ดวงใจสลักรัก

เจ้าคือความยุ่งยากของข้า (1)

“ข้าไม่ยินยอม หลานของข้ามีสามคน นังเด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าคนนี้ ข้าไม่นับ” เสียงเกรี้ยวกราดใส่บุตรชายของฮูหยินผู้เฒ่าดังขึ้นหลังจากที่อาหารค่ำจบลงพร้อมกับการแจ้งให้ทราบถึงการรับเลี้ยงเด็กทารกคนหนึ่งในฐานะบุตรของคหบดีจินหย่งชางและศรีสะใภ้จินสุ่ยเซียน

จินหย่งคังที่ตั้งใจจะแวะมาดูเด็กทารกน้อยที่เขาถือว่าเป็นภาระที่เขาต้องช่วยพ่อแม่รับผิดชอบในฐานะคนเก็บมาถึงกับสะดุ้งตกใจไปกับเสียงโมโหของคนเป็นย่าที่ตลอดเวลามีเมตตากับบ่าวไพร่

“ท่านแม่ ถือเสียว่าข้าขอร้องสักครั้งในชีวิต สุ่ยเออร์กินข้าวได้เยอะขึ้น ไม่ร้องไห้คิดถึงลูกอีก” จินหย่งชางถึงกลับคุกเข่าลงขออนุญาตกับฮูหยินผู้เฒ่า สำหรับแม่และภรรยาเป็นคนสำคัญในชีวิตของเขาไม่ต่างอะไรกับกิจการการค้าและวงศ์ตระกูลที่ต้องดูแลเลย การมีเด็กทารกน้อยไม่รู้ที่มาเข้ามาในชีวิตแล้วทำให้จินสุ่ยเซียนหายจากโรคทางใจได้แล้ว เขายินยอมที่จะทะเลาะกับมารดาบังเกิดเกล้า

“ข้ายังคงยืนยันว่ามีหลานแค่สามคน หากแต่เจ้าจะเลี้ยงดูเด็กนั้นเอาไว้ ในสายตาของข้า มันเป็นแค่บ่าวไพร่เท่านั้น ไม่มีสิทธิ์อะไรในทรัพย์สินของตระกูลจิน ยามตายก็ห้ามเอาฝังในสุสานของตระกูลจิน เจ้ารับปากข้าได้ ข้าจะหลับหูหลับตาให้เจ้า”

“ข้ายอมรับ ขอแต่สุ่ยเออร์ได้เลยเด็กคนนี้เอาไว้ในฐานะลูกสาวของนางเถอะ สำหรับข้าแล้วนางเป็นเด็กน้อย เปรียบดังผ้าขาวผืนหนึ่ง จะดีจะชั่วนั้นขึ้นอยู่ที่เราจะบรรจงสรรค์สร้างลงไป” จินหย่งชางได้แต่เตือนให้มารดาเท่านั้นแต่คงไม่อาจเปลี่ยนการตัดสินใจของมารดาเฒ่าได้ เวลาเท่านั้นจะพิสูจน์คำพูดของเขาได้

“เอาไว้ข้าจะคอยสอดส่องดูแล้วกันว่าเจ้าหรือข้าจะเป็นฝ่ายคิดถูกกว่ากัน กลับไปหาเมียของเจ้าเสียเถอะ ข้าอยากจะพักผ่อนแล้ว” จินหย่งชางได้แต่ยอมรับในเงื่อนไขที่ฮูหยินผู้เฒ่ายินยอม ยามรุกคืบได้ก็ต้องรู้จักยามถอย เขาไม่ควรสร้างแรงกดดันให้มารดาอาวุโสยอมรับเด็กทารกน้อยได้ในเวลานี้ เพียงเวลานี้คำอนุญาตไม่คัดค้านที่อ่อนลงก็น่าจะเพียงพอต่อการให้ภรรยาของเขาพอใจแล้วเช่นกัน สายตาของจินหย่งชางมองเห็นบุตรชายคนโตที่กำลังเดินตรงไปยังเรือนของจินสุ่ยเซียน ลูกชายคนโตของเขาเป็นพวกปากกับใจไม่ตรงกันอย่างรุนแรง นี่คงจะไปแอบดูเด็กน้อยที่เก็บมาซินะ

“หย่งคัง ค่ำมืดแล้ว ทำไมลูกชายของพ่อยังไม่เข้านอน พรุ่งนี้เจ้ามีการสอบเพื่อเข้ากองทัพไม่ใช่หรือ” เสียงทักทายของท่านพ่อทำเอาจินหย่งคังสะดุ้งสุดตัว เขาเห็นท่านพ่อทุ่มเถียงเสียงดังกับท่านย่า การยืนฟังผู้ใหญ่ทะเลาะกันไม่ใช่นิสัยที่ดีเท่าไร

“ข้าตั้งใจไปขอคำอวยพรจากท่านแม่ การไปสอบรอบนี้คงไปหลายวัน” จินหย่งชางยิ้มให้กับลูกชายปากแข็งของเขาและเดินเข้าไปโอบไหล่ของลูกชายเอาไว้

“เจ้าไม่ต้องกดดันตัวเองให้มากเกินไป พ่อไม่ได้เร่งรัดให้เจ้าโตเกินวัย เพียงทุกวันนี้เจ้าทำทุกอย่างได้ดีและมีความสุข นั้นคือเรื่องที่พ่อภูมิใจในตัวเจ้า”

“ท่านพ่อไม่โกรธที่ข้าชอบนำภาระมาให้หรือขอรับ” จินหย่งชางยกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย อย่างน้อยลูกชายจอมหาเรื่องของเขาก็เข้าใจการกระทำของตัวเองดีว่าก่อปัญหาอะไรมากมายตามมา

“แค่เจ้ารู้จักรับผิดชอบต่อภาระที่นำมาได้ พ่อมิจำเป็นต้องโกรธอะไรเจ้าเลย อีกหน่อยเจ้าต้องเป็นผู้นำตระกูล แม่เจ้าไม่หาภาระมาใส่ตัว ภาระบางอย่างก็วิ่งเข้าหาได้เสมอ แค่เจ้าเข้าใจและรับมือกับภาระนั้นได้ พ่อก็ดีใจแล้ว เข้าไปหาท่าแม่ของเจ้ากันเถอะ ป่านนี้คงกำลังเห่อน้องสาวคนใหม่ของเจ้าอยู่” จินหย่งชางเป็นฝ่ายตัดบทและเดินนำลูกชายเข้าไปยังจวนของมารดา

กลิ่นยาชโลมผิวแดงจากรอยกัดของมดแมลงโชยออกมาจากร่างกลมน้อยไม่ต่างอะไรกับก้อนแป้ง จินสุ่ยเซียนอุ้มเจ้าก้อนแป้งที่ดูขาวผ่องขึ้นหลังจากอาบน้ำอุ่นและได้ยาดีทาผิวจนน่าจะหายแสบร้อนแล้ว รอยยิ้มน้อยจนเห็นรอยบุ๋มปรากฏขึ้น มันทำให้จินสุ่ยเซียนตกหลุมรักความบริสุทธิ์ของก้อนแป้งน้อยในอ้อมกอดหมดหัวใจ

“นางฟ้าตัวน้อยของแม่ ลูกกลับมาหาแม่แล้วซินะ ไม่ทุกข์ไม่โศกแล้วนะลูกรัก แม่จะดูแลเจ้าให้เติบโตมางดงาม”

“สุ่ยเออร์ เจ้าต้องรู้จักพักผ่อนเสียด้วย หากแล้วข้าจะให้แม่นมเอานางไปดูแลเสียสองสามวัน” จินหย่งชางต้องเตือนศรีภรรยาให้ดูแลตัวเอง

“ข้ารู้แล้วว่าข้าจะต้องแข็งแรงให้มากกว่านี้ ข้าจะต้องดูแลพวกท่าน และลูกของเราไปจนกว่าจะแก่ผมขาวด้วยกัน ท่านพี่ไม่ต้องเป็นกังวล พรุ่งนี้เช้าข้าจะให้ท่านหมอถานจัดยาบำรุงทั้งตัวของข้าและเด็กน้อยคนนี้ด้วย อ้าว! หย่งคัง ยังไม่นอนอีกหรือลูก จะแวะมาดูน้องน้อยหรือ” จินสุ่ยเซียนหันไปเห็นบุตรชายคนโตที่ยืนอยู่ด้านหลังของคนเป็นพ่อ

“ท่านแม่มีความสุขเยี่ยงนี้ ข้าก็ไม่มีอะไรต้องกังวล ข้าตั้งใจจะแวะมาให้ท่านแม่อวยพรให้ข้าที่จะไปสอบเข้าร่วมทัพของแม่ทัพหยางในวันพรุ่งนี้” อาการปากหนักของลูกชายช่างขัดแย้งกับสายตาเข้มของเขาที่มองตรงมายังเจ้าก้อนแป้งกลมในอ้อมกอดของนาง

“แม่ขออวยพรให้ลูกชายของแม่ จินหย่งคังประสบความสำเร็จดั่งใจปรารถนา ลูกเป็นความภาคภูมิใจของแม่และวงศ์ตระกูล”

“ขอรับท่านแม่ ข้าจะไม่ทำให้ท่านแม่และท่านพ่อผิดหวัง ข้าจะต้องนำสร้างชื่อเสียงให้ตระกูลจินถูกจารึกเอาไว้ในแผ่นดินฉางอันนี้ให้จนได้”

“แม่และท่านพ่อของลูกรู้ว่าเจ้าต้องทำได้ ก่อนจะไปพักผ่อนเจ้าช่วยตั้งชื่อให้น้องน้อยของเจ้าเสียก่อน เจ้าเป็นคนพานางมาสู่อ้อมกอดของแม่ แม่ให้เจ้าตั้งชื่อให้น้องของเจ้าก็แล้วกัน” จินสุ่ยเซียนชักชวนให้จินหย่งคังเดินมาจ้องมองใบหน้าของเด็กทารกน้อยในอ้อมกอดของนาง

เด็กน้อยส่งมือน้อยออกมากำไปรอบปลายนิ้วชี้ของจินหย่งคังที่เผลอจิ้มไปที่รอยบุ๋มที่สองข้างแก้มของเด็กน้อย ตากลมโตรับกับขนตางอนงามของเด็กน้อย ช่างเหมาะเจาะกับโครงหน้ารูปไข่ของเด็กน้อยเหลือเกิน จินหย่งคังเผลอมองใบหน้าน้อยแสนน่ารักอย่างเพลิดเพลินจนจินสุ่ยเซียนต้องเตือนลูกชายออกมา

“เจ้าคิดชื่อให้น้องสาวของเจ้าได้หรือยัง”

“ข้าจะตั้งชื่อให้นางว่าเหมยเสียน ข้าเจอนางในฤดูที่ดอกบ๊วยเบ่งบาน”

“เป็นชื่อที่ดี ต่อจากนี้ไปเจ้าเป็นเหมยเออร์ของพี่หย่งคัง พี่หย่งฟาง และพี่หย่งฉีนะ” จินสุ่ยเซียนหันไปคุยเล่นกับเด็กน้อยที่ส่งเสียงหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อของตัวเอง

“หย่งคัง...น้องสาวเจ้าชอบชื่อที่เจ้าตั้งให้นะ” คำพูดของจินสุ่ยเซียนทำเอาจินหย่งคังถึงกับนอนหลับไปพร้อมกับรอยยิ้มตลอดทั้งคืน

©©©©©©©©

พี่หย่งคัง...หลงน้องตั้งแต่เด็กละคะ

เรื่องนี้เป็นเล่มยาวนะคะ ดูจากโครงเรื่องที่วางเอาไว้น่าจะ 80-100 ตอนจบนะคะ

ลงให้อ่านฟรีจนจบนะคะ

รีวิวจากผู้อ่าน 1 รีวิว
  • vrnk
    เมื่อ 5 ปี 4 สัปดาห์ที่แล้ว
    thank you ka
    • อ่านถึง : เจ้าคือความยุ่งยากของข้า (1)

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว