เมื่อไม่อาจเลี่ยงบาลีหรือปฏิเสธได้อีกต่อไป แน่ล่ะ! สำหรับฟ่านหยางสือแล้วการต้านกบฏคือหายนะ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็เลือกแล้ว ทางแห่งหายนะที่ไม่ว่าจะมองทางไหนก็ไม่คุ้มเอาเสียเลยกับการเลือกครั้งนี้ กบฏกังฉินผู้คิดแต่เรื่องอำนาจต่อรอง ราชสกุลที่ง่อนแง่นไม่มีคนมารองรับ การต่อสู้ของกุนซือ หมากต่อหมาก ปัญญาต่อปัญญา การต่อสู้ระหว่างอาชญากรจอมกะล่อนจากอนาคตกับยอดเสนาบดีที่มีพรรคพวก …ไม่ว่าอย่างไรก็เสียเปรียบไม่ใช่หรือ… นอกจากจะไม่มีพรรคพวกและกำลังแล้วยังพ่วงภาระทั้งศักดิ์ศรี และความมั่นคงของราชสกุล ราวกับเป็นถุงทรายเปียกน้ำที่เธอต้องหิ้วข้ามสมรภูมิไปอย่างไรอย่างนั้น “ทางชนะก็ไม่มี ทางหนีก็เช่นกัน”
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว