ดีแล้วทูนหัว มีผัวเป็นหมอ
ดีแล้วทูนหัว มีผัวเป็นหมอ
Jutharat
  • วรรณกรรมผู้ใหญ่
“อ๊ะ อย่ะ...อย่า” “หึหึ หย่าอะไร เรายังไม่ได้แต่งเลย หืม” เอลล่าละล่ำละลักพูดออกมา หลังจากอดัมเปลี่ยนเป้าหมายไปที่ซอกคอขาวแทน เธออยากด่าตัวเองสักร้อยหน ที่ยอมเขาง่ายดายเพียงแค่เขาปลุกปั่นอารมณ์ขึ้นมา “ฉะ...ฉัน มะ..ไม่ อ๊ะ อ๊า อะ..ดัม พะ..พอ อ๊ะ พอ อื้ออออ” เอลล่าร้องครางตะกุกตะกัก อยากตะโกนดังๆบอกให้เขาหยุด แต่ตอนนี้มือใหญ่กำลังรุกล้ำเข้าไปในแพนตี้ตัวน้อย และสอดแทรกเข้าไปในโพลงสาวอันแสนอบอุ่นที่เขาสุดแสนคิดถึงเรียบร้อยแล้ว “พะ...พอ นะ...นี่มันห้องทำงานนะ คะ...คุณ อ๊ะ มะ...ไม่ อ๊ะ อ๊ะ” อดัมไม่ฟังเสียง เขาจะต้องหาทางทำให้เอลล่ายอมเป็นของเขาให้ได้ ไม่ว่าต้องใช้วิธีใดก็ตาม “ร้องดังๆสิ ทุกคนจะได้รู้ว่าเราสองคนไปถึงไหนกันแล้ว อื้ม จุ๊บ หอมจัง” อดัมพูดขึ้นพร้อมกับเฝ้าดอมดมความหอมหวานจากร่างสาวที่เขาหลงใหลอย่างไม่นึกกลัวว่าด้านนอกจะได้ยินอะไร เพราะตอนนี้เขาไม่สนใจใครทั้งนั้น เขาขอแค่คนตรงหน้ายอมเป็นของเขาก็พอแล้ว
สยบรัก มาเฟียร้าย
สยบรัก มาเฟียร้าย
Jutharat
  • วรรณกรรมผู้ใหญ่
โลเวล สเวน มาเฟียหนุ่ม อายุ 37 ปี หล่อ ร้าย ดุดัน และที่สำคัญโหดอย่างไม่มีใครเทียบได้ เขาสามารถฆ่าทุกคนที่เข้ามาขวางทางธุรกิจอย่างไม่รู้สึกผิดเลยสักนิด ด้วยสังคมที่เติบโตมาทำให้เขาต้องแข็งแกร่ง เพราะอำนาจนั้นทุกคนต่างแย่งชิงที่จะเป็นเจ้าของ แต่จะมีสักกี่คนที่มาถึงจุดนั้นได้ และหนึ่งในนั้นก็คือเขา ที่ต้องแลกมาด้วยการสูญเสียครั้งแล้วครั้งเล่า แม้กระทั่งมารดาอันเป็นที่รัก ตั้งแต่นั้นมาเขาจึงกลายเป็นคนเย็นชา จนได้ฉายาว่า มาเฟียไร้ใจ เขาไม่เคยมีคำว่าสงสารกับเหยื่อที่อยู่ตรงหน้าเมื่อต้องฆ่า พลอยใส ชนะกาล ดาราสาวดาวรุ่ง อายุ 25 ปี หญิงสาวผู้มีความสดใสตลอดเวลา ถึงแม้ชีวิตที่ผ่านมานั้นจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะต้องมากำพร้าบิดามารดาซึ่งเป็นครอบครัวเพียงหนึ่งเดียวในอุบัติเหตุทั้งที่หญิงสาวนั้นอายุได้เพียง 19 ปี แต่ด้วยบิดามารดาได้ทิ้งทรัพย์สมบัติเอาไว้ให้ถึงจะไม่มากมายแต่ก็ทำให้เธอสามารถใช้ส่งตนเองเรียนจบจนปริญญาตรี และก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงกลายมาเป็นดาวรุ่งที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน ด้วยรูปร่างหน้าตาเหมือนกับตุ๊กตาญี่ปุ่นและนิสัยส่วนตัวที่ค่อนข้างน่ารักเข้ากับคนง่ายนั้นทำให้มีหนุ่มๆทั้งในทั้งนอกวงการตบเท้าเข้ามาจีบกันเป็นแถว แต่ด้วยงานที่ยุ่งจนแทบไม่ได้พักทำให้หญิงสาวนั้นไม่ค่อยสนใจจะมองหาแฟนในตอนนี้
กุหลาบสีน้ำเงิน
กุหลาบสีน้ำเงิน
รุ่งอรุโณทัย
  • วรรณกรรมผู้ใหญ่
เบล เป็นเฟรชชี่ในสถาบันการศึกษาเอกชนแห่งหนึ่งที่มีค่าเทอมเกินฐานะทางบ้าน เธอใฝ่ฝันอยากจะเป็นดีไซน์เนอร์ เพราะฉะนั้นเธอต้องมีงานพิเศษในบ้านของเศรษฐีใจดีแต่ความโชคดีไม่ได้เกิดขึ้นกับเธอเสมอไป เมื่อเธอดันไปพบเห็นคุณแป้งภรรยาสาวคนสวยของเศรษฐีใจดี ว่าคุณแป้งกำลังเริงสวาทชนิดที่ทำให้เธอหญิงสาวเวอร์จิ้นถึงกับตาค้างจนไม่อาจละสายตาจากภาพที่อยากรู้อยากเห็นนั้นไม่ได้ และเธอดันไปสบตากับคุณแป้งอย่างช่วยไมไ่ด้ในเวลาแบบนั้น ความซวยสะท้านต่อมหญิงก็มาบังเกิดกับเธอ ซึ่งมันเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตเธอไปอย่างสิ้นเชิง “ฉันจะกลับก็ต่อเมื่อเบลกลับไปด้วยกันเท่านั้น” “คุณกลางต้องการอะไร!” “เธอ” “เบลไม่ได้เป็นโสเภณีประจำตัวคุณอีกแล้วนะคะ” “แน่ใจเหรอ” กลางยิ้มเยาะ เบลบอกตัวเองว่าเธอจะไม่เสียน้ำตา เธอจะไม่เสียใจให้กับเขาอีกแล้ว “ก็ได้ค่ะ เบลยอมแพ้ คุณกลางอยากจะทำอะไรก็ตามใจเถอะค่ะ” กลางยิ้มอย่างผู้ชนะ “ไปบนเตียง” เบลทำตามนั้น และเขาไม่ต้องพูดต่อเมื่อสายตาเขาบอกชัดเจนว่าให้เธอถอดเสื้อผ้าออกทั้งหมด คืนนี้เขาไม่ปล่อยเธอแล้ว
พรานสวาทราตรี
พรานสวาทราตรี
อัคนียา (ดากานดา)
  • Romance Lover
*** นิยายหมดสัญญาสำนักพิมพ์ เนื้อหาคงเดิม *** สองร้อยปี... ใจหนึ่งดวงนี้ไม่เคยลืมเลือน ความรักและเจ็บปวด กลับกลายเป็นไฟร้อนเร่าแผดเผาหัวใจ เจ้าของร่างบางเริ่มดิ้นน้อยๆ ใบหน้าละมุนสั่นส่ายไปมาบนหมอน ความอึดอัด ร้อนรุ่ม จากไฟสีน้ำเงินโอบล้อมรอบตัวเธอ มันร้อน... ทรมาน...เหมือนจะขาดใจ “พริซซี่...” เสียงเรียกของใครบางคนดังแว่วเข้ามาในโสตประสาท เสียงห้าวแหบต่ำก้องสะท้อนอยู่รอบๆ พริมรสาอยากถามว่ากำลังเรียกใคร ชื่อนั้นไม่ใช่ชื่อเธอแต่ทำไมเธอถึงรู้สึกคุ้นเคยกับมันนัก... “พริซซี่... ลืมตาสิ” พริมรสาดิ้นรน ไฟสีน้ำเงินหายไป รอบๆ กายคือความมืดมิด เธอมองหา เหลียวซ้ายมองขวา เสียงนั่นมาจากที่ไหน “ลืมตาสิ... พริซซี่คนดี...” ความหนักอึ้งบนเปลือกตาคลายลง แพขนตาคู่กะพริบ ในความมืดสลัว หญิงสาวเดินตามเสียงเรียกนั้น ไม่ว่าเขากำลังเรียกใคร เผื่อมันจะมีทางออกให้เธอด้วย เธอกลัว กลัวไฟสีน้ำเงินนั่นเหลือเกิน “ใคร...” เงาร่างใครคนหนึ่งตะคุ่มดำชะโงกเงื้อมอยู่เหนือตัวเธอ พริมรสากะพริบตาเขม้นมอง แต่ไม่ว่าจะเพ่งขนาดไหนเธอก็ไม่อาจมองเห็นใบหน้าของคนผู้นั้นได้ สิ่งที่โดดเด่นเห็นชัดคือดวงตาสีฟ้ากระจ่างวาววาม จากรูปร่างที่เห็นบอกได้ว่าเขาเป็นผู้ชาย พริมรสาตกใจ จะยันตัวหนีแต่ตัวเธอหนักอึ้ง อยากกรีดร้องแต่ร้องไม่ออก ท่าทางทรมานทั้งกลัวทั้งตกใจของเธอกลับเรียกรอยยิ้มบนเรียวปากได้รูปนั้น “หนีทำไมล่ะพริซซี่” “ฉัน...ไม่ใช่” คราวนี้รอยยิ้มแต้มใบหน้าที่มองไม่เห็น เขาหัวเราะเบาๆ ตาสีฟ้าวาววามมากขึ้น เขากำลังหัวเราะเยาะหลอกล่อล้อเธอเล่นหรือยังไง พริมรสามองแล้วคิดอย่างฉุนๆ “ฉันไม่ใช่พริซซี่” เพราะรอยยิ้มนั้นคลายความตื่นกลัวของเธอลง “ไม่ก็ไม่” เจ้าของร่างใหญ่ยอมรับง่ายๆ ตาสีฟ้ากระจ่างคู่นั้นกลับเหมือนมีมนตร์ตรึงร่างบางให้นอนนิ่งอยู่ที่เดิม แม้ยามที่เขาโน้มตัวลงมาใกล้ เงาทาบลงทำให้พริมรสามองไม่เห็นอะไรนอกจากความดำมืดก่อนจะสะดุ้งเฮือก “จะ...ทำอะไร อย่า...” “ทำ... อย่างที่เราเคยทำ” เสียงนั้นบอกเรียบๆ ไม่เร่งร้อนแต่นิ้วแข็งแกร่งกลับพร่างพรมปลายนิ้วลงบนเรือนกาย มันทั้งชวนผวาและซ่านสยิวแปลกๆ
ระเบียบการหัวใจ
ระเบียบการหัวใจ
ดากานดา (อัคนียา ทิวลม)
  • Romance Lover
“อ้อ ชอบหนุ่มตี๋” กายหนาขยับเข้าเบียดชิดมากขึ้น แล้ววงแขนกำยำแน่นมัดเนื้อก็วาดมาโอบกอดไหล่ดึงเข้าหาตัว คนตัวเล็กกว่าสะดุ้ง รีบยกมือดัน แต่... ยามที่มือพลาดแตะลงไปบนผิวกายเย็นๆ เธอตัวเกร็งมากขึ้น ภาสยิ้มล้อเลียน เลิกคิ้วยั่วเย้า ไม่นำพาต่อท่าทีแตกตื่น “น่าเสียดายผู้ชายในชีวิตจริงไม่มีเชื้อจีนสักนิดเดียว” ใกล้ไปแล้วไหม... หญิงสาวใจสั่นจนหัวใจจะวายอีกครั้งแล้ว พลันนึกถึงคำพูดเพื่อนกับผู้หญิงที่มหา’ลัยของเขา ภาสเชี่ยวชาญการเข้าหาผู้หญิงขนาดนี้ ถ้าไม่เคยคบใครเป็นแฟนจริงๆ ลวดลายเสือบนตัวเขาคงไม่เบานักหรอก ในจอทีวี พระเอกกำลังซัดพลังภายในใส่กันระหว่างศิษย์พี่น้อง นอกจอ... พลังความร้อนแปลกๆ กรุ่นกำจายออกมาจากมัดกายแน่นแกร่ง แผ่ขยายปกคลุมไปทั่วโซฟาอย่างรวดเร็ว “แต่เรื่องกำลังภายในคงไม่น้อยหน้าใครเท่าไหร่ เธออยากลองพิสูจน์ดูไหม” เธอถูกกักอยู่ในวงเวทพลังแห่งความสนิทเสน่หาที่เปล่งแสงแรงกล้าจากดวงตาพราวระยับเข้าอย่างจังเสียแล้ว “เธอเป็นแฟนฉัน เราตกลงคบกันแล้วนะเตยหอม เพราะงั้น เธอจะเอาแต่คิดกระโดดหนีทุกสามวินาทีที่ฉันเข้าใกล้ไม่ได้”
วันวาน (ยัง) หวานรัก
วันวาน (ยัง) หวานรัก
ดากานดา (อัคนียา ทิวลม)
  • Romance Lover
“เลิกเล่นตัว” ฮะ! “เล่นตัวมากๆ ขี้เกียจง้อว่ะ” “ใครใช้ให้ง้อ แล้วใช้คำผิดรึเปล่า ฉันไม่ได้งอน ไม่ได้เล่นตัว ฉันเกลียดนายต่างหาก” คำว่าเกลียดเริ่มไม่มีมนตร์ขลังตั้งแต่เมื่อไหร่ ปากได้รูปถึงยิ้มอย่างนั้น “เล่นตัวมาก ไม่ง้อ จับทำเมียเลยนะ” “อะ...ไอ้บ้า” คนถูกขู่จะจับทำเมียหน้าตึง หน้าร้อน กระตุกมือออกแต่มือใหญ่ไม่ปล่อย แถมบีบแน่น โจไม่ยิ้ม ไม่มีแววตาขี้เล่น จ้องนิ่งมองตาตื่นๆ ออกแรงค่อยๆ ดึงมือที่ตนกุมให้ร่างบางโน้มมาหา เขาหงุดหงิด เพราะเผลอทีไรแม่ใบบอนมักจะมีพวกแมลงมาตอมอยู่เรื่อย เลยต้องตามเฝ้า ตามเย้าตามแกล้งอยู่แบบนี้ หน้าคมขรึมจัดแบบไม่ต้องเก๊ก เขาไม่ชอบเลยที่เธอเสน่ห์แรง “สามปีก่อนเธอว่าฉันร้าย แต่ฉันก็ปล่อย สามปีให้หลัง ความร้ายของฉันสั่งสมขึ้นเรื่อยๆ” หน้าคมโน้มเข้าไปใกล้หน้าใสที่แก้มเริ่มก่ำแดง เขามองอย่างพอใจ ส่งเสียงพร่าต่ำเอาจริงออกไปอีกประโยค “ร้ายมากพอ... ให้ฉันไม่ปล่อยเธอในวันนี้ ใบบัว...” กลีบปากนุ่มเปิดเผยอ ดวงตาเบิกกว้าง หน้าตื่นๆ แบบที่เขามองแล้วกระตุกหัวใจแกร่งกร้าว แม้จะแค่ไม่กี่วินาที ใบบัวก็แปรเปลี่ยนเป็นใบบอนที่ชอบทำให้เขาคันคะเยอตวัดตาค้อนแทบคว่ำ จิกตาใส่เขาราวตัวเองเป็นแม่ไก่ ปากน่าจูบนั้นก็หาเรื่องให้เธอ “ไอ้หมาโจ” โจยิ้มมุมปาก กระตุกมือด้วยแรงระดับหนึ่ง ร่างบางก็เอนข้ามโต๊ะอ่านหนังสือมาหา “ระวังคืนนี้ หมาจะเลียปาก” อากาศในห้องสมุดอบอ้าวกะทันหัน พวงแก้มสองข้างของใบบัวร้อนฉ่า แววตายิ้มราวกับเย้ยของคนตรงหน้าตวัดริ้วบนเนื้อใจอ่อน รู้ว่าเขาแกล้งยั่วหยอกแต่อดเต้นตามไม่ได้ ใจกระตุกอย่างน่าหงุดหงิด นี่ให้สถานะแค่คนเคยคบ แค่ดีด้วยนิดหน่อย แค่เผลอปล่อยให้กอดจูบไม่กี่ครั้ง ริจะมาเรียกร้องประกาศก้องสิทธิ์รึไง ความหงุดหงิดจากสภาวะอารมณ์ผันแปรกะทันหัน ทำให้มือบางฉวยประมวลอาญา ก่อนจะทันคิดหน้าคิดหลัง หนังสือเล่มหนากระทบศีรษะผู้ชายปากกล้าเข้าเต็มเปา “โอ๊ย!”
ใจมิรู้เลือนรัก
ใจมิรู้เลือนรัก
ดากานดา (อัคนียา ทิวลม)
  • Romance Lover
ความรักคือของแสลง เขาจึงไม่เคยคิดอยากมีมัน กระทั่งเธอก้าวเข้ามา... “รู้ใช่ปะ นี่ไม่เกี่ยวกับรัก” สุ้มเสียงเคร่งขรึมชะงักคนบนตัก ก่อนเสียงหัวเราะแปร่งปร่าจะดังลอดลำคอระหง เรียวนิ้วขาวดันปลายคางระคายตอเครา ใบหน้าคมคายเข้มข้นด้วยอารมณ์ปรารถนานัยน์ตาฉายแสงแรงกล้าสานสบดวงตาคู่เยิ้มหยาดหากแพรวพราวด้วยประกายยั่วเย้า “ย้ำจริงว่ะ” เสียงใสสั่นน้อยๆ เพราะร่างกายขาวกระจ่างก็ถูกสุมด้วยไฟพิศวาสไม่ต่างกัน เอวบางขยับเบาๆ ส่งให้พื้นที่ที่มีการหลอมรวมเกิดความแปลบปลาบซ่านขึ้นช่องท้อง “ย้ำฉัน หรือย้ำตัวเอง~” “เธอ~” ชายหนุ่มเค้นเสียงลอดไรฟันปราม งับเรียวนิ้วที่กระด้างแตกเกินหญิงขบย้ำแต่ไม่กล้าขย้ำให้เจ็บ คนถูกขู่กลับเพียงหัวเราะเบาๆ ในลำคอ เคลื่อนกายเลื่อนรูดครูดเคล้นแผ่วหากเร้าทุกอณูอารมณ์ ตาคมไหววาบ ลมหายใจสะดุดห้วง “กลัวเหรอ” “คนอย่างพันภพไม่เคยกลัวอะไร” “กลัวติดใจฉันไง” ช่างยั่ว~ “ติดใจที่มีความหมายคล้ายๆ ‘หลงรัก’” หึ! “ความรักสำหรับฉัน มันก็แค่เซ็กซ์สนุกๆ แค่ปลดปล่อยเวลาอยากแค่นั้น” “จะเอาแน่ใช่มั้ยเพียว ฮะ! นายจะเอาแน่ใช่มั้ย” มือที่ยังมีผ้าพันไว้ยกขึ้นตั้งการ์ดบ้าง จังหวะเท้าสลับก้าวฟุตเวิร์กมั่นคงขึ้น คิ้วเข้มขยับปับๆ สองครั้งซ้อนอย่างยียวน มันทำให้เธอยิ่งเกรี้ยวกราด เลี่ยงมาตลอด~ เห็นเขาอยู่ซ้ายเธอจะไปทางขวา เห็นเขาอยู่ตรงหน้า เธอจะถอยหลังกลับ ไอ้บ้านี่ไม่รู้รึไงว่าตลอดหลายปีมานี้เธอต้องข่มใจแค่ไหน ทรมานเพียงใด ถึงได้บังอาจมาเท้าทวนความรู้สึกพวกนั้นขึ้นมา หมัดเล็กแต่พิษร้ายกาจหวดตวัดเต็มแก้มขาว หน้าคมสะบัดตามแรง เลือดสดๆ ปรี่ออกมาตรงมุมปาก เพียวยกหลังมือขึ้นเช็ด เขามองดูเลือดสีแดงก่อนจะมองวงหน้าสวยดุ “นายควรถอยซะตอนนี้”