บทนำ
19.12 น. เจ็ดยอดร้านอาหารและรีสอร์ทให้บริการที่พักริมทางและจำหน่ายของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว
“สวัสดีค่ะเสี่ย เชิญด้านบนค่ะ” ลูกค้าประจำที่คุ้นหน้ากันเป็นอย่างดีทำให้กลีบบัวผายมือเชื้อเชิญให้เดินขึ้นด้านบน ซึ่งมีพนักงานรอรับอยู่ตรงห้องโถงทางเดิน เธอมีหน้าที่ต้อนรับแขกด้านล่างเท่านั้น
“วันนี้ฉันไม่รับเนื้อ มาทานอาหารอย่างเดียว”
“อ๋อ...ถ้าอย่างนั้นเชิญที่ห้องวีไอพีหนึ่งค่ะ” กลีบบัวจำกัดสายตาให้มองแค่อติยะและยอมเสียมารยาทบริการเขาเพียงคนเดียวไม่สนใจชายอีกคนที่มาด้วยกันขณะเดินนำไปที่ห้องวีไอพีหนึ่งซึ่งเป็นห้องกระจกติดแอร์เย็นฉ่ำ ด้านในมีโต๊ะบริการลูกค้าอยู่ห้าโต๊ะ
“เสี่ยขอเหล้าด้วยนะ” เสี่ยหนวดรูปหล่อจงใจแหกกฎเมื่อได้เห็นดวงหน้าเล็กใสกิ๊กราวเด็กมัธยมนั้นเมินเขา
อิทธิฤทธิ์มั่นใจว่าภายใต้เสื้อยืดตัวหลวมโคร่งนั้นต้องซ่อนรูปร่างอวบอัดน่าฟัดเอาไว้ ของดีไม่ต้องโชว์ นี่แหละที่อยากได้จนต้องดั้นด้นมาถึงที่นี่ เจ็ดยอด แม้เธอจะแสดงอาการไม่ชอบขี้หน้าเขาก็ตาม เธอหนีฉันไม่พ้นหรอกนะสาวน้อย เร็วๆ นี้เราจะได้เจอกัน
“ถ้าอยากดื่มเหล้าเชิญด้านบนค่ะ หรือไม่ก็กลับไปที่พักเรามีบริการให้” กลีบบัวพยายามสุภาพอย่างที่สุด เธอได้รับคำสั่งให้ออกมารับรองแขก
วีไอพีซึ่งเข้าจองที่พักเมื่อช่วงบ่าย
สองหนุ่มสบตากันแล้วพร้อมใจกันส่ายหน้า ร้านค้าและรีสอร์ทให้
บริการที่พักริมทางและจำหน่ายของที่ระลึกแก่นักท่องเที่ยวบังหน้าเท่านั้น ลับๆ แล้วขายเนื้อ เนื้อในที่นี้หมายถึง ผู้หญิง มีสองประเภทคือ เนื้อสดชั่วคราวที่ชั้นบนของร้าน และเนื้อสวรรค์ที่เจ็ดยอดรีสอร์ท
“เสี่ยอยากดื่มเหล้าที่นี่ ดื่มเหล้าเคล้าเด็กเสิร์ฟหน้าตาแจ่มๆ ดูแล้วสดชื่นกระชุ่มกระชวย เสี่ยอยาก...เปลี่ยนบรรยากาศ หนูจัดให้หน่อยนะ” อิทธิฤทธิ์พูดไปยิ้มไป ดัดเสียงให้ฟังเซ็กซี่ สายตานั้นยั่วเย้าซุกซน
“เห็นทีจะไม่ได้ค่ะ” หน็อย...อีตาหนวด ยั่วประสาทเสียจริง กลีบบัวอยากกระตุกหนวดที่เต้นระริกเหนือริมฝีปากและปลายคางซึ่งสาวๆ เจ็ดยอดบอกว่าอยากโดนขยี้ อี๊...สกปรก
“ทำไมล่ะ เสี่ยเป็นลูกค้าวีไอพีนะ”
“ทางร้านเราเน้นเรื่องอาหาร และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ”
“งั้นก็ขอเป็นนมสด...จากเต้า” พูดจบอิทธิฤทธิ์ก็ใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มเคาะซองบุหรี่ในมือออกมาจุดทั้งที่รู้ว่าเจ็ดยอดห้ามสูบบุหรี่
“โปรดปฏิบัติตามกฎของร้านเราด้วยค่ะ” อีตาหนวดนี่ต้องการป่วนเธอ หนักข้อขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่มา อย่างน้อยเดือนละครั้ง และไม่ต่ำกว่าสิบครั้งแล้วที่เธอต้องออกมาเผชิญทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่
ปกติเกดแก้วจะห้ามไม่ให้เธอออกมาหน้าร้าน แต่พอถึงเวลาที่อีตาหนวดนี่มา เกดแก้วกลับออกคำสั่งให้เธอออกมาต้อนรับอำนวยความสะดวกให้ทุกด้าน มันหมายความว่าอย่างไร เธอไม่โง่หรอกนะ แต่ไม่มีทางเลือก
“ใช่ มึงอย่าป่วนเด็กสิวะ สั่งอาหารเถอะ” อติยะรีบปราม
“ไหนเด็ก เด็กที่ไหนกูไม่เห็นเด็กที่มึงว่า ถ้าเป็นยัยหนูคนนี้ไม่เด็กแล้วนะเว้ย กูเอาหัวเป็นประกันว่ามองไม่ผิด และถ้ายัยหนูอนุญาตกูพร้อมจะพิสูจน์ให้มึงรู้” อิทธิฤทธิ์จ้องมองใบหน้าจิ้มลิ้มผ่านม่านสีเทาของควันบุหรี่
“ไม่อนุญาตค่ะ เสี่ยยะขึ้นข้างบนเถอะนะคะหรือไม่ก็กลับที่พัก” กลีบบัวเป็นคนใจร้อนพอสมควรแต่จากบทเรียนที่ผ่านมาทำให้เธอต้องรู้จักข่มใจ ผู้ชายคนนี้มีเจตนาก่อกวนทั้งที่รู้กฎของร้านเป็นอย่างดี
“กูว่ามันชักจะมากไปแล้วนะไอ้เสี่ย ขึ้นข้างบนมั้ยหรือว่าจะกลับห้อง”
“ถ้ายัยหนูไปด้วยนะ”
“บ๊ะ” มันจะเล่นเด็ก
“ไม่ใช่หน้าที่ของหนูค่ะ เชิญเสี่ยด้านบนหรือไม่ก็กลับที่พักเถอะ
นะคะ วันนี้พี่วาวากับพี่ตองว่างยังไงก็เรียกใช้บริการได้ แต่สำหรับที่ร้านอาหารให้บริการแต่อาหารจริงๆ ไม่ว่าเสี่ยต้องการใครก็คงให้บริการตรงนี้ไม่ได้” สองสาวเป็นดาวของร้านเจ็ดยอดเพิ่งทำงานได้ไม่กี่ครั้ง
เกดแก้วเคยส่งสองสาวไปที่ไร่เทียมฟ้าตั้งแต่วันแรกที่มาถึงที่นี่
อติยะและอิทธิฤทธิ์เคยกินแล้วคงจะรู้ว่าอร่อยหรือไม่อร่อย
“ไอ้เสี่ย กูหิว มันทุ่มกว่าแล้วนะเว้ย กูถ่อสังขารมาถึงที่นี่เพราะอยากกินของอร่อย มึงก็รู้กูหิวข้าวไม่ได้หิวเนื้อ” อติยะใช้เท้าสะกิดเพื่อนพร้อมกับปรามด้วยสายตา
ร้านอาหารเจ็ดยอดบรรยากาศสบายน่านั่ง ตกแต่งร้านเรียบง่ายสะอาดตา อติยะติดใจบรรยากาศและรสชาติของอาหารเหมือนนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ที่เดินทางผ่านมาแล้วไม่พลาดที่จะชิมและช็อปของที่ระลึก และที่สำคัญคือราคาไม่แพง
ใกล้ๆ กันนั้นเป็นเจ็ดยอดรีสอร์ทบริการห้องพักที่เป็นธรรมชาติ สวย สะอาด บรรยากาศร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ การออกแบบห้องพักเป็นแบบ
วิลล่าแยกเป็นเอกเทศมีลานจอดรถด้านหน้าทุกห้อง แต่ไม่มีใครรู้ว่ารีสอร์ทเจ็ดยอดมีไว้สำหรับขายบริการทางเพศเท่านั้น
“มึงก็สั่งสิวะ กูปิดปากมึงไว้เสียเมื่อไหร่กัน”
“ก็ถ้ามึงไม่หุบปากกูจะได้สั่งมั้ย” เขาไว้หน้าเพื่อนรักมากที่สุดแล้วทั้งที่อยากกระตุกหนวดมันเสียเอง
“อ้าว เกี่ยวไรกับกูวะ”
“หนู ฉันเอาข้าวผัดกับโค้กนะ ด่วนเลย” อติยะตัดบทสั่งอาหารจานด่วนด้วยความโมโหเพื่อนรัก ทั้งที่อยากกินสเต๊กอย่างที่ตั้งใจไว้
“หนู ฉันเอาสเต๊กเนื้อสวรรค์ใส่กลีบบัวแทนกะหล่ำปลีนะ เอาสองกลีบไม่ต้องซอย”
“ไอ้เสี่ย” อติยะเตะหน้าแข้งเพื่อนเต็มแรง” สเต๊กที่ว่ามันมีเสียที่ไหนกัน เนื้อสวรรค์คือผู้หญิงซึ่งจัดไว้สำหรับขายบริการทางเพศที่รีสอร์ท ส่วนกลีบบัวก็คือแม่หนูน้อยแก้มแดงที่โกรธจนควันออกหูในตอนนี้
เขาไม่น่าพามันมาเลยพับผ่าสิ มาทุกครั้งมันก็ป่วนแม่หนูคนนี้ได้ทุกครั้งจนเขาระอา ยิ่งระยะหลังมันขยันมาจนน่าสงสัยถามทีไรมันก็บอกว่ามาเที่ยว ทั้งที่แต่ก่อนๆ นานครั้งถึงจะโผล่หัวมาให้เห็น
กูก็อยากเที่ยวบ้างสิวะ ไม่ได้รึไง รึว่ามึงจะให้กูซื้อทัวร์ขายบริการ
นักท่องเที่ยวที่มากับทัวร์แบ่งออกเป็นสองประเภท คือ ทัวร์ท่องเที่ยวและเซ็กซ์ทัวร์ ประเภทแรกแวะมากินอาหารอร่อยและช้อปของที่ระลึกแล้วก็กลับเพราะทางร้านจะบอกว่าห้องพักเต็มตลอด ประเภทที่สองมาเพื่อซื้อบริการทางเพศอย่างเดียวโดยหัวหน้ากรุ๊ฟทัวร์จะติดต่อประสานงานกับผู้จัดการร้านไว้ล่วงหน้าแจ้งจำนวนผู้เข้าพักเพื่อเตรียมเนื้อสวรรค์ไว้รับรองและอำนวยความสะดวกตลอดจนถึงความปลอดภัยให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ
“อะไรของมึงวะ” อิทธิฤทธิ์ตาเขียวปั้ด
“กูน่าจะถามมึงมากกว่า” อติยะเค้นเสียงตอบ
กลีบบัวสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนตอบว่า
“ไม่มีรายการอาหารที่เสี่ยต้องการค่ะ หนูขอตัวนะคะ”
“ยังไปไม่ได้” อิทธิฤทธิ์คว้าแขนหญิงสาวเอาไว้
“ปล่อยหนู” กลีบบัวสะบัดแต่ไม่หลุด
“ฉันยังไม่ได้สั่งอาหาร”
“เสี่ยสั่งไปแล้วแต่ไม่มี ถ้าอยากได้จริงๆ เดี๋ยวหนูจะเข้าไปบอกในครัวให้พี่เขาจัดพิเศษมาให้ตามที่เสี่ยต้องการ”
“สเต๊กเนื้อสวรรค์นะ”
“ค่ะ ปล่อยหนูสิคะหนูจะเขียนรายการอาหาร”
อิทธิฤทธิ์นึกชมที่หญิงสาวฉลาดเอาตัวรอดไว้ก่อน สเต๊กเนื้อสวรรค์มีที่ไหนกัน เธอรับปากอย่างขอไปที
“อย่าลืมเหล้าด้วยนะ”
“ไอ้เสี่ย กลับไปกินเหล้าที่ห้อง มึงดูปากกูนะ กูหิว ง่วง เหนื่อย อยากพักเว้ย” ไม่มีเวลาไร้สาระ เพื่อนเขามัวแต่เล่นกับเด็กเมื่อไหร่เขาจะได้กินข้าวเสียที กระเพาะทะลุกันคราวนี้ รู้อย่างนี้พาไอ้ยุ่งมาด้วยก็ดีมันไม่เคยปล่อยให้เขาอด
อติยะใช้ทางหลวงสายนี้ยามเข้าเมืองระยะทางนั้นไม่ใช่ใกล้ๆ ดังนั้นเขาจึงเลือกใช้บริการร้านเจ็ดยอดเพราะขึ้นชื่อเรื่องความอร่อย สด สะอาด ถูกหลักอนามัยไม่ว่าอาหารหรือหญิงบริการ
เขาเลือกพักที่รีสอร์ทเพราะต้องค้างคืนก่อนจะออกเดินทางต่อในเช้ามืดของวันรุ่งขึ้น บางครั้งอยากนอนพักอย่างเดียวไม่อยากกินเนื้อสดก็สั่งทางร้านว่างดรับซึ่งจะได้รับสิทธิพิเศษนั้น
อติยะเป็นลูกค้าประจำกระเป๋าหนักใช้บริการร้านเจ็ดยอดมานานรู้จักเจ้าของร้านเป็นอย่างดีมีบริการส่งเนื้อไปที่ไร่เทียมฟ้าเป็นประจำทุกเดือน เนื้อสาวขาวสดคุณภาพคัดระดับเกรดเอ สนนราคาสตาร์ทที่ห้าหมื่นบาทในฐานะคนกันเองถ้ายังซิงก็เป็นอีกราคา
ราคาขายบริการทั่วไปที่ร้านหากไม่มีเงินจริงๆ จะซื้อกินไม่ได้ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักที่มากับทัวร์จากประเทศเพื่อนบ้าน คุณภาพคับหว่างขาของสินค้าทำให้ลูกค้าไม่เคยบ่นเรื่องราคา ซื้อทัวร์มาเที่ยวไม่เคยขาด
อติยะจัดว่าฟุ่มเฟือยกินของแพงและต้องกินทุกเดือนไม่เคยขาดต่างกับอิทธิฤทธิ์ที่ยุ่งอยู่กับงานจนไม่มีเวลาสนใจเรื่องการปลดปล่อย เขาจะกินก็ต่อเมื่อลงมาพักผ่อนกับเพื่อนรักในช่วงเวลาที่ว่างเว้นจากงานเท่านั้น ระยะหลังแอบมาถี่เพราะติดใจหญิงสาวหน้าใสวัยละอ่อนชื่อ กลีบบัว
อติยะไม่เคยรู้เพราะอิทธิฤทธิ์นั้นมีเวลาพักผ่อนไม่แน่นอนเขารู้แต่ว่าหากเพื่อนรักว่างเมื่อไหร่เป็นต้องลงมาหาเขาที่ร้านเจ็ดยอด ซึ่งถือเป็นจุดนัดพบก่อนจะเดินทางกลับไปไร่เทียมฟ้าบางครั้งก็หิ้วผู้หญิงติดมือกลับ
ไปด้วย
“ได้ค่ะ หนูจะเข้าไปบอกพี่เขา ขอเป็นกรณีพิเศษ” ไม่ติดว่าสงสารเพื่อนเขาเธอจะลองเล่นกับเขาไม่เลิกเหมือนกัน
ไม่มีใครยียวนกวนหัวใจได้เท่ากับเสี่ยอิทธิฤทธิ์ มาทีไรเป็นต้องได้เจอเธอทุกครั้ง โอกาสมันช่างประจวบเหมาะเสียเหลือเกิน และทุกครั้งเขาขยันทำให้เธอของขึ้นจนอยากจะด่าให้แรงๆ คำสั่งสอนของหยกและแหวนแทบจะรั้งเอาไว้ไม่อยู่
ลูกค้าคือพระเจ้า พระเจ้าของเจ๊แกนะ อย่าแตะเป็นอันขาดถ้าไม่อยากเดือดร้อน
“ไม่ต้องหรอกหนู อย่าลำบากเลย”
“ลำบากอะไรวะไอ้ยะ มึงไม่กินกูกิน” อิทธิฤทธิ์ขึงตาใส่เพื่อนก่อนจะหันไปแกล้งเด็กต่อ
“หนูมาชงเหล้าให้เสี่ยด้วยนะ ไม่ต้องไปบริการโต๊ะอื่น เสี่ยจ่ายไม่อั้น” หน้าใสๆ ไร้เครื่องสำอาง ผมซอยสั้นเหมือนเด็กผู้ชายแต่กลับดึงดูดใจอิทธิฤทธิ์จนอยากได้มานั่งใกล้ รู้สึกสนุกที่ได้ต่อปากต่อคำกับเธอ ดูนัยน์ตาเป็นประกายวาววับนั่นก็รู้ว่าเธอชังน้ำหน้าเขาเพียงใด
“หนูมีหน้าที่ช่วยในครัว วันนี้ออกมาหน้าร้านเพราะมีกรุ๊ปทัวร์มาลงพร้อมกัน” กลีบบัวอธิบายอย่างใจเย็น
“หนูบอกเองนี่นาว่าออกมาบริการลูกค้าที่หน้าร้าน แล้วมันผิดตรงไหนกะอีแค่ขอให้บริการโต๊ะเสี่ยโต๊ะเดียว”
“ไม่ได้ค่ะ หนูไม่ใช่เด็กชงเหล้า”
“ไม่ขายเนื้อ ไม่ชงเหล้า อยู่ในครัว ออกมาช่วยด้านหน้าเพราะเด็กเสิร์ฟไม่พอ เสี่ยเข้าใจทุกอย่างแต่อยากให้หนูออกมานั่งใกล้ๆ ชงเหล้าให้มีปัญหามั้ย”
“มีแน่ค่ะ เพราะหนูจะไม่ทำอย่างที่เสี่ยต้องการ ขอตัวก่อนนะคะ”
“เดี๋ยว ยังไปไม่ได้ เสี่ยยังไม่อนุญาต เข้าใจเสียด้วยว่าเสี่ยเป็นลูกค้า ลูกค้าคือพระเจ้า ดังนั้นหนูจะขัดใจเสี่ยไม่ได้”
กลีบบัวนับหนึ่งถึงสิบในใจไม่เอาน้ำสาดใส่ผู้ชายตรงหน้า ลูกค้าคือพระเจ้า พระเจ้าของเกดแก้วไม่ใช่พระเจ้าของเธอ ทำไมเธอต้องตามใจเขาด้วย กลีบบัวสูดลมหายใจเข้าลึกยิ้มหวานประดับริมฝีปากแต่ไปไม่ถึงดวงตา
“พระเจ้าคือใคร หนูไม่รู้จัก” อยากเล่นเธอก็จัดให้
กลีบบัวชำเลืองมองหาทางหนีทีไล่เผื่อว่าจะมีลูกค้าพิเศษเข้ามาห้องวีไอพีหนึ่งซึ่งขณะนี้มีแขกอยู่โต๊ะเดียว ห้องวีไอพีมีสองห้องคือหนึ่งกับสอง ห้องวีไอพีสองลูกค้าเต็มทั้งห้าโต๊ะ ห้องวีไอพีหนึ่งสำหรับลูกค้าที่พิเศษจริงๆ ว่างมาตั้งแต่กลางวันเพิ่งมีอติยะและเพื่อนเข้ามาใช้บริการเป็นโต๊ะแรกของคืนนี้
“นี่เธอ” อิทธิฤทธิ์สะดุ้ง เรียวหนวดเหนือริมฝีปากกระตุก
“เฮ้ย...ไอ้เสี่ย ใจเย็นๆ สิวะเพื่อน” อติยะกลั้นหัวเราะที่เพื่อนรักโดนกระตุกหนวด สมน้ำหน้าโดนเสียบ้างก็ดี
“มึงให้กูเย็น จะเย็นได้ไงวะ แต่ละเดือนมึงทำเงินให้ร้านเจ็ดยอดขั้นต่ำก็ครึ่งแสนเลยนะเว้ย”
“เด็กมันจะไปรู้อะไรด้วยวะ ไม่ใช่เจ้าของร้านสักหน่อย กูเตือน
มึงแล้ว” สมน้ำหน้าแต่เขาพลอยอายไปด้วยอติยะลดเสียงลง สายตาของ
หญิงสาวที่จ้องมองมาทำให้รู้สึกอายพิกล
ใครใช้ให้จ่ายล่ะ โง่! ซื้อบริการสนองตัณหาตัวเองแล้วยังจะแค่นเอามาอวด บ้าหรือเปล่า ถึงจะรวยก็เถอะ เอาไปทำบุญสร้างวัดบริจาคคนยากไร้ยังจะเกิดประโยชน์มากกว่า กลีบบัวไม่ได้สนใจอิทธิฤทธิ์เธอหันไปพูดกับอติยะซึ่งไม่งี่เง่าพอจะพูดกันรู้เรื่อง
“เสี่ยทราบกฎของร้านเราดีใช่ไหมคะ”
“ใช่แล้วหนู ฉันรู้ดี แต่เพื่อนฉันคงไม่รู้ ฉันขอโทษแทนมันด้วยก็แล้วกันนะ” อติยะสุภาพเกินความจำเป็น เขาอายสายตาตำหนิของหญิงสาวตรงหน้าที่เพื่อนรักเขาทำตัวเป็นอันธพาล
“ค่ะ เสี่ยจะรับอะไรเพิ่มมั้ยคะ” ค่ะ แต่ไม่ยกโทษให้ ไอ้คนที่ไม่รู้นั้นแกล้งไม่รู้ต่างหากแล้วทำไมต้องยกโทษให้เขาด้วย
“เพิ่มสเต๊กเนื้อกวางมาสองที่ครับ”
“เฮ้ย ใครกินวะ กูไม่กินนะเว้ย มึงก็รู้กูแพ้เก้งกวาง” อิทธิฤทธิ์ล้งเล้งใส่เพื่อน แล้วหันกลับไปดึงข้อมือหญิงสาวที่กำลังจะเดินหนีเอาไว้ได้อย่างรวดเร็ว
อติยะส่ายหน้าเมื่อสเต๊กเนื้อกวางก็รั้งเพื่อนรักเอาไว้ไม่อยู่ รู้อย่างนี้สั่งสเต๊กเนื้อหมาให้มันก็ดี
“ฉันยังไม่อนุญาต หนูยังไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น”
“ปล่อยหนู” กลีบบัวหมดความอดทนหญิงสาวสะบัดมือหลุดสุดแรง ใบหน้าเล็กใสกิ๊กบึ้งตึงเอาเรื่องแทบจะเผาเขาให้มอดไหม้ด้วยสายตา
“อย่ามาลวนลามกันนะ”
“เธอมีอะไรน่าลวนลาม ฮึ...ยัยหนู” อิทธิฤทธิ์กวาดสายตามองขึ้นลงตั้งแต่หัวจรดเท้า
“ก็ดีแล้ว” กลีบบัวขยับถอยหลังไปสองก้าวเว้นระยะห่างเอาไว้ด้วยท่าทีระมัดระวังตัว
“บัวกลับเข้าไปในครัวช่วยพี่นิดเถอะ พี่จะดูแลเสี่ยเอง”
กลีบบัวโล่งอกที่หยกเดินเข้ามา “ค่ะ พี่หยก”
“เดี๋ยว ยังไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น” อิทธิฤทธิ์เดินไปดักเอาไว้
“คุยกับหยกก็ได้ค่ะเสี่ยฤทธิ์”
“เธอชื่อบัวรึไง” ปกป้องกันเสียจริง
“ไอ้เสี่ย พอได้แล้ว” อติยะพยายามห้ามเพื่อนเสียงแข็ง ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมอิทธิฤทธิ์เล่นไม่เลิก เหล้าก็ไม่ได้ดื่ม ไม่ได้เมาสักนิดมันเจตนาหาเรื่องเด็กทำไมกัน
“อะไรวะไอ้ยะ มึงให้กูยอมได้ไงวะ กูไม่เข้าใจ”
“กูต่างหากที่ไม่เข้าใจ เป็นบ้าอะไรของมึงวะ เล่นไม่เลิก”
“เสี่ยให้บัวเข้าไปข้างในเถอะนะคะ ในครัววุ่นมากเอาไม่ทันเลยค่ะ”
“เธอชื่ออะไร”
“ก็หยกไงคะ” หยกตอบสีหน้างุนงงเล็กน้อย
“แล้วฉันกำลังพูดกับใคร ฉันพูดกับบัวนะ ไม่ได้ต้องการพูดกับหยก ทำไมเข้าใจยากเย็นกันซะจริง”
“หมาบ้า”
“บัวนี่ยังไงนะ” หยกหนีบเนื้อที่เอวกลีบบัวเบาๆ เป็นเชิงบอกให้เงียบรอจังหวะปลีกตัวเข้าหลังร้าน ซึ่งคนที่โตกว่ามีประสบการณ์มากกว่าเคยสอนเสมอว่า ถ้าเลี่ยงไม่ได้ให้เงียบซะแล้วหาวิธีหนีอย่างละมุนละม่อม ไม่ใช่มาต่อปากต่อคำหรือด่าแขกเช่นนี้
“ฉันต้องการคุยกับกลีบบัวไม่ใช่หยก” อิทธิฤทธิ์ขึงตากร้าวใส่หยก พร้อมจะกวาดสิ่งกีดขวางออกไปให้พ้น ถ้าทำได้เขาอยากกระชากลากกลีบบัวออกไปจากร้านเจ็ดยอดเสียด้วยซ้ำ
หยกหลบตาวูบ เธอรู้เขาจักดีเพราะเป็นเพื่อนของอติยะลูกค้าคนสำคัญของร้าน ชายตรงหน้าไม่ได้เมาหรือเป็นอันธพาลแต่กำลังทำตัวเหมือนอันธพาลเธอไม่เข้าใจว่าทำไม กลีบบัวทำอะไรให้เขาไม่พอใจ ลูกค้าวีไอพีเสียด้วยเรื่องถึงหูเกดแก้วเดี๋ยวก็ซวยกันหมด
“ค่ะ หยกทราบแต่พอดีในครัวต้องการตัวบัวด่วนมากจริงๆ เดี๋ยวหยกจะบอกผู้จัดการให้ปิดห้องวีไอพี จัดเด็กใหม่มาให้เสี่ยนะคะ”
“ไอ้เสี่ยกลับกันดีกว่ามั้ย” ชักจะเอิกเกริกไปกันใหญ่แล้วสิ เขามาหาข้าวกินไม่ใช่มาหาเรื่อง อติยะพยายามดึงเพื่อนรักกลับที่พัก
“มึงเงียบไปเลยไอ้ยะ”
“มึงนั่นแหละเงียบ แล้วฟังกู” อติยะเซ็งสุดขีดเขาอยากจะตบหัวเพื่อนสักป้าบ เอากำปั้นยัดปาก หรือไม่ก็ก้มลงกราบตีนเพื่อนงามๆ แล้วบอกว่า หยุดเถอะ กูหิว กูเหนื่อย กูอยากพัก กูไม่อยากมีเรื่องวันนี้ไม่มีอารมณ์
ถ้าอยากได้เนื้อก็สั่งที่ร้านสิมีแจ่มๆ ทั้งนั้น หาแบบที่นี่ไม่ได้อีกแล้ว จะเอาหยาดฟ้ามาดินขนาดไหนก็ได้ทำไมต้องตอแยเด็กด้วย
“กลับห้องสั่งเหล้ามากินดับอารมณ์หงุดหงิด และหามือนวดจับเส้นเก่งๆ คลายเมื่อยจะดีกว่า กูว่ามันสุดยอดกว่ากันเยอะเลยนะ ใช่ไหมหยก หาหมอนวดจับเส้นเก่งๆ ให้สักคนสิ” ดีกว่าหาเรื่องไม่เลิก
“ได้ค่ะเสี่ย หยกจะจัดให้เดี๋ยวนี้เลย”
“ไม่ต้องหาที่ไหนหรอก เอาหนูบัวนี่แหละไปนวด” อิทธิฤทธิ์ยิ้ม
ยียวนพร้อมกับพูดต่อว่า
“ถ้าจับถูกเส้นหื่นก็นาบต่อ เนื้อสดเสี่ยจ่ายไม่อั้น และถ้าเจ็ดยอดวิเศษจริงๆ เสี่ยจะเทหมดหน้าตักเลย” อิทธิฤทธิ์ยักคิ้วกับหญิงสาวที่ยืนหน้าแดงก่ำปากเม้มเข้าหากันใบหน้าบึ้งตึง
“ไอ้เสี่ย บ้าเอ๊ย” อติยะส่ายหน้ากุมขมับปวดหัวหนึบคันมือคันไม้แทบจะทนไม่ไหว
“ไอ้เสี่ยหนวดอวดรวย ไอ้หมาบ้าลามกนิสัยแย่หน้าเหมือนแย้ไม่มีใครเอาทำพันธุ์ เห้ชัดๆ” เห้คือเหี้ย กลีบบัวด่ายาวราวกับท่องไว้ พร้อมกับหยิบเหยือกน้ำเปล่าบนโต๊ะมาถือไว้ขณะที่อิทธิฤทธิ์นั่งอ้าปากค้าง ไม่คิดว่าคำหยาบจะออกมาจากริมฝีปากจิ้มลิ้ม
“บัว อย่านะ”
หยกห้ามไม่ทัน กลีบบัวสาดน้ำใส่หน้าชายปากเสียเสร็จก็ใช้เหยือกปาหัวเขาสุดแรง
ซ่าส์! “เฮ้ย!” โป๊ก!
กลีบบัววิ่งหนีเข้าหลังร้านเป็นที่สะใจของอติยะที่คอยระวังความปลอดภัยให้หญิงสาวเขากลายเป็นพวกของเธอไปเสียแล้วเพราะหมั่นไส้เพื่อนรักที่ทำตัวเกเร ระรานเด็กในร้านอาหาร
“ขอโทษค่ะขอโทษ หยกขอโทษแทนเด็กด้วยนะคะ” หยกวิ่งตามออกไปอีกคน
“ฉิบหายอะไรอย่างนี้วะ ห่าเอ๊ย...ฉันจะขยี้เธอให้เละยัยกลีบบัว” เสียงสบถวุ่นวายกว่าจะสงบลงได้อติยะแทบจะเอากำปั้นยัดปากเพื่อนรักให้เงียบ
“กูอยากขยี้มึงเหมือนกัน”
อติยะล็อกคอเพื่อนเอาไว้แน่น สายตาเป็นประกายเรืองรองที่จ้องมองไปหลังร้านนั้นทำให้เขาไม่ไว้ใจ กว่าจะลากออกไปนอกร้านได้เล่นเอาเหนื่อย
“มึงไม่เข้าข้างกู”
“เออ...กูไม่เข้าข้าง ก็มึงบ้า แก่กะโหลกกะลาทำตัวเหมือนกุ๊ยข้างถนน กูล่ะอับอายขายขี้หน้าแทบจะดำดินหนี หาเรื่องได้กระทั่งกับเด็กร้านอาหาร กฎของร้านมึงรู้ดีแต่ยังเสือกแหกทุกกฎ อยากปี้มึงก็สั่งสิวะ จะหาเรื่องให้ได้อะไรขึ้นมา” อติยะบ่นยาวขณะลากอิทธิฤทธิ์ไปตามเส้นทางกลับที่พักซึ่งอยู่ไม่ไกล
“มึงจะสวดกูอีกยาวมั้ย”
“อีกยาว เพราะมึงทำให้กูขายขี้หน้า”
“ไอ้เฮียหน้าบาง”
“เออ กูไม่หน้าด้านเหมือนมึง”
อติยะผลักเพื่อนรักเข้าห้องพัก อิทธิฤทธิ์กระชากเสื้อโยนลงตะกร้าด้วยความหงุดหงิดแกมโมโห บ่นไปพลางถอดไปพลางจนเหลือตัวเปล่าแต่ยังไม่เลิกบ่น ไม่ยอมจบเรื่อง คิดถึงหน้าใสๆ ดวงตาวาวๆ ที่สาดน้ำใส่เขาของก็ยิ่งขึ้น
“มึงไม่น่าลากกูกลับ”
“อยู่ให้มึงหาเรื่องต่อรึไง”
“มึงกลัวไรวะ”
“ไม่ได้กลัวเว้ย แต่อาย ได้ยินมั้ยว่าอาย กูย้ำว่าอายมากๆและถ้าคนของร้านเจ็ดยอดจะประเคนตีนให้มึงกูก็คงไม่สู้ ไม่กล้าสู้เพราะมึงผิดที่ไปหาเรื่องเขาก่อน เด็ก สตรี และคนชรา สุภาพบุรุษควรจะละเว้น แล้วนี่มึงเป็นบ้าอะไร ลามกกระทั่งกับเด็ก ทำตัวเหมือนเสี่ยหัวงู อยากก็เอาเงินซื้อสิวะ เอาที่เขาเต็มใจ”
“เด็กตรงไหนวะ” นมตั้งเต้าเสียขนาดนั้น
อิทธิฤทธิ์เห็นเข้าไปถึงข้างในก็ตอนที่เธอยกแขนขว้างเหยือกเพื่อปาหัวเขา เขาเลยเอาคืนไม่ทันเพราะมัวแต่จ้องมองของดีที่ถูกใจ เสื้อตัวใหญ่แขนย้วย คิดแล้วขนลุกของขึ้น
“มึงอย่าลามกกับกู”
“ลามกอะไรวะ กูยังไม่พูดอะไรเลย”
“คนลามกอย่างมึงคิดว่ากูรู้ไม่ทันรึไง ดูตามึงก็รู้ว่ามึงกำลังคิดไปไหนต่อไหน”
“ไอ้ยะ กูเพื่อนมึงนะเว้ย”
“ก็เออสิวะ ถึงได้รู้ดี และถ้าไม่ใช่เพื่อนนะกูไม่เตือนหรอก นั่นเด็ก
นะเว้ยถึงยี่สิบหรือยังก็ไม่รู้ กูไม่ชอบให้มึงยุ่งกับเด็ก”
“ห่า มึงจะยุ่งอะไรกับรสนิยมกูวะ”
“ถ้ามึงชอบจริง ก็เข้าหาเขาดีๆ สิวะ มึงอายุสามสิบเก้านะเว้ยไม่ใช่สิบเก้า”
“ใครชอบ มึงอย่าเข้าใจผิด รสนิยมกูชอบเด็กก็จริงแต่ไม่ใช่เด็กที่ชื่อกลีบบัวเว้ย หน็อย...พูดออกมาได้ไม่รู้จักพระเจ้า สักวันเถอะกูจะทำให้ครางหงิงๆ เรียกหาพระเจ้าที่บอกไม่รู้จัก แล้วยังด่ากูอีกนะ จะเอาคืนให้สาสมคอยดูเถอะไม่สว่างไม่เลิกเอาให้ก้นระบมนั่งไม่ติด จะแทงให้พรุน”
อติยะส่ายหน้าระอาใจกับเพื่อนรัก ทั้งหมดทั้งสิ้นที่ทำลงไปก็เพราะอยากได้เด็กแต่ปากแข็ง มันโง่หรือเปล่าวะทำไมไม่เข้าหาเด็กมันดีๆ
“สรุปว่าที่หาเรื่องเนี่ยเพราะมึงอยากกินกลีบบัวแต่ไม่ได้กิน เพราะเสี่ยหนวดอย่างมึงไม่เคยรออะไรนาน ก็เลยพานให้หงุดหงิดว่างั้นเถอะ” ความจริงเพิ่งมาเฉลย สรุปว่าที่เพื่อนเขาเทียวมาเทียวไปอยู่หลายเดือนเพราะเด็กที่ชื่อกลีบบัว
“ก็เออสิวะ เฮ้ย...ไม่ใช่ กูเจ็บใจเว้ย”
ห่าเอ๊ย...เชื่อตายล่ะ ไม่อยากกินมึงไม่ตอแยให้เสียภาพพจน์หรอก อติยะค่อนขอดเพื่อนในใจด้วยความหมั่นไส้ไม่ได้พูดออกไปให้มากความเพราะขี้เกียจทะเลาะกับเพื่อนรัก
“เออนี่ไอ้ยะ...กูสงสัย ถามหน่อยสิ มึงก็รู้ว่ากูไม่ชอบสเต๊กเนื้อกวาง มึงเสือกสั่งทำไมวะ”
“กูไม่สั่งสเต๊กเนื้อหมาให้มึงบุญเท่าไหร่แล้ว โทษฐานที่ปากหมา”
“เหี้ยยย!”