรงยกเลิกการแต่งงาน
หึ! นึกขอบคุณอย่างนั้นหรือ ไม่มีทาง! สตรีที่ไร้ยางอาย กล้าเอ่ยปากขอบุรุษมาเป็นสามีเช่นนาง เขาไม่มีทางยอมรับนางแน่นอน แต่ในเมื่อเขาไม่สามารถยกเลิกงานแต่งครั้งนี้ได้เขาก็จะยอมรับ แต่มิได้หมายความว่าหลังแต่งงานแล้วเขาจะหย่าจากนางมิได้
ในวันนั้นเขาได้วางแผนเอาไว้ในใจอย่างแยบยล สามเดือนให้หลังจากพิธีแต่งงาน เขาจะหย่าขาดกับองค์หญิงไร้ยางอายผู้นี้เสีย หากแต่ทว่าในวันแต่งงานชินอ๋องกลับกล่าวคำที่ทำให้เขาหนักใจอีกครั้ง
“ความสัมพันธ์ของหนิงอันกับแคว้นเหลียนขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว”
ในเวลานั้นเขาอยากจะกลั้นใจตายเสียทันที คำกล่าวที่ว่าชินอ๋องนั้นเป็นบุรุษที่เจ้าเล่ห์ที่สุดในหนิงอันเขาเข้าใจชัดเจนในวันนั้นเอง
“พี่ใหญ่เหตุใดท่านไม่อยู่ที่เรือนของท่าน”
หลิวหนิงเจี้ยนเอ่ยถามด้วยความสงสัย ในวันนี้เป็นวันอภิเษกระหว่างพี่ชายของเขากับองค์หญิงแห่งแคว้นเหลียน เช่นนั้นแล้วเวลานี้พี่ชายของเขาก็ควรอยู่ที่เรือนของตนในห้องหอกับเจ้าสาวมิใช่หรือไรกัน เหตุใดพี่ชายของเขาจึงมาอยู่ที่นี่
“ข้าไม่คุ้นชินกับที่นั่น”
“ที่ว่าไม่คุ้นชินนี่จวนหรือองค์หญิง”
หลิวหนิงเจี้ยนเอ่ยถามท่าทางยียวน หากแต่เพียงหลิวหนิงเฉินปรายตา รอยยิ้มชวนโมโหนั่นก็หุบลงในทันที เหตุใดพี่ชายของเขาจึงขี้โมโหเพียงนี้กัน
“พรุ่งนี้ข้าต้องกลับสำนักศึกษาแล้ว ลาท่านตรงนี้เลยแล้วกัน”
หลิวหนิงเฉินเพียงพยักหน้ารับทราบ สำนักศึกษาหลวงอาจจะเข้าออกยากสำหรับผู้อื่น แต่กับน้องชายเขาคนนี้มันง่ายเสียยิ่งกว่าเข้าบ้านตัวเองเสียอีก
“อ้อ... ข้าจัดยาบำรุงไว้ให้ท่าน พรุ่งนี้จะให้คนนำมาให้”
“ยาบำรุงอะไร”
“ท่านแม่กล่าวว่าอยากได้หลานสักคน”
กล่าวจบหลิวหนิงเจี้ยนก็หายตัวไปราววิญญาณ แน่นอนว่าที่ต้องรีบเพียงนี้เพราะหากชักช้าเขาอาจเหลือเพียงร่างที่ไร้วิญญาณ หลิวหนิงเฉินได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโมโห ฝากไว้ก่อนเถิด...
จวนเมฆา
ม่อฉ่ายอี้ทิ้งกายลงในบ่อน้ำขนาดใหญ่หลังเรือนนอน เป็นที่แน่ใจแล้วว่านางถูกเจ้าบ่าวทอดทิ้งในคืนเข้าหอคืนแรก ใบหน้าแสนเย้ายวนยกยิ้มชวนหลงใหล แหงนหน้ามองท้องฟ้าที่ไร้ดวงจันทรา มีเพียงแสงดาวที่เปล่งประกายแข่งกัน ชั่วชีวิตสิบเก้าปีของนาง นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกบุรุษเมินเฉยใส่ และบุรุษผู้นั้นก็คือสามีของนางเองช่างน่าตลกนัก องค์หญิงม่อฉ่ายอี้สตรีที่งดงามเป็นที่ปรารถนาของบุรุษทั้งแผ่นดินกลับถูกสามีตนเองทอดทิ้งในคืนเข้าหอ ช่างน่าโมโหนัก!
มือบางเผลอปล่อยพลังปราณออกมา แสงสีส้มแผ่ออกเป็นวงกว้างน้ำในบ่อแตกกระจายไปทั่วจนเหลือปริมาณเพียงครึ่ง ต้นไม้ตกแต่งรอบบ่อน้ำกิ่งก้านแตกหักไม่เหลือเค้าเดิม
ข้าม่อฉ่ายอี้จะทำให้เจ้ามาสยบแทบเท้าข้าให้ได้ หลิวหนิงเฉิน
เพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้เว็บของคุณดียิ่งขึ้น และเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับคุณอย่างได้อย่างส่วนตัว ท่านสามารถอ่านนโยบายคุกกี้เพิ่มเติมได้ที่นี่
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว