สองสัปดาห์ถัดมา
ร่างแกร่งที่ถูกมัดข้อมือไว้ทั้งสองข้างด้วยเชือกฟาง มองมายังร่างเล็กสายตาขวาง ปากหยักถูกสก็อตเทปปิดเอาไว้ จะโวยวายห้ามปรามอะไรก็ไม่ได้ ทำได้แค่ส่งเสียงอู้อี้อ้อแอ้ไม่ต่างจากเด็กแรกเกิด
เขาอยากจะหลุดออกไปจากเชือกฟางที่มัดรอบจนแน่นหนาปึกนี่ไปซะที แล้วจะจับแม่ตัวดีที่ยิ้มเยาะมัดไว้กับขื่อ แล้วเอาไม้เรียวเฆี่ยนก้นให้ลายจนถ่ายหนักไม่ออกไปเลย
“จุ๊ๆ อย่าดิ้นสิคะพี่น้ำรูปหล่อ เดี๋ยวข้อมือช้ำหมดไม่รู้ด้วยน้า”
“อื้อๆ”
“แน่ะ มีเถียง”
'เพียะ'
ฝ่ามือเล็กฟาดใบหน้าคมคายเบาๆ หมายหยอกเอิน แต่มันสร้างความแสบร้อนไปบนผิวหน้าชายหนุ่ม ธารนทีโมโหจนตาเขียวปัด แต่สาวน้อยก็ไม่สน
“โอ๋ๆ เจ็บหรอ งั้นทีหลังต้องเป็นเด็กดี ห้ามเถียงรู้มั้ยคะ หืม...” นิรดาสอนเด็กโข่งเสียงอ่อนเสียงหวาน ก่อนจะจับแก้มสากหันไปมาแรงๆ แววตาสะใจสบกับแววตาโกรธแค้นของชายหนุ่มอย่างไม่ยี่หระ
“มอง มีมอง อยากมองมากใช่มะ ได้เลย มองให้เต็มตานะ”
สาวน้อยแสนซนสะบัดมือออกจากหน้าเขา ก่อนจะค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อตัวเองช้าๆ พร้อมทั้งเคลื่อนกายขึ้นมาบนเตียง ทิ้งกายอ้อนแอ้นคร่อมบนร่างหนาที่ถูกมัดมือมัดขาไว้
“อื้อๆ” ชายหนุ่มส่ายหน้ายิกๆ
ไม่รู้ว่าเจ้าหล่อนคิดจะทำอะไร แต่เขาก็ไม่อยากเลือดกำเดาไหลจนกระฉูด ไหนจะความเป็นชายที่ถูกดึงดูด ด้วยตูดของแม่นางที่เสียดสีไปมานั่นด้วย
นิรดาหัวเราะคิกๆ คล้ายคนโรคจิตเข้าไปทุกที ครั้นเห็นดวงตาเรียวยาวรีเบิกโพลงจนเท่าไข่ห่าน นี่มันยังน้อยเกินไปที่เขาเคยทำกับเธอสารพัด โดยเฉพาะตอนที่จับเธอโยนลงบ่อหลังบ้านนั่น แล้วเขาก็เคยเห็นเรือนร่างเปล่าเปลือยของเธอด้วย ในเมื่อบ้ากามนัก เธอก็จะเอาใจเขา โดยเปิดโชว์ให้ดูซะให้เต็มตา
และแล้วเสื้อแขนตุ๊กตากระดุมหน้าก็หลุดออกไปจากร่าง เหลือเพียงบราเซียร์ตัวสวยลูกไม้เบาบาง แต่ปกปิดเพียงครึ่งส่วนที่โผล่พ้น จึงกลายเป็น หน้ามัธยมแต่นมปริญญาโท ใหญ่โต มโหฬาร สะท้านใจชายที่ตาเหลือก หอบพะงาบๆ
ธารนทีไม่รู้ว่าควรดีใจหรือร้องไห้ดี ที่โดนลงโทษด้วยวิธีเช่นนี้ ทั้งที่เขาไม่ได้ผิดอะไร แค่สั่งสอนเล็กๆ น้อยๆ ที่เธอบังอาจทำวีรกรรมเจ็บแสบไว้กับเขา แต่ยัยเด็กเปรตนี่ร้ายกาจและแสบเกินกว่าที่เขาคิดไว้ไปหลายขุมเลยทีเดียว
เมื่อไม่รู้จะทำยังไง เพราะเขาก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูน จึงหันหน้าหนี หลับตาลง เนื่องจากไม่อาจทนมองภาพศิลปะชั้นดีตัวเป็นๆ ที่ยั่วตาล่อใจให้ตบะแตก แต่นั่นกลับทำให้คนถือไพ่เหนือกว่ารู้สึกไม่พอใจ
“หันหน้ามาเดี๋ยวนี้ ใครใช้ให้หลับตา หันมานะ!”
มือเล็กจับหน้าหล่อ แม้เขาจะฝืนไว้ ก็ไม่สามารถต้านแรงสาวไว้ได้ ไม่รู้เธอไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน บังคับให้เขาหันหน้ากลับมาจนได้ แต่ยังไม่สาแก่ใจแม่นาง เมื่อเธอประกาศิตว่า
“ลืมตา! แล้วก็มองหนูเดี๋ยวนี้”
“นี่แน่ะ!” ทุบอกเขาดังปึกๆ เมื่อธารนทียังไม่ยอมมอง เขาเกร็งตาปิดไว้แน่น แม้ทั้งแขน อก ไหล่ จะระบมไปหมดจากฤทธิ์กำปั้นน้อยๆ นั่น แต่มันก็ไม่ทำให้เขาละความพยายามในการสงบสติอารมณ์
แต่ทว่า จมูกที่หายใจอึดอัด ทำให้เขาต้องลืมตาขึ้นมาดูว่าเกิดเหตุการณ์อะไร หรือนางสาวใจร้ายเอายาพิษมาป้ายเขา
แต่สิ่งที่ปรากฏตรงหน้า ทำให้ตระหนกยิ่งกว่ากลืนยาพิษ เพราะยัยตัวเล็กพิษเยอะต่างหาก เอาหนองโพที่โตประมาณส้มโอลูกใหญ่มาปิดทับจมูกไว้ จนทำให้เขาเริ่มจะหายใจไม่ออก ปิดทับอย่างเดียวไม่ว่า ยังมีหน้าเอามันมาเสียดสีถูๆ ไถๆ จนเขาที่ไม่ใช่หนุ่มฮอตและไม่ค่อยหือค่อยอือกับเรื่องพวกนี้รู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที
โว้ย! อย่าให้หลุดไปได้นะ พ่อจะจับกินจับกัดเหมือนกินซาลาเปาเลย!
ครั้นเจ้าหล่อนได้เห็นว่าเขาเปิดตาขึ้นมาได้ จึงได้ผละออกไปอย่างสมใจอยาก
“นึกว่าจะแน่ เชอะ สมน้ำหน้า”
แล้วคนใจร้ายก็สะบัดตูดจากไป เหลือทิ้งไว้เพียงธารนที ที่หัวใจเต็มไปด้วยไฟแค้น
พี่จะฆ่าแก อ๊าก! ยัยเด็กเปรต!
หลังพ้นออกมาจากห้องของคนหื่นที่เธอแอบเรียกเขาในใจแล้ว นิรดาก็ขยับเสื้อขยับผ้าให้เข้าที่เข้าทรง ความเก็บกดโกรธแค้นที่เคยสุมทรวง บัดนี้มลายหายไปไม่มีเหลือ เพราะได้เอาคืนพี่น้ำหน้าจืดจอมหื่นจนสาแก่ใจ
ใบหน้าหวานน้ำตาลเรียกพี่ แต่นิสัยร้ายยิ่งกว่าน้ำกรด แย้มยิ้มด้วยความอิ่มอกอิ่มใจ สาวน้อยแลบลิ้นใส่ประตูด้วยความสะใจ ราวกับว่านั่นเป็นใบหน้าของใครบางคนที่เธอไม่ถูกชะตา และเพิ่งจะจัดการเขาจนสาสมใจ
แต่ยืนสบายใจอยู่ได้ครู่เดียว คนบางคนที่ไม่ค่อยจะลงรอยกันก็เดินขึ้นมาชั้นบนด้วยใบหน้าบูดบึ้ง และยิ่งบึ้งตึงไปมากกว่าเดิม เมื่อเห็นว่านิรดายืนอยู่หน้าห้องลูกชายสุดรักสุดหวงของตัวเอง
“นี่เธอ เห็นลูกชายฉันมั้ย”
นิรดาทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้ ก่อนจะเดินหนีไปไม่ตอบคำถามใดๆ ทั้งสิ้น
“อ้าว อีเด็กเวรนี่! ไม่มีมารยาท ถามแล้วไม่พูด”
ผู้อาวุโสกว่าได้แต่ด่าไล่ตามหลัง ยังมีเวลาหาเรื่องยัยเด็กเปรตนี่อีกมาก แต่ตอนนี้เธออยากคุยกับลูกชายที่สุด ไปอยู่ที่ไหนของเขากันนะ...
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“น้ำ ทำอะไรอยู่ลูก เปิดประตูให้แม่หน่อย” มืออวบอูมตบลงบนบานประตูเบาๆ
“น้ำ…ลูก”
นางเอ่ยเรียกอีก คิ้วดำดกที่โก่งสวยไม่แพ้สาวๆ ขมวดมุ่นด้วยความสงสัย ปกติลูกชายเธอไม่เคยมาเปิดประตูช้าแบบนี้ เป็นอะไรของเขากัน ตั้งนานแล้วยังไม่ลงไปข้างล่างเสียทีจนเธอต้องขึ้นมาตาม แล้วนี่ยังไม่ยอมเปิดประตูอีก
“ว้าย! ตาน้ำ!”
ผู้เป็นมารดาอุทานเสียงหลงด้วยความตระหนก เมื่อตัดสินใจผลักบานประตูเข้ามาแล้วได้เห็นสภาพของลูกชาย มือหนาทั้งสองข้างถูกรวบมัดไว้กับหัวเตียงด้วยเชือกฟาง ปากนั่นก็ถูกปิดด้วยสก็อตเทป เนื้อตัวเสื้อผ้าก็หลุดลุ่ยไม่เรียบร้อย ลักษณะเหมือนคนโดนจับไปทำปู้ยี่ปู้ยำไม่มีผิด นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!
ธารนทีส่งเสียงอู้อี้เป็นเชิงบอกให้มารดาช่วยแก้มัดเขาก่อนจะพูดอะไรอย่างอื่น เมื่อเห็นท่านตั้งท่าจะอ้าปากถามเพราะความสงสัยและตกใจในสิ่งที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับลูกชายตัวเอง
“นี่มันอะไรกันฮะตาน้ำ”
“อูย เจ็บ” ธารนทียังไม่ตอบคำถามของมารดา แต่ลูบคลำไปตามเนื้อตัวที่ทั้งโดนทุบโดนหยิกโดนตีจากแม่ตัวดีอย่างเจ็บๆ ใบหน้าหล่อเหลาที่ยังคงเหยเกหันมาหามารดาช้าๆ ก่อนจะตอบให้ท่านสบายใจ
“ไม่มีอะไรครับแม่”
“ไม่มีอะไรได้ยังไงกัน อีเด็กเวรนั่นมันแกล้งแกใช่มั้ย…หนอย มาอาศัยคนอื่นอยู่ยังมีหน้ามาทำร้ายลูกชายฉันอีก คอยดูนะ แกได้เจอดีแน่นังเด็กบ้า”
นางสุดาเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโมโห ไม่คิดว่าเด็กสาวที่ดูไร้เดียงสา จะพิษร้ายไม่ต่างจากหมาบ้าแบบนี้ ลูกชายเธอก็อีกคน ไปตอแยอะไรกับมันนักหนาก็ไม่รู้
“ช่างเถอะครับแม่ น้องยังเด็ก คงไม่ได้ตั้งใจ”
“เด็กบ้านแกสิ นมมันเต็มอกขนาดนั้น ยังไงแม่ก็ไม่ยอมเด็ดขาด แม่จะลงโทษมันให้หนักเลยคอยดู”
ธารนทีถอนหายใจด้วยความกังวล ไอ้โกรธเขาก็ยังโกรธแม่ตัวดีอยู่นั่นแหละ แต่ก็อยากจะสั่งสอนด้วยวิธีของเขาเอง ไม่อยากให้แม่ต้องไม่สบายใจไปด้วย ไม่น่าเลย แม่ไม่น่ามาเห็นเขาในสภาพนี้เลยจริงๆ
“แม่ครับ น้ำขอร้อง น้ำจะจัดการเรื่องนี้เอง แม่ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้นนะครับ”
“นี่แกจะบ้าไปแล้วหรือไง มันทำกับแกแบบนี้ ไม่รู้จักเด็กไม่รู้จักผู้ใหญ่ แล้วจะให้ฉันปล่อยมันไว้ได้ยังไง ไม่รู้ล่ะ ยังไงเรื่องนี้ก็ต้องถึงหูคุณนนท์ แม่จะโทรบอกให้เขามารับตัวมันกลับไปเดี๋ยวนี้”
“แม่ครับ น้ำขอร้อง น้ำจะจัดการเรื่องนี้ด้วยวิธีของน้ำเอง อย่าเพิ่งไปพูดอะไรให้คุณนนท์ไม่สบายใจเลยครับ อีกอย่าง ที่ผ่านมาครอบครัวของคุณนนท์ก็มีบุญคุณกับเรานะครับ”
เสียงจริงจังหนักแน่นของลูกชาย ทำให้นางสุดาพูดไม่ออก กระนั้นก็ไม่สบอารมณ์กับสิ่งที่ลูกชายขอร้องนัก แต่ในเมื่อเป็นความประสงค์ของเจ้าตัวเอง นางก็จนปัญญาจะต่อต้านอะไรได้ จึงได้แต่ตวัดสายตาค้อนให้อย่างเคืองๆ ก่อนจะบ่นทิ้งท้าย
“ตามใจแก ถ้ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นอีกก็จัดการเองแล้วกัน อยากบอกไม่ฟังนัก” ว่าแค่นั้น แล้วก็เดินฟึดฟัดออกจากห้องลูกชายไป
ฝ่ายคนที่ทั้งโดนเด็กแกล้งจนเสียท่า และโดนแม่ด่าจนเสียเซลฟ์ก็ได้แต่นั่งกุมขมับด้วยความปวดตับ ในใจอดแค้นเคืองยัยตัวเล็กไม่ได้ หนอย เล่นแรงนักนะ ทำเอาเขาแทบอยากจะกัดลิ้นตายไปซะให้รู้แล้วรู้รอด จะอภัยให้ได้หน่อยก็ตรงที่ได้สัมผัสความนุ่นหยุ่นเต็มตึงของวัยสาวนั่นแหละ แหม ความหอมกรุ่นละมุนละไมยังติดอยู่ที่ปลายจมูกอยู่เลย
ไม่! ไม่! ไม่! ต้องไม่โรคจิตคิดอะไรอิโรติกกับบทยั่วยวนชวนโมโหที่ไม่เป็นสับปะรดนั่น!
ธารนทีสะบัดศีรษะไล่ความคิดพิสดารนั้นออกไป ก่อนจะคำรามกรอดๆ ด้วยความหงุดหงิดที่เข้ามาแทนที่ เมื่อภาพในหัวฉายซ้ำถึงการเสียรู้ให้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมจนหมดเชิงชาย
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
ธารนทีชะงักมือที่กำลังจะปลดกระดุมกางเกง หลังจากถอดเสื้อเชิ้ตและเข็มขัดออกไปโยนไว้ในตะกร้าเรียบร้อยแล้ว เมื่อมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
ร่างสูงรีบเดินไปเปิดให้เพราะคิดว่าน่าจะเป็นมารดา จึงไม่ได้ใส่ใจกับอกเปลือยเปล่าของตนเองเท่าใดนัก ก่อนจะชะงักเมื่อคนที่ยืนอยู่หน้าประตู คือยัยเด็กดื้อที่เริ่มจะทำตัวดีขึ้นบ้างแล้วในช่วงเกือบสองสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ หลังจากที่โดนเขาทำโทษขั้นเด็ดขาดไป
“พี่น้ำขา” นิรดาเอ่ยเรียกเขาเสียงเครือเหมือนคนจะร้องไห้
“หนูนุ่ม เป็นอะไรครับ” ธารนทีเอ่ยเรียกด้วยความตกใจ เมื่อเห็นอาการของอีกฝ่าย ก่อนจะดึงแขนให้เธอเดินเข้ามาในห้อง
“หนูปวดท้องค่ะ” บอกเขาพลางยกมือขึ้นกุมที่ท้องและทำหน้าเหยเกราวกับเจ็บปวดหนักหนา
“ไปกินอะไรมา ปวดแบบไหน” รีบถามด้วยความห่วงใย แววตาเต็มไปด้วยความร้อนรนโดยไม่รู้ตัว
“ปวดแสบๆ ค่ะ”
“นั่งพักก่อนนะ” จูงมือคนปวดท้องที่เดินตัวงอไปนั่งลงที่ปลายเตียง ก่อนจะผละออกไปหยิบยาแก้ปวดท้อง แล้วเดินกลับมาหาคนที่นั่งเบ้ปากเพราะความทรมาน
“กินยาก่อนนะ ค่อยๆ จิบ” เขาเปิดฝาขวดยาและยื่นไปจ่อปากเล็ก แต่เธอก็เบือนหน้าหนี ไม่ยอมรับยาเข้าปาก
“หนูนุ่ม อย่าดื้อสิ”
“หนูไม่อยากกินค่ะ หนูไม่กินนะคะ”
ธารนทีมองหน้าคนตัวเล็กตรงหน้าด้วยแววตาเอาเรื่อง ก่อนจะส่ายหัวให้น้อยๆ เมื่อคิดว่าถ้าอีกฝ่ายไม่อยากกินเขาก็จะไม่บังคับ จึงปิดฝาและวางขวดยาไว้ตรงโต๊ะเล็กข้างหัวเตียง ก่อนจะลุกขึ้นยืนพร้อมกับเอ่ย
“งั้นไปนอนพัก จะได้ดีขึ้นไวๆ” เขาทำท่าจะหันหลังเพื่อจะเดินไปส่งสาวน้อยที่ห้อง แต่กลายเป็นต้องชะงักเมื่อมือเล็กนุ่มนิ่มคว้าจับข้อมือหนาของเขาไว้
แววตาออดอ้อนอ่อนหวานนั้นทำให้เขาใจอ่อนยวบ ทั้งสงสารทั้งเป็นห่วง ความโกรธเคืองที่ผ่านมาที่เคยแกล้งกันสูญสลายหายไปหมด กลับรู้สึกผิดด้วยซ้ำที่ทำให้เธอต้องร้องไห้ และเริ่มจะก่นด่าตัวเองว่าไม่น่าไปถือสาสาวน้อยตรงหน้ากับสิ่งที่ผ่านมาเลย เธอก็แค่ยังไม่โตเต็มที่ เลยอาจจะดื้อรั้นไปหน่อยตามวัยเท่านั้นเอง
คิดได้ดังนั้น เขาก็นั่งลงข้างๆ คนตัวเล็กที่ยังมองตรงมาที่เขาแน่วแน่ แววตาของเธอมีความหลุกหลิกวูบไหวเล็กน้อย แต่เขาไม่สนใจ
“เป็นอะไรไป ปวดมากเลยเหรอ ก็พี่ให้หนูกินยาแต่หนูไม่ยอมกินนี่คะ หืม” เสียงอ่อนนุ่มของเขาทำเอานิรดาหน้าขึ้นสีของเลือดฝาดชัดจนระเรื่อ
“เดี๋ยวหนูก็หาย” อ้อมแอ้มบอกเขาพร้อมกับหลบสายตาเป็นห่วงเป็นใยคู่นั้น ย้ำกับตัวเองในใจว่า ไม่ได้! ไม่ได้! เธอจะใจอ่อนเพราะความจริงใจของเขาไม่ได้เด็ดขาด ยังไงก็ต้องเอาคืน สิ่งที่เขาทำไว้กับเธอมันเกินจะให้อภัย ถ้าไม่ได้แก้แค้นเธอคงไม่มีความสุขไปตลอดชีวิต
สรุปกับตัวเองในใจได้ดังนั้น ก็เงยหน้าขึ้นสบตากับเขาอีกรอบ ต่างแค่เพียงว่าสายตากลมโตของเธอไม่ได้เต็มไปด้วยความโกรธเคืองหรือเอาเรื่องอีกแล้ว แต่มันหยาดเยิ้มและเย้ายวนเกินวัยอยู่ในที
ธารนทีที่จับตามองสาวน้อยข้างกายอยู่ถึงกับชะงัก คิ้วเข้มขมวดน้อยๆ เมื่อรู้สึกถึงความไม่ปกติ กระนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา และเป็นนิรดาที่เอ่ยก่อน
“ปวด...” เธอบอกเขาสั้นๆ และยื่นมือเล็กมาจับดึงมือหนาของเขา พาไปวางแหมะลงบนท้องน้อยของตัวเอง จุดที่มือเล็กกุมไว้เองเมื่อก่อนหน้า ศีรษะเล็กก็เอียงตามมาซบอกเปลือยเปล่าของเขา
ธารนทีไม่ได้ผลักไส เขาลูบมือเบาๆ ตรงจุดที่เข้าใจว่าเธอคงปวด ความหอมละมุนเป็นธรรมชาติจากผมสีดำยาวสลวยระรวยรินเข้าจมูก จนต้องเผลอสูดลมหายใจลึกๆ รับความสดชื่น ทุกอย่างมันน่าจะมีเพียงเท่านี้ แต่กลับไม่ใช่ เมื่อแขนเล็กทั้งสองข้างขยับขึ้นมาโอบคล้องรอบลำคอเขา แค่นั้นสติความเป็นสุภาพบุรุษของเขาก็เลือนหายไป
จะว่าเพราะความใคร่ดึงดูดก็ไม่ใช่ คนอย่างเขาไม่ใช่คนที่จะพลั้งเผลอหรือเผลอไผลไปกับตัณหาราคะ หรืออาจเพราะรู้สึกผิดที่จับเธอโยนลงบ่อน้ำวันนั้นซึ่งเขาคิดทบทวนดูแล้วก็รู้สึกว่าตัวเองทำเกินไป แต่ไม่ว่าจะเพราะอะไร แค่ได้แนบชิดกับเด็กดื้อตรงหน้า เขาก็อยากจะกลายเป็นผู้ชายหื่นกามโรคจิตขึ้นมาจริงๆ เสียแล้ว
นิรดาโอบรอบคอเขาแน่น พร้อมกับเอนกายลงนอนราบบนที่นอนนุ่ม เธอพยายามดึงเขาตามลงมาด้วย แรกๆ เขาก็แข็งขืน ไปๆ มาๆ ก็ทาบทับร่างเธอไว้ทั้งเนื้อทั้งตัวแล้ว
“พี่น้ำอยู่กับนุ่มนะคะ นะ นุ่มไม่อยากอยู่คนเดียว” ออดอ้อนกันขนาดนี้ ใครจะอดใจไหว
ไร้การตอบรับ มีเพียงใบหน้าหล่อเหลาที่โน้มลงมาใกล้และจุมพิตลงบนหน้าผากเล็กอย่างทะนุถนอม นิรดาเองก็หลับตาพริ้มซึมซับสิ่งที่เขากระทำโดยไม่อิดเอื้อน
ไม่ปฏิเสธว่าที่กำลังทำอยู่นี่คือการทำให้เขาตายใจ กระนั้นสิ่งที่เขาปฏิบัติต่อเธอไม่ว่าจะคำพูดหรือการกระทำแบบไหน ก็ต้องยอมรับว่าเขาทำให้เธอรู้สึกดีจริงๆ
“นอนพักนะครับ เดี๋ยวพี่จะอยู่กับนุ่มเอง”
เขาบอกแค่นั้น ก่อนจะหอมผมเธอแรงๆ มือหนาที่ตอนแรกลูบท้องของเธอเบาๆ เลื่อนขึ้นมาบีบคลึงก้อนเนื้อนุ่มนิ่มโดยไม่รู้ตัว ทำเอาเจ้าของก้อนเนื้อดูมๆ สองก้อนได้แต่แอบหลับตาปี๋และอดกลั้น
เวลาผ่านไปพอสมควร คนที่ทำงานหนักมาสองสัปดาห์ติดต่อกันก็หลับใหลไปกับคนตัวเล็กด้วย ซึ่งเขาไม่รู้เลยว่านิรดาไม่ได้หลับ แต่เธอรอเวลาที่เขาจะหลับและตื่นขึ้นมาต่างหาก
และพอหลังจากที่เขาตื่นขึ้นมา ก็ได้รู้ว่าตัวเองพลาดอย่างแรง เพราะถูกมัดแขนไว้ทั้งสองข้าง มีเพียงขาที่ดิ้นไปมาได้ ปากก็โดนปิดไว้ และก็โดนอะไรต่อมิอะไรอย่างที่ผ่านมาเมื่อสักครู่!
“ฮึ่ย! ฝากไว้ก่อนเถอะหนูนุ่ม แล้วเราจะได้เห็นดีกัน”
เขาเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความเจ็บใจ ก่อนจะลุกออกจากปลายเตียงแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว พร้อมกับคิดหาวิธีเอาคืนยัยตัวแสบที่เล่นเขาเสียแสบสันต์จนสะอึกไม่เป็นภาษาไปด้วย…
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว