นางกลางใจ -ตอนที่ 19 เอาอกเอาใจ

โดย  นกชาย

นางกลางใจ

ตอนที่ 19 เอาอกเอาใจ

บทที่ 11 หน้าที่ของสามี


ตลอดทางนั่งรถลากมา การะเกดพยามไม่สบตาคุณหลวง รถลากก็คันใหญ่เคลื่อนตัวไปตามทางมุ่งสู่กระทรวงการต่างประเทศ


“หล่อน…?” คุณหลวงกระแอมเสียงขึ้นมาเหมือนทีธุระสำคัญจะพูดคุยด้วย

“คะ?” การะเกดหันไปหาคุณหลวง

“คืนนี้ฉันขออะไรหล่อนอย่างนึงจะได้ไหม?” เสียงของเขาฟังดูลังเล

การะเกดเพียงขมวดคิ้วน้อยๆ อย่างไม่เข้าใจ


“เอ่อ… คืนนี้หล่อนต้องคอยทำตามที่ฉันสั่ง อย่าทำอะไรตามอำเภอใจอย่างที่หล่อนชอบทำ จะได้ไหม?”


“เอ๋? คุณหลวงหมายความว่ายังไงคะ?” การะเกดถาม เธอไม่เข้าใจสิ่งที่หลวงนราบอกเธอ


“อืม… ฉันหมายถึง… งานคืนนี้เป็นงานสำคัญ ฉันจะบอกหล่อนก็ได้ ยังไงเสียคืนนี้หล่อนก็ไปในฐานะภรรยาของฉัน” เขาเว้นช่วงก่อนจะกล่าวต่อ


“งานคืนนี้จัดเพื่อเลี้ยงรับรองพวกชาติตะวันตก…”


“คุณหลวงหมายถึง พวกฝรั่งนักล่าอาณานิคม?” การะเกดพยายามปะติดปะต่อเรื่องราว


“อืม ใช่ แล้ววันนี้ที่เชิญพ่อหล่อนมา ก็เพื่อจะแสดงให้พวกชาติตะวันตกเห็นว่า สยามเรากำลังเจริญสัมพันธไมตรีที่ดีกับกรุงจีน เป็นเมืองพี่เมืองน้องกัน” คุณหลวงอธิบายต่อ


“ถ้าลองได้กรุงจีนหนุนหลัง สยามเราก็จะมีโอกาารอดจากการรุกรารมากขึ้น… ถึงแม้อาจจะไม่นาน แต่อย่างน้อยเราก็ยังคงความเป็นเอกราชของเราไว้ได้ระยะหนึ่ง…”


“ฉันเข้าใจดีคะ ฉันก็รักแผ่นดินสยามมากพอๆกับคุณหลวง แต่ที่ฉันไม่เข้าใจคือคุณพ่อของฉันเกี่ยวอะไรด้วย?” การะเกดถามความแคลงใจออกไปตามตรง เพราะพ่อของเธอเป็นเพียงพ่อค้าเท่านั้น จะมีส่วนได้ส่วนเสียต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้อย่างไร?


“เอ่อ… เรื่องนั้น ไว้หล่อนเจอพ่อแล้วก็ถามไถ่กันเองแล้วกัน” หลวงนราพูดจบ ก็เสหันหน้ามองไปทางอื่น เป็นสัญญาณบอกว่าหมดเวลาซักถามแล้ว การะเกดมองตามกิริยาของคุณหลวง ก่อนจะทิ้งคำถามสุดท้าย


“แต่ฉันก็ยังสงสัยอยู่ดี… ว่าคุณหลวงมาแต่งงานกับฉันทำไม?”


หลวงนราหันขวับมาค้อนการะเกด ก่อนที่ทั้งสองจะเงียบไม่พูดจากันอีก

____________________________________________________________________

งานเลี้ยงใหญ่ที่จัดขึ้นที่กระทรวงการต่างประเทศในคืนนี่หรูหราด้วยดอกไม้ และวงดนตรีทั้งไทยและสากล การะเกดสังเห็นว่าแขกส่วนมากที่มาร่วมงานมีมาจากหลากหลายประเทศ ทั้ง เยอรมนี อังกฤษ ฝรั่งเศส และจีน

“งานใหญ่แบบนี้ หล่อนอยู่ใกล้ๆฉันไว้ จะได้ไม่ไปก่อเรื่อง” คุณหลวงกำชับเสียงเข้ม

การะเกดรู้สึกหมั่นไส้ อีตาคุณหลวงใจดำคนนี้มาตั้งแต่ตอนนั่งรถลากมาด้วยกัน ตอนนี้เห็นสมควรได้เวลาเอาคืนเสียที

การะเกดเดินสะบัดหน้า พาร่างเรียวระหงเข้าสู่งานทันที สายตาหลายสิบคู่มองการะเกดอย่างตกตะลึง บริกรเดินส่งแก้วแชมเปญที่บรรจุน้ำอำพันสีทองมาให้เธอ การะเกดกล่าวขอบคุณเป็นภาษาฝรั่งเศส เสียงเธอกังวาลสดใส จนบรรดานายทหารชาวฝรั่งเศสกลุ่มหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ เดินปรี่เข้ามาสนทนากับเธอ

“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า สยามจะมีผู้หญิงที่สวยขนาดนี้!” นายทหารวัยกลางคนกล่าวชื่นชมการะเกด

การะเกดเพียงกล่าวขอบคุณเขาตามมารยาท

“โอ! นอกจากจะสวยแล้ว คุณยังพูดฝรั่งเศสได้คล่องอีกด้วย! ขออนุญาตให้ผมได้รู้จักคุณนะครับ มาดมัวแซล” นายทหารผู้นั้นถือวิสาสะ ดึงมือการะเกดขึ้นมาจุมพิตเบาๆ การะเกดรีบชักมือกลับอย่างรวดเร็ว เธอเพียงส่งยิ้มอย่างอ่อนหวานให้เขา ก่อนที่เธอจะเดินเลี่ยงจากบริเวณนั้นไป

“โอ! มาดมัวแซล รอก่อนครับ ผมยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย!” นายทหารฝรั่งเศส ตะโกนถามก่อนจะคว้าข้อมือของการะเกดไว้

หมับ! การะเกดหันมาดู เธอพบว่าผู้ที่รั้งข้อมือของเธอไว้ไม่ใช่นายทหารคนนั้น แต่เป็นคุณหลวงนรานรสิงห์ เขาลากเธอให้ไปหลบด้านหลังเขา ก่อนจะเริ่มเจราจากับนายมหารฝรั่งเศสคนนั้น

“ขอประทานโทษ เมอซิเยอร์ กระผมเกรงว่าท่านกำลังทักคนผิด”

“โอ! แล้วคุณเป็นใคร? มาขวางทางผมทำไม?”

“กระผมหลวงนรานรสิงห์ และกระผมกำลังปกป้องภรรยาของกระผม การกระทำเมื่อครู่ของท่านเมื่อซักครู่เป็นการไม่เหมาะสมอย่างยิ่งต่อภรรยาของกระผม กระผมขอสั่งให้ท่านกล่าวขอโทษหล่อน!” คุณหลวงสั่งเสียงเด็ดขาด ท่าทางดุดันเอาจริง

“เอ๋? ผมไม่ได้ทำอะไรผิด เพียงทักทายกันตามธรรมเนียมเท่านั้น!”

“แต่ที่นี่คือสยามประเทศ ไม่ใช่ปารีส วัฒนธรรมของท่านใช้ที่นี่ไม่ได้!” คุณหลวงย้ำเสียงแข็ง สายตาคม ดุดัน และท่าทีทรงอำนาจ ทำให้นายทหารผู้นั้นเริ่มหวั่นใจ

“เอ่อ… ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ” นายทหารกล่าวเสียงอ่อน

“แมซี่” คุณหลวงก้มศีรษะเป็นเชิงขอบคุณ ก่อนจะพาการะเกดไปที่อีกมุมหนึ่งของงาน

“คุณหลวงปล่อยฉันได้แล้ว” การะเกดสะบัดข้อมือจากการเกาะกุมของเขา

“ฉันบอกหล่อนแล้ว… ว่าให้อยู่ใกล้ๆฉันไว้” เขาเน้นย้ำคำสั่งเดิมอีกครั้ง

“ก็… ฉันแค่จะไปหาคุณพ่อของฉันเท่านั้นเอง ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเรื่อง!” การะเกดเถียงกลับ

“พ่อของเธอใกล้จะมาถึงแล้ว แต่ตอนนี้เธอต้องอยู่กับฉัน ห้ามไปไหนมาไหนคนเดียวอีก!” คุณหลวงสั่งเสียงแข็ง

“อ่อ แล้วที่ถืออยู่ในมือคืออะไร รู้จักไหม?” คุณหลวงถามเมื่อเห็นแก้วแชมเปญในมือการะเกด

“รู้ ก็แชมเปญไง! ฉันไม่ได้โง่ขนาดไม่รู้นะว่าแชมเปญคืออะไร!” การะเกดสวนกลับทันที

“ถ้ารู้จักแชมเปญ แสดงว่ารู้ใช่ไหมว่าดื่มเข้าไปแล้วจะเมา?”

“รู้หรอกน่า! ฉันไม่ใช่เด็กอมมือนะ” การะเกดเริ่มจะหัวเสียกับการต่อล้อต่อเถียงของคุณหลวง

“ดี ถ้าหล่อนรู้ว่าหล่อนดื่มไม่ได้วันหลังก็ไม่ต้องหยิบมา”

“เอะ! ที่ฉันหยิบมาเพราะฉันจะดื่มนี่คะ! คุณหลวงหยุดกวนประสาทฉันได้แล้ว!” การะเกดโวยวายใหญ่

“หล่อนจะดื่มได้ยังไง ในเมื่อฉันไม่อนุญาต” คุณหลวงวางท่าออกคำสั่ง

“คุณหลวงมีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน?” การะเกดย้อน

“ก็สิทธิ์ของการเป็นสามีของหล่อน!” คุณหลวงสวนกลับทันที ก่อนที่จะคว้าแก้วแชมเปญในมือการะเกดขึ้นมากระดกรวดเดียวหมดแก้ว

“มันจะมากเกินไปแล้วนะคุณหลวง!”

“ไม่เห็นมีอะไรมาก ฉันแค่ทำตามหน้าที่สามีที่ดี” คุณหลวงพูดตอบ

“เหอะ! สามี ฉันละกระดากปาก กระดากหูทุกที เวลาคุณหลวงเรียกแบบนั้น คุณหลวงไม่เคยทำหน้าที่สามีซักครั้ง! แล้วตอนนี้จะมาทวงสิทธิ์สามี เหอะ! ให้มันน้อยๆ หน่อยคุณหลวง” การะเกดสวนกลับ

“ไม่ว่าหล่อนจะแก้ตัวอย่างไร? ฉันก็เป็นสามีของหล่อนอยู่ดี”

“ถ้าอย่างนั้นตอบฉันมาคุณหลวง คุณหลวงมาแต่งงานกับฉันทำไม?” การะเกดโพล่งคำถามออกไป ดวงตากลมโตเริ่มมีน้ำตาคลอ เธอไม่เข้าใจการกระทำหลายๆอย่างของคุณหลวง เดี๋ยวก็ทำดีกับเธอ เดี๋ยวก็ร้ายกับเธอ จนถึงตอนนี้เธอยังไม่รู้ว่าเหตุใดเขาถึงมาแต่งงานกับเธอ?

“ก็เพราะฉันมีสัญญากับพ่อของเธอ!” ด้วยฤทธิ์แชมเปญ จึงทำให้คุณหลวงที่นานๆครั้งจะดื่มที รู้สึกมึนๆ จนโพล่งความลับออกมา

“สัญญา สัญญาอะไร คุณหลวงทำสัญญาอะไรไว้กับอาเตี่ย?” การะเกดคาดคั้น

“ก็สัญญาที่บังคับให้ฉันแต่งงานกับหล่อน แลกกับความช่วยเหลือจากพ่อของหล่อนนะสิ!!” คุณหลวงโพล่งความลับที่เก็บงำไว้ออกไปจนหมด กว่าจะรู้ตัวอีกที เขาก็ตะลึงกับสิ่งที่ตัวเองเพิ่งพูดออกไป!!



รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว