เสพราคะ - All Erotic II-ผัวฝรั่ง [1]

โดย  ภูผาสีน้ำเงิน

เสพราคะ - All Erotic II

ผัวฝรั่ง [1]

“มันเป็นเรื่องที่มิควรนะคะ เอลเรียส” น้ำเสียงของหญิงสาวในชุดแม่ชีกล่าว เธอกำลังลองใจเขาอีกครั้ง

“บางทีผมก็อยากให้แน่ใจ...” น้ำเสียงชายหนุ่มเข้มจริงจัง ขึงขัง

แววตาสีฟ้าใสของชายหนุ่มจรดจ้องมายังแม่ชีเบื้องหน้า แววตาสีเขียวคู่สวยถูกซ่อนใต้แว่นตาหนา กับผ้าคลุมศีรษะ สองมือแกร่งของชายหนุ่มยกขึ้นอย่างแผ่วเบา ดึงแว่นตาของเธอออกอย่างเชื่องช้า ทั้งคู่ยังคงตกอยู่ในความเงียบ

“ถึงคุณจะดึงแว่นตาฉันไป ฉันก็ยังมองเห็นอยู่นะคะ” เธอกล่าวน้ำเสียงปกติ และยิ้มออกมาอย่างมิเกรงกลัว

“ผมไม่ได้บอก ว่าจะหยุดแค่ดึงแว่นตาออกนิครับ” เอลเรียสกล่าวน้ำเสียงปกติใด พร้อมรอยยิ้มที่ขึ้นหยักที่มุมริมฝีปากจนเผยลักยิ้มออกมา

“คุณแน่ใจหรือว่าจะทำสิ่งนี้จริงๆ?” ราวกับย้ำเตือนสิ่งที่กำลังจะกระทำของฝ่ายชาย เขาจะทำเพื่ออะไร พิสูจน์หรือเพียงแค่อารมณ์ใคร่ของตัวเอง หากเขาจะทำเพราะไม่ได้รักเธอ สิ่งที่หญิงสาวในชุดแม่ชีจะตัดสินใจคือ ลาจากเขา...

“หรือคุณจะทำอย่างนี้กับใครก็ได้ ถ้าหากว่าเขาเป็นผู้หญิงที่ยินยอมหรือไม่อาจขัดขืน” ครูชีล่าเกริ่นกล่าวถามน้ำเสียงราบเรียบ พร้อมก้าวเดินมาหาเขาอย่างมิเกรงกลัว มีอายุยืนยาวขนาดนี้ยังมีอะไรให้เธอกลัวอีก

“ผมแค่อยากรู้ว่า...” เอลเรียสก้าวเข้าหาเธอโดยมิได้รู้สึกใดมากไปกว่า เขาอยากรู้ว่าหากปลดเปลื้องชุดแม่ชีนี้แล้ว หญิงสาวเบื้องหน้าเขาจะเหมือนกันกับคนๆ เดียวกันในฝันคืนก่อนของเขาไหม เรียวมือหนายกขึ้นอีกครั้ง ถอดผ้าคลุมศีรษะออกอย่างเชื่องช้า และหญิงสาวในชุดแม่ชีก็มิได้ขัดขืน

“ถ้าคุณไม่ต้องการจริง ทำไมไม่ขัดขืนผมล่ะ?” เอลเรียสกล่าวถาม ในขณะที่ดึงผ้าคลุมสีดำออก ปรากฏเรือนผมสีบลอนซ์ทองสลวยซึ่งถูกรวบไว้และเปียผมเป็นเกลียว แววตาสีเขียวยังคงจ้องมองมายังเขาไม่ละวาง โดยมิได้โต้ตอบใดๆ รอยยิ้มของนางปรากฏตอบ เธอคงปล่อยให้เขาทำตามอำเภอใจต่อไป ว่าเขาจะลงเอยกับเธอรูปใด

เรียวมือหนาเริ่มสั่นเล็กน้อย เมื่อปรากฏรูปหน้าชัดเจนกับผมสีทอง รูปคิ้วที่ถูกปิดบังด้วยผ้าคลุมผม ขึ้นรูปเรียวตรงได้สวยงาม กับแก้มนวลน่าสัมผัส ชายหนุ่มอยู่เบื้องหน้ารู้สึกเริ่มตื่นเต้นเสียเอง หรือว่าเธอต้องการสละศีล หรือว่าอยู่ในอารมณ์เปลี่ยว ชายหนุ่มเริ่มชะงักมือราวกับว่านี่เขากำลังทำในสิ่งผิด หรือเธอยอมให้กระทำผิดต่อกันแน่

“เป็นอะไรไปคะ? กลัวหรือ?” น้ำเสียงปกติของเธอยังคงถามเขาต่อไป แววตาสีเขียวสั่นเพียงนิดได้แต่มองฝ่ายตรงข้ามว่าเขาจะตอบกลับมาเช่นไร

“หรือคุณตั้งใจให้ลงเอยแบบนี้” เอลเรียสกล่าวถาม ทั้งสับสน ทั้งคิดเรื่องอดีต เรื่องวันวาน เรื่องเก่าๆ หรือแม้กระทั่งความฝัน และเรื่องราวขนมสายไหมก้อนกลมที่ได้ลิ้มลอง มันคือฝัน... หรือมันเป็นความจริง หรือแม้กระทั่งตอนนี้มันคือความฝันกันแน่?

ชายหนุ่มเริ่มจะทำอะไรไม่ถูก ครูชีล่าจึงยกเรียวมือทั้งสองขึ้น พร้อมเดินเข้าไปหาเขา และเริ่มร่นชายเสื้อโปโลสีเขียวอ่อนแล้วดันมันสูงขึ้นไปอีก ระหว่างนั้นเองที่เรียวหน้าของชายหนุ่มจรดจ้องลงมามองหญิงสาวลงมา ลมหายใจรดให้กันจนเผลอจมูกชนกัน

ริมฝีปากของหญิงสาวเผลอเผยออ้าอย่างลืมตัว พลางหลับตา จนชายหนุ่มมองลงมาแล้วเผลอตัวกลืนน้ำลายลงอย่างยากลำบาก ความรู้สึกภายในกายชายร้อนปั่นป่วน จนรู้ถึงการกระตุ้นลงไปที่ช่วงแก่นกายส่วนกลางของร่างกาย ในขณะที่หญิงสาวในชุดแม่ชีเบื้องหน้า เธอกำลังจะถอดชิ้นต่อไป ซึ่งมันคือเสื้อคลุมสีดำนั้นออก

“เดี๋ยว คุณจะ... ทำจริงๆ หรือ?” ชายหนุ่มเป็นฝ่ายทักท้วงในขณะที่แววตาสีเขียวยังคงมั่นคงจรดจ้องตอบกลับมา แทนจะเป็นคำพูดเสียงหวานใส เพียงเธอร่นเสื้อคลุมสีดำลง ปรากฏกายรูปงามเปลือยเปล่าโดยไร้ชั้นในแม้แต่ชิ้นเดียว ช่างเป็นรูปร่างที่งดงามตรึงใจเอลเรียส จนเขาลืมซาช่าไปจากใจเสียสนิท

ร่างกายเต่งตึงกับหน้าอกที่สวยได้รูป กลมกลึงขึ้นเงาพร้อมกับหัวไหล่โค้งมนได้รูปสวยงาม โครงสร้างที่โค้งเว้าสวยได้รูปเอวเล็กสะโพกกลม ก้นงอนขาวนวล เรียวขาเล็กกลมยาวได้สมส่วน ไม่มีผิวเซลลูไลท์หรือไขมันจับตามร่างกาย ราวกับว่าเธอดูแลร่างกายมาอย่างดี โดยไม่มีสารอาหารขยะย่างกรายก็ว่าได้

“คุณสวยจังเลย ครูชีล่า” เพียงแว่วเพรียกเรียกชื่อนามแฝง นางเกริ่นนามตัวเองเสียใหม่

“มาร์...ติ...น่า...” เรียวนิ้วชี้ขวาเล็กอันสวยงามจรดปิดริมฝีปากเขาไว้แล้วค่อยๆ ไกล่เกลี่ยแผ่วเบา สองมือชายหนุ่มรู้สึกอยากสัมผัสกับเรือนร่างที่พึ่งปรากฏตรงหน้า หวังว่าเธอจะอนุญาตให้เขาได้โอบกาย

เรือนกายชายหนุ่มตื่นตัวเต็มที่แม้ว่าส่วนสำคัญของหัวใจเขา ยังคงถูกซ่อนใต้กางเกงแต่มันตื่นตัวเต็มที่เมื่อได้เห็นเรือนร่างอันสวยงาม เธอช่างเหมือนนางพรายในป่าใหญ่ เป็นนางสวรรค์จากพระเจ้าที่มอบเธอให้แก่เขา หรือเป็นเพราะว่าพระเจ้าไม่อาจร่วมรักกับเธอ จึงมอบเธอแก่เขา สอนเธอให้รู้จักรัก

“คุณคือผู้หญิงในความฝันของผมหรือ?” เอลเรียสกล่าวถามขณะที่ เรือนร่างเล็กงดงามของเธอ เคลื่อนกายเข้ามาใกล้เขามาก พร้อมมือบอบบางกำลังปลดหัวเข็มขัดอย่างง่ายดาย โดยไม่มีอุปสรรค และกระดุมถูกกลัดออกจนตัวกางเกงร่นลงกองอยู่แทบพื้น เหลือเพียงชั้นในชายชิ้นเดียวที่ยังคงบดบังเรือนร่างของเขา

สองแขนแกร่งโอบกอดเอวเล็กบาง อ้อมไปด้านหลังนางพลางเกาะกุมสะโพกคู่สวย เขาเผลอบีบก้นเธอจนหญิงาวเผลอครางออกมาเล็กน้อย เรือนร่างเล็กถูกดันเข้าหากายหนุ่มจนหน้าอกสาวแนบชิดจนมันกลมใหญ่เพิ่มขึ้น

“เปล่า... มากกว่านั้น” เธอตอบอย่างเย้ายวนชวนอารมณ์ให้เขากระเจิงได้ดีทีเดียว นี่เธอไปเคยทำอะไรแบบนี้กับใครที่ไหนหรือเปล่า? เธอยังบริสุทธิ์ไหม คำถามนี้ยังคงวนเวียนในหัวเขา ทำไมเขาจะต้องถามตัวเองแบบนั้น มันสำคัญหรือว่ามันเป็นเพียงแค่พิสูจน์ว่า เธอคือแม่ชีที่แท้จริงหรือเพียงแค่หญิงผู้สร้างไฟรัก จนเขามิอาจสลัดภาพเรือนร่างอันงดงามออกไปจากใจ เขาจดจำภาพร่วมรักกับซาช่าไม่ได้เลย ไม่แม้แต่จะนึกถึงริมฝีปากของซาช่าเสียด้วยซ้ำ

เวลานี้ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนโดนมนต์สะกดจาก หญิงเปลือยกายเบื้องหน้า แววตาที่สวยงามเป็นประกายกลมโต กับริมฝากอมชมพูอวบอิ่ม ลำคอเล็กเรียวกับเรือนร่างที่น่ากอดรัด จนเขารู้สึกถูกกระตุ้นหนักๆ เอลเรียสกำลังจะชักมือกลับจากสะโพกหญิงสาว แต่กลายเป็นว่าสองมือเรียวบางกลับแหวกชั้นในชายด้วยเล็บอันแหลมคมจนเขาเผลอตกใจ และความเป็นชายตื่นตัวเต็มที่กำลังพร้อมจะออกปฏิบัติการ เพียงทว่า...

“คุณ...ฉีกชั้นในผม...” ขณะที่เขากำลังจะโวย หญิงสาวยกสองแขนแล้วโอบกอดศีรษะชายหนุ่มที่สูงกว่า โน้มตัวเขาลงมาเพื่อจูบตอบเขาเป็นการปิดปาก เขาไม่อยากพูดอะไรต่อแล้ว ในเมื่อเธอเป็นฝ่ายเริ่มเพียงนี้ เขาก็คงไม่หยุดพูดคุยหรือถามไถ่อีกต่อไป

ให้ไฟรักก่อตัวในกายเขามากยิ่งขึ้นเพียงใด ร่างหญิงสาวก็เริ่มเย็นเยือก และเย้ายวนเขาเสียงจนมิอาจปล่อยให้หลุดมือยามนี้ไปได้ สองแขนชายหนุ่มกอดรัดร่างเธอไว้แน่ เขาจะไม่ปล่อยให้เธอหลุดมือไปอีก จะไม่ยอมให้เธอผละจากเขา ไม่แม้แต่จะคิดว่าเขากำลังเสพรักกับแม่ชีผู้ยอมเปลื้องผ้าต่อหน้าเขาในห้องนอน ณ เวลานี้


ในสมองของชายหนุ่มได้เพียงแต่พร่ำคิดว่า มาร์ติน่าคิดอย่างไรกับเขา ในขณะที่กำลังช้อนใต้ต้นขาบางเบานางขึ้นมา แล้วแหวกขาสวยงามพันเข้ารอบเอวเขา สองแขนหญิงสาวหาที่ยึดบนไหล่ชายเบื้องหน้า ขณะที่เรียวริมฝีปากยังคงดูดกลืนอีกฝ่ายไม่ลดละ

มาร์ติน่ารู้สึกถึงความรุนแรงในร่างกาย เธอร้อน โหยหา ราวกับถูกบ่มมานานข้ามศษวรรษ ต้องอดทนเพียงไรที่จะอดกลั้นอารมณ์เหล่านี้ มิให้ตกไปกับชายอื่นซึ่งมิใช่ความรัก มิใช่ของเล่นอันสนุกชั่วครั้งชั่วคราว แต่เธอยอมอดกลั้นเก็บอารมณ์ด้วยมนต์ของตัวเอง สะกดมันไว้จนกระทั่ง เมื่อสักครู่นี้เธอปลดเปลื้องมันออกต่อหน้าเขา

หญิงสาวรู้สึกถึงการกระตุ้นภายใน กล้ามเนื้อหน้าท้องกระตุกเองแรงเหลือเกิน จนเธอต้องการให้เขาเข้ามาช่วยลดอาการเหล่านี้ ความรู้สึกที่ต้องการช่างรุนแรง ร่ำหา จนไม่อาจจะหยุดอารมณ์เหล่านี้

เมื่อเพียงเขาดันนางเข้ากับกำแพงและโยกไหวตามจังหวะ เสียงกรีดร้องดังก้องเมื่อเธอเผลอละริมฝีปากจากเขา กับลมหายใจหอบถี่จนเกินจะควบคุม ทำได้เพียงแค่อย่าเพิ่งขาดใจ และขอเพียงเรียวลิ้นจากฝ่ายตรงข้าม เธอจะพยายามไม่ร้องมากไปกว่านี้ อย่างน้อยมันก็เริ่มหยุดอาการกล้ามเนื้อกระตุก ยิ่งกลั้นเสียงกลับยิ่งหลั่งน้ำตาสุดเจ็บปวด...

เคล้ากับความสุขอันหาใดประสบไม่ แทบจะทำให้หญิงสาวหลงลืมความเจ็บปวดเมื่อสักครู่ หลงลืมไปว่าเวลานี้เธออยู่ ณ ที่ใด สิ่งที่มาร์ติน่ารู้สึกเธอกลับไปคิดถึงตอนเข้าปราสาทครั้งแรก และขี่ม้าอยู่หน้าตักเขา ในขณะที่เขากำลังนั่งคร่อมเธอพาเข้าสู่ตัวปราสาท

การโยกไหวของเขาทำให้หญิงสาวอ่อนแรงปวกเปียกในทันใด แววตาเลื่อนลอยราวกับบินไปไกลจากห้องนี้ ชายหนุ่มรู้สึกว่าจะทำให้เธอรับมันเร็วเกินไป เขาจึงโอบอุ้มเธอไว้ แม้ว่าส่วนสำคัญของเขาจะยังอยู่ในกายนางส่วนหนึ่ง เรียวขาแข็งแรงพาเรือนร่างของตนและหญิงสาวที่อุ้มไว้ วางลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา

“คุณงดงามเกินกว่าผมจะวาดฝัน... คุณมาหาผม เพื่อผม...ใช่ไหม?” เอลเรียสกล่าวน้ำเสียงแหบและหอบหายใจถี่ แม้ว่าจะเหนื่อยเพียงใด แต่มันมิอาจหยุดความต้องการของเขาที่มีต่อเธอ

เรียวแขนหญิงสาวเกาะกุมแขนชายไว้ทั้งสองพร้อมกันแต่ว่าฝ่ามืออันร้อนผ่าวจากเขากดมาที่หน้าท้อง และโยกท่อนล่างมาเรื่อยๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ร่างของนางถูกเขย่าไม่ได้หยุดพักเลย จนกระทั่งชายหนุ่มเห็นว่าหญิงสาวมีเหงื่อทั่วตัว เขาคิดไปต่างๆ นาๆ ว่านางอาจจะเดินทางไปไกลกว่าที่เขาจะคิดถึง ... ว่านางกำลังรู้สึกถึงอะไร และคิดอะไรอยู่

“เอล... เรียส” เธอพยายามรวบรวมสติ และเรียกชื่อเขา ชายหนุ่มยังคงเกาะกุมเอวเล็กไว้ เพื่อประคองสะโพกเธออยู่หมัด เรือนหน้าชายหนุ่มโน้มตัวต่ำลงจนหน้าอกสัมผัสและแนบชิดกันจนหญิงสาวได้รับไอร้อนจากกายฝ่ายตรงข้าม

“ครับ” เสียงอันแผ่วนุ่มชวนหลง เขาจูบเธอ ดูดดื่มอีกครั้งให้เธอปรับอารมณ์ให้ทันเขา และเราจะได้ไปพร้อมกัน เรียวแขนชายโอบรัดเรือนร่างนางไว้มิคลาย แววตาสีฟ้ามองริมฝีปากของเธอสั่นเครือ ราวกับพยายามพูดคำนั้นออกมา

“ขอร้องล่ะ ทำให้มันจบๆ ไปซะที” เพียงนางตอบ น้ำตาของนางรินไหลตลอดเวลา ราวกับเพชรที่กลิ้งลงมาจากดวงตาสีเขียวดั่งอัญมณี ชายหนุ่มรู้สึกว่าเขาทำให้เธอไม่พอใจหรือ เขาจึงพยายามเคลื่อนตัวช้าๆ แต่กลับทำให้เธอรู้สึกไม่อยากจบ เพราะมันสร้างความสุขอีกแบบให้ โดยที่เธอเผลอครางอีกครั้งอย่างลืมตัว

“ผมจะทำให้ดีที่สุด” เอลเรียสเคลื่อนกายไหวตามจังหวะที่จะทำให้เธอพึงพอใจ เหงื่อผุดตามเรือนกายหญิงสาวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะมันเป็นกิจกรรมแรกสำหรับเรือนกายร่างนี้ ชายหนุ่มจึงดึงเรียวขาทั้งสองของเธอตั้งฉากสูงขึ้นแล้วรวบเข้าหากันเอนเอียงไปอีกด้านหนึ่ง จากนั้นเขาจึงเคลื่อนกายขยับใหม่ ให้เธอได้พบกับความรู้สึกอีกแบบหนึ่ง

เนิ่นนานที่หญิงสาวเผลอร้องครางอย่างลืมตัว รอยยิ้มชวนหลงใหลและแววตาอันเย้ายวน ถูกเขาครอบครองไว้หมดสิ้นแล้ว เธอมอบให้เขา ด้วยเหตุใดชายหนุ่มไม่อาจรู้แน่ชัด แต่ที่เขารู้แน่นอนคือเธองดงามน่าครอบครอง และเขารู้สึกถึงความคุ้นเคย อ้อมกอด รอยจูบ รวมไปถึงกลิ่นที่สูดดมตลอดเวลา ราวกับว่าเขาเคยเป็นเจ้าของเธอมาก่อน

และบัดนี้เขากอดเธอสมใจราวกับรอมานาน แม้ว่าจะเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน แต่สิ่งที่เขาพบร่างกายเขาไม่ได้ปฏิเสธเธอหรือสงสัยใดๆ เพียงหยุดการเคลื่อนไหว ร่างหญิงสาวแน่นิ่งไร้การตอบสนอง เอลเรียสรู้สึกกลัวว่าเธอจะหมดลมหายใจ เขาเคลื่อนตัวท่อนบนเข้าหาพลางกระซิบข้างหู เรียกชื่อเธอราวกับปลุกให้ตื่นจากภวังค์อันแสนสุขเมื่อสักครู่ที่จบลง

“บอกผมสิ ว่าคุณคือมาร์ติน่า ซึ่งมาหาผมในฝัน คุณไม่ใช่แม่ชี คุณอย่าหายไปนะ” เขากล่าวน้ำเสียงอย่างหวาดกลัว ว่าเขาอาจจะตื่นจากความฝันแล้วพบว่า เหลือตัวเขาเพียงคนเดียวในห้องนอน

“มันไม่ใช่ความฝันค่ะ และฉันไม่ใช่แม่ชี ขอบคุณที่ทำให้ฉันหมดความเป็นอมตะ” มาร์ติน่ารับรู้ได้จากความรู้สึกเจ็บปวดและอ่อนปวกเปียกจากเรียวขาทั้งสอง เพราะเธอไม่อาจขยับมันได้ตอนนี้ และที่แน่ๆ ว่า เตียงนี้แปดเปื้อนเลือดพรหมจรรย์เธอเสียแล้ว


ชายหนุ่มช้อนร่างหญิงสาวไว้ในอ้อมแขนทั้งสอง ปล่อยให้นวลหน้าอันสวยงามของเธอเอนเอียงพิงหน้าอกเขาไว้ เขากำลังจะพาเธอไปอาบน้ำในอ่างอาบน้ำซึ่งเปิดน้ำไว้เต็มอ่างแล้ว

“ถ้านี่เป็นเรื่องจริง บอกผมได้ไหมว่า ทำไม?” เอลเรียสยังคงสับสนจับต้นชนปลายไม่ถูก หญิงสาวจึงกล่าวด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้า

“ฉันเป็นแม่มดจากอดีต เราเคยพบกันในยุคนั้น คุณเป็นเจ้าชายและถูกแม่มดดาเลียฆ่า เพราะพยายามปกป้องฉัน และที่สำคัญตอนนั้นฉันเป็นเจ้าหญิง แต่ถ้าไร้คุณก็ไม่มีอะไรสำคัญนอกจากความเป็นอมตะจากการเป็นแม่มด ฉันยอมดื่มยาอายุวัฒนะ รอคอยหลายร้อยปี เพื่อตามหาคุณ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่นี่ ไม่ใช่ความฝัน เอลเรียส มันคือเรื่องจริง” หญิงสาวตอบพลางร้องไห้ เธอมอบกายให้เขาไปแล้ว จนเธอเผลอร้องไห้หลังจากยกมือทั้งสองปกปิดน้ำตาที่หลั่งไหลออกมา

“คุณอยู่มาหลายร้อยปีเพื่อผม คุณรักผม...” เอลเรียสเปรยอย่างสับสนนี่เขาทำอะไรลงไป

“แล้วเวทมนตร์คาถาของคุณ?” เอลเรียสถามน้ำเสียงติดๆ ขัดๆ มองเธออย่างสงสัยว่าหายไปด้วยไหม หญิงสาวจึงแสดงให้เขาได้ดู

“ยังได้ผล แต่ยิ่งฉันใช้อายุจะสั้นลง และการปรุงยาจะไม่มีผลอีกต่อไป ฉันเป็นคนธรรมดาไปแล้ว” มาร์ติน่าตอบราวกับว่าเธอหมดอำนาจและไม่อาจกลับไปหาเดนิสและป้าอลิเซียได้อีกแล้ว เรื่องนี้ถึงจะพยายามทำใจแต่เธอก็รู้ดีว่ายังไงเมื่อมาถึงขั้นนี้คงไม่มีทางเอากลับคืนมาได้

“มาร์ติน่า ผมขอโทษ ผมไม่รู้” เอลเรียสกล่าวแต่เขายอมรับว่าอาจปล่อยให้เธอห่างกายเขาได้อีก ไม่อยากให้ชายอื่นได้มองเธอเสียด้วยซ้ำ

“ฉันรักคุณนะคะ เอลเรียส ฉันรักคุณ” เธอบอกน้ำเสียงสั่น ขณะที่กำลังวังชากลับมาเธอพยายามลุกขึ้นและ จะกลับไปหยิบเสื้อผ้าชุดอำพรางแม่ชีอีก

“มาร์ติน่า คุณเป็นแม่มดแล้วจะใส่ชุดชีไปเพื่ออะไรกัน?” ชายหนุ่มยื้อชุดแม่ชีออกจากมือหญิงสาว ปรากฏเรือนร่างเปลือยเปล่าอีกครั้ง เขาไม่หันมามองไม่ใช่ว่ารังเกียจ แต่เกรงว่าเขาจะมีอารมณ์กับเธออีก จึงหลบสายตาแล้วรีบหาผ้าห่มใกล้มือมาห่อกายเธอไว้

“มันจะต้องดีขึ้น...มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่านี้แล้ว... ขอบคุณที่ตามหาผม ขอบคุณที่มอบความรักให้ผม และผมสัญญาจะมอบทั้งชีวิตให้คุณ รู้มั๊ยว่าคุณทำให้ผมหลงใหลมากเพียงใด จนแทบคลั่ง” เอลเรียสคงจะอดทนอารมณ์ตัวเองต่อไปไม่ไหว เห็นทีต้องเอนเอียงกายเล็กบางใต้ผ้าห่ม เพื่อครอบครองครั้งแล้วครั้งเล่า เธอทำให้เขาหลงรักจนโงหัวไม่ขึ้น...

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว