ณ ห้องฉุกเฉินที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งกำลังช่วยชีวิตเด็กที่อยู่ในท้องคนเป็นแม่ให้ปลอดภัยจากการประสบอุบัติรถชนประสานงานกันอยู่นั้น คนเป็นแม่ก็เริ่มมีลมหายใจแผ่วเบาราวกับกำลังจะหมดลมหายใจอย่างไรอย่างนั้น
แต่ก็เหมือนว่าเธอจะฝืนตนเองทั้งที่สติสัมปชัญญะของเธอเริ่มจะเลือนรางเข้ามาทุกที่และไม่ค่อยจะรู้สึกตัวเท่าไหร่ ราวกับว่าเธอต้องการให้ลูกน้อยที่อยู่ในท้องเธอได้เกิดมาอย่างปลอดภัย ขณะที่อีกคนรออยู่ข้างนอกด้วยความกระวนกระวายใจซึ่งกำลังรอฟังข่าวจากบุคคลที่รักทั้งสองคน
จากนั้นไม่ได้นานประตูฉุกเฉินก็เปิดออกมา เธอรีบลุกขึ้นเดินตรงดิ่งไปถามคุณหมอหนุ่มทันทีว่าพี่สาวและหลานของเธอทั้งสองคนเป็นอย่างไรบ้าง
เมื่อคุณหมอหนุ่มเห็นหญิงสาวซึ่งเป็นญาติของคนไข้กำลังจะเดินไปหาเธอ..แต่เธอก็เดินมาถามเสียก่อน ในขณะที่คุณหมอมองหน้าหญิงสาวอยู่นั่น ทำให้เขาคิดพิจารณาว่าจะบอกข่าวดีหรือว่าข่าวร้ายก่อนดีแก่หญิงสาวแต่ในสุดเขาก็ได้พูดออกไป
“ตอนนี้เด็กที่อยู่ในท้องคลอดออกมาอย่างปลอดภัยแล้ว”
“แล้วแม่แกล่ะคะ ปลอดภัยดีใช่ไหมคะ” หญิงสาวถามคุณหมอหนุ่มด้วยน้ำตานองหน้า
“แม่เด็กยังอาการหน้าเป็นห่วงครับ” คุณหมอหนุ่มตอบด้วยสีหน้าลำบากใจ
“ส่วนผู้ชายอีกคนนั้น...เสียชีวิตแล้วครับ” คุณหมอหนุ่มตอบด้วยหน้านิ่งๆเพื่อดูอาการเจ้าของคนไข้
ตอนนี้ไอละมุนเดินถอยหลังแทบจะทรงตัวเองไม่อยู่แต่ก็ฝืนทั้ง ๆ ที่น้ำตายังนองหน้าอยู่แล้วก็ฝืนถามคุณหมอหนุ่มอีกว่า
“แล้วแม่เด็กจะปลอดภัยใช่ไหมคะ พี่สาวของฉันจะไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะคุณหมอ” เธอถามคุณหมอหนุ่มด้วยน้ำเสียงสั่นพร่าด้วยความกลัวจับใจ
“ผมไม่แน่ใจครับ ต้องรอดูอาการก่อนนะครับ”
ไอละมุนพยายามอย่างยิ่งเพื่อที่จะควบคุมสติของตนไม่ให้ต้องล้มลงไปกองกับพื้น แล้วหลังจากนั้นคุณหมอหนุ่มก็เดินเข้าไปห้องฉุกเฉินอีกครั้ง สักพักไม่นานก็มีคุณหมออีกคนเดินมาบอกว่ามีเรื่องที่จะแจ้งให้ทราบ
“คุณเป็นเจ้าของคนไข้ที่ชื่อไอลดาใช่ไหมครับ”
“ใช่ค่ะ”
“คือว่าแม่เด็กเสียชีวิตแล้วครับ”
พอหญิงสาวได้ยินประโยคนั้นสติของเธอก็ดับวูบไปทันที.......