มารโอสถเฟยหมิง(Yaoi)-1.จุดเริ่มต้น

โดย  Au2528

มารโอสถเฟยหมิง(Yaoi)

1.จุดเริ่มต้น


จินหลงเรียกให้เฟยหมิงมาพบตนเอง แท้จริงแล้วเพียงอยากเห็นหน้าและพูดคุยเพียงเท่านั้น และมีข้ออ้างคือการให้หลอมโอสถเพื่อให้ทุกอย่างสมเหตุสมผลเท่านั้น

" เป็นอะไรถึงสั่น......." จินหลงพูดออกมาสั้นๆ

" ไม่เป็นอะไรขอรับ.....ข้าเพียงไม่คิดว่านายท่านจะรินชาให้ข้าดื่มเพียงเท่านั้น....." เฟยหมิงรีบพูดออกมา

" อื้ม......" จินหลงพยักหน้าเข้าใจ

" เดือนหน้า......เข้าไปในหุบเขาต้องห้ามหรือไม่...." จินหลงพูดออกมาอีกครั้งแต่สายตายังจับจ้องใบหน้าของเฟยหมิง

" ไปขอรับนายท่าน......." เฟยหมิงพูดออกมา

" อื้ม.....ระวังตัวด้วย......อันตราย......" จินหลงพูดออกมาสั้นๆเพราะเขาไม่เคยต้องพูดอะไรกับคนอื่นนานๆเช่นนี้มาก่อน

" ขอรับนายท่าน......ข้าจะระวังตัวให้ดีขอรับ...." เฟยหมิงยิ้มออกมาเพราะรู้สึกเหมือนว่าจินหลงจะเป็นห่วงเขา

" อื้ม.....ดีแล้ว......เล่นหมากล้อมเป็นหรือไม่....." จินหลงพูดกับเฟยหมิง

" เป็นขอรับนายท่าน......" เฟยหมิงยิ้มออกมาเพราะตอนเด็กบิดาของเขาจะสอนเล่นหมากล้อมอยู่เสมอและยังมีเหล่าซือที่มาสอนตำราช่วยสอนด้วยตามแบบฉบับคุณชายทั่วไปที่ควรเป็น

" อื้ม......เล่นกับข้า...." จินหลงพูดออกมาเพียงสั้นๆ แล้วนำกระดานหมากล้อมออกมาจากถุงมิติมาวางเอาไว้บนโต๊ะน้ำชา และส่งตัวหมากสีขาวให้เฟยหมิงส่วนเขาใช้ตัวหมากสีดำ

" ขอรับนายท่าน...." เฟยหมิงรับกล่องใส่หมากสีขาวเอาไว้ จินหลงพยักหน้าให้เฟยหมิงเริ่มวางหมากก่อน


การเล่นหมากล้อมระหว่างจินหลงกับเฟยหมิงดำเนินไปเรื่อยๆด้วยความเงียบ เเละผ่านไปหนึ่งเค่อ จินหลงเริ่มรู้สึกว่าการวางหมากล้อมของเฟยหมิงนั้นมีชั้นเชิงอย่างหมาก และไม่คิดว่าขอทานตัวน้อยที่เขาพบเจอจะมีความสามสามารถสูงถึงเพียงนี้

" การวางหมากของเจ้าใช้ได้....." จินหลงพูดออกมา

" นายท่าน....ข้าอ่อนประสบการณ์ยิ่งขอรับ......" เฟยหมิงยิ้มออกมาจินหลงยังหัวใจเต้นแรงเมื่อมองรอยยิ้มที่ประดับอยู่บนหน้าของเฟยหมิง

" อื้ม......" จินหลงพยักหน้า เฟยหมิงสังเกตุเห็นว่าการพูดของจินหลงนั้นเหมือนกับคนพยายามที่จะชวนคนอื่นพูด แต่เจ้าตัวกลับพูดไม่เก่ง หรือไม่ถนัดสื่อสารออกมาทางคำพูด


การเล่นหมากล้อมยังคงดำเนินไปเรื่อยๆจนเวลาล่วงเลยมาถึงหนึ่งชั่วยามกระดานหมากล้อมเหมือนกับสนามประลองสมองดีๆนี่เอง และเฟยหมิงก็ใช้ความรู้ที่บิดาและเหล่าซือคอยสั่งสอนมาทั้งหมดเล่นกระดานหมากล้อมกระดานนี้ เพราะจินหลงวางหมากได้เหนือชั้นเป็นอย่างมาก

ทางจินหลงต้องประหลาดใจเพราะเฟยหมิงสามารถเล่นได้นานถึงเพียงนี้ และดูเหมือนว่าจะดิ้นรนและไม่ยอมแพ้ง่ายๆเป็นแน่ จินหลงสังเกตุการวางหมากและท่วงท่ากริริยาต่างๆรวมถึงท่านั่งที่หลังตรงตลอดเวลาทำให้ดูสง่าราวกับว่าถูกเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดี ทั้งๆที่ตัวเขาพบเจอเฟยหมิงครั้งแรกที่เมืองหลวง และสภาพคือขอทานตัวน้อยที่มีหนังหุ้มกระดูกและร่างกายมอมแมมเป็นอย่างมาก หากไม่เป็นเพราะดวงตาที่มีแรงดึงดูดเวลาที่เขามองเข้าไป ก็คงจะไม่ใยดีเก็บมาไว้ที่สำนักเพลิงโลกันต์อย่างแน่นอน เพราะชีวิตของเขาแทบจะไม่สนใจผู้อื่นเลย แม้แต่ผู้เป็นบิดาเขายังไม่สนใจเลยเช่นกัน

" นายท่าน.....ข้าวางหมากไม่ได้แล้วขอรับ....ข้าขอยอมแพ้......." เฟยหมิงพูดออกมา

" อื้ม........" จินหลงพยักหน้า

" กลับเถิด.....เดี๋ยวพวกศิษย์พี่จะเป็นห่วง....." จินหลงพูดออกมา

" ขอรับนายท่าน......ถ้าเช่นนั้นขอขอตัวก่อนขอรับ.....แล้วข้าจะนำโอสถมาให้ได้ที่ไหนขอรับหากหลอมรวมเสร็จแล้ว...." เฟยหมิงพูดออกมา

" ที่นี่.....บอกมาพบข้า....." จินหลงพูดออกมา

" ขอรับนายท่าน......" เฟยหมิงโค้งศรีษะลงคำนับและขอตัวเดินทางกลับภูเขาวิหกเพลิง

จินหลงมองตามแผ่นหลังของเฟยหมิงที่เดินออกไปจากศาลาเก๋งจีนกลางสระบัวแล้วยกยิ้มออกมา

" เติบโตขั้นมากเลยนะหงส์เพลิงตัวน้อยของข้า...." จินหลงพูดออกมาพร้อมรอยยิ้ม และเขาพบว่าหัวใจของเขายังเต้นแรงอยู่ และจะเป็นแบบนี้ทุกครั้งยามพบหน้าหรือแม้แต่คิดถึงใบหน้าของเฟยหมิง


อีกมุมหนึ่งด้านข้างสระบัวมีคนสองคนยืนมองเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในศาลาเก๋งจีนกลางสระบัว

" หงส์เพลิงตัวนี้เป็นใครมาจากไหน.....เจ้ารู้หรือไม่.." ชายวัยกลางคนพูดออกมา

" รู้เพียงว่าเป็นขอทานที่คุณชายรองเก็บมาจากเมืองหลวงขอรับ...ท่านเจ้าสำนัก...." ผู้ติดตามหรืององครักษ์พูดออกมา

" อื้ม.....เช่นนั้นหรือ....ช่างไม่เจียมตัว....จัดการเสีย....." บิดาของจินหลงหรือเจ้าสำนักเพลิงโลกันต์พูดออกมา

" ท่านเจ้าสำนัก......คงไม่ใช่เรื่องง่ายขอรับ.....เพราะผู้อาวุโสสี่รักใคร่เอ็นดูหงส์เพลิงตัวนี้มาก...อีกอย่างเหล่าศิษย์ทั้งห้าคนก็แทบจะดูแลหงส์เพลิงตัวนี้ตลอดเวลา.....ลำพังพวกองครักษ์ก็ไม่สามารถต่อกรกับศิษย์ทั้งห้าคนของผู้อาวุโสสี่ได้แล้วขอรับ.....หรือแม้แต่ตัวข้ายังพ่ายแพ้ต่อหลวนซานศิษย์เอกของผู้อาวุโสสี่เลยขอรับ......" ผู้ติดตามพูดออกมา

" อื้ม.....พี่สี่รักใคร่เอ็นดูหงส์เพลิงตัวนี้เช่นนั้นหรือ.....เช่นนั้นยังไม่ต้องทำอะไร...เฝ้าสังเกตุให้ดี..." บิดาของจินหลงพูดออกมา

" ขอรับท่านเจ้าสำนัก...." ผู้ติดตามพูดออกมา


วันเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนพัน เฟยหมิงได้หลอมโอสถที่จินหลงได้สั่งให้ทำจนเสร็จสิ้น และดูเหมือนว่าจินหลงจะให้สมุนไพรอีกจำนวนหนึ่งกลับมาเพื่อให้หลอมรวมโอสถชนิดอื่น และให้มาส่งเดือนหน้า เฟยหมิงก็รับมาทำด้วยความเต็มใจเพราะมีสมุนไพรเพียง20ชุดเท่านั้น และการหลอมสมุนไพรเพียง20ชุดนั้นใช้เวลาเพียงไม่นานเท่านั้น

" ศิษย์น้อง...พวกเจ้าเตรียมตัวพร้อมหรือยัง.....พรุ่งนี้และนะที่ต้องเดินทางเข้าไปในหุบเขาต้องห้าม...." หลวนซานพูดออกมา

" พวกเราเตรียมตัวเรียบร้อยแล้วขอรับ.....ศิษย์พี่......." เฟยหมิงยิ้มออกมาเช่นเดียวกับเทียนเหอ

" อื้มดีแล้ว......พรุ่งนี้พวกเราจะออกเดินทางกันแต่เช้า...." หลานซานพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม

!! ขอรับศิษย์พี่....!! เฟยหมิงและเทียนเหอพูดออกมาพร้อมกัน



เช้าวันใหม่ เฟยหมิงเตรียมตัวออกเดินทางไปยังหุบเขาต้องห้ามพร้อมกับเทียนเหอและบรรดาศิิษย์พี่ทั้งห้าคน

" พร้อมแล้วหรือไม่ศิษย์น้อง......." หลวนซานพูดออกมา

!! พร้อมแล้วขอรับ...ศิษย์พี่.....!! เฟยหมิงและเทียนเหอพูดออกมาพร้อมกัน

" อื้ม......เช่นนั้นไปกันเถิด........." หลวนซานหรือศิษพี่ใหญ่พูดออกมาพร้อมกับทะยานตัวขึ้นสู่บนอากาศด้วยวิชาตัวเบาและตามด้วยศิษย์พี่ทั้งสี่คน เฟยหมิงและเทียนเหอรีบทะยานตัวตามศิษย์พี่ทั้งห้าคนไปยังหุบเขาต้องห้ามที่ตั้งอยู่ด้่นหลังภูเขาเพลิงโลกันต์ที่เป็นสถานที่พำนักของเจ้าสำนักนั่นเอง

หงส์เพลิงทั้ง7จากขุนเขาวิหกเพลิงทะยานพริ้วกายอยู่บนอากาศด้วยท่วงท่าที่สง่างามราวกับชื่อเคล็ดวิชาตัวเบาที่ใช้ นั่นคือเคล็ดวิชาวิหกย่ำเมฆานั่นเอง พวกเขาทั้ง7คนใช้เวลาไม่นานนักก็เดินทางมาถึงเทือกเขาต้องห้าม แล้วพบว่ามีกลุ่มของศิษย์สำนักเพลิงโลกันต์จำนวนมากทะยอยกันเดินทางเข้าไปในเทือกเขาต้องห้าม

" เราจะลงเมื่อถึงชายป่าชั้นกลาง.....และจะเดินเท้าเข้าไปในป่าชั้นใน......" หลวนซานพูดออกมาแล้วทะยานตัวเข้าไปยังพื้นที่ของเทือกเขาต้องห้ามที่มีภูเขาใหญ่นับสิบลูกสลับซับซ้อนและเต็มไปด้วยต้นไม้มากมาย

การเดินทางเข้ามายังป่าชั้นกลางใช้เวลาจากชายป่าด้านนอก1ชั่วยาม ในที่สุดหงส์เพลิงทั้ง7ก็ทะยานตัวลงยังผืนป่าชั้นกลาง

" ระวังตัวให้ดี.....ป่าชั้นนี้ก็มีสัตว์อสูรวิญญาณอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก..." หลวนซานพูดกับเฟยหมิงและเทียนเหอ

!! ขอศิษย์พี่....!! เฟยหมิงและเทียนเหอพูดออกมาพร้อมกัน

" ไปกันต่อเถิด........" หลวนซานพูดออกมา และดูเหมือนว่าศิษย์พี่ทั้งห้าคนจะให้พวกเขาทั้งสองคนเดินอยู่ตรงกลางเพื่อความปลอดภัย

หลวนซานเร่งเดินนำทางทุกคนไปเรื่อยๆและเรียกสิงโตเพลิงซึ่งเป็นสัตว์วิญญานของเขาออกมาด้วย เพื่อให้ปล่อยพลังกดดันออกมาเพราะจะช่วยป้องกันสัตว์อสูรวิญาณระต่ำและระดับกลางไม่ให้เข้าใกล้พวกเขา

" พวกเราจะเร่งเข้าไปในป่าวิญญาณก่อน.....ยังไม่ต้องสนใจพวกสมุนไพรและทรัพยากรเพาะบ่มพวกนี้........เพราะในป่าวิญญาณมีเยอะกว่านี้มากนัก...." หลวนซานพูดออกมา เพราะรู้ว่าเฟยหมิงและเทียนเหอเริ่มสนใจสมุนไพรและทรัพยากรเพาะบ่มตามทางที่พวกเขาเดิน

" ศิษย์พี่ขอรับ...หุบเขาต้องห้ามจะมีม่านพลังเหมือนหุบเขาหมื่นศาสตราวุธหรือไม่ขอรับ....." เฟยหมิงถามออกมา

" ไม่มีหรอก.......แต่ไม่มีศิษย์คนไหนกล้าฝ่าฝืนคำสั่งขึ้นมาบนเทือกเขาต้องห้ามก่อนได้รับอนุญาต...." หลวนซานพูดออกมา

" ขอรับ.....แล้วเราจะอยู่ในเทือกเขาต้องห้ามได้กี่วันขอรับ...." เฟยหมิงถามออกมาอีกครั้ง

" สามวัน......ทางสำนักอนุญาตให้อยู่ในเทือกเขาต้องห้ามได้ปีละสามวันเท่านั้น...." หลวนซานตอบคำถามของเฟยหมิงออกมา

" ขอรับศิษย์พี่...." เฟยหมิงยิ้มกว้างออกมา และเดินตามหลวนซานที่เป็นผู้นำกลุ่มไปเรื่อยๆ


การเดินเท้าเข้ามายังป่าชั้นในหรือป่าวิญญาณใช้เวลาถึงสองชั่วยามเต็ม และเฟยหมิงพบว่าบริเวณป่าแถบนี้เริ่มผิดแปลกจากป่าที่เขาได้เดินเข้ามา เพราะรับรู้ถึงพลังปราณที่หนาแน่น และมีหมอกควันสีขาวบางเบาปกคลุมไปทั่วบริเวณ ต้นไม้และพืชพันธ์ุก็มีขนาดลำต้นใหญ่โต และที่สำคัญพื้นที่ป่ามีอากาศที่หนาวเย็นเป็นอย่างมาก

" พวกเราเดินอีกไม่ไกลจะเข้าถึงชายป่าวิญญาณแล้ว.....เรียกศาสตรวุธวิญญาณออกมาเตรียมความพร้อมด้วย......อาจถูกจู่โจมจากสัตว์อสูรวิญญาณได้......" หลวนซานพูดออกมาพร้อมกับเรียกกระบี่ที่เป็นอาวุธประจำตัวออกมาเช่นเดียวกับศิษย์พี่คนอื่นๆ เฟยหมิงและเทียนเหอก็รีบเรียกศาสตราวุธวิญญาณของตนเองออกมาทันที........

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว