บทนำ
“ยินดีด้วยนะ”
เสียงหวานดังนำเจ้าของเสียงที่กำลังนำตัวเองมุ่งสู่กลุ่มคนที่ส่งเสียงจอแจดังไปทั่วบริเวณ
วันนี้เป็นวันฉลองงานแต่งงานของ ญาดาเพื่อนสนิทตั่งแต่สมัยมัธยมกับ ธนัทรุ่นพี่ที่คบกันมาได้15ปี ตั้งแต่ญาดาอยู่ม.3
“มาช้าตลอดเลยนะ ไม่เคยจะเปลี่ยน” ญาดาพูดทั้งหัวเราะ แลดูจะเป็นการล้อเลียนมากกว่าตำหนิจริงๆ
“ มาซะช้า แล้วดูชุดแกสิ นี่แกมางานฉลองสละโลดนะ ไม่ใช่ไปทำงาน” น้ำมนต์เพื่อนสาวคนสนิทอีกคนกรีดกรายนิ้วขึ้นลงไปทางชุดของหญิงสาวพร้อมส่ายหน้าอย่างรับไม่ไหว
“แหม่...ไม่ชินอีกหรือไงนี่ก็รีบมาที่สุดแล้วนะอีกอย่างคนหลงทิศอย่างฉันหาบ้านพี่นัทเจอได้นี่ ก็เก่งแล้ว หายากจะตายเคยมาซะที่ไหนขนาดเสร็จงานก็บึ่งรถมาชุดยังไม่ได้เปลี่ยนเลยแต่ไม่ต้องกังวลนะ......แต่นแต้นนน” พูดเสร็จหญิงสาวผู้มาทีหลัง ก็ชูสองถุงใหญ่ในมือที่ซ่อนไว้ตั้งเเต่เดินเข้างานขึ้นมาให้พ้องเพื่อนดู ข้างหนึ่งคือชุดและรองเท้าที่เตรียมมาเปลี่ยน อีกข้างคือของขวัญที่นำมาอวยพรแก่ว่าที่เจ้าสาวที่ควบตำแหน่งเพื่อนคนสนิท
“ฉันเตรียมตัวมาดีย่ะ แล้วห้องน้ำไปทางไหน”
ณภัทร เดินมุ่งไปในบ้านหลังใหญ่ตามทางที่เพื่อนบอก สวนกับร่างสูงที่เดินออกมา คนตัวเล็กไม่ได้สนใจสิ่งใดนอกจากทางเดินเพื่อมุ่งไปห้องน้ำ ต่างกับคนตัวใหญ่ที่หยุดหันมองจนร่างบางลับตาไป
เพียงไม่กี่นาทีร่างบางในเดรสสีขาวดูเรียบแต่พริ้วสวยยาวระดับเข่ากับรองเท้าที่ดูเข้ากันก็นำร่างบางมายังจุดที่เพื่อนๆของเธอยืนอยู่ ทุกอริยาบถนั้นอยู่ในสายตาคมอยู่ตลอดโดยที่เจ้าของร่างเล็กนั้นไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อยว่าถูกจ้องมองอยู่ ณ มุมใดมุมหนึ่งในงานเลี้ยงแห่งนี้
“ ขอโทษนะที่เมื่อวานไม่ได้ไป ฉันยุ่งมากจริงๆ” ณภัทรเอ่ยเสียงเบาพร้อมยื่นกล่องของขวัญให้กับญาดา
“อย่าคิดมากเลย แค่แกมาฉันก็ดีใจแล้ว แล้วเป็นไงบ้างละกับคุณหัวหน้านะ” เพื่อนสาวยื่นมือไปรับของขวัญแล้วจับมือบางบีบเบาๆไม่คิดมาก พรางถามถึงกวินหัวหน้าของณภัทรซึ่งมีท่าทีสนใจสาวเจ้าอยู่
“ก็ไม่เป็นยังไง ยังทำตาดุใส่ฉันได้ทุกวี่ทุกวัน แต่เมื่อวันก่อนนะสินึกว่าจะโดนด่าเรื่องงานเหมือนทุกที แต่กลับมาช่วยฉันทำงานไม่บ่นสักคำแปลกดีไหมล่ะ สงสัยกลัวผู้จัดการเรียกไปสวดแน่เลย” ณภัทรพูดถึงหัวหน้าไม่คิดอะไรพลางหัวเราะขำ
“ก็บอกแล้วไงว่าเขาสนใจแก ก็คงเป็นห่วงแกนั้นแหละถึงได้ช่วยแกทำงานไง”ญาดาบอกความคิด ของตัวเองตามที่คิดไว้
“บอกแล้วไงว่าเป็นไปไม่ได้หรอก ปกติเรียกฉันไปสวดเป็นว่าเล่น แล้วอีกอย่างฉันอยู่ใน ความรับผิดชอบของเขา เขาก็ต้องช่วยเป็นธรรมดานั้นแหละ” ณภัทรบอกปัดอย่างไม่เห็นด้วยจริงๆมากกว่า จะถ่อมตัว พลางนึกถึงชายหนุ่มที่มักมองเธอตาคมกริบจนสามารถกรีดเนื้อเธอได้
“ไม่พูดก็ได้ แต่ว่าแกจำคนนั้นได้มะ”
ณภัทรมองไปตามมือของญาดาที่ปลายทางนั้นเธอก็เห็นร่างสูงร่างหนึ่งตาคมผิวสีน้ำผึ้งเกือบขาว ที่กำลังเดินเขามาทางนี้
เธอนึกคุ้นแววตาคู่นี้แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก
เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยทัก ในขณะที่ความทรงจำลางๆเริ่มชัดขึ้นในวินาทีนั้น
ณภัทร พูดออกมาราวละเมอทันทีที่คิดออก เธอลืมคนๆนี้ไปแล้วจำไม่ได้เลยลักนิด