ปรารถนาจอมมาร

ฝ่ายบุก

“ถ้าหากไม่มีธุระสำคัญ ขอเชิญนายท่านเหวินกลับไปได้แล้ว”

หญิงสาวข่มความโกรธ นางเดินสะบัดสะโพกไปเปิดประตูและผายมือส่งแขกกลับ แต่กลายเป็นว่านางเปิดประตูให้ทนายหลี่เดินเข้ามาแทน

“ขออภัยที่มาช้า บังเอิญมีเอกสารสำคัญที่จำเป็นต้องให้นายท่านเหวินกับคุณหนูว่านเซ็นขอรับ”

หลี่จางเข้ามาพร้อมกับกล่องใส่เอกสารที่ทำจากไม้เฮยถานสีดำเป็นมันเงา วางลงบนโต๊ะแล้วเปิดออกเพื่อหยิบเอกสารส่งให้แก่เหวินซู่และว่านฮวาเจิ้นคนละชุด

เมื่อว่านฮวาเจิ้นรับเอกสารมาอ่าน หน้ากากความเย็นชาที่สวมทับความหวาดกังวลทั้งหลายจึงค่อยๆ ผุกร่อนลงทีละน้อย จนในที่สุดก็เผยให้เห็นความอ่อนแอผ่านทางดวงตากลมโตคู่งาม แก้มเนียนสีชมพูกลับกลายเป็นสีซีดเผือด ริมฝีปากอวบอิ่มเม้มเป็นเส้นตรง

“เอกสารทุกอย่างนายท่านว่านหลงเขียนขึ้นต่อหน้าทนายหลี่ ขณะมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์”

เหวินซู่กล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ความเย่อหยิ่งจองหองขับเน้นให้ใบหน้าหล่อเหลาดูคมเข้มและร้ายกาจมากขึ้นเท่าตัว

“ทั้งหมดนี้... คงเป็นสิ่งที่ท่านรอคอยมาตลอดสินะ”

ว่านฮวาเจิ้นควบคุมน้ำเสียงไม่ให้สั่น มือเรียวจับพนักเก้าอี้ไว้แน่น ร่างบางนั่งลงบนเบาะนุ่มก่อนที่เข่าทั้งสองข้างจะอ่อนยวบแล้วทรุดฮวบไปกองพับลงบนพื้นไม้แข็งๆ

หญิงสาวกลืนก้อนสะอื้นเข้าไปในอก ขณะนึกย้อนถึงเรื่องราวมรสุมชีวิตที่เกิดขึ้นภายในครอบครัวช่วงสามปีก่อนหน้านี้ หลังจากที่มารดาของว่านฮวาเจิ้นเสีียชีวิต ว่านหลงก็หันไปเข้าบ่อนและติดเหล้าติดการพนันงอมแงมจนล้มป่วยไปอีกคน กิจการค้าขายของครอบครัวก็ถูกละเลย ทำให้นางซึ่งเป็นสาวรุ่นวัยสิบห้าปีต้องเข้าไปดูแลแทนแทบทุกอย่าง ยกเว้นเพียงแต่เรื่องกรรมสิทธิ์ด้านอสังหาริมทรัพย์

“จริงแท้ดั่งเช่นคำกล่าวหา” เขาก้มศีรษะน้อมรับ

“คฤหาสน์หมื่นบุปผา ที่ดินทุกผืนของตระกูลว่าน สมบัติและสิ่งของทุกชิ้น รวมถึงกิจการทุกอย่างตกเป็นกรรมสิทธิ์ของนายท่านเหวินซู่ตั้งแต่สองปีก่อนแล้วขอรับ เพียงแต่นายท่านเหวินอนุญาตให้ตระกูลว่านและบริวารอยู่ต่อในฐานะของลูกจ้าง” หลี่จางช่วยขยายความ

‘ฐานะลูกจ้าง’

ว่านฮวาเจิ้นพยายามนั่งนิ่งๆ ทั้งที่สมองของนางหมุนคว้างเหมือนโดนพายุคลั่งดูดเข้าไป ก่อนหน้านี้ครึ่งชั่วยามนางยังเชิดหน้าชูคอเป็นนายหญิงตระกูลว่าน ชั่วเวลาเพียงพลิกฝ่ามือนางกลับกลายเป็นเพียงลูกจ้างที่อาศัยใบบุญของอดีตคนเลี้ยงม้าไปเสียแล้ว!

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว