“แล้วเธอจะรับผิดชอบยังไงล่ะ จะแต่งงานกับลูกสาวฉันเหมือนที่ป้อเขาคิดหรือเปล่า” กฤติชัยประชด เขาไม่คิดว่าทั้งปริตต์ ซึ่งเป็นดารากำลังมีชื่อเสียงโด่งดัง และพันแสง ลูกนักการเมืองผู้ร่ำรวย จะมีใครสักคนยอมแต่งงานกับกันตา ผู้หญิงธรรมดาทั้งรูปร่างหน้าตาและฐานะได้จริง
“ใช่ครับ ผมตั้งใจมาแล้วว่าจะรับผิดชอบ ด้วยการแต่งงานกับเกี๊ยว”
“คุณ! พูดบ้าอะไรเนี่ย” กันตาตกใจ
“หึ! คิดว่าการแต่งงานมันรับผิดชอบอะไรได้ ลบล้างความเสียหายของลูกสาวฉันได้เหรอ เอาเถอะ ถึงมันอาจจะทำให้ใครต่อใครพอจะคิดได้ว่าลูกสาวฉันจูบกับแฟนตัวเอง ไม่ได้ไปมั่วกับผู้ชายที่ไหน แต่นี่มันประเทศไทย สังคมไทย การเที่ยวจูบกันโจ่งแจ้งแบบนั้นมันก็น่าเกลียดอยู่ดี ต่อให้เป็นผัวเมียกันถูกต้องก็ไม่ควรทำ”
“ผมทราบครับ แต่เพราะแบบนี้แหละ ผมถึงบอกว่าจะรับผิดชอบเกี๊ยวด้วยการแต่งงาน” ทุกคนพากันงุนงงคำพูดของพันแสง “ที่ผ่านมาผมไม่ได้เป็นสามีของเกี๊ยว ทั้งทางกฎหมาย ทางประเพณี และทางพฤตินัย ผมถึงต้องจูบเธอในที่โจ่งแจ้ง ไม่สามารถพาเธอไปจูบในห้องได้ แต่ถ้าเราแต่งงานกันถูกต้องทุกอย่าง ผมก็จูบเธอในห้องที่ไม่มีใครเห็นได้อีกไงครับ”
ผ้าไหมแทบเป็นลมกับคำพูดบ้าบิ่นของชายหนุ่ม กันตาเองอึ้งจนตาค้างอ้าปากค้าง ไม่คิดไม่ฝันว่าชีวิตจะมาเจอผู้ชายบ้าๆ พูดเรื่องบ้าๆ ต่อหน้าบิดาแบบนี้ ผ้าฝ้ายกลั้นขำไม่อยู่หลุดหัวเราะออกมานิดหนึ่งก่อนจะแกล้งทำเป็นกระแอมกระไอ เธอชักจะชอบพันแสงขึ้นมาแล้วสิ ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่แค่กล้า แต่เขาบ้าพอตัวเลยเชียวล่ะ
ปภพเองต้องหันหน้าออกนอกวงสนทนา เพราะกลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่
มีแต่ปริตต์เพียงคนเดียวที่มีสติ...เขาถึงรู้ว่าตอนนี้หัวใจตัวเองเจ็บปวดรวดร้าวเพียงใด