ผู้ชายในคืนนั้น 25++-EP 13

โดย  อัญจรี / ซ้อ 5

ผู้ชายในคืนนั้น 25++

EP 13





พลอยน้ำงามได้รับเชิญมางานเลี้ยงต้อนรับวายุพร้อมกับบิดา อาสาว และเพชรน้ำหนึ่ง ทุกคนในงานต่างชื่นชมการจัดงานที่ทำเอาคนฟังยิ้มไม่หุบ จนวายุกระซิบแซ็ว ส่งผลให้พลอยน้ำงามทั้งหยิกทั้งตีแขนแกร่งเป็นพัลวัน และภาพหวานน่ารักนั้นก็เข้าไปอยู่ในกล้องของนักข่าวแทบทุกสำนัก แม้แต่บิดาของฝ่ายหญิงยังมองด้วยความเอ็นดู สงสัยงานนี้บุตรสาวจอมแสบจะขายออกเสียที

“สองคนนี้เขาคบกันมานานแล้วหรือลูก” พลตำรวจโทไกรหันไปกระซิบถามหลานสาวคนสวย เช่นเดียวกับนาราที่จ้องมองหน้าบุตรสาวเพื่อรอคำตอบเช่นกัน

“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ยัยน้ำพลอยไม่เคยเล่าอะไรให้ฟัง แต่ก็น่าจะเป็นเพื่อนผู้ชายที่สนิทกันมากที่สุดคนหนึ่งนะคะ” เพชรน้ำหนึ่งเอ่ยบอก เพราะเธอไม่เคยรับรู้เรื่องนี้จริงๆ

“น้องว่าน่าจะไม่ผิดนะคะคุณพี่ น้ำพลอยไม่เคยคบหากับใครเกินเลยจนถึงขั้นเรียกว่าแฟน มีแต่ไล่ตะเพิดกลับด้วยซ้ำ แต่กับวายุดูสนิทกันจนเรียกว่าแฟนก็คงได้” นาราเอ่ยขึ้น ซึ่งมันก็ตรงกับความคิดของคนเป็นพ่อ

“ดี งานนี้จะได้มีคนมาช่วยปราบยัยน้ำพลอย ลุงว่าคุณหญิงดูจะปลื้มน้องเราน่าดูเลยนะน้ำเพชร”

“วายุปราบน้ำพลอยเหรอคะ”

เพชรน้ำหนึ่งทวนคำพูดของผู้เป็นลุง ก่อนจะกระตุกยิ้มขบขัน ใครจะปราบยัยน้ำพลอยได้ ใครจะมีปัญญามาสั่งให้ยัยน้ำพลอยทำอะไรถ้าแม่คุณไม่อยากทำ

หากแต่เมื่อคิดถึงตรงนี้ หญิงสาวกลับนึกไปถึงใบหน้าหล่อเหลาของรวิกร ถ้าจะหาคนปราบพลอยน้ำงามเห็นจะมีอยู่แค่คนเดียวคือรวิกร เพราะทุกครั้งพลอยน้ำงามเป็นฝ่ายยอมให้ตลอด แต่สำหรับคนอื่นหรือแม้กระทั่งวายุต้องเป็นฝ่ายยอมพลอยน้ำงามตลอด

“เอ๊ะ! นั่นคุณรวิกรใช่ไหม ตายแล้ว เพิ่งเคยเห็นตัวจริง หล่อราวเทพบุตรเลยนะ” เสียงของมารดาเรียกสติของเพชรน้ำหนึ่งให้กลับมาอยู่กับความเป็นจริง ก่อนจะหันมองตามที่มารดาบอก ไม่ต่างจากผู้เป็นลุงที่ดูจะชื่นชมจนเกินงาม

“เขาเป็นคนหนุ่มที่มีความสามารถเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางในแวดวงธุรกิจ พอๆ กับคุณภีมพศเลยนี่” พลตำรวจโทไกรเอ่ยขึ้นด้วยความชื่นชม

“ใช่หรือเปล่าลูก...น้ำเพชร”

“ค่ะ”

เพชรน้ำหนึ่งรับคำคล้ายคนละเมอ เพราะเธอกำลังอึ้งกับบุคคลที่หล่อเหลาราวกับเทพบุตรอย่างที่มารดาว่า วันนี้ไม่ว่าจะรวิกรหรือภีมพศก็ต่างดูสมาร์ท เท่ ดูดีไปทุกกระเบียดนิ้ว แต่แล้วก็รู้สึกใจเหี่ยวเมื่อเห็นหญิงสาวในงานที่กรูกันเข้าไปหาหนุ่มหล่อทั้งสอง

“น้ำเพชรขอตัวนะคะ”

เพชรน้ำหนึ่งหันหลังเดินจากไป ไม่อยากเห็น ไม่อยากมองภาพเหล่านั้น ภีมพศที่หันมาเห็นพอดีจึงเอ่ยขอตัวจากเหล่าคนที่ล้อมหน้าล้อมหลังเขาอยู่แล้วเดินตามไป

รวิกรมองตามหลังพี่ชายพลางส่ายหน้ายิ้มๆ สาวใดในงานก็คงไม่น่าสนใจเท่าเพชรน้ำหนึ่ง ตามจีบกันมาพักใหญ่แล้วแต่สาวเจ้าก็ยังไม่ยอมตกปากรับคำเป็นแฟนด้วยเสียที งานนี้พี่เขาคงต้องเหนื่อยหน่อยละ

“สวัสดีค่ะคุณรวิกร”

คุณหญิงวารุณีเอ่ยทักขึ้น รวิกรละสายตาจากพี่ชายหันมาทางต้นเสียง จากใบหน้าที่ควรจะยิ้มแย้มกลับขรึมลงทันตาเห็น เมื่อเห็นร่างบางระหงในชุดราตรีสีฟ้าอ่อนยืนพูดคุยกับเจ้าของงานอย่างสนิทสนม

“ดีใจจังเลยค่ะที่คุณรวิกรให้เกียรติมางานเลี้ยงต้อนรับลูกชายดิฉัน”

“ยินดีครับ” รวิกรยิ้มให้เล็กน้อยตามมารยาท

“วายุมารู้จักกับคุณรวิกรหน่อยลูก พาน้ำพลอยมาด้วย”

เสียงของมารดาส่งผลให้วายุจับจูงมือบางเข้ามาหาบุคคลที่มารดาบอก โดยที่พลอยน้ำงามนั้นไม่อยากจะเข้ามารู้จักด้วยเลยสักนิด

“วายุ นี่คุณรวิกร น้ำพลอยจ๊ะ นี่คุณรวิกรจ้ะ คุณรวิกรคะ นี่ลูกชายดิฉัน แล้วนั่นก็หนูพลอยน้ำงามค่ะ บุตรสาวของพลตำรวจโทไกร บริรักษ์เดชา” คุณหญิงวารุณีเอ่ยแนะนำให้สองหนุ่มรู้จักกัน และเลยไปถึงสาวน้อยคนสวยที่ยืนเคียงข้างบุตรชายด้วย

“สวัสดีครับ” วายุยื่นมือไปแสดงการทักทายเช่นเดียวกับรวิกรที่ยื่นมือออกมาจับ พร้อมกับรอยยิ้มที่มีให้ตามมารยาท

“สวัสดีครับคุณวายุ...คุณพลอยน้ำงาม”

รวิกรเน้นหนักในชื่อหลัง รอยยิ้มทรงเสน่ห์ถูกมอบให้อย่างตั้งใจ หากแต่สายตาเหมือนจะกลืนกินเธอไปทั้งตัว จนพลอยน้ำงามไม่กล้าจะมองสบด้วย เธอจึงเสไปมองทางอื่นเสีย

“น้ำพลอยเป็นเด็กฝึกงานที่นี่ คุณรวิกรน่าจะเคยเห็นหน้ามาบ้าง” คุณหญิงวารุณีเอ่ยขึ้น

“ครับ เห็นมาบ้าง” รวิกรเน้นหนักทุกคำพูด ซึ่งหากไม่คิดอะไรเมื่อฟังแล้วก็ผ่านเลยไป หากแต่กับคนไม่ถูกกันมันย่อมไม่ใช่แค่นั้น

พลอยน้ำงามนั้นหันมองเขาตาเขียว ไอ้คำว่าเห็นมาบ้างของเขามันหมายความว่าอย่างไร หนำซ้ำยังมาพร้อมกับสายตาคมที่กวาดมองมาคล้ายกำลังประเมินอะไรบางอย่าง ทำเอาพลอยน้ำงามร้อนขึ้นมาดั่งไฟสุมอก อยากจะตะบันหน้าหล่อๆ เอาให้ไม่เหลือดีเลย

ทางด้านวายุเมื่อเห็นพลอยน้ำงามนิ่งไป แต่สายตากลับฉายแววของความโกรธยามจ้องตอบรวิกร เขาจึงขอตัวพาร่างบางออกไปเสียก่อนจะมีเรื่อง ซึ่งหากทั้งสองหันกลับมาสักนิดคงจะได้เห็นถึงสายตาไม่พอใจของรวิกรที่มองตามร่างบางอย่างหมายมาด



****************************


มีความสุขกับการอ่านนะคะ

ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ

กลลวงอสูรร้ายมีให้ดาวน์โหลดในรูปแบบ E-book แล้วนะคะ

ช่วงนี้มีโปรราคาย่อมเยา 79 บาท ถึงวันที่ 5/8/61 นี้ค่ะ

จัดโปรแค่ครั้งเดียวตอนเปิดขายเท่านั้นนะคะ หลังจากนั้นจะขายในราคา 109 บาทค่ะ

ใกล้หมดโปรแล้วนะคร่าาาาาาาาาาาาาา อีก 4 วันเท่านั้น!!!!


ดาวน์โหลดคลิกลิงค์ด้านล่างคร่า



กลลวงอสูรร้าย รักตาภา www.mebmarket.com

เขาใช้เล่ห์กลช่วงชิงเอาหัวใจเธอมาครอบครอง แต่วิธีการของเขามันกลับมีคำว่าหนี้เข้าเกี่ยวข้อง แถมยังต้องใช้ความเจ้าเล่ห์ของตัวเองช่วยพี่ชายให้สมหวังในรัก แผนเล่ห์...กลลวงต่างๆ จึงเกิดขึ้น มาตามลุ้น ตามช่วย ตามเชียร์ ว่าคนเจ้าเล่ห์จะสามารถพิชิตใจคนที่รักได้หรือไม่

**********

“กรอกเอกสารฝึกงานนี่ซะ” “ฉันเคยกรอกไปแล้วตอนที่มายื่นใบสมัครกับพี่อุ๋ม ทำไมต้องมากรอกกับคุณอีกล่ะ” พลอยน้ำงามถามขึ้นอย่างสงสัย “ฉันบอกให้เธอกรอกก็กรอกไปเถอะ ที่นี่มีกฎระเบียบมากมายไม่เหมือนที่อื่น” รวิกรเอ่ยขึ้นเสียงเหี้ยม ใบหน้าของเขานั้นดุดันขึ้นมาทันตาเห็น จนพลอยน้ำงามไม่กล้าต่อปากต่อคำด้วยอีก หญิงสาวจึงต้องคว้าเอาเอกสารเหล่านั้นมากรอกอย่างเลี่ยงไม่ได้ “เธอเขียนเสร็จหรือยัง เร็วๆ หน่อยสิ” “เอ๊ะคุณ จะรีบอะไรนักหนา...อ่ะ เสร็จแล้ว” พลอยน้ำงามตอบเสียงห้วนพร้อมกับยื่นเอกสารเหล่านั้นคืนให้คนเร่งรีบ ไม่แม้แต่จะสนใจดูรายละเอียดด้วยซ้ำ รวิกรยิ้มมุมปากก่อนจะดึงเอกสารในมือเธอมาถือไว้ “นับจากนี้เธอก็เป็นคนของฉันแล้ว ถ้างั้นมาฟังกฎข้อบังคับกันก่อนแล้วกัน” “คนของคุณ...กฎข้อบังคับ...นี่คุณ ฉันยังไม่ได้อ่านรายละเอียดด้านหลังเลยนะ” “งั้นเหรอ...แต่มันคงไม่จำเป็นแล้วล่ะ เพราะเธอเซ็นยินยอมไปแล้ว” “คุณ!”

***********

กลลวงอสูรร้าย รักตาภานำมารีไรท์ใหม่เพื่มเพิ่มความสมบูรณ์ให้กับเนื้อหา และนำมาทำเป็นหนังสืออีบุ๊คให้โหลดในราคาย่อมเยา ใครชื่นชอบก็ขอฝากไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว