ดวงตาเทพเหนือโลก-ตอนที่ 90 ช่วงเวลาที่หวาดเสียว

โดย  sriwichai.swc

ดวงตาเทพเหนือโลก

ตอนที่ 90 ช่วงเวลาที่หวาดเสียว

ฮงเหมยที่ได้ยินเสียงเคาะประตูก็ตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก แม้แต่มือยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรวางไว้ตรงไหน! เพราะว่ามันเกิดขึ้นในชั่วพริบตาเดียว

ทันใดนั้นฮงเหมยก็คิดขึ้นมาได้ว่า เมื่อวานประธานจางบอกเธอว่าวันนี้จะมาหาเธอ!

และก็บอกว่าจะมาในเวลานี้ด้วยและเธอยังตอบตกลงไปด้วย แถมยังบอกอีกว่าวันนี้ตนเองไม่มีธุระอะไรและจะรอเธออยู่ที่บ้าน แต่ว่าเมื่อคืนเธอมีอะไรกับซ่งลุ่ยจนลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิทเลย! เมื่อฮงเหมยคิดได้ ประธานจางก็มาถึงแล้ว!

ฮงเหมยตื่นตระหนกและรีบวิ่งไปที่ห้องนอนของเธอเพื่อปลุกซ่งลุ่ย! เธอพูดกับซ่งลุ่ยว่า

“รีบตื่นเร็ว! ประธานจางมาแล้ว! เร็วเข้า เร็วเข้า!”

ซ่งลุ่ยที่กำลังหลับสนิทอยู่บนเตียงก็ถูกฮงเหมยปลุกให้ตื่นอย่างทันทีทันใด! ขยี้ตาด้วยความงัวเงีย เขาอยากจะพูดกับฮงเหมยด้วยความโกรธเมื่อได้ยินเธอบอกว่าประธานจางมาแล้ว!

ซ่งลุ่ยตกใจสะดุ้งโหยง ความง่วงนอนที่เหลืออยู่ก็หายเป็นปลิดทิ้ง!

ใบหน้าที่ตกใจของซ่งลุ่ยในเวลานั้น ไม่มีเวลาพอที่จะถามฮงเหมยว่า ทำไมประธานจางถึงมาที่นี่ได้ รีบลุกขึ้นแล้วลงจากเตียง เขามองหาเสื้อผ้าที่บนพื้น หลังจากแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ตรงออกไปยังห้องนั่งเล่นเพื่อจะออกไปข้างนอก

เมื่อฮงเหมยเห็นท่าทางแบบนั้น เธอจึงรีบหยุดซ่งลุ่ยเอาไว้และพูดเสียงต่ำๆกับเขา

“นายโง่หรือเปล่า! ตอนนี้ประธานจางอยู่ด้านอกตรงประตูนั่นหน่ะ ถ้านายออกไปทางนั้น นายจะไม่ถูกประธานจางเห็นเข้าหรือไง!”

หลังจากที่ฮงเหมยพูดจบ เธอก็รีบดึงซ่งลุ่ยเข้าไปที่ห้องนอน แล้วเปิดตู้เสื้อผ้าในห้องนอน ก่อนจะให้ซ่งลุ่ยเข้าไปซ่อน ในตอนนี้หัวของซ่งลุ่ยยังคงสับสนเหมือนเก่า อะไรก็คิดไม่ออกทั้งนั้น ไม่เพียงแต่จะทำตามที่ฮงเหมยจัดการโดยไม่รู้ตัวแล้ว ฮงเหมยให้ทำอะไรเขาก็ทำ เหมือนกับว่าเขามีสติมาก แต่ตอนคิดกลับสับสน

ซ่งลุ่ยทำตามคำสั่งของฮงเหมยและซ่อนตัวในตู้เสื้อผ้าหลังใหญ่นั่น

ฮงเหมยปัดกองเสื้อผ้าที่อยู่ด้านข้างของซ่งลุ่ย ที่ดูแล้วแทบจะไม่มีช่องว่างให้เขาเข้าไปได้เลย! และปิดประตูตู้เสื้อผ้าอย่างระมัดระวัง พร้อมทั้งเก็บของในห้องนอนที่รกนิดหน่อย เปิดหน้าต่างระบายอากาศ เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว ก็ค่อยๆปิดประตูห้องนอน

เมื่อฮงเหมยเดินมาถึงห้องนั่งเล่น เธอเดินเพียงแค่ไม่กี่ก้าวก็เดินไปถึงประตู เธอมองผ่านตาแมวที่ประตูออกไปก่อน เป็นอย่างที่คิดไว้ด้านนอกคือประธานจาง ที่มีสีหน้าดูรำคาญนิดหน่อย ในตอนนี้เธอปรับการหายใจที่หอบของเธอแล้วมองต่ำลงไปที่เสื้อผ้าของตนเอง ก่อนจะคลี่ที่ซ้อนทับกันเป็นชั้นๆออก จากนั้นก็ค่อยๆเปิดประตูแล้วพูดกับประธานจางด้วยรอยยิ้ม

“ประธานจาง มาแต่เช้าเลย! ฉันเพิ่งจะทำอาหารเช้าเสร็จ ถ้าอย่างงั้นคุณมาทานหน่อยไหม?”

ประธานจาง ที่รออยู่นอกประตูก็หงุดหงิดนิดหน่อยแล้ว แต่ว่าทันใดนั้นเธอก็รู้สึก ว่าเธอมาเช้าไปจริงๆนั่นแหละ ดังนั้นจึงอดทนรอและรอฮงเหมยมาเปิดประตู ตอนที่เธอจะอดทนไม่ไหวแล้วฮงเหมยก็มาเปิดประตูพอดี แต่เมื่อเห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มของฮงเหมย เธอก็ไม่ควรจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ สุดท้ายก็อดที่จะยื่นมือออกไปแล้วยิ้มไม่ได้

ดังนั้นเธอจึงพูดกับฮงเหมยว่า

“ขอโทษจริงๆที่มาซะเช้าเลย ฉันไม่มีธุระที่ไหน พอดีหยุดหนึ่งวันเลยมาหาเธอ เธอทำกับข้าวเหรอ? งั้นฉันฝากท้องด้วยนะ! ”

ประธานจางยิ้มแล้วเดินเข้ามา เมื่อฮงเหมยเห็นท่าทางของประธานจาง ที่เปลี่ยนเป็นปกติรวดเร็วขนาดนั้น เธอก็ส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มและปิดประตู ถึงแม้ว่าประธานจางจะเป็นคนที่ดูเย็นชาสำหรับคนที่ไม่คุ้นเคย แต่สำหรับคนที่ประธานจางเปิดใจอนุญาตให้ไกล้ชิด เธอก็จะแสดงตัวตนของเธออีกด้าน

แต่ถ้าอยู่ในบริษัท เรื่องงานและเรื่องส่วนตัวเธอจะแบ่งแยกให้ชัดเจน !

จางชูหยาที่เดินเข้ามาในห้อง มองดูบนโต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหาร ในตอนนั้นเธอก็หมุนตัวไปทางฮงเหมยและกล่าวชมเชย

“ฮงเหมย เธอไม่เคยพูดถึงฝีมือการทำอาหารของเธอเลย ถ้าใครได้เธอไปเป็นภรรยาต้องสบายมากแน่ๆเลย!”

หลังจากพูดจบเธอก็นั่งลงไปที่โต๊ะอาหารทันที และเริ่มหยิบตะเกียบขึ้นมากินข้าว เมื่อฮงเหมยได้ยินคำพูดของประธานจางแบบนั้น สายตาก็มองไปทางห้องนอนอย่างไม่รู้ตัว มันประหลาดจนยากที่จะเข้าใจที่เธอรู้สึกมีความสุขเมื่อได้นั่งทานข้าวข้างๆกับประธานจาง

ทั้งสองที่กินข้าวจนอิ่ม แล้วนั่งพิงเก้าอี้พลางลูบท้องที่ขยายจนใหญ่ ของตัวเองอย่างช้าๆ ส่งเสียงเรอออกมาด้วยความพึงพอใจ!

ในตอนนั้นเองประธานจางก็ลุกขึ้นยืนแล้วพูดกับฮงเหมยว่า

“ฉันไม่ได้เอาชุดสำรองมา ฉันอยากจะเปลี่ยนชุดที่มันสบายตัวกว่านี้ ชุดทำงานแบบนี้มันอึดอัดเกินไป”

ประธานจางพูดไปด้วยพลางเดินไปทางห้องนอนด้วย เมื่อฮงเหมยได้ยินประธานจางพูดแบบนั้น เธอก็ตื่นตระหนกในทันที และรีบเดินไปข้างหน้าประธานจางเพื่อที่จะหยุดเธอ จึงรีบบอกประธานจางไปว่า

“ประธานจาง ฉันมีแค่ชุดนี้ชุดเดียว ชุดอื่นไม่มีแล้ว ทั้งหมดเพิ่งถูกซักไป!”

สายตาในตอนที่ฮงเหมยพูดก็ไม่ได้ปรากฏความลุกลี้ลุกลนออกมา

เมื่อประธานจางเห็นท่าทีของฮงเหมย ที่ตอบสนองต่อเธอตอนที่เดินไปทางห้องนอน ก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ต้องมีลับลมคมในทันที เมื่อเร็วๆนี้ในห้องนอนนั่นจะต้องมีความลับอะไรบางอย่างแน่ๆ! หรือว่าเธอจะซ่อนใครไว้?

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ประธานจางก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันทีทันใด เพราะว่าผู้หญิงทุกคน ล้วนแต่มีความอยากรู้อยากเห็นอยู่ในจิตใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่ใกล้กับเรื่องที่เธออยากรู้อยากเห็น นั่นทำให้ยิ่งอยากจะค้นหาต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้!

ประธานจางมองดูใบหน้าที่แน่วแน่ของฮงเหมย ก็รู้ว่าตอนนี้ไม่ควรที่จะเดินเข้าไปอย่างแน่นอน ดังนั้นเธอจึงแกล้งทำเป็นล้มเลิกความคิด ไม่เดินเข้าไปแล้วพูดกับฮงเหมยว่า

“เอาล่ะ เอาล่ะ ฉันไม่เข้าไปหรอก! ดูเธอแปลกๆมีพิรุธนะ”

พูดจบก็หมุนตัวเดินไปนั่งโซฟาที่ห้องนั่งเล่นและเปิดทีวีดู

ฮงเหมยมองไปทางประธานจางอย่างไม่สนใจ ในใจก็โล่งอก แต่เมื่อกลับมาคิดอีกทีหนึ่ง สิ่งที่เธอทำมันมากเกินไปหรือเปล่า? ทำให้ประธานจางเข้าใจเธอผิด !

ทันทีหลังจากนั้นเธอก็เดินไปที่ข้างๆประธานจางและรีบอธิบาย

“ประธานจาง ไม่ใช่ว่าไม่อยากให้คุณเปลี่ยนเสื้อผ้า เพียงแต่ว่าเสื้อผ้าทั้งหมดของฉัน เพิ่งจะถูกซักและยังไม่แห้ง ตอนนี้ใส่ได้แค่ตัวเดียว ถ้าคุณไม่เชื่อคุณก็ลองไปดูที่ระเบียงได้ ตอนนี้ตากอยู่ และไม่ใช่ว่าฉันขี้เหนียวหรือใจแคบ”

น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความนอบน้อมและความจริงใจ

เมื่อประธานจางที่นั่งอยู่บนโซฟาได้ยินฮงเหมยพูดแบบนั้น เธอก็โบกไม้โบกมืออย่างสบายๆและพูดกับฮงเหมย

“ไม่เป็นไร ใครว่าเธอใจแคบกัน ก็พวกเรามีความเกี่ยวข้องกันฉันจะไม่เชื่อเธอได้ไง? ถ้าเธอมีธุระก็ไปทำ ถ้าหากไม่มีธุระอะไรแล้วก็เอาจานบนโต๊ะไปล้างเถอะ ฉันไม่ล้างนะ! ”

รีวิวจากผู้อ่าน
ยังไม่มีรีวิวสำหรับเรื่องนี้

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว