เกริ่นเรื่อง
พอร์เซโฟนีมองอาหารบนโต๊ะที่ถูกเตรียมไว้มากมาย ก่อนจะหันมามองฮาเดส ราวกับจะถามว่า นางจำเป็นต้องกินจริงหรือ
เขาทำเพียงพยักหน้าให้แทนคำตอบ และมองดูว่าเพอร์เซโฟนีจะยอมหยิบจับอาหารเมื่อไหร่
ฮาเดสขมวดคิ้ว เมื่อเห็นนางหยิบผลทับทิมขึ้นมา แล้วมองอย่างครุ่นคิด
“กำลังจะเปลี่ยนใจใช่ไหม”เขามองเพอร์เซโฟนีด้วยสายตาแพรวพราว สื่อให้เห็นถึงความรักความต้องการที่มากมายมหาศาล “หรือจะอยากเป็นสมบัติของข้าตรงนี้ เวลานี้”
“ท่าน!”นางแทบไม่อยากจะเชื่อว่าจะได้ยินถ้อยคำที่ชวนให้วาบหวามจากชายผู้ปกครองยมโลกที่ใครๆ พากันเกรงกลัว
ฮาเดสดึงร่างนางมานั่งบนตัก จากนั้นก็ใช้มือบีบเปลือกผลทับทิมก่อนจะแกะให้นางได้กิน
เพอร์เซโฟนีมองเม็ดทับทิมอย่างชั่งใจ แต่เมื่อมองมาทีฮาเดสซึ่งมองอยู่ก่อนแล้ว นางจึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากหยิบเม็ดทับทิมขึ้นมากินเพียงหนึ่งเม็ดเท่านั้น
“กินอีก”เขาสั่ง เมื่อเห็นเพอร์เซโฟนีไม่มีท่าทางว่าจะกินเม็ดต่อไป
“ข้าทำตามที่พูดไว้แล้ว ข้ากินไปแล้ว ท่านก็ควรปล่อยข้าไป”นางบอก
“จะกินแค่นั้นจริงๆ หรือ”ฮาเดสถาม ก่อนจะก้มลงมาหอมแก้มเพอร์เซโฟนี
“ท่านรับปากแล้วว่าจะไม่ทำอะไรข้า”นางทวงคำสัญญา
“ข้าจะไม่ทำอะไร แต่ไม่ได้หมายความว่า การสำรวจเรือนร่างเจ้าเป็นการผิดคำพูด”ฮาเดสเจ้าเล่ห์ หาทางลวนลามนางจนได้ “เจ้าเองกินเม็ดทับทิมไปแค่เม็ดเดียว แล้วจะเรียกร้องให้ข้าทำตามสัญญา มันไม่เอาเปรียบกันมากไปหน่อยหรือ”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นเพอร์เซโฟนีก็รีบยื่นมือไปหยิบเม็ดทับทิมมากินอีกเม็ด
“ข้ากินเพิ่มแล้ว”นางบอก
“นั่นก็ยังน้อยเกินไป”เขาปลดไหล่เสื้อของเพอร์เซโฟนีลงมา จึงเผยให้เห็นเนินอกขนาดไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป
นางรีบยกมือขึ้นมาปิด ไม่ปรารถนาให้ฮาเดสได้เห็น
“จุ๊บ!”เขาจูบไหล่ของเพอร์เซโฟนี ..ชายาสุดที่รัก ขณะที่มือขวายื่นไปหยิบเม็ดทับทิมขึ้นมาป้อนให้นาง
เพอร์เซโฟนีไม่อาจขัดขืน จึงจำเป็นต้องกินเม็ดทับทิมนั้น