นักชันสูตรยอดอัจฉริยะ เล่ม 4 จบ
นักชันสูตรยอดอัจฉริยะ เล่ม 4 จบ
จินหยูอี
  • สืบสวน-ชิงไหวพริบ
การควบคุมผู้คนให้ทำตามสิ่งที่พวกเขาต้องการ โดยการใช้ผงเสพติดที่เรียกว่า ผงนางฟ้า มาทำเป็นธูปหอมในครั้งนี้ หวู่ เฉิงหยู่ ไม่มีทางเลือกนอกจากใช้ตัวเองเป็นตัวล่อ แล้วเขาจะรอดพ้นจากสิ่งเสพติดนี้หรือไม่? การพัฒนาของเรื่องราวการสืบสวนจะจบลงแบบไหน? และใครกันที่เป็นเจ้านายใหญ่ที่เป็นคนบงการเรื่องนี้? ……………………………… เฉียน จี้ตง เคยชินกับการเห็นผู้คนแสดงสีหน้าเช่นนี้ ไม่ว่าเมื่อก่อนเขาจะ หยิ่งผยอง และ ภาคภูมิใจ เพียงใด ต่อหน้า ผงนางฟ้า เขาจะกลายเป็น สุนัข ที่กระดิกหาง และขอความเมตตา เช่นเดียวกับ หวู่ เฉิงหยู่ ในเวลานี้ จู่ๆ เขาก็หัวเราะ แค่มองไปที่ หวู่ เฉิงหยู่ ด้วยรอยยิ้ม  แม้แต่ สิ่งที่เขาพูดก็ยังปนยิ้มที่กดลึกว่า "นายท่าน ท่านเต็มใจทำทุกอย่างเพื่อสิ่งเล็กๆ น้อยๆ นี้หรือไม่?" ใบหน้าของ หวู่ เฉิงหยู่ ซีดลง และหัวใจของเขารู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง แต่เขาไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากกัดฟัน และพูดว่า: "ตราบใดที่ฉันสามารถทำได้" “แล้วถ้าถูกขอให้ฆ่า ฉู่ เหลียงเฉิน ล่ะ?” เฉียน จี้ตง พูดด้วยรอยยิ้ม เมื่อได้ยินอย่างนั้น หวู่ เฉิงหยู่ หดตัวลง เขาตกใจมากจนพูดไม่ออกอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะพูดว่า “คุณเกี่ยวข้องกับคดีนี้หรือเปล่า?” เฉียน จี้ตง เงียบ แต่การกระทำของเขา ได้อธิบายทุกอย่างแล้ว หวู่ เฉิงหยู่ มีการคาดเดาเพิ่มเติมว่า "เป็นคุณ คุณฆ่า ชุน เซิ่งหนาน! คุณคือคนที่อยู่เบื้องหลังหรือไม่?!" เฉียน จี้ตง เลิกคิ้ว “คุณหวู่ มันยากที่จะสับสนเกี่ยวกับบางสิ่ง มันไม่ใช่เรื่องดีสำหรับคุณที่จะพูดให้ กระจ่างเกินไป” หวู่ เฉิงหยู่ มองเขาอย่างว่างเปล่า และหลังจากนั้นไม่นาน เขาก็พูดด้วยเสียงต่ำ: "คุณใช้วิธีนี้เพื่อบังคับให้ ชุน เซิ่งหนาน แสร้งทำสิ่งต่าง ๆ ให้คุณหรือเปล่า? เช่นเดียวกับ ฉู่ เหลียงเฉิน ตอนนี้ถึงตาฉันแล้ว ฉันเกรงว่าเจ้าหน้าที่ของ คฤหาสน์เฉินตู ทั้งหมด จะตกอยู่ในมือของคุณ” “คุณหวู่ ฉันบอกว่ารู้มากเกินไปไม่ดีสำหรับคุณ ตอนนี้ คุณแค่ต้องตอบว่าต้องการร่วมมือกับเราหรือไม่?” ………………………. มู่ ชิงชิง ทำอะไรอยู่? คุณจะปล่อยให้ หวู่ เฉิงหยู่ ติดกับดักนี้จริงหรือ? แล้วพวกเขาจะทำอย่างไรต่อไป? เมื่อหาตัวการได้แล้ว แล้วผงนางฟ้าได้มาจากไหน? ขอเชิญทุกท่านเพื่อเข้าร่วมค้นหา แหล่งที่ผลิตของ ผงนางฟ้า รวมกับชาวแม่น้ำยาเหมินเหล่านี้…..เพื่อไขคดีนี้ต่อไป 
นักชันสูตรยอดอัจฉริยะ เล่ม 3
นักชันสูตรยอดอัจฉริยะ เล่ม 3
จินหยูอี
  • สืบสวน-ชิงไหวพริบ
คดีการตายของ ปาง กวง เกิดขึ้นเพราะฝีมือของวิญญาณ นางหลี่ จริงๆหรือ? นางต้องการนำวิญญาณคนอื่น ทุกๆวันครบรอบ 7 วัน ของวันตายของนางหรือไม่? สมาชิกในครอบครัว ปาง ตกใจมาก จนวิ่งออกจากประตู ทันทีที่วิ่งออกไปประตูก็ปิดอีกครั้ง และไฟในห้องที่เพิ่งดับก็เปิดขึ้นทันที   ครอบครัวปาง ตกตะลึง ในเวลานี้ มีเสียงหญิงชราดังขึ้นในอากาศ: "อย่าเข้ามาใกล้ ไม่เช่นนั้น - ต้องตาย -"   “อ่า——” ครอบครัวปาง ตกใจมากจนฉี่ราด รีบวิ่งไปที่สวนหลังบ้าน วิ่งเข้าไปในห้องปิดประตู ตัวสั่นกับแผงประตู แต่ก็ไม่กล้าออกไปข้างนอก   นางหลี่ผู้เฒ่า มาแล้ว!   ถ้าออกไป มึงจะตาย!   ในห้องไว้ทุกข์ มู่ ชิงชิง สูดหายใจเข้าลึกๆ ยืดตัวตรงช้าๆ สลัดกิ่งไม้ที่เธอหยิบขึ้นมาใช้เป็นไม้เท้า เดินไปที่โลงศพ แล้วมองดู ปาง กวง ที่นอนอยู่ในโลงศพ จากนั้น เธอก็เดินไปที่ ถาดวางธูป แล้วหยิบธูป จุดไฟ แล้วโค้งคำนับหน้าโลง แม้ว่าเธอจะไม่เชื่อเรื่อง ผี และ เทพเจ้า แต่ก็ทำไปเพียงเพื่อแสดงความเคารพต่อผู้ตาย   หลังจากกราบไหว้ และ สวดมนต์เสร็จ เธอก็ใส่ธูปลงในกระถางธูป จากนั้น จึงเดินไปที่โลงศพอีกครั้ง โดยพิงกายอยู่บนขอบโลงศพ เพื่อสังเกตร่างของ ปาง กวง อย่างระมัดระวัง   เฉิน เจิ้งห่าว, ฝาน คุน, หวู่ เฉิงหยู่ และคนอื่น ๆ เดินเข้ามาจากประตูช้าๆ เฉิน เจิ้งห่าว พูดด้วยเสียงต่ำ: "แม่ของฉัน ฉันไม่ได้คาดหวังที่จะเปิดประตู และส่งเสียงเพื่อทำให้ ครอบครัวปาง ตกใจเช่นนี้ เป็นไปได้ไหมที่จะมีบางอย่างผิดพลาด?” ……………………. การตายของผู้คนในหมู่บ้าน เกิดขึ้นจากฝีมือผีตายโหง ของนางหลี่ผู้เฒ่า หรือเกิดขึ้นจากปัจจัยอื่นๆ ด้วยฝีมือของมนุษย์ พวกเขาชาวยาเหมินจะแก้ไขคดีได้หรือไม่? ผลลัพท์จะเป็นอย่างไร? ขอเชิญน้องๆทุกคนมาร่วมเปิดโรงศพ และค้นหาหลักฐานไปพร้อมๆกับพวกเขา ชาวแม่น้ำยาเหมิน….
นักชันสูตรยอดอัจฉริยะ เล่ม 2
นักชันสูตรยอดอัจฉริยะ เล่ม 2
จินหยูอี
  • สืบสวน-ชิงไหวพริบ
การสืบสวนของ ศาลผู้พิพากษามณฑลเป่ยเหอ มาถึงจุดสำคัญ หญิงสาวที่คาดว่าตายไปนานกว่าหนึ่งปีแล้ว เธอดำเนินการที่ละขั้นตอน เพื่อแก้แค้นผู้ชายที่กระทำการล่วงละเมิดเธอ และทำให้เธอต้องกระโดดน้ำฆ่าตัวตายด้วยความสิ้นหวัง แต่กลับไม่ตายและถูกช่วยไว้ได้ เธอทำการฆาตกรรมพวกเขาตัวคนเดียวแน่หรือ? หรือว่ามีใครที่คอยให้ความช่วยเหลือเธออยู่ข้างหลังกันแน่? ……………………….. ใบหน้าของ หวู่ เฉิงหยู่ เคร่งครัด และความโล่งใจของเขาก็ถูกทำลายลงด้วยประโยคเดียว: "พวกคุณบังคับ จาง เหอฮวา ทำลายความบริสุทธิ์ของใครบางคน และก่ออาชญากรรมเรื่องการข่มขืน ตามกฎหมายของ ราชวงศ์ต้าฉิง การข่มขืนคือโทษโบยสามสิบไม้ และปรับเป็นเงินสิบตำลึง มาเถอะ มาเลย ตีสามสิบไม้!”   "อะไรนะ!" เจิ้ง ต้าหวู่ ตะโกนด้วยความตื่นตระหนก: "นายท่าน ไม่ได้บอกว่าจะไม่ลงโทษฉันสำหรับความผิดของฉันเหรอ? ทำไมคุณถึงอยากทุบตีฉันอีกล่ะ"   หวู่ เฉิงหยู่ ผู้โหดเหี้ยม: "ครั้งสุดท้ายที่ฉันขอให้คุณกลับบ้านเพื่อล่อ จาง เหอฮวา มันเป็นมาตรการที่สะดวก ไม่มีกฎเกณฑ์ในกฎหมายของเรา ในราชวงศ์ต้าฉิง ที่ว่าอาชญากรไม่สามารถถูกลงโทษได้"   “นายท่าน นายท่าน...” เจิ้ง ต้าหวู่ ไม่คาดคิดว่าเขาจะถูกหลอก และใช้เป็นเหยื่อล่อ เขาโกรธมากจนอยากจะสาปแช่ง แต่เขาไม่กล้า เขาทำได้เพียงพูดต่อไปด้วยใบหน้าซีดขาว เขาขอความเมตตา แต่ก็ไร้ประโยชน์ เจ้าหน้าที่ของรัฐลากขาของเขาออกไป และเขาถูกกดลงบนม้านั่ง เฉิน เจิ้งห่าว ควบคุมม้านั่งเป็นการส่วนตัว และทุบตีเขาอย่างแรงที่บั้นท้าย….. …………………………….. เจิ้ง ต้าหวู่ เขารอดพ้นจากความตายหรือไม่? เข้าจะรับผิดชอบเพียงแค่ ถูกปรับ และถูกโบยเพียงไม่กี่สิบไม้หรือ? และชะตากรรมของ เหอฮวา จะจบลงอย่างไร? เรื่องราวต่างๆ และคดีอีกมากมายที่พวกเขาต้องเผชิญหน้าและแก้ไข รอให้น้องๆนักอ่านมาร่วมไขข้อเท็จจริงและผจญภัยไปกับพวกเขา ในแม่น้ำยาเหมิน…..แห่งนี้
นักชันสูตรยอดอัจฉริยะ เล่ม 1
นักชันสูตรยอดอัจฉริยะ เล่ม 1
จินหยูอี
  • สืบสวน-ชิงไหวพริบ
มู่ ชิงชิง ไม่คิดเลยว่าเมื่อเสียชีวิตกระทันหันแล้วจะได้ย้อนเวลามาอยู่ในร่างของ สาวน้อยนักฆ่าหมู ที่มีครอบครัวทำอาชีพฆ่าหมู เพียงแต่ครอบครัวนี้ไม่มีทีว่างสำหรับเธอ เมื่อไม่เป็นที่ต้องการและถูกเอาเปรียบ ฉันก็ไม่ต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งของพวกเขาเช่นกัน... มู่ ชิงชิง จึงต้องใช้ความสามารถเก่าของเธอในชาติก่อน ในฐานะตำรวจกองปราบและสืบสวนคดีอาญา ฉันจะเดินทางไปในแม่น้ำ..ยาเหมิน...และเป็น เจ้าหน้าที่นักชันสูตรหญิงตัวน้อย นับแต่นี้ไป   มู่ ชิงชิง: “ท่านค่ะ ฉันสามารถชันสูตรพลิกศพได้!”   มู่ ชิงชิง: “ท่านค่ะ ฉันจะฝังเอง!”   มู่ ชิงชิง: “ท่านค่ะ ฉันรู้วิธีการต่อสู้!”   หวู่ เฉิงหยู่: "คุณทำอะไรได้อีก"   มู่ ชิงชิง"ฉัน...ฉันก็ฆ่าหมูได้เช่นกัน! "   หวู่ เฉิงหยู่:......
กลับมาเริ่มใหม่เป็นสามีขั้นเทพของภรรยายุค 90 เล่ม 13
กลับมาเริ่มใหม่เป็นสามีขั้นเทพของภรรยายุค 90 เล่ม 13
Jiā qiǎo
  • สืบสวน-ชิงไหวพริบ
หลี่ซีเหวินนักธุรกิจอัจฉริยะผู้มีทรัพย์สินมูลค่าหลายหมื่นล้าน ต้องจบตำนานในชีวิตเพราะโรคร้าย ด้วยการดึงท่อออกซิเจนออกด้วยตัวเอง เขากลับฟื้นขึ้นในปี 1990 และอยู่ในร่างของชายอีกคนหนึ่งที่ชื่อ แซ่เดียวกัน ทว่าคนคนนี้กลับเป็นเพียงขยะสังคมคนหนึ่งเท่านั้น ในเมื่อสวรรค์ให้โอกาสเขาได้มาเกิดใหม่ เขาจึงตัดสินใจเริ่มต้นชีวิตใหม่และตั้งใจจะดูแลภรรยาและลูกสาวที่น่ารักของเขาให้ดี หลังจากที่ก่อตั้งไซอิ๋วกรุ๊ปและบริษัทต้าถังอิเล็กทรอนิกส์ เขาเจอคลื่นลมทางธุรกิจมากมาย และครั้งนี้กลับมีคนมาวางแผนร้ายกับภรรยาและลูกสาวของเขา เป็นแบบนี้แล้วหลี่ซีเหวินจะจัดการกับคนผู้นั้นอย่างไร ไม่เพียงเท่านั้นยังมีบริษัทร่วมทุนของต่างชาติกับทางภาครัฐที่ต้องการมาแย่งชิงผลประโยชน์จากเขาอีก แล้วคนอย่างหลี่ซีเหวินมีหรือจะยินยอมให้พวกเขาใช้อำนาจจากทางภาครัฐมาบีบบังคับได้ หลี่ซีเหวินจะแก้เกมอย่างไร สามารถติดตามได้ในเล่ม 13 นี้ได้เลยค่ะ
กลับมาเริ่มใหม่เป็นสามีขั้นเทพของภรรยายุค 90 เล่ม 14
กลับมาเริ่มใหม่เป็นสามีขั้นเทพของภรรยายุค 90 เล่ม 14
Jiā qiǎo
  • สืบสวน-ชิงไหวพริบ
หลี่ซีเหวินนักธุรกิจอัจฉริยะผู้มีทรัพย์สินมูลค่าหลายหมื่นล้าน ต้องจบตำนานในชีวิตเพราะโรคร้าย ด้วยการดึงท่อออกซิเจนออกด้วยตัวเอง เขากลับฟื้นขึ้นในปี 1990 และอยู่ในร่างของชายอีกคนหนึ่งที่ชื่อ แซ่เดียวกัน ทว่าคนคนนี้กลับเป็นเพียงขยะสังคมคนหนึ่งเท่านั้น ในเมื่อสวรรค์ให้โอกาสเขาได้มาเกิดใหม่ เขาจึงตัดสินใจเริ่มต้นชีวิตใหม่และตั้งใจจะดูแลภรรยาและลูกสาวที่น่ารักของเขาให้ดี หลังจากที่ก่อตั้งไซอิ๋วกรุ๊ปและบริษัทต้าถังอิเล็กทรอนิกส์ เขาเจอคลื่นลมทางธุรกิจมากมาย หากพูดถึงเทคโนโลยีต้าถังย่อมทุ่มเทงบประมาณอยู่แล้ว ทว่าหากสามารถได้รับการอนุมัติจากโครงการของรัฐบาลให้สามารถกู้ยืมได้นับพันล้านได้จะดีสักแค่ไหน แน่นอนว่าตัวเลือกของรัฐบาลไม่ได้มีเพียงต้าถังเท่านั้น แต่หลี่ซีเหวินจะสามารถครอบครองได้ไหม ทั้งยังมีเทคโนโลยี VCD ที่เขาสนใจลงทุน เพียงแต่เรื่องนี้ยังจะต้องต่อสู้กับบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นเช่นนี้แล้วกลยุทธ์ที่มีจะเพียงพอที่จะสู้รบหรือไม่ สามารถติดตามได้ในเล่ม 14 นี้ค่ะ
วุ่นนักรักองค์หญิงตัวแสบ
วุ่นนักรักองค์หญิงตัวแสบ
อี๊หลาน-依兰
  • สืบสวน-ชิงไหวพริบ
สตรีหนึ่งงดงามอ่อนหวาน สตรีสองแก่นแก้วมิยอมใคร สลับเกี้ยวผูกด้ายแดงเกี่ยวพันจิต ป่วนหัวใจบุรุษทมิฬให้สั่นคลอน ................................................... เสด็จขึ้นเตียงมาไว ๆ สิเพคะเสด็จพี่” องค์หญิงชิงอี้แกล้งดัดเสียงหวานหยด พลางเอนตัวลงพิงหมอน ยันศอกขึ้นมองเขาด้วยสายตาหยอกล้อมากกว่ายั่วเย้า “เป็นแผนของเจ้าล่ะสิ ใช้เสด็จแม่เป็นเครื่องมือบีบคั้นข้าให้เข้าเรือนหอด้วย ฝันไปเถอะ” เขากัดฟันพูดเสียงเบา เพราะเกรงว่าฮองเฮาที่อยู่นอกห้องบรรทมจะทรงได้ยิน องค์หญิงชิงอี้หัวเราะคิกคัก พลางตบมือลงบนแท่นบรรทม “ไม่เอาน่าสามี ท่านจะโมโหไปไย ท่านขึ้นมานอนกับข้าให้แม่ของท่านสบายใจเท่านั้นเอง มิได้เรียกให้ท่านมาขึ้นแท่นประหารเสียหน่อย” “เหอะ” องค์ชายรัชทายาทกอดอกเชิดหน้าขึ้น นั่งหลังตรงอยู่ที่ปลายแท่นบรรทม “แน๊ะ... เล่นตัว ท่านมองไปดูที่ประตูสิ ฮองเฮายังคงไม่ไปไหนแน่ ๆ หากว่าท่านไม่ยอมมานอนกับข้าดี ๆ” องค์หญิงชิงอี้ลุกขึ้นมากระซิบยั่วเขา องค์ชายรัชทายาทมองไปที่หน้าประตูเห็นเงาของมารดายังคงไม่เสด็จกลับอย่างที่นางว่า ก็ยอมทิ้งตัวนอนลงนิ่ง ๆ แข็งทื่อราวกับท่อนไม้ องค์หญิงชิงอี้ถึงกับหลุดหัวเราะคิกออกมา “นอนเช่นนั้น ฮองเฮาจะเชื่อได้อย่างไรว่าเราสองคนเข้าหอกันแล้ว” “แล้วจะให้ทำอย่างไรอีก” “ท่านก็ต้องทำเสียงอือ ๆ อา ๆ บ้างสิ” องค์หญิงชิงอี้ตอบหน้าทะเล้น “ไร้ยางอาย !”
บรรณาการสตรีอ๋อง [进贡美男子]
บรรณาการสตรีอ๋อง [进贡美男子]
อี้ซิน
  • สืบสวน-ชิงไหวพริบ
*เล่มเดียวจบ* 'นาง' เป็นถึงอ๋องหญิงผู้นำทัพพยัคฆ์พิรุณแห่งซีโจวผู้เกรียงไกร ส่วน 'เขา' นั้นเป็นเพียงองค์ชายใกล้ตายผู้หนึ่งของแคว้นข้างเคียงที่กลายเครื่องบรรณาการให้แก่นางในฐานะชายบำเรอ คนหนึ่งถูกส่งมาเพื่อหลอกล่อให้อีกฝ่ายอ่อนแอ ส่วนอีกคนหนึ่งก็จำยอมให้อีกฝ่ายลวงหลอกเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง สุดท้ายความสัมพันธ์ทางกายที่พวกเขามีให้แก่กันในทุกค่ำคืน จะสามารถแปรเปลี่ยนเป็นความสัมพันธ์ลึกซึ้งทางใจได้หรือไม่ หรือเมื่อทุกอย่างดำเนินไปถึงปลายทางแล้ว ... ก็จำต้องแยกจากกันไปราวกับลมพัดผ่านเพียงแค่วูบเดียว ***************** “กระหม่อมในตอนนี้เป็นเพียงแค่ชายบำเรอของท่าน” เขากอดตอบนางพร้อมหลับตาลง “องค์ชายใหญ่แห่งไห่ฉีเป็นแค่นามจอมปลอมที่ตายไปนานแล้วพ่ะย่ะค่ะ” “ไม่หรอก” นางค้านด้วยน้ำเสียงมั่นใจ และเฟิ่งหยางเสวียนก็ไม่เห็นว่าตอนนี้มุมปากของนางกำลังผุดยิ้มอย่างไรอยู่ “องค์ชายใหญ่ รัชทายาท หรือฮ่องเต้ จะด้วยตำแหน่งใดก็ตามแต่ หากเจ้าเป็นคนของข้าข้าย่อมคว้ามันมาให้ได้แน่นอน”
กลวิธีการเป็นนางร้ายฉบับท่านหญิงหลิ่วหลี [当反派的方法]
กลวิธีการเป็นนางร้ายฉบับท่านหญิงหลิ่วหลี [当反派的方法]
อี้ซิน
  • สืบสวน-ชิงไหวพริบ
*เล่มเดียวจบ* หากให้พูดถึงสตรีที่มีฐานะศักดิ์น่ายำเกรงที่สุดในมู่เป่ยโดยไม่นับฮองเฮา ‘หลิ่วหลีจวิ้นจู่’ คือนามแรกที่ผู้คนต่างพูดขึ้นพร้อมกันโดยมิต้องนัดหมาย นางคือบุตรสาวหัวแก้วหัวแหวนของฉินเหวินกง กับหลี่ซินกู้หลุนกงจู่แห่งอาณาจักรอันยิ่งใหญ่นามไท่หนาน แม้ตอนอยู่มู่เป่ยจะมีฐานะศักดิ์เป็นแค่ท่านหญิง แต่หากอยู่ไท่หนาน นางคือผู้มีฐานะศักดิ์เทียบเท่ากับองค์หญิงที่ประสูติจากสนมขั้นเฟย ทั้งได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้แห่งไท่หนานก็ดี ทั้งพรักพร้อมไปด้วยความงามและความร่ำรวยก็ดี เช่นนั้นแล้วบุรุษใดเล่าจะเหมาะสมกับนางไปมากกว่ารัชทายาทแห่งมู่เป่ย ทว่าช่างน่าขัน ... ทั้งๆ ที่เป็นสตรีสมบูรณ์แบบที่สุด แต่กลับถูกวางตัวให้เป็นแค่ ‘นางร้าย’ ในนิยายพล็อตป่วย ๆ เรื่องหนึ่ง ในอนาคตอันใกล้ ... หลิ่วหลีจวิ้นจู่ผู้นั้นจะกลายเป็นนางหงส์ผู้ถูกเด็ดปีกร่วงหล่นจากฟ้า โดนความรักบังตาทำให้พ่ายแพ้แก่บุตรสาวของตระกูลขุนนางเล็ก ๆ คนหนึ่งที่ถูกวางตัวให้เป็น ‘นางเอก’ ‘อวิ๋นหงเจียว’ หรือคือหลิ่วหลีจวิ้นจู่ผู้นั้นยิ่งคิดก็ยิ่งถอนหายใจแรง ในเมื่อสวรรค์อุตส่าห์ให้นางมองเห็นสิ่งที่เรียกว่า ‘อนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้น’ แล้ว เช่นนั้นก็ลองสวมบทนางร้ายตามที่ทุกคนคาดหวัง แล้วไปจัดการยายเด็กหน้าหนากับรัชทายาทไร้สมองกันเถอะ! *************************** - รบกวนอ่านตัวอย่างประกอบการตัดสินใจก่อนซื้อทุกครั้งนะคะ - คุณนักอ่านที่อยากรีวิวติดสปอยล์ รบกวนใส่สปอยล์ให้ไรต์ด้วยน้า - นามปากกา 'อี้ซิน' คือนามปากกาใหม่ของเหม่ยอี้ซินค่ะ คนเขียนคนเดียวกันนะคะ ≧◉◡◉≦ ขอบคุณทุกการสนับสนุนค่ะ รักรัก
มังกรย้อนกาล 龙归
มังกรย้อนกาล 龙归
เหม่ยอี้ซิน
  • สืบสวน-ชิงไหวพริบ
***เล่มเดียวจบ*** “เขาทั้งโดนคนรักหักหลัง โดนพี่ชายต่างสายเลือดก่อกบฏชิงบัลลังก์ ท้ายที่สุดแว่นแคว้นของราชสกุลเสวี่ยที่มีอารยธรรมร่วมเจ็ดร้อยปีก็ถึงคราวล่มสลาย” ตอนแรกที่ได้ฟังเกริ่นนำประโยคนี้ในคาบเรียนประวัติศาสตร์มัธยมปลายปีสอง สิ่งแรกที่เสวี่ยเซียวหยางให้ความสนใจคือแซ่ที่เหมือนกับเขา สิ่งต่อมาที่สนใจยิ่งกว่าเห็นทีว่าคงเป็นพระนามของฮ่องเต้พระองค์นั้น ที่ซึ่งเหมือนกับชื่อของเขาเป๊ะ ๆ ทุกตัวอักษร ทว่าสิ่งที่เสวี่ยเซียวหยางไม่รู้ ... นั่นคือตอนนี้ ‘สิ่งนั้น’ กำลังตามติดเขาเป็นเงาอยู่ไม่ไกล คาบเรียนประวัติศาสตร์ครั้งแรกเป็นสื่อชักนำ ดึงชายหนุ่มในยุคที่เทคโนโลยีเจริญก้าวหน้าให้ดำดิ่งลงไปสู่ห้วงอดีตชาติอันแสนน่าเวทนา ประวัติศาสตร์ที่ถูกบิดเบือน ... ทุกสิ่งอย่างที่ถูกจารจารึกไว้บนกระดองเต่าส่งผ่านแก่คนรุ่นหลัง แท้จริงแล้วสิ่งใดจริง สิ่งใดเท็จ มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ดี *************************** “...” ฉู่ซานหนิงไม่เชื่อหูตัวเอง ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าคนทั้งคู่ต่างก็เงียบใส่กัน เพราะความตกใจปนสับสนฉู่ซานหนิงจึงยืนตัวแข็งทื่อ พยายามทบทวนคำว่า ‘ชอบนะ’ ที่รัชทายาทตรัสออกมาวนซ้ำเพื่อไม่ให้ในใจรู้สึกเตลิดเปิดโปงไปมากกว่านี้ แค่บอกว่าชอบ ไม่ได้แปลว่าชอบนาง อาจหมายถึงชอบอย่างอื่นก็ได้ อย่างเช่น เอ่อ ... “มะ ... หมายความว่าอย่างไรกันเพคะ?” “ข้าหมายถึง ...” เสวี่ยเซียวหยางเองก็สติหลุดไม่แพ้กันเมื่อหลุดจากภวังค์ความคิด เขายกมือข้างหนึ่งขึ้นมากุมปิดใบหน้าของตนไว้ สูดลมหายใจเข้าปอดลึกวนซ้ำไปมาราวสามรอบก่อนลดมือลง “ข้าหมายถึงเจ้านั่นแหละ”
ตุ๊กตานำโชคขององค์ชายเจ็ด ภาคปลาย
ตุ๊กตานำโชคขององค์ชายเจ็ด ภาคปลาย
โอนีม
  • สืบสวน-ชิงไหวพริบ
นักวิจัยหลงยุคอายุสามสิบต้น ผู้ที่ชีวิตนี้มีแต่การวิจัย ไร้เพื่อน ไร้รัก และไร้หลัวสิ้นใจคาห้องวิจัยในยุคปัจจุบัน ได้รับโอกาสมีชีวิตใหม่ในร่างเด็กน้อยทาสในโลกยุคโบราณ ฟื้นขึ้นมาไม่ทันไรก็เก็บเด็กหนุ่มสภาพร่อแร่อายุน้อยกว่าตัวเองครึ่งชีวิตมาได้คนหนึ่งจากกองซากศพ พามาเลี่ยงดู ดูแลรักษาจนหายดี เด็กนั่นซาบซึ้งคิดทดแทนคุณจึงพานางไปอยู่ด้วย มารู้ที่หลังว่าเจ้าเด็กหนุ่มเป็นองค์ชายที่บิดาไม่รัก มารดาที่มีศักดิ์เป็นวิญญาณที่ตายอย่างมีเงื่อนงำอายุพอ ๆ กับนาง ซ้ำร้ายอนาคตยังก้าวไกลเป็นถึงทรราชชื่อก้องแผ่นดิน โหดเหี้ยมอำมหิตจนผู้คนสาปแช่ง นางมองเขาเป็นลูกเป็นหลาน แต่เด็กนั่นกลับคิดไม่ซื่อ วางแผนกรวบหัวกินหางนางมานานหลายปี เป็นเช่นนี้แล้วทฤษฎีความรู้ทางวิทยาศาสตร์จะช่วยให้นางรอดพ้นจากการถูกเด็กกินได้หรือไม่กันนะ
เล่ห์มารครองแผ่นดิน ภาคสงคราม เล่ม 3
เล่ห์มารครองแผ่นดิน ภาคสงคราม เล่ม 3
ลี่เยว่ (liyue)
  • สืบสวน-ชิงไหวพริบ
“ผู้นำฮั่นตะวันออก” คำที่เตปูจินใช้เรียกหยางเยว่ซือหนวี่หวงตี้ หลายคนคงยินดีกับคำยกยอนั้นหากแต่ไม่ใช่กับมิสเฉิน เธอชอบคำว่า “ผู้นำฮั่น” มากกว่า และฮั่นในที่นี้เธอไม่มีความตั้งใจจะแบ่งดินแดนใดให้ใครทั้งสิ้น ไม่ว่าจะดินแดนที่เตปูจินได้ไปแล้วอย่างฉางซุน หรือแม้กระทั่งดินแดนที่ถูกหมายตาอยู่อย่างเจียงซูก็ตาม… เจียงซู เมืองบัณฑิตที่ดูเหมือนจะเป็นลูกไก่ในกำมือ เป็นหมากขาตายในกระดาน แต่กลับกลายเป็นหมากที่ดื้อด้านกว่าที่คิดเอาไว้ จนวินาทีสุดท้ายที่ความตายมาเคาะถึงหน้าประตูก็ดูเหมือนว่าบัณฑิตเหล่านี้จะไม่สามารถวาง​​ทิฐิตนเองได้เลย… ‘ถ้าไม่เป็นมิตรก็จงติดหนี้บุญคุณไปเสียเถอะ’ เชื่อได้เลยไม่มีใครชอบการติดหนี้มิสเฉินเป็นแน่
เล่ห์มารครองแผ่นดิน ภาคการเปลี่ยนแปลง (ศึกโลหยาง) เล่ม 2
เล่ห์มารครองแผ่นดิน ภาคการเปลี่ยนแปลง (ศึกโลหยาง) เล่ม 2
ลี่เยว่ (liyue)
  • สืบสวน-ชิงไหวพริบ
เลดี้เฉินเลือกที่จะทิ้งร่างกายใกล้ตายของตัวเองมาเพื่ออาศัยในร่างกายที่ไม่ได้จะมีอายุขัยยืนนานไปกว่ากันนัก เจ็ดปีแล้วอย่างไร ขยายอำนาจได้ก็แล้วกัน น่าจะเพราะเฉินมี่จวนนั้นโตในแผ่นดินจีนโพ้นทะเลกระมังเธอจึงคุ้นชินกับการนิบถือเทพพระเจ้าที่เป็นสตรี จึงไม่ใคร่เห็นปัญหาว่าการเป็นสตรีนั้นมันจะกาลีบ้านกาลีเมืองอย่างไร น่าเสียดายที่เมืองรอบข้างไม่คิดเช่นนั้น "เมืองไหนพร้อมเป็นมิตรเราก็นับเป็นมิตร เมืองไหนต้องการเป็นศัตรูเราก็ไม่ขัดศรัทธา ข้าเป็นคนใจกว้าง"
 เล่ห์มารครองแผ่นดิน ภาคการเปลี่ยนแปลง (ศึกโลหยาง) เล่ม 1
เล่ห์มารครองแผ่นดิน ภาคการเปลี่ยนแปลง (ศึกโลหยาง) เล่ม 1
ลี่เยว่ (liyue)
  • สืบสวน-ชิงไหวพริบ
หลังจากขึ้นเป็นเจ้าเมืองต้าซี อำนาจของเมืองชายขอบนั้นไม่เพียงพอต่อบารมีของเลดี้เฉินอีกต่อไป ความชอบธรรมของเมืองที่ตั้งตัวเป็นราชอาณาจักรใหญ่ทั้งที่ตัวเองไม่มีแม้แต่ขุนนางหรือ ไม่เข้าท่าเอาเสียเลย "ข้าไม่เห็นความจำเป็นที่ต้าซีจะต้องเกรงใจเฉียนฉินอีกต่อไป" ชนวนสงครามเริ่มมาจากเจ้าเมืองโลหยางที่เห็นว่าการเป็นสตรีครองเมืองนั้นจะทำให้เทพเจ้าสาปทั้งแผ่นดิน "ไม่เห็นด้วยกับข้าก็ออกไป นี่เมืองข้าต้องรอให้เจ้ามาอนุญาตตั้งแต่เมื่อใดกัน"
เล่ห์มารครองแผ่นดิน ภาคครองบัลลังก์ เล่ม 3
เล่ห์มารครองแผ่นดิน ภาคครองบัลลังก์ เล่ม 3
ลี่เยว่ (liyue)
  • สืบสวน-ชิงไหวพริบ
ลำพังบัลลังก์ตัวเองคงลำบากไม่พอจริง ๆ ฟ้าจึงได้ประทานให้หยางเยว่ซือกงจู่ได้รู้จักกับไท่จื่อเซวี่ยแห่งลู่ซุนที่เป็น 'เด็กอ่อนหัด' ที่เก่งสุดในด้านการร้องไห้ ยกบัลลังก์ให้กับหยางเยว่ซือ "ข้ามีบัลลังก์ของข้าอยู่แล้ว" ไหนจะเรื่องของโลหยาง ชนเผ่าที่แยกตัวมาจากพวกกลุ่มมองโกลทางเหนือที่ยึดถือว่าสตรีไม่ควรครองแผ่นดินที่คอยเอาแต่หาเรื่องเธออีก มิสเฉินไม่เข้าใจสักนิดว่าการที่เธอเป็นสตรี ครองแผ่นดินต้าซี มันทำให้ฝนที่โลหยางตกต้องไม่ตามฤดูกาลหรืออย่างไร? "ทำไมถนัดยุ่งเรื่องของเมืองอื่นนัก เมืองตัวเองไม่น่าสนใจหรือ?"