หมอแพรวพรรณตื่นขึ้นแต่เช้าเธอออกมาหาอาหารรับประทานจนอิ่มจึงเดินดูต้นไม้ที่จัดไว้อย่างสวยงามอย่างเพลิดเพลินยนไม่ทันเห็นว่ามีคนกำลังเดินมาพอดีแล้วชนเข้าอย่างจังจนหน้าขม้ำเกือบจะล้มลงไปแต่พอดีมีลำแขนแข็งแรงยื่นมาช้อนร่างเธอไว้ำด้ทันท่วงที
เอ๊าะๆๆ .....อร้าายๆๆ ....ว้ายยๆๆ
อึ๊บบๆๆ ...อ่าาาส์ๆๆ ...อื่มมๆๆ
“...อื่มมๆๆ หนูเป็นอะไรมากมั้ย...”
เอ่ออๆๆ ไม่เป็นไรค่ะหนูต้องขอโทษนะค่ะที่เดินไม่ทันระวังตัวจนชนเอ่ออคุณ
หึๆๆ ไม่เป็นไรเรียกฉันว่า” ..ราฟส์..” ก็ได้
ฉันเป็นนายทหารร่างกายแข็งแรงใหญ่โต
แต่หนูน่ะตัวเล็กนิดเดียวแค่นี้เองฉันเลยไม่สะทกสะท้านอะไรเลย
หนูเสียอีกสิที่เกือบจะล้มลงกับพื้น
เอ่ออๆๆ แต่หนูเป็นฝ่ายผิดอยู่ดีที่เดินไม่ระวังเลยชนคุณ
“..หึๆๆ ไม่เป็นไรหลอกหนู..”
“...อื่มมๆๆ แล้วหนูชื่ออะไรล่ะ...”
อ๋ออๆ หนูชื่อแพรวพรรณค่ะ เรียกหนูว่าแพรวเฉยๆ ก็ได้ค่ะ
อื่มมๆๆ หนูแพรว ชื่อไพเราะดีแล้วหนูทำงานอะไรล่ะเนี่ย
เอ่ออหนูเป็นหมอทำงานที่โรงพยาบาลอยู่เวียดนามค่ะ
พอดีหนูมาทำงานที่งานศูนย์วิจัยที่เมืองไทยนี้สามเดือนแล้วก็กลับไปเวียดนามค่ะ
อื่มมๆๆ ...ฮื่ออๆๆ .....หึๆๆ
อ้าวๆ เหรอโลกชั่งกลมจังเลยพอฉันเป็นเจ้าของศูนย์วิจัยที่หนูพูดนั่นแหละ
เอ๊าะๆๆ เหรอค่ะหนูดีใจจังที่ได้รู้จักคนที่ทำงานที่เดียวกันอย่างนี้ปกติหนูไม่ค่อยมีเพื่อนน่ะค่ะ
นี่มีโอกาสได้รู้จักคุณราฟส์อย่างนี้หนูสึกดีใจมากค่ะ
แพรวพรรณรู้สึกถูกชะตากับผู้ชายสูงวัยคนนี้เป็นอย่างมากด้วยบุคลิกลักษณะท่าทางดูเขาเป็นคนอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
“..คุณราฟส์อยู่ที่เมืองไทยมานานหรือยังคะ..”
อ๋ออๆๆ ฉันอยู่ที่นี่มาเกือบจะสิบปีได้อีกแล้วฉันแต่งงานกับภรรยาของฉันเธอเป็นคนไทยฉันเลยย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่นี่เลย
เหรอคะดีจังเลยแล้วภรรยากับลูกของคุณเขาอยู่ที่นี่ด้วยใช่มั้ยค่ะ
เอ่ออๆๆ ฉันยังไม่ทันมีลูกกับภรรยาของฉันเลยเพราะเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ตั้งอต่เราแต่งงานกันได้เพียงปีกว่าๆ
อึ๊กกๆๆ ..เอ่ออๆๆ ..หนูขอโทษที่ถามเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของคุณแล้วทำให้คุณรู้สึกไม่ดี
หึๆๆ ..ไม่เป็นไรฉันทำใจกับเรื่องนั้นและยอมรับความจริงได้นานแล้วแหละหนูแพรว