จางลี่ตาเบิกค้างเมื่อนางสนมต้นห้องก้าวเข้ามาพร้อมทั้งคุกเข่าลงโดยมีทหารสองนายขนาบข้าง หลินเจนใบหน้าซีดเซียวและร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความหวาดกลัว
“ท่านหญิง...หลินเจิน...หลินเจินขออภัยด้วยเจ้าค่ะ”
“องค์ชาย...ท่านทำอะไรคนของหม่อมฉัน”
จางลี่หันไปถามร่างสูงใหญ่ที่เหยียดมุมปากออกและจ้องมองพระธิดาด้วยแววตาเหี้ยมเกรียม
“ถามตัวเจ้าก่อนดีไหม องค์ชายา ว่าเจ้าใช้คนของเจ้าให้ล่วงละเมิดคำสั่งของข้าออกไปจากตำหนักร้อยไหมด้วยเหตุอันใด”
“อ่า...เอ้อ...หม่อมฉัน...”
“ที่ตอบข้าไม่ได้เพราะทั้งหมดนี้เจ้าเป็นคนวางแผนการณ์ไว้ พระธิดาจางลี่...
“ข้าขอรับผิดต่อเรื่องทั้งหมดนี้เจ้าค่ะ”
หลินเจินหมอบกรานลงกับพื้นร้องไห้สะอึกสะอื้นยังความตระหนกแก่จางลี่อย่างยิ่ง นางไม่กล้าแม้แต่จะสบนัยน์ตาเหี้ยมของอ๋องแคว้นหลู่ ใบหน้าขององค์ชายตอนนี้เคียดขึ้งและจ้องมององค์ชายาราวกับว่าอยากแยกนางออกเป็นหมื่นชิ้น หลี่เจี๋ยเหยียดปากออกอย่างเยียบเย็น
“โม่โฉว นายทหารเอกของข้าเป็นคนไปพบนางกำนัลของเจ้ากำลังจะหลบหนีออกไปจากตำหนักร้อยไหม นางคงจะออกไปหาเหล่าทหารผู้ติดตามตามคำสั่งขององค์ชายาและยังได้สารภาพกับข้าว่านางคือคนวางเพลิงตำหนักร้อยไหมจนเกือบวอด…หึ! เจ้าควรรู้ว่าการขัดคำสั่งของเจ้าผู้ครองแคว้นสุดท้ายแล้วโทษจะเป็นเยี่ยงไร แม้เจ้าเป็นองค์ชายาของข้าแต่หากคนของเจ้ากระทำการละเมิดก็จะต้องได้รับโทษสถานหนักเท่านั้น!”
“อย่าเพคะ!”
จางลี่ถลาเข้าไปขวางหน้าหลินเจินเมื่อหลี่เจี๋ยชักดาบเล่มใหญ่ออกจากฝักที่ติดบั้นเอวของราชองครักษ์โม่โฉวซึ่งยืนนิ่งราวกับศิลากหลักก่อนจ่อลงไปจนปลายดาบคมทิ่มทะลุลงไปบนบ่าของจางลี่ หลินเจินเห็นธารโลหิตแดงเถือกบนบ่านายหญิงก็ร้องลั่น
“ท่านหญิง! ท่านหญิงเจ้าคะ!”
“มิเป็นไรดอก” จางลี่กัดฟันแม้เจ็บปวด “ถึงอย่างไรข้าก็ต้องรับผิดชอบต่อเรื่องที่เกิดขึ้น...ใช่เพคะองค์ชาย หม่อมฉันเองที่เป็นคนวางแผนให้นางกำนังเผาตำหนักเพื่อจะได้ออกไปพบคนของหม่อมฉันในวังของพระองค์ หลินเจินมิมีความผิด หากจะลงทัณฑ์หม่อมฉันก็ขอรับผิดทุกอย่างแต่เพียงผู้เดียว”
“ได้! หากเจ้าต้องการเช่นนั้น...ทหาร! จับองค์ชายาลงไปขังรับโทษโบยร้อยครั้งในคุกหลวงชั้นในสุด!”
เพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้เว็บของคุณดียิ่งขึ้น และเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับคุณอย่างได้อย่างส่วนตัว ท่านสามารถอ่านนโยบายคุกกี้เพิ่มเติมได้ที่นี่