เล่ห์รักซาตานแค้น

ตอนที่ 1 เส้นทางงานนำสู่ทางรัก

บทที่ 1 ความฝันแสนหวาน


“หนูนิด...หนูนิด”

เสียงทุ้มลึกที่ดังอยู่ใกล้ ๆ ปลุกภวังค์อันล่องลอยของสาวสวยสะพรั่งวัยสิบเก้าให้ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น คัทลียาปรือตามองก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาของใครคนหนึ่งที่โน้มลงมาจนเกือบชิด

“คุณอาไกรสูรย์”

หญิงสาวเรียกชื่อนั้นด้วยน้ำเสียงอันแห้งผากเมื่อเธอลืมตาและมองใบหน้าคร้ามเข้มของหนุ่มไทยที่มีเชื้อสายอเมริกันครึ่งหนึ่ง ร่างอรชรบิดกายที่เปลือยเปล่าใต้ผ้าแพรเนื้อบางลื่นไปมาเบา ๆ ใหน้าหล่อเหลาโน้มลงมาใกล้จนเกือบชิด

“หนูนิด...ตื่นได้แล้วจ้ะ”

“คุณอาไกรสูรย์...คุณอาไกรสูรย์จริง ๆ หรือคะ?”

แม้จะตื่นแต่เธอก็ยังมีอาการสะลึมสะลือ ครึ่งหลับครึ่งตื่น ทุกอย่างรอบกายลอยล่อง เบาหวิว มีเพียงอย่างเดียวที่ชัดเจนอยู่ในตาสวยคู่นั้น นั่นคือภาพของหนุ่มซึ่งมีอายุมากกว่าเธอหลายปีทว่าเขาก็ยังดูดีในแบบฉบับของหนุ่มลูกครึ่ง

“คุณอาไกรสูรย์คะ...”

สาววัยสิบเก้าเผยอริมฝีปากอิ่มสวยเล็กน้อย แต่ก่อนที่เธอจะทันได้ถามอะไรริมฝีปากหยักหนาก็ประกบลงมาและบดเบียดกับปากของเธอจนแนบแน่น

“อืม...อืม...”

คัทลียาครางลึกในลำคอ ร่างสาวใต้ผืนแพรสั่นสะท้านเมื่อได้รับจุมพิตอันซาบซ่านโดยไม่ทันตั้งตัว ลิ้นอุ่นของผู้ชายที่เธอแทนตัวเขาว่า คุณอา แทรกเข้าไปในปากจิ้มลิ้ม ตวัดไปมาและโลมไล้ไปทั่ว ทั้งเพดานปาก ตวัดเกี่ยวลิ้นเล็ก ดูดดุนความฉ่ำชุ่มที่ปลายลิ้นของเธอและสำรวจไปทั่งทั้งอุ้งปาก

“อืม...อา...อา...”

ร่างแน่งน้อยบิดกายไปมาด้วยความสยิวซ่าน เธอไม่เคยค้นพบสิ่งนี้มาก่อน สิ่งที่เรียกว่าจูบ แต่เจ้าของเรือนร่างงามกลับยินดีต่อสัมผัสอันนุ่มละมุน ยินยอมให้ปากของเธอรับเรียวลิ้นที่ล่วงล้ำเข้ามา ดูดกลืนและดูดดื่มราวกับเป็นเจ้าของ

คัทลียาขนลุกซู่เมื่อมือไม้นั้นไล้ไปมาบนไหล่กลมกลึง กดลงบนผิวเนียนลื่นสลับกับลูบไล้อยู่ที่ลำคอระหง เสียงครางของเขาดังอยู่ในลำคอเช่นกันเมื่อหญิงสาวเริ่มตอบสนองต่อลิ้นหนาที่เลาะเล็มไปทั่วในกลีบปากอันฉ่ำหวาน

เธอรู้สึกถึงแรงเสียดสีจากมัดกล้ามบนหน้าอกกว้างบนเรือนร่างอันแข็งแกร่งที่บดเบียดลงมาระหว่างเนียนผิวและผิวหยาบกร้านซึ่งมีเพียงเนื้อผ้าแพรที่ขวางกั้นไว้เท่านั้น

นี่เป็นความจริงหรือความฝัน เธอจดจำใบหน้าของผู้ชายที่เธอเรียกเขาว่าคุณอามาโดยตลอดอย่างแม่นยำ เขาหล่อเหลา ใบหน้าคมคร้ามซึ่งดูเข้มอย่างหนุ่มไทยแต่มีเรือนร่างกำยำสูงใหญ่และเต็มไปด้วยมัดกล้ามหนั่นแน่นอย่างชาวยุโรป

ทุกตารางนิ้วของผิวสาวสั่นระริก แค่จูบแสนละมุนก็ทำให้เธออ่อนยวบเหมือนขี้ผึ้งถูกไฟลน มือสากหนาของเขาเหมือนไฟร้อนระอุ มันเสียดสีไปบนผิวของเธอราวกับจะทำให้มันมอดไหม้

จูบนั้นเริ่มหนักหน่วงขึ้น หญิงสาวเสียวซ่านตั้งแต่กลีบปากสีระเรื่อลงไปจนถึงปลายเท้า คัทลียาบิดกายเร่า เขาค่อย ๆ เลื่อนริมฝีปากออก แต่กลับเลื่อนมือลงต่ำจากลำคอเรียวระหงและสัมผัสบนผืนแพรที่ปกปิดส่วนโค้งนูนของโนมเนื้อบนทรวงกลมกลึง

“อู๊ววว...คุณอาขา...”

คัทลียาร้อนวูบวาบไปหมด ร่างกายของเธอเหมือนมีคลื่นร้อนวิ่งเข้าปะทะนับล้านระลอก เขาลูบไล้ไปบนเนินอกสวยที่โผล่พ้นออกมาจากผืนผ้าแพรที่ปิดไว้อย่างหมิ่นเหม่ มันชูชันและส่วนปลายแข็งเป็นไตจนดันเนื้อผ้าเป็นรูปร่างคล้ายผลเบอร์รี่เม็ดเล็ก ๆ

แล้วมือสากกร้านก็สอดเข้าไปใต้เนื้อแพรบางนิ่มที่ปกปิดเรือนร่างเปลือยเปล่ากลมกลึง เคล้นคลึงความอวบอิ่มของทรวงสวยบนเรือนร่างสาวที่บิดเร่าเหมือนอยู่บนกองไฟ

“คุณอาไกรสูรย์...อย่าค่ะ...อืม...อย่าค่ะ...”

คัทลียาส่ายใบหน้าสวยหวานไปมาเมื่อมือสากหนาล้วงเข้าไปลูบไล้อยู่บนเนินเนื้ออวบนิ่มใต้แพรไหม หญิงสาวขยุ้มผ้าปูเตียงไว้จนแน่นเมื่อเขาเริ่มเคล้นคลึงดอกบัวตูมขนาดใหญ่ทั้งสองใต้ผืนแพร

“คุณอาขา...อ๊า...อย่าค่ะ...อ๊า”

ปากของเธอร้องห้ามแต่ร่างกายกลับยินดีต่อสัมผัสของมือหนาที่เคล้นคลึงและบีบบี้เบา ๆ คัทลียาร้องห้ามแต่เธอกลับเห็นรอยยิ้มย่ามใจบนใบหน้าหล่อเหลาที่โน้มลงมาหาและประกบปิดริมฝีปากของเธออีกหน

“อู๊วววว...อ๊า...ซี๊ด...คุณอาขา...อย่าซีคะ”

ยิ่งดอกบัวตูมถูกเคล้นคลึงบีบคลำ หญิงสาวก็ยิ่งแอ่นร่างจนอกชูชันเผยออกมาจากผ้าห่มผืนบาง เสียงคัทลียาร้องครางลอดออกมาจากริมฝีปากที่ถูกประกบปิดเอาไว้เพียงเล็กน้อย

แต่ร่างกายของเธอกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยงเมื่อร่างหนาใหญ่ทาบทับลงมาบนตัวเธอ เบียดบดและเสียดสีถูไถไปมาบนทรวงอกนุ่มก่อนที่ผ้าแพรซึ่งกั้นกลางระหว่างร่างที่เปล่าเปลือยของเธอและเขาจะถูกเลื่อนออกไป

“คุณอาขา...อา..อย่าค่ะ...ยะ...อย่า...”

คัทลียาแอ่นร่างรับเรี่ยวแรงมหาศาลของร่างใหญ่ที่กดทับลงมา เธอกอดตอบแต่แล้วทุกอย่างกลับเบาหวิวล่องลอยไปในวินาทีที่เธอปรือตามองใบหน้าหล่อเหลาของร่างสูงใหญ่อีกครั้ง

“คุณอาไกรสูรย์!...คุณอา...”

ร่างอรชรเปล่าเปลือยใต้ผ้าแพรสะดุ้งตื่นขึ้นท่ามกลางแสงไฟสลัวในยามวิกาล คัทลียาหอบหายใจเมื่อรู้สึกถึงสิ่งรอบตัวที่ชัดเจนกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่

“ฝันไปหรือนี่...”

เด็กสาววัยสิบเก้าพูดกับตัวเองก่อนเหลือบมองนาฬิกาข้างเตียงบอกเวลาเกือบเที่ยงคืน เธอปาดรอยเหงื่อบนขมับและถอนหายใจ พรุ่งนี้แล้วซีนะที่เธอต้องเดินทางไปไร่มัทนารี


รีวิวจากผู้อ่าน
ยังไม่มีรีวิวสำหรับเรื่องนี้

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว