บทที่ 2 นาซาเร็ธ
“ข้าชื่อ นาราเร็ธที่4”
“นาราเร็ธ”
ผมพูดทวนอีกครั้ง จำไม่ได้ว่าเคยได้ยินชื่อนี้จากที่ไหนสักแห่ง คงเป็นในโบวชัวร์ขายของมือสองที่ติดตามเสาส่งสัญญาณ รูปร่างหน้าตาของเขาดูไม่คล้ายกับพวกอาชญากรเท่าไร ที่คอก็ไม่มีรอยสัก เสื้อผ้าถึงแม้จะเก่าแต่ยังสะอาด เขาคงจินตนาถึงคนผู้นี้ในช่วงสุดท้ายของการแปลงภาพลักษณ์
“ข้าติดตามเจ้ามาสักพักหนึ่งแล้วจอน เจ้ากล้าหาญกว่าบุคคลอื่นที่ไม่ยอมเปลี่ยนภาพลักษณ์แม้นในช่วงสุดท้ายก่อนกฏหมายใหม่บังคับใช้ และชื่อของคนที่เจ้าเลียนแบบคือ“ซูเปอร์แมน” ”
“ซูเปอร์แมน” ผมอุทาน
คำว่า ซูเปอร์แมนทำให้เรื่องราวน่าสนใจขึ้นมาทันที จำได้ว่าตอนเรียนประวัติศาสตร์เรื่องอาหารมีชื่ออาหารซูเปอร์ตีนไก่ คงเกี่ยวข้องกับซูเปอร์แมนไม่มากก็น้อย แต่นั่นก็เป็นเรื่องหลายปี ….กี่ปี่ก็จำไม่ได้ เรื่องวันเดือนปีได้ถูกกำหนดใหม่บ่อยๆจนสับสน ผมสำรวจทั่วเรือนร่างเขาจนแน่ใจว่าไม่มีอาวุธจึงเปิดประตูแล้วเดินนำไปที่โซฟาตัวโปรด
“ที่ว่าคุณติดตามผมมานานแล้ว หมายถึงอะไร?” ผมถามด้วยอาการสงสัย
“รอเดี๋ยว” ชายไว้เคราหยิบเครื่องมือใต้ผ้าคลุมออกมาอย่างว่องไว มันคล้ายกับเครื่องมือที่ 27 ใช้ซ่อมเครื่องรับสัญญาณ ระหว่างครุ่นคิด นาซาเร็ธใช้เครื่องมือถอดส่วนประกอบอุปกรณ์บางอย่างของผมออก
“มันคือเครื่องส่งสัญญาณกลับสู่สมอง ใช้สำหรับรับภาพลักษณ์ของผู้อื่น” ผมรับคำ
“คุณถอดมันทำไม” ผมพูดขึ้นลอยๆ นาซาเร็ธกำลังถอดอุปกรณ์ส่งสัญญาณออกเช่นกัน จากนั้นเขาเลิกผ้าคลุมที่คลุมถึงตาตุ่มขึ้นทันที เผยให้เห็นอวัยวะเพศซึ่งไม่ปรกติ เขามีเพียงอวัยวะเพศชายและทวารหนักเท่านั้น ผมชักจะตื่นเต้นยิ่งขึ้นเมื่อได้เห็น
“แล้วคุณ คุณทำเรื่องอย่างว่ายังไง” ผมเริ่มถามคำถามนอกประเด็น เมื่อเห็นอะไรที่ไม่ชอบมาพากล นาซาเร็ธกลับส่ายศีรษะไปมาแล้วพูดไปเรื่อย
“มนุษย์ถูกครอบงำโดยระบบอย่างสมบูรณ์ ความสมบูรณ์แบบนำมาซึ่งความเบื่อหน่าย นำมาซึ่งความเกียจคร้าน และความชั่วทั้งมวล …
จงมองดูตัวเจ้าที่สามารถถึงจุดสูงสุดเวลาไหนก็ได้ มันทำให้เรื่องสูงสุดกลายเป็นเรื่องสามัญ มันเป็นความเท่ากันที่รสเลี่ยนชวนอ๊วก ข้าติดตามเจ้าตั้งแต่เจ้าเริ่มทำงานให้กับระบบ ถึงแม้นหน้าที่ของเจ้าเพียงแค่ป่าวประกาศคำแสลงชวนสลด”
เขาเอามืดเท้าคาง ทำท่าครุ่นคิด ท่านี้ทำให้เขาดูฉลาดขึ้นสักยี่สิบเปอร์เซ็น “จริงๆแล้วมนุษย์เกิดมาจากการวิวัฒนาการ”
“วิวัฒนาการ”ผมนึกถึงคำปราศรัยตอนระบบขัดข้องขึ้นได้
“อันที่จริงมนุษย์ไม่ได้เป็นอย่างทุกวันนี้ มนุษย์มีอวัยวะเพศเพียงอันเดียว และต้องใช้คนถึงสองคนในการสืบพันธ์…เมื่อนานมาแล้ว การตัดต่อพันธุกรรมมาถึงจุดสมดุล มนุษย์คนแรกคือ อาดัมเอวา นั้นมีอวัยวะเพศสองอันที่สอดใส่กันได้ในคนคนเดียว และลูกหลานรุ่นถัดมาเริ่มใช้การโคลนนิ่งแทนการสืบพันธ์แบบเดิม สิ่งที่เรียกว่าอสุจิและไข่โดนนำออกจากร่างมนุษย์ ผ่านไปหลายชั่วคน มีเพียงจุดกระตุ้นกำหนัดและของเหลวสามัญที่ยังคงอยู่ แต่แก่นแท้แห่งการสืบพันธุ์ได้ถูกทำลาย
ข้าโคลนนิ่งมาจากเซลล์มนุษย์รุ่นสุดท้าย ก่อนที่อาดัมเอวาได้ถือกำเนิด เซลล์ได้ถูกส่งต่อมารุ่นสู่รุ่นและข้าเป็นโคลนนิ่งรุ่นที่ 4”
เขาหยิบอุปกรณ์ทรงกระบอกอ่อนนุ่มออกมา พร้อมกล่าวต่อไป
“นี่คืออุปกรณ์สั่นสะเทือน ที่เราเลียนแบบมาจากพงศาวดารโบราณ ตามบันทึกเชื่อว่ามันสามารถช่วยให้ถึงจุดสุดยอด มันคือสัญลักษณ์ของกลุ่มกบฏ”
“กบฏ”ผมอุทาน
ที่แท้เขาเป็นพวกเดียวกับกลุ่มผู้ประท้วง แล้วทำไมเขาถึงติดตามผม หรือจะเป็นอย่างที่คิดไว้ว่าเขาจะใช้ผมเป็นตัวประกัน ไม่ผิดแน่ ไม่ผิดแน่ ….
“ความเด็ดเดี่ยวต่อภาพลักษณ์เดียวของเจ้าทำให้เจ้าถูกเลือก”นาซาเร็ธพูดอย่างหนักแน่น
คำว่าถูกเลือกปรากฏต่อมโนภาพ คงคล้ายๆกับนวนิยายสมัยก่อนที่ผู้ถูกเลือกจะได้รับพลังพิเศษ มีเวทมนต์ ลมปราณหรืออะไรที่เก่าแก่กว่านั้น เขาอาจจะบันดาลให้ผมเป็นซูเปอร์แมน ที่มีพลังมาก เหาะได้ และเป็นรักร่วมเพศ ได้จริงๆ ผมถามคำถามที่คาใจอยู่
“คุณเป็นพวกเดียวกับผู้ประท้วง…ในข่าว”
“ นั่นคือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง ”นาซาเร็ธตอบอย่างสั้นๆ
“แล้วคุณจะให้ผมทำอะไร”
เขาบรรยายแผนการอันซับซ้อนของเขาให้ผมฟัง เราทวนแผนซ้ำสองรอบ จนมั่นใจว่าจะไม่ก้าวเท้าพลาด เขาสัญญาว่าจะทำให้ผมเป็นซูเปอร์แมนที่แท้จริงหลังจากแผนการสำเร็จ ค่ำคืนนั้นนาซาเร็ธนอนพักที่ห้องผม เขานอนอย่างกระวนกระวายใช้สัญลักษณ์ของการประท้วงสอดเข้าร่างกายร้องครางเสียงดัง คล้ายสัตว์กำลังถูกเชือด ผมคิดว่าเขาคงฝันร้ายเนื่องจากเหตุร้ายในชีวิต ช่างเป็นค่ำคืนที่น่าสลดหดหู่
รุ่งเช้าของวันใหม่ชะล้างความโหยหวนเมื่อค่ำคืน ผมตื่นมาพร้อมกับความว่างเปล่า นาซาเร็ธได้จากไปก่อน ทิ้งไว้แต่สัญลักษณ์ของการประท้วง แผนการยังต้องดำเนินไปต่อ ผมออกไปทำหน้าที่ป่าวประกาศคำปราศรัยในตอนเช้า จนถึงบ้านของ 27
ขณะชะเง้อหน้าไปกำลังจะทักทาย ประตูบ้านถูกเปิดออกมาพร้อมกัน ผมตะลึงไปชั่วขณะ เพราะเห็นผู้ซึ่งไม่ควรจะเห็นมากที่สุด 27 ได้กลายเป็นชายที่ชื่อ
“ซูเปอร์แมน”
เรารูปร่างหน้าตาสัดส่วนทุกอย่างเหมือนกันเปี๊ยบ 27 ตกใจจนหน้าซีด
ผมเริ่มคิดทบทวนแผนการก่อกบฏเมื่อคืน ชั่งน้ำหนักว่าหากแผนล้มเหลว 27จะถูกจับกุมไปด้วย ควรล้มเลิกหรือบอกความลับกับเขาดี ความตะลึงสะกดผมไปชั่วขณะ “จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง”ดังก้องในหัว ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของเราทั้งสองคลายตัวออกเมื่อ 27ตั้งสติได้ก่อนแล้วเริ่มบทสนทนา
“ถ้าภาพลักษณ์นี้ไม่สามารถเปลี่ยนได้ ฉันอาจตัดสินใจไปผ่าตัดกระแสประสาท” เขากล่าวอย่างตะกุกตะกัก ผมโอบไหล่27พร้อมพาเดินอ้อมไปในที่ลับตา แล้วเริ่มบรรยายแผนการ
“เราต้องช่วยกันทำอะไรบางอย่าง พระเจ้าต้องการพวกเรา…”
"โอ้ พระเจ้า !"