โรงเรียนมัทธยมสหลักษณ์
เป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงพอสมควรในเขตนี้
ตึกและอาคารเรียนก็ใหญ่โต
มีทั้งสนามกีฬาและอุปรณ์
อำนวยความสะดวกครบครัน
.
แต่ผมนั้นไม่ค่อยจะมีโอกาส
ได้ใช้มันสักเท่าไหร่
เพราะผมน่ะ...
.
จิ้ว!! ตูมมมม!!
"ฉันจะลงทัณฑ์พวกแกด้วยลำแสงพิฆาตรมาร! "
.
"เฮ้ยอ้วน!! มึงได้ตัวนี้แล้วเหรอวะ!
สายเปย์จริงๆ เลยนะ! "
.
"แหะๆ! กูทุ่มสุดตัวเลยนะเว้ย!
ค่าขนมทั้งเดือนเลย แดกเกลืออิ่มสัด! "
"เออๆ! ระวังผอมนะมึงไอ้ห่า! "
.
ใช่แล้วครับ... ผมชื่ออ้วน
และตัวอ้วนตามชื่อนั่นแหละ
ผมสูง 183 แต่น้ำหนักก็ปาไป 120
ทำให้มีรูปร่างคล้ายๆ กับหมีควายตัวใหญ่ๆ
ที่ยังพอดูดีก็เพราะว่ามีเชื้อขาวตี๋
ใส่แว่นกรอบเท่ห์ดีมีราคานิดหน่อย
เพราะบ้านผมค่อนข้างมีฐานะ
และผมก็เอาเงินเหล่านั้นมาเปย์กาชา...
แต่มันก็เป็นเงินค่าขนมของผม
คงไม่หนักหัวใครหรอกใช่มั้ย?
.
"อ้าว!! อ้วน!
มาแต่เช้าทุกวันเลยนะ! อิอิ! "
.
ที่มาทักผมคนนี้คือวินนี่
ผมไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมสาวๆ สมัยนี้
ต้องใช้ชื่อเล่นสองพยางค์กัน
แต่สาวสวยน่ารักอย่างวินนี่
จะใช้กี่พยางค์ก็ไม่มีปัญหาหรอกครับ!
.
เธอเป็นสาวม.5
ที่สวยล้ำหน้าเพื่อนๆ ไปเยอะมาก
โดยเฉพาะนมใหญ่ขนาดคัพเอฟนั่น
มันดันเสื้อขาวม.ปลายรัดติ้วเห็นเป็นก้อน
จนชายหนุ่มทั้งหลายที่มองเห็น
ต้องจ้องเป็นตาเดียวเชียวล่ะ!
.
ผมสีดำน้ำตาลไฮไลท์ปลิวสยาย
ใบหน้าของวินนี่สวยแบบเกาหลี
มีเสน่ห์น่าหลงไหล
เธอเองก็แต่งหน้าแนวๆ นั้น
และบอกกับผมว่ากำลังเป็นเด็กฝึก
ของค่ายเพลงค่ายหนึ่งด้วยล่ะ!
.
ลาลาลาล้า!
.
วินนี่มักจะดูมือถือ
และฮัมเพลงเกาหลีทุกๆ เช้า
เธอบอกว่าต้องฝึกเต้น
ฝึกร้องอย่างหนักเพื่อรอวันเดบิวท์
และผมได้เห็นใบหน้า
ที่ตั้งใจแน่วแน่ของเธออย่างใกล้ๆ
เพราะพวกเรานั่งอยู่ข้างกัน
ในฐานะเพื่อนสนิท!
.
เฮ้? อะไร? ไม่เชื่อผมรึไง?
.
สำหรับประเทศนี้ พอเริ่มเรียนม.ปลาย
อาจารย์ก็จะเริ่มคุมนักเรียนไม่อยู่
หรือไม่ก็ไม่อยากจะคุมแล้วซะมากกว่า
.
พวกเราจึงเริ่มจัดโต๊ะ
ตามใจตัวเองเป็นแถวยาวพรืด
และการที่เธอนั่งข้างผมนั่น
มันไม่ได้บังเอิญหรอกนะครับ!
.
"เฮ้วินนี่! การบ้านรายงานเธอเสร็จรึยัง! "
"เสร็จแล้วสิ! ใช่มั้ยอ้วน! "
"เอ๋!! เสร็จแล้วสิ! คิดว่าผมเป็นใครกัน?
ผมคืออ้วนนะ! ฮ่าๆ ๆ ๆ!! "
.
หมับ! อุ๊!
.
เธอจับแก้มของผมด้วย!
"จ้าๆ ๆ! ขอบใจนะอ้วนเพื่อนรัก! "
.
รอยยิ้มของวินนี่น่ารักเสมอ
เนื่องจากเธอต้องซ้อมการแสดง
ก็เลยไม่มีเวลาทำรายงาน
เธอจึงขอให้ผมช่วยในฐานะเพื่อนรักไงล่ะ!
.
"วินนี่ไปกินข้าวกัน"
"จ้า! ไปกันกร!
วินนี่ไปก่อนน้าอ้วนเพื่อนรัก! "
"อื้อออ!! "
.
กรคนนั้นเป็นเพื่อนร่วมชั้นที่นั่งข้างเธออีกฝั่งหนึ่ง
หมอนั่นเป็นนักกีฬาบาส โคตรเท่ห์โคตรหล่อ
เขาสนิทกับวินนี่กว่าผม
แต่นั่นมันก็ไม่ใช่เรื่องจะมานั่งอิจฉา
เพราะผมไม่ได้ใกล้เคียงกับว่า
จะได้ครอบครองวินนี่อยู่แล้วนี่?
.
ต๊อกๆ
.
แล้ววินนี่ก็เดินออกจากห้องไปกับกร
บั้นท้ายของวินนี่ที่ส่ายเด้งไปมา
ในชุดกระโปรงจีบกรมท่านั่น
สวยน่ามองชะมัด...
ผมชอบทุกอย่างที่วินนี่เป็นซะเหลือเกิน!
.
"น่าสมเพช..."
"เอ๋? "
.
และยัยคนที่พูดแขวะ
ขัดอารมณ์ผมคนนี้คือยัยฝ้าย
เธอมัดผมหางม้าเรียบร้อย และใส่แว่นตากลมๆ
นมเธอใหญ่คัพดีสมส่วนกับรูปร่าง
ไม่แต่งหน้าทาปาก หน้าตาจึงดูเรียบๆ ไม่โดดเด่น
แต่โครงหน้าของเธอก็นับว่าดีเลยเชียวล่ะ
นิสัยของเธอมีความเป็นผู้ใหญ่มากๆ
และเป็นเด็กเรียนดีคนหนึ่ง
.
เธอนั่งติดกันกับผมอยู่ทางข้างซ้าย
ตั้งแต่ผมจำความได้
ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็มักจะมีเธออยู่ใกล้ๆ
คอยมาแขวะด่าว่าผมอยู่เรื่อยๆ
มันน่ารำคาญเหลือเกิน...
โดยเฉพาะครั้งนี้ คำว่าน่าสมเพชนั่น
ผมจำไม่ได้ว่าเราสนิทกัน
ขนาดที่เธอจะมาด่าผมแบบนั้น
ได้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
.
"เธอมีปัญหาอะไรกับเรามากมั้ยฝ้าย?
ทำไมต้องมาคอยแขวะเราอยู่เรื่อย? "
.
"ก็นายมันน่าสมเพชจริงๆ นี่
เอาแต่เล่นเกมไม่สนโลกจนไม่มีเพื่อน
ข้อนั้นฉันไม่ว่าอะไร แต่ที่นายไปตาม
เป็นคนใช้ให้ยายวินนี่ต้อยๆ
มันน่าสมเพชมากมายจนฉันทนไม่ไหว! "
.
"หา? ตามเป็นคนใช้อะไร?
เพื่อนก็ต้องช่วยเพื่อนอยู่แล้ว
อีกอย่างฉันกับวินนี่เป็นเพื่อนรักกัน
ฉันช่วยเธอแล้วมีความสุข
ไม่เห็นจะหนักหัวคนอื่นตรงไหน?! "
.
ผมเริ่มขึ้นเสียงใส่ฝ้าย
ซึ่งเธอก็เริ่มหน้าบูดใส่ผมเช่นกัน!
.
"เพื่อนรัก? เฮอะ!
นายคนเดียวน่ะสิที่คิดว่ายัยนั่นเป็นเพื่อนรัก
ยัยนั่นคิดกับนายแบบไหนนายรู้ตัวบ้างรึเปล่า
เอาแค่ฉันหรือคนอื่นในห้อง
เห็นนายเป็นแค่ทาส
หรือคนใช้ของเธอเท่านั้นแหละ!
ยัยนั่นมันตอแหลหลอกใช้นาย
ทำไมนายถึงได้โง่แบบนี้นะ? "
.
"หา? อย่ามาว่าวินนี่นะ!!
ที่เธอต้องให้ฉันช่วยทำการบ้านหรือรายงานบ่อยๆ
เพราะเธอเตรียมตัวเป็นนักร้องเกิร์ลกรุ๊ป
ต้องซ้อมเต้นซ้อมร้องเพลงหรอก! "
.
"แล้วนายก็เชื่อเหรอ? "
"ทำไมฉันต้องไม่เชื่อล่ะ? "
.
"นายมีเฟสเธอหรือเปล่า? "
"หา? เธอไม่รู้รึไงว่าวินนี่ไม่เล่นเฟส!
เธอมีแต่ไลน์ที่คุยกับฉันประจำเท่านั้นแหละ! "
.
"โอ๊ยยยย! ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย
ทำไมนายถึงได้โง่จนไร้ยาจะเยียว
ขนาดนี้กันนะ?! "
.
ผมไม่เข้าใจว่าทำไมฝ้าย
ต้องด่าผมแรงขนาดนั้นด้วย
เพราะผมเองก็ไม่ค่อยได้เล่นเฟซเท่าไหร่...
พวกคุณคงนึกได้ว่า สำหรับคนที่ไม่ได้หน้าตาดี
หรือมีจุดเด่นพิเศษอะไร
เฟซมันก็ไม่ได้น่าเล่นเท่าไหร่นัก
.
โพสต์อะไรไปก็ไม่มีคนสนใจ
และยิ่งในนั้นไม่มีวินนี่
เลื่อนดูอะไรไปก็ไม่มีสิ่งที่ผมสนใจ
ผมก็เลยเลิกเล่นและเล่นแต่เกมดูอนิเมะไปเท่านั้น
แต่พอฝ้ายพูดแบบนั้น... ผมก็ชักจะสนใจขึ้นมา...
.
"เธอมีหลักฐานอะไรก็เอาออกมาโชว์สิ!
เอาแต่ด่าฉันเพื่ออะไร?
ความจริงฉันไม่เข้าใจด้วยซ้ำ
ว่าทำไมเธอต้องมาคอยจ้ำจี้จ้ำชัยฉันด้วย?
ให้กินน้อยๆ มั่งล่ะ ให้ออกกำลังกายบ้างล่ะ?
ฉันมันคนไม่มีเพื่อนไม่สนโลก
แล้วเธอจะมานั่งสนใจฉันทำไม?!
หรือเธออิจฉาวินนี่ที่เค้าสวยกว่า
มีคนคอยช่วยคอยดูแล ถึงต้องมาแขวะฉัน
แถมชิ่งกระทบวินนี่แบบนั้นน่ะ?!! "
.
ผมโพล่งออกไปอย่างใส่อารมณ์
แทนที่จะแค่ถามตรงๆ จากประโยคแรก
แต่ความคุกรุ่นของอารมณ์ที่สะสม
และความโง่เขลาของการเป็นเพียงวัยรุ่น
มันทำให้ผมพูดจาเลอะเทอะ
จนหลุดประเด็นไปไกล!
.
อึก!! กรอดดด!
.
เฮือออกกก!!
.
สีหน้าที่ฝ้ายแสดงออกมานั่น
ทำให้ผมรู้สึกผิดในใจอย่างมหันต์!
พวกเราอยู่โรงเรียนอนุบาลและประถมเดียวกัน
จนมาถึงชั้นมัทธยมตอนนี้
ผมรู้จักเธอมานาน... นานกว่าวินนี่มากนัก
.
"เออ!! มันก็แค่เพราะฉันรู้จักนายตั้งแต่เด็ก
ก็เลยไม่อยากให้นายกลายเป็นเจ้าโง่เท่านั้น!
แต่พอแล้วล่ะ!! ฉันพอแล้ว!!
เชิญนายโง่ให้พอใจเลย!!
ฉันจะไม่ยุ่งเรื่องของนายอีกแล้ว!! "
.
ฝ้ายระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างรุนแรง
เราไม่ค่อยมีเรื่องกันแบบนี้สักเท่าไหร่
แม้ว่าพวกเราจะไม่ค่อยได้สนิทอะไร
เพราะผมเป็นโอตาคุติดเกมติดอนิเมะไม่สนโลก
แต่ผมก็จำไม่ได้ว่าเคยทำร้ายจิตใจเธอ
ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่กัน???
.
"ฝะ...ฝ้ายเดี๋ยว...เราขอโทษ..,"
.
คำพูดนั้นมันช้าไปราวห้านาทีได้...
ฝ้ายลุกหนีจากข้างๆ ผมไปตั้งแต่พูดจบประโยค...
แต่ผมก็เพิ่งจะกลั่นคำพูดนั้น
ออกมาจากสติที่งงๆ เบลอๆ ได้...
.
เพื่อนๆ ในห้องที่ไม่เคยใส่ใจเรื่องของผม
ก็แค่หันมาดูนิดหน่อย แล้วก็ไม่ได้สนใจอะไร
หรืออาจจะเอาไปนินทา แต่ว่าผมไม่เคยสนเรื่องแบบนั้น
ทว่าเรื่องที่พูดจาทำร้ายจิตใจฝ้ายนั่น
มันกำลังฝังใจผมลงไปลึกมากและรุนแรง
อย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน...