“ฉันไม่อยู่ไม่ได้แปลว่าเธอจะกลับช้าได้หรือไปไหนกับใครก็ได้เธอรู้ใช่มั้ย” ย้ำอยู่ทุกวี่ ย้ำอยู่นั่นแหละ บางทีฉันเคยแอบคิดนะ ว่าในร่างของเคลย์น่ะไม่ใช่หนุ่มอายุยี่สิบต้นๆ แต่เป็นผีตาแก่ขี้บ่นสิงอยู่ในนั้น
“รู้” ตอบแบบรำคาญเหลือทน
“ก็ดี แล้วถ้าหากไม่อยากให้ใครต้องเจ็บตัวเพราะเธออีก ก็อย่าอวดฉลาดด้วยการหาใครมาช่วยออกเงินซื้อตัวเธอต่อจากฉันอีก”
“มันก็ดีใช่เหรอ นายได้เงินคืนแถมยังไล่ให้ฉันไปพ้นๆ หน้าก่อนถึงกำหนดได้ด้วยนะ มีอาร์ก็จะไม่ระแคะระคายด้วยไง มีอะไรไม่ดีตรงไหน”
“เธอคิดงั้น?” เขาเลิกคิ้วถามเหมือนไม่เชื่อว่าฉันอยากไปจากเขาจริงๆ
“ใช่...”
“เธอชอบฉันไม่ใช่เหรอ? ตัดใจไปจากฉันได้เหรอ?” แหมถูกถามแบบนี้ฉันควรตอบยังไงล่ะ
“ได้ เพราะฉันไม่ชอบนายแล้ว”
“หนักแน่นหน่อย” เขาแสยะยิ้มพูดอย่างดูถูกเขารู้...รู้มาตลอดว่าฉันยัง.... เออ! ใช่ฉันยังชอบนายอยู่ ถึงนายจะเลวฉันก็ชอบแบบโง่ๆ อยู่อย่างนี้! ยังชอบอยู่ถึงแม้นายจะทำให้เจ็บปวดจนน้ำตาไหลก็ตาม
“ไม่ได้ชอบแล้ว! คนที่ฉันชอบคือเคลย์ที่จิตใจ ดีไม่ใช่เคลย์ที่เป็นผีหลุดจากนรกแล้วมียืนตรงนี้”
“หนักแน่นขึ้นนิดหน่อย แต่ก็ยังฟังออกว่าเธอยังชอบฉันอยู่... ถามจริงๆ นะทำใจได้เหรอ? ที่จะเดินลงจากเตียงฉันเพื่อไปขึ้นเตียงผู้ชายอีกคนน่ะ ถ้าพ่อเธอรู้คงภูมิใจมากอ่ะ”
“ฉันรู้คนอย่างฉัน...ไม่ว่าจะทำอะไรก็ไม่สามารถทำให้พ่อภูมิใจได้หรอก” เชื่อมั้ยว่าในเสี้ยววินาทีหนึ่ง ฉันเห็นว่าในดวงตาของเคลย์เหมือนจะปรากฏความสงสารขึ้นมาด้วยล่ะ แต่ฉันไม่ต้องการ! ไม่ต้องมาสงสารฉัน!
“เรื่องบนเตียงนายก็สอนฉันมาตั้งมาก ฉันไม่ลำบากเหมือนครั้งแรกแน่ๆ เพราะงั้นจะเตียงใครก็ได้ทั้งนั้น พ่อเองก็หลุดพ้นไม่ได้มาอยู่รับรู้ความเลวฉันของแล้ว จะนอนกับใครจะเตียงใครก็ได้ขอให้หลุดพ้นจากนายได้ก็พอ”