“เขาทั้งโดนคนรักหักหลัง โดนพี่ชายต่างสายเลือดก่อกบฏชิงบัลลังก์ ท้ายที่สุดแว่นแคว้นของราชสกุลเสวี่ยที่มีอารยธรรมร่วมเจ็ดร้อยปีก็ถึงคราวล่มสลาย”
ตอนแรกที่ได้ฟังเกริ่นนำประโยคนี้ในคาบเรียนประวัติศาสตร์มัธยมปลายปีสอง สิ่งแรกที่เสวี่ยเซียวหยางให้ความสนใจคือแซ่ที่เหมือนกับเขา สิ่งต่อมาที่สนใจยิ่งกว่าเห็นทีว่าคงเป็นพระนามของฮ่องเต้พระองค์นั้น ที่ซึ่งเหมือนกับชื่อของเขาเป๊ะ ๆ ทุกตัวอักษร
ทว่าสิ่งที่เสวี่ยเซียวหยางไม่รู้ ... นั่นคือตอนนี้ ‘สิ่งนั้น’ กำลังตามติดเขาเป็นเงาอยู่ไม่ไกล
คาบเรียนประวัติศาสตร์ครั้งแรกเป็นสื่อชักนำ ดึงชายหนุ่มในยุคที่เทคโนโลยีเจริญก้าวหน้าให้ดำดิ่งลงไปสู่ห้วงอดีตชาติอันแสนน่าเวทนา
ประวัติศาสตร์ที่ถูกบิดเบือน ... ทุกสิ่งอย่างที่ถูกจารจารึกไว้บนกระดองเต่าส่งผ่านแก่คนรุ่นหลัง
แท้จริงแล้วสิ่งใดจริง สิ่งใดเท็จ มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ดี
***************************
“...”
ฉู่ซานหนิงไม่เชื่อหูตัวเอง
ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าคนทั้งคู่ต่างก็เงียบใส่กัน เพราะความตกใจปนสับสนฉู่ซานหนิงจึงยืนตัวแข็งทื่อ พยายามทบทวนคำว่า ‘ชอบนะ’ ที่รัชทายาทตรัสออกมาวนซ้ำเพื่อไม่ให้ในใจรู้สึกเตลิดเปิดโปงไปมากกว่านี้
แค่บอกว่าชอบ ไม่ได้แปลว่าชอบนาง อาจหมายถึงชอบอย่างอื่นก็ได้ อย่างเช่น เอ่อ ...
“มะ ... หมายความว่าอย่างไรกันเพคะ?”
“ข้าหมายถึง ...” เสวี่ยเซียวหยางเองก็สติหลุดไม่แพ้กันเมื่อหลุดจากภวังค์ความคิด เขายกมือข้างหนึ่งขึ้นมากุมปิดใบหน้าของตนไว้ สูดลมหายใจเข้าปอดลึกวนซ้ำไปมาราวสามรอบก่อนลดมือลง
“ข้าหมายถึงเจ้านั่นแหละ”
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว