Enternity / คำสาปรักนิรันดร์-Chapter 2.1

โดย  PaT1994

Enternity / คำสาปรักนิรันดร์

Chapter 2.1

บทที่ 2

ยามเย็น วิทยาลัยวอเลตมิชชั่น นักศึกษาส่วนใหญ่เริ่มทยอยกันเลิกเรียนเดินทางกลับบ้าน หน้าวิทยาลัยยามนี้คลาคล่ำไปด้วยผู้คนมีทั้งกำลังเดินทางกลับและผู้มารอรับ ออมสินยืนอยู่กับเพื่อนของเธออีกสองคน ชะเง้อมองเข้าไปด้านในสีหน้าบอกบุญไม่รับ

“ทรงกลดมันไปใหนนะนี่ ป่านนี้ยังไม่ออกมาอีก”

“แก แก ใหนบอกไม่ใช่แฟนงัย จะยกให้ชั้นก็ไม่ยกให้ บอกว่าอย่าไปทำร้ายคนจิตใจใสซื่อ แล้วดูดิ แบบนี้หมายความว่างัยเนี๊ยะ” เติมขวัญแซวพร้อมกับพูดแดกดัน

“ฉันว่าแล้ว ปิดไม่มิดหรอกงานนี้ อีออมเอ๊ย แกจะหวงไปทำไมว่ะ ของดีๆ ก็ต้องยกให้เพื่อนดิ” กานดาเสริม

“นี่ นี่ ทั้งสองแหล่ะ พอเลย ทรงกรดมันซื่อ ไม่ทันพวกแกหรอก” ออมสินกล่าวทั้งที่ในใจเต้นระทึกตึกตัก ทรงกรดนะหรือซื่อ ดาวธุรการกับเพชรสารสนเทศเลิกตีกันหรือยังไม่รู้ เรื่องแย่งกันเข้าหาทรงกลดเมื่สามวันที่แล้ว

“สาวๆ ยังไม่กลับกันอีกเหรอ รถว่างนะ จะกลับด้วยกันมั๊ยเดี๋ยวพี่ไปส่ง” เสียงเครื่องยนตร์มัสแตงสีแดงเข้มดังกระหึ่ม ชายผู้หล่อเหลาโผล่หน้าออกมาตะโกนถาม3สาว

“พี่ดล มารอออมหรือคะ” กานดายิ้มตาหยีกล่าวถาม

“เพื่อนออมพี่ยินดีบริการทุกคนครับ”

สิทธิดลชายหนุ่มวัยยี่สิบปี ลูกชายนายพลกานจี นิสัยเจ้าสำราญ ติดว่ารูปหล่อพ่อรวยซ้ำยังทรงอิทธิพล เขาตามจีบออมสินมาตั้งแต่เริ่มเข้า ม.ต้น ความที่พ่อของทั้งสองสนิทกัน ต่างให้ท้ายเชียร์อย่างเต็มที่ ติดที่ออมสินไม่ได้มีปฏิกิริยาใดๆ ด้วยเลย แต่กลับให้ความสนิทสนมกับทรงกลด ทำให้สิทธิดลเกิดความอิจฉาและไม่พอใจอยู่ลึกๆ วันนี้ไม่มีทรงกลดตัวแทรก โอกาสดีๆ แบบนี้หาได้ยากต้องลุยเต็มที่หน่อย

“เฮ๊ย! ถนนพ่อมึงสร้างไว้หรืองัยวะ จอดรถขวางทางกู รีบหลบๆ ไปเลยมึง” เสียงตะโกนดังมาจากหนุ่มในจากัวร์สีดำ พร้อมกับบีบแตรใล่ แปร๊น! แปร๊น!เสียงดังลั่น หลายคนเริ่มหันมามอง

อ้าวอย่างนี้ก็สวยสิ ต่อหน้าสาวด้วย มีหรือสิทธิดลจะยอม” เมิงเป็นใคร ใสหัวไปใกลๆ รู้ป่าวพ่อกูเป็นใคร”

จากัวร์คันดำเปิดประตูออกทั้ง4บาน ปรากฏชายฉกรรจ์หกคนเดินลงมาจากรถ ท่าทางเอาเรื่องเต็มที่ คนขับเป็นหนุ่มร่างสูงลูกครึ่งยุโรปเอเชียกลาง แต่งตัวดี ผิวขาว หน้าตาเกลี้ยงเกลา เขาหันไปกระซิบกับชายเสื้อยืดขาวข้างๆ ฝ่ายนั้นพยักหน้าหงึกๆ ก่อนเดินจากไป

“มีเรื่องแน่ออม ทำงัยดี” กานดากระซิบเสียงสั่นมือไม้แกว่งไปทั่วทำอะไรไม่ถูก ออมสิน ก้าวออกหน้าเพื่อนทั้งสองยกมือกันห้าม ถึงเป็นหญิงแต่ใจนักสู้เกินร้อย

“สวยนี่น้องสาว แฟนไอ้เสาไฟฟ้านี่เหรอ รอเดี๋ยวพี่แจกโปรมันก่อนแล้วคืนนี้เราไปเที่ยวด้วยกันนะ” หนุ่มจากัวร์หันมามองสามสาว กล่าวยียวน เพื่อนข้างๆสี่คนหัวเราะหึๆ

สุดที่สิทธิดลจะทนได้ เขาปรี่เข้าหาหนุ่มจากัวร์ ยืนคั่นกลางระหว่างสามสาวกับห้าหนุ่มเกเรไว้ “นักเลงจริงนะมึงมา เดี่ยวกับกูป่าว”

“ได้เลยไอ้น้อง ต้องการโชว์ออฟ เด๋วจัดให้ เฮ๊ย พวกมึงดูน้องๆ เค้าให้ดี เดี๋ยวเสร็จเรื่องทางนี้กูจัดให้ รับรองพวกมึงได้กันทุกคน ฮ่า ฮ่า ฮ่า” กล่าวจบยังไม่ทันหันกลับ ขาซ้ายก็ฟาดออกเป้าหมายท้ายทอยสิทธิดล เสียงดัง พลั๊ก สิทธิดลเซไปตามแรงฟาด ล้มลงก้นกระแทกขอบฟุตบาส เสียงอุทานดัง “อึก” คงจะเจ็บจริงงานนี้

ไม่ยอมให้เสียฟอร์ม สิทธิดลรีบลุกขึ้น ตั้งการ์ดมวย เขามีดีกรีถึงแชมป์มวยเยาวชนสมัครเล่นภูมิภาคทักษินอาคเนย์ ล้มคู่ต่อสู้มาแล้วหลายสิบราย มีหรือจะยอมจบแค่นี้ เขายอมรับในใจ เจ็บจริงเว้ยคอเคล็ดหลายวันแน่ แต่ต่อหน้าคนที่หมายปอง ยอมได้ยังงัย

“อ๊ะๆ เป็นมวยเสียด้วย สนุกสิแบบนี้ กูชอบ” หนุ่มจากัวร์ยิ้มอารมณ์ดี กางขาออกเล็กน้อยเอียงลำตัวสี่สิบห้าองศา ขยับคอดัง กร๊อบแกร๊บ ขยับหัวใหล่ซ้ายขวา ท่าวอร์มสวยไม่เบา

เริ่มมีคนล้อมเข้ามามากขึ้น มองไปใกลๆ เห็นหนุ่มเสื้อยืดขาวยืนคุยกับตำรวจสองนาย น่าแปลกใจ ตำรวจทั้งสองนายมีท่าทีนอบน้อม พยักหน้า พร้อมกับมองมาด้วยสีหน้ายำเกรง นี่ยังมีคนที่ใหญ่แตะต้องไม่ได้อีกเหรอ สิทธิดลยกมือตั้งการ์ดสายตามองตรงไปที่หนุ่มจากัวร์ “ผั๊วะ” เสียงดังสนั่น มองไม่ชัดว่าเท้าเหวี่ยงมาเมื่อไหร่ สิ่งที่เห็นคือ สิทธิดลกระเด็นผงะถอยหลังส้นเท้าสะดุดฟุตบาทล้มลงไปอีกครั้ง หนุ่มจากัวร์ยังคงยืนนิ่ง ส่ายหัวไปมามองสิทธิดลด้วยสายตาเหยียดหยามและสมเพช “ฝีมือแค่นี้เหรอ คิดจะโชว์สาว หึ หึ เอางี้แล้วกัน วันนี้ถ้าต่อยถูกกูแค่ครั้งเดียว จะปล่อยมึงไป”

สิทธิดลเด้งตัวลุกขึ้นยืน สาวเท้าเข้าหา หวืด หวืด สวบ สวบ เขาออกหมัดชุด ซ้ายขวา ทุกหมัดจั่วลม เสมือนว่าหนุ่มจากัวร์เป็นดังภาพลวงตา ยิ่งออกหมัดใจสิทธิดลยิ่งหนักอึ้ง คิดว่าวันนี้คงไม่รอดแน่ นึกเจ็บใจตัวเอง ต้องมาพลาดท่าต่อหน้าชุมชนมากมายอย่างนี้ พ่อรู้โดนซ้อมน่วมแน่ ที่สำคัญ ออมสินน่ะสิ เสียเครดิตยับเลยกู

“ไม่สนุกแล้ววะ เอา ให้มึงอีกสิบหมัด ถ้าไม่โดน คิวกูบ้างหล่ะนะ”

หวืด หนึ่ง สิทธิดลตั้งใจออกหมัด ตาจ้องเขม็งไปที่หนุ่มจากัวร์

หวืด สอง หนุ่มจากัวร์แค่ขยับคอ เบี่ยงไหล่ หลบหมัด และมันก็เป็นเช่นนี้ทุกครั้ง

สาม สี่ ห้า หก เจ็ด แปด เก้า สิบ เสียงหนุ่มจากัวร์นับตามจำนวนหมัดที่สิทธิดลปล่อยออก ทุกหมัดไร้ผล สิทธิดลยืนเหนื่อยหอบยอมรับชะตากรรม

ไม่มีใครคาดคิดเงาท่าร่างพิสดารของหนุ่มจากัวร์ สะบัดตัวหมุนรอบกลางอากาศฝ่าเท้าขวาฟาดกลับหลังโดนแก้มซ้ายสิทธิดลอย่างถนัดถนี่ เสียงดัง กร๊วม กระดูกกรามหักเลือดสาดกระจาย ขณะที่ตัวลอยเท้ายังไม่ทันแตะพื้น เท้าซ้ายก็ถีบใส่ทรวงอกสิทธิดลอย่างจัง โครม ร่างสิทธิดลกระเด็นตามแรงถีบลอยกลางอากาศไปใกลกว่าสิบเมตร ทั้งร่างฟุบนิ่งราวก้อนเนื้อกองใหญ่กองหนึ่ง ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของสาวๆ ผสานเสียงครางของเหล่าผู้คนที่ยืนมุงดูด้วยความตกใจ ทั้งบริเวณเงียบกริบสามสาวกลุ่มออมสิน หน้าซีดเผือด จบกัน ที่พึ่งสุดท้ายหมดสิ้นแล้ว ทำงัยดีหล่ะทีนี้

ควรทราบว่า สิทธิดลคือลูกชายนายพลใหญ่ มีเรื่องกับเขาเปรียบดังมีเรื่องกับท่านนายพล นั่นคือมีเรื่องกับกองทัพ ใครกัน หนุ่มจากัวร์คนนี้คือใคร ช่างมีขวัญกล้าบังอาจนัก

มีหลายคนรู้จักหนุ่ม สาวเหล่านี้ดี หากว่าลูกชายนายพล กับลูกสาวผู้การ ยังไม่มีความปลอดภัย เมืองนี้คงจะอยู่ยากเสียแล้ว บรรดากลุ่มชนที่มุงดูต่างคิดไปต่างๆ นาๆ บางคนคิดถึง นู๊พสาด ผู้ที่โซเชียลปักหมุดติดแฮชแท๊กซ์ว่า “ที่ใดมีอาชญากรรม ที่นั่นมีนู๊พสาด” คงมีแค่ ปีศาจราตรี นู๊พสาด เท่านั้น ที่จะหยุดคนเหล่านี้ได้ แต่ทุกสิ่งเป็นเพียงเรื่องเล่า เป็นไปไม่ได้ที่ นู๊พสาด จะมาปรากฏตัว

“เอ๊ะ นั่น คุณชายน้อยนี่ ทำไมมานอนอยู่ตรงนั้น เป็นอะไรไป ไปดูกันหน่อยพวกเรา” เหมือนว่าจะไม่เลวร้ายจนเกินไป เรื่องดีๆ อาจเกิดขึ้น เมื่อนายทหาร3คนขับรถจิ๊พตีตราทหารผ่านมาพอดี เห็นมีคนมุงดูกันเยอะ ก็เกิดความสงสัยจึงลงมาดู

ทำความเข้าใจเสียหน่อยว่าทหารเมืองนี้เป็นทหารชั้นยอดของประเทศ ทุกคนมีศิลปะการต่อสู้เฉพาะตัวหนึ่งคน สามารถสู้ศัตรูได้พร้อมกันถึง 4 คน กลุ่มคนเห็นเช่นนั้นใบหน้าเริ่มมีแววปิติ มีคนดีมาปราบอันทพาลแล้ว งานนี้

“อ้าว คุณหนูออมอยู่ด้วยเหรอครับ เกิดอะไรขึ้นที่นี่เหรอ “ผู้หมวดหนุ่มคนนึงเอ่ยปากถามออมสินพร้อมกับรอยยิ้ม

“พี่หมวดเอก ระวังคนๆ นั้น อันตรายมาก เขาเป็นคนทำร้ายพี่ดล” ออมสินกล่าวกระซิบพร้อมกับปรายตามองหนุ่มจากัวร์

“น้อง มีปัญหาอะไรกัน ทำไมถึงได้ทำกันรุนแรงขนาดนี้” หมวดอีกคนถามหนุ่มจากัวร์ด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

“พี่ๆ ทหาร อยู่ในค่าย ดูแลปืนไปเถอะครับ เรื่องของวัยรุ่นอย่ายุ่งมากเลย เดี๋ยวจะเดือดร้อน” หนุ่มจากัวร์กล่าวขึ้นอย่างผยอง “หรือพี่จะโชว์ออฟอีกคน”

หมวดหัวร้อนอีกคนได้ยินสุดจะทน กระโดดตัวลอยเงื้อหมัดใส่หนุ่มจากัวร์มาแต่ใกล เสียงลมปะทะร่างดังหวืด กระทั่งทั้งสองอยู่ในระยะประชิด หนุ่มจากัวร์บิดเอวออกเล็กน้อย มือขวากลับคว้าหมัดของหมวดหนุ่มได้อย่างแม่นยำพร้อมกับมือซ้ายผลักกดข้อศอกหมวดหนุ่ม ได้ยินเสียงกระดูกหักดัง กร๊อบ! ตามด้วยเสียงร้องอย่างเจ็บปวดโหยหวน “อ๊าคค! แก แก” ร่างทรุดลงไปกองกับพื้นแขนซ้ายบิดเบี้ยวเสียรูปทรง

สองหมวดหนุ่มที่เหลือเตรียมจะเข้าชาร์ต บรรดาเพื่อนของหนุ่มจากัวร์ทั้ง4เคลื่อนตัวมายืนขวางหน้า มองพวกเขายิ้มๆ ส่ายหน้านิดๆ ในมือเพิ่มปืน Glock19 สี่กระบอก จ่อหัวหมวดทั้งสอง

“เฮ๊ย ให้เกียรติทหารหน่อยสิพวก อย่ารุนแรง” หนุ่มจากัวร์พูดยิ้มๆ อย่างผู้กำชัยชนะ “ที่นี่ไม่สนุกแล้ว เราไปที่อื่นกันเหอะ” พลางหันสายตามามองออมสินและพวก

“ไม่ลืมหรอก น้องคนสวย คืนนี้ให้เกียรติเป็นเพื่อนพวกพี่หน่อยนะ” หนุ่มจากัวร์เอ่ยปากชวนด้วยท่าทีสุภาพแต่ยียวนกวนเบื้องล่างสุดๆ

“สามสาวใจหายวาบ คิดว่าวันนี้คงไม่รอดเสียแล้ว” แก ๆ ชั้นลูกสาวผู้การธาตรีนะ แกอยากอยู่เมืองนี้อีกมั๊ย กล้ามีเรื่องเหรอ” ออมสินกล่าวเสียงสั่นทำใจดีสู้เสือ

หนุ่มจากัวร์หันมามองออมสินอย่างตั้งใจ “ผู้การธาตรี....” เขาทำหน้าสงสัยหันไปมองพรรค พวก” ฮ่า ฮ่า ฮ่า ใครวะ ผู้การธาตรี ไม่รู้จักหว่ะ น้องคนสวยคนนี้กูชอบหว่ะ” พูดเสร็จหันไปมองเพื่อนคนนึง” ไอเรือง ไปขับรถ คืนนี้กูขอทำความรู้จักกับน้องคนสวยนี้หน่อย ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

ดูเหมือนว่าไม่มีใครจะหยุดเหตุการณ์เลวร้ายนี้ได้เสียแล้ว “เชิญครับ น้องคนสวย ให้เกียรติเป็นเพื่อนเที่ยวพี่สักคืนนะครับ” หนุ่มจากัวร์พูดพร้อมกับค้อมตัวอย่างสุภาพ

“จะพาเพื่อนผมไป พี่ถามผมหรือยัง ว่ายอมมั๊ย” น้ำเสียงหนึ่งดังกังวาน ก้องไปทั่วบริเวณ

“ทรงกลด” ออมสินอุทานเสียงดัง แววตาเปล่งประกายสดใส ยิ้มอย่างมีความหวัง การปรากฏตัวอย่างถูกที่ ถูกเวลาของทรงกลดช่างวิเศษยิ่งกว่าพรใดๆ รื้นน้ำตาปรากฏ ขอบตาร้อนผ่าว ก้อนน้ำจุกเต็มลำคอ ความรู้สึกปลาบปลื้ม เวลานี้ตนเองมีความสุขที่สุดในโลก ออมสินลืมแม้กระทั่งอันตรายที่อยู่ตรงหน้า เวลานี้ โลกทั้งใบมีเพียงชายหนุ่มคนที่อยู่ตรงหน้านี้เท่านั้น

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว