เงาไร้รัก-บทที่ 15 ไม่เสียใจเท่าเธอ

โดย  หมีขี้เกียจจจ

เงาไร้รัก

บทที่ 15 ไม่เสียใจเท่าเธอ

ภายในห้องรับแขกไม่เล็กไม่ใหญ่ที่ตกแต่งไปด้วยโทนสีขาวสะอาดตา ร่างของอรรถวิทย์กำลังนั่งทำงานอยู่บนโชฟากลางห้องโดยมีดารารัตน์นั่งอยู่ใกล้ๆ นี่เป็นกิจวัตรประจำวันที่เขาทำมาตลอดตั้งแต่ที่เธอออกจากโรงพยาบาล

เมื่อเธอหายดีเขาจะกลับไปทำงานต่อ แต่เธอยืนการว่าเธอจึงจะไปด้วย อรรถวิทย์กลัวว่าหญิงสาวจะลำบากจึงหอบงานทั้งหมดมานั่งทำที่นี่ อรรถวิทย์พูดได้เต็มปากแล้วว่าชีวิตของมีความสุขถึงจะไม่ที่สุดก็ตามน้องสาวเขามีลูกที่น่ารักมีสามีที่ซื่อสัตย์ต่อน้องสาว ส่วนน้องชายถึงจะมีปัญหาด้านความรักที่หนักหนาเอาการแต่เรื่องงานนับว่าอุภัยภัทรทำได้ดีมาก และที่สำคัญคือเค้าได้หญิงอันเป็นที่รักของเขาคืนกลับมาในฐานะที่เขาพึงพอใจแบบสุดๆ

ระหว่างที่อรรถวิทย์ทำงานอยู่ เสียงโทรศัพท์ก็กรีดร้องขึ้นอรรถวิทย์กำลังจะเอื้อมมือไปหยิบแต่หญิงสาวที่อยู่ด้วยมือเร็วกว่าเขามาก

เมื่อเห็นชื่อที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าจอ ดารารัตน์กำโทรศัพท์แน่นจนหน้าจอแทบจะร้าวคามือแล้วดวงตาแดงก่ำไปด้วยความโกรธ

“ยังไม่เลิกยุ่งกับนางนั่นอีกหรอ”

“เราติดต่อกันในฐานะเพื่อน ที่รักคุณอย่าโกรธสิ” อรรถวิทย์ลูบต้นแขนหญิงสาวเพื่อให้หญิงสาวสงบลง

“งั้นรับสิ เปิดลำโพงด้วย” ดารารัตน์ยื่นโทรศัพท์คืนให้อรรถวิทย์

อรรถวิทย์กดรับสายโดยไม่ได้คิดอะไร

“ฮัลโหล” อรรถวิทย์เอ่ยทักทาย

“วิทย์คะ วันนี้มาหาฉันหน่อยได้ไหมคะ พอดีฉันไม่สบายไม่มีคนซื้อยาให้ ……” เสียงไอของเอมิลี่ลอยมาตามสาย

“ได้สิครับ จะไปหาเดี๋ยวนี้เลย” ถึงจะกลัวสายตาของดารารัตน์แต่ด้วยความเป็นเพื่อนแล้วเขาคงปล่อยให้ผู้หญิงคนนึงนอนป่วยอยู่ลำพังไม่ได้

“ขอบคุณมากนะคะ”

“ไม่เป็นไรครับ”

อรรถวิทย์กดตัดสายแล้วค่อยๆ เงยหน้ามองหญิงสาวตรงหน้าและรีบก้มหัวลงอยากไว

“รัตน์ ขอฉันไปหาเอมิลี่ ได้ไหม เธอไม่…”

“ไม่ต้องพูด หูฉันไม่ได้ดับ ดารารัตน์กอดอกจับผิดชายหนุ่มเต็มที่ “ถามจริงแค่นี้ดูไม่ออกหรอว่ามันเป็นมารยา”

“เอมิลี่ไม่ใช่คนแบบนั้น เธอป่วยผมก็แค่ซื้อยาไปให้อย่าคิดมากสิ ผมรักคุณหลงคุณขนาดนี้จะมีที่ให้คนอื่นได้ยังไง”

“สมองหมาปัญญาควายจริงๆ ไม่ต้องไป ไปให้มันอ่อยหรือไง ถ้ามันจะตายเดี๋ยวก็ไปหาหมอเองแหละ

“รัตน์ เอมิลี่ไม่ใช่คนแบบนั้น เธอเป็นคนน่ารักนิสัยดีคนนึง เธอไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้นหรอกอีกอย่างวันนั้นเธอบอกว่าเธอเข้าใจดีแล้วเธอจะทำแบบนั้นทําไม” อรรถวิทย์พยายามแก้ต่างให้เอมิลี่

“แก้ตัวแทนมันขนาดนี้รักมันมากใช่ไหม รักมันก็ไปอยู่กับมันเลย” ดารารัตน์ทำท่าจะลุกหนีแต่อรรถวิทย์ดึงเธอเข้ามานั่งบนตักและใช้แขนทั้งสองข้างก่อนเอวบางของหญิงสาวเอาไว้แน่น

“อย่าโกรธสิ ฉันเป็นห่วงเธอในฐานะเพื่อนและอีกอย่างที่ผ่านมาเธอก็ไม่เคยทำนิสัยแบบนั้นให้ฉันเห็น ถ้าเธอไม่เชื่อไปด้วยกันเอาไหมล่ะ

ดารารัตน์นิ่งคิดอยู่พักนึงแล้วเธอก็ตัดสินใจได้ว่าควรจะแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไร

“ฉันไปเอง”

“แต่…” อรรถวิทย์จะค้าน

“คุณจะไปด้วยก็ได้แต่ต้องรอข้างนอก” ดารารัตน์ไม่พูดเปล่า เธอใช้สายตากดดันชายหนุ่มเต็มกำลัง

อรรถวิทย์เมื่อเจอสายตาท่าทางของหญิงสาวเข้าไป พูดได้เต็มปากเลยว่าเขากลัวเธอหัวหดเขาจึงต้องจำใจพยักหน้ารับ

อรรถวิทย์พาเธอไปที่คอนโดเอมิลี่ ดารารัตน์ให้เขารอข้างนอกตามที่ตกลงกัน เมื่อเธอเดินเข้าไปในห้องจะพบว่าห้องมันเงียบสนิทไร้ซึ่งวี่แววของคน มีเพียงแต่ไฟในห้องที่เปิดไว้ ดารารัตน์เดินตามทางเดินเข้าไปจนถึงห้องที่คิดว่าน่าจะเป็นห้องนอน เมื่อเธอเปิดประตูเข้าไปช้าๆ

“เป็นอย่างที่คิดไม่ผิด” ดารารัตน์กระตุกยิ้มราวกับนางพญามารร้าย

ภายในห้องเปิดไฟโทนสีส้มอ่อน ร่างของเอมิลี่ใส่ชุดนอนไม่ได้นอน ดวงตาปิดสนิทรักคนกำลังหลับอยู่ บอกใครใครจะเชื่อ คนป่วยที่นอนหลับสนิทอยู่นั้นแต่งหน้าจัดจ้านราวกลับจะออกงานใหญ่โตยังไงอย่างงั้น

“วิธีอ่อยผัวคนอื่นแย่มาก” ดารารัตน์เน้นคำว่าผัวคนอื่นเป็นการย้ำว่าอรรถวิทย์เป็นของเธอ

อีกคนได้ยินเสียงหญิงสาวเธอลืมตาขึ้นทันที เธอลืมตาขึ้นกวาดสายตามองไปรอบรอบห้องไม่พบร่างของอรรถวิทย์พบเพียงแค่หญิงสาวคนดังกล่าวจึงรีบลุกขึ้นจากเตียงอย่างเร็ว

“ผัวคนอื่นที่ไหน ผัวฉันเธอก็รู้ไม่ใช่หรอ”

“ถ้างั้นผัวเธอคงมีหลายคนหน่อยนะ” ดารารัตน์กวาดไล่สายตาตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าของหญิงสาวอีกคนหนึ่ง “ฉันว่านะที่คุณวิทย์เขาไม่เอาเธอ เพราะว่าผ่านมากเกินหรือเปล่าไม่เหมือนกับฉันที่ทำแน่นทั้งสดไม่เหมือนของเน่าเน่าล้มหลวงแถวนี้”

“กรี๊ดดดด อีผีบ้าเธอกล้าว่าฉันหรอ แล้วตัวเองล่ะถ้าดีจริงๆ เขาคงไม่หนีมาหาฉันตั้ง 2 ปีหรอก”

“2 ปีที่เขาอยู่กับเธอก็ไม่ได้เปลี่ยนใจเขาเลยแม้แต่นิดเดียว” ดารารัตน์ยิ้มอยากเป็นผู้ชนะ “จำใส่กะลาหัวเธอไว้นะ เขารักฉัน เขารักฉันคนเดียว เธอน่ะเป็นแค่ทางผ่านเป็นแค่ตัวแทนของฉัน ฉันพูดก็เพื่อตัวเธอเองนะ เลิกให้ความหวังตัวเองเถอะ ทำแบบนี้มันเหมือนการประกาศให้โลกรู้ว่าเธอร่านขนาดไหน”

เพียะ!

“อยากตบฉันก็ตบเลย แต่ฉันไม่เอามือของฉันไปอีกแปดเปื้อนหน้าสกปรกโสโครกของเธอหรอกนะ” ดารารัตน์พูดด้วยตาดูแคลน

“อยากตายมากใช่ไหม” ยิ่งเห็นสีหน้าท่าทางของดารารัตน์ เอมิลี่อยากจะเข้าไปบีบคอผู้หญิงตรงหน้านะ

"เออ มีอะไรไหม"

“กรี๊ดดดดด เธออย่าอยู่เลย”

ว่าแล้ว เอมิลี่ก็ตรงเข้าไปตบหน้าดารารัตน์อีกครั้งเมื่อหญิงสาวล้มลง เอมิลี่รีบคร่อมร่างดารารัตน์ทันที

ดารารัตน์ไม่สู้ ซ้ำหันหน้าให้ตบอีก ยิ่งร่างกายเธอช้ำเท่าไหร่ยิ่งดีไอ้โง่ของเธอจะได้เลิกยุ่งกับกินี่สักที

ทางอรรถวิทย์ เขายืนรออยู่นาน หญิงสาวไม่มีทีท่าว่าจะออกมาสักทีด้วยความเป็นห่วงกลัวว่าดารารัตน์จะทำร้ายเอมิลี่ อรรวิทย์จึงตัดสินใจเปิดประตูเข้าไป แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไปแล้วเขาต้องพบกับสิ่งที่ตรงกันข้าม เขาเห็นร่างของ เอมิลี่ทำร้ายดารารัตน์อยู่ เมื่อเห็นแบบนั้นเขารีบวิ่งไปกระชากร่างของเอมิลี่ออก แล้วรีบเข้าไปประคองดารารัตน์ เขากวาดไล่สายตามองตาราดารัตน์ตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วต้องกำหมัดแน่น เมื่อเห็นแก้มเนียนทั้งสองข้างเต็มไปด้วยรอยแดงต้นคอ ต้นแขนของหญิงสาวมีรอยเขียวช้ำจ้ำๆ เต็มไปหมด

“ฉันไม่คิดเลยนะว่าเธอจะเป็นคนแบบนี้เองมิลี่ “เขาหันกลับไปอยู่ตะคอกใส่เอมิลี่เสียงเข้ม

“วิทย์คะ ไม่ใช่นะคะ มันจัดฉาก มันตั้งใจให้เป็นแบบนี้ คิดอยู่แล้วเชียวว่าทำไมมันถึงไม่สู้ที่แท้มันก็อยากให้เป็นแบบนี้เอง อีตอแหล อีมารยา

ดารารัตน์ไม่พูดอะไร หญิงสาวพยายามบีบน้ำตา แล้วเธอก็ทำได้ดีมากด้วย ดารารัตน์น้ำตาอาบหน้าหญิงสาวเธอแกล้งตีหน้าเศร้าได้อย่างน่าสงสาร

อรรถวิทย์เมื่อเห็นภาพดังกล่าวความโกรธความโมโหของเขามีทวีคูณมากยิ่งขึ้น

“เธอเขายังไม่สำนึกอีกเหรอ ได้…ในเมื่อคุณจะเอาแบบนี้แม้แต่เพื่อนผมก็ไม่สามารถให้คุณได้” อรรถวิทย์ประกาศตัดความสัมผัสอย่างจริงจัง สายตาที่เขาใช่มองเธอมันว่างเปล่าอย่างน่ากลัว

“วิทย์ฉันขอโทษ ต่อไปฉันจะไม่ทำแบบนี้อีกคุณอย่าทำแบบนี้เลยนะ” เอมมิลี่พยายามจะขอร้อง

หากแต่อรรถวิทย์ไปประคลองดารารัตเดินออกจากห้องไป

ก่อนจะออกจากธรณีประตูดารารัตน์หันกลับมามองหน้าหญิงสาวที่ยืนน้ำตานองหน้าด้วยสายตาล้อเลียนพร้อมกับพูดโดยไม่มีเสียงว่า มารยามามารยากลับไม่โกง แล้วเยอะเอมิลี่ด้วยการซบศีรษะลงบนอกอรรถวิทย์

อรรถวิทย์เมื่อเห็นหญิงสาวซบหัวลงบนอกเขา เขาจึงยกมือขึ้นลูบศีรษะของเธอพร้อมกับจุมพิตศีรษะปลอบขวัญเธอเบาๆ

เอมิลี่เมื่อเห็นภาพดังกล่าวน้ำตาของเธอทะลักออกมาราวกับเขื่อนแตก คนนี้เป็นคนที่เท่าไหร่แล้วที่ทอดทิ้งเธอไม่มีใครรักเธอจริงๆ สักคนเลยหรือไง

“กรี๊ดดดด”

เอมิลี่ยืนมองทั้งสองคนออกจากประตูห้องเธอไปด้วยความเศร้าเสียใจสุดท้ายเธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากร้องไห้เสียใจอยู่ตรงนี้

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว