รถหรูของอัสมานจอดสนิทอยู่ที่ลานกว้างหน้าบริษัทฮัสเบรนพริซ ซึ่งอาทิตย์หน้าเขาก็ต้องเข้ามาบริหารงานร่วมกับพริซเซียร่านั่นเอง
“คุณทำงานที่นี่เหรอครับ” อัสมานแสร้งถามออกไปอย่างไม่รู้อีโหน่อีเหน่
“บริษัทคุณพ่อฉันย่ะ...อย่างฉันคงไม่เป็นแค่พนักงานกระจอก ๆ อย่างนายหรอกนายอิสลุน” พริซเซียร่ากล่าวอย่างกระแทกแดกดัน
“ครับผมรู้ว่าผมมันต้อยต่ำ....จนมีคนบางคนดูถูกดูแคลนแทบตลอดเวลา” อัสมานยักไหล่น้อยๆ บ่นพึมพำออกมา
“นี่แล้วนายก็อย่าลืมมารับฉันด้วยล่ะตอนเอ่อ.....บ่ายโมง....ฉันจะไปช้อปปิ้ง” พริซเซียร่ายื่นหน้าเข้ามาใกล้เพื่อให้อัสมานดูเวลาในมือถือสุดหรูของเธอ
“คุณก็โทรมาหาผมสิครับ” อัสมานอุบอิบพูดออกไป
“ฉันมีเบอร์นายที่ไหนกันล่ะ” พริซเซียร่ากระแทกเสียงใส่อย่างหัวเสีย “งั้นก็...” พริซเซียร่าพูดยังไม่ทันจบประโยค อัสมานก็ดึงโทรศัพท์มือถือจากมือของพริซเซียร่ามากดเบอร์โทรของเขาแล้วกดโทรออก
ติ๊ด ๆๆ ติ๊ด ๆๆ เสียงโทรศัพท์มือถือของอัสมานดังขึ้นแล้วเขาจึงกดวาง พลางยื่นโทรศัพท์กลับไปให้กับพริซเซียร่าที่ยังงงอยู่นั่นเอง
“เบอร์โทรออกล่าสุดน่ะเบอร์ผม....ลงจากรถได้แล้วล่ะครับ..ผมจะไปแล้ว...อ้อช่วยปิดประตูให้ด้วยครับ” อัสมานหันมาสั่งหญิงสาว พริซเซียร่าค้อนควับให้วงใหญ่ก่อนจะปิดประตูตามคำพูดของอัสมานอย่างเสียไม่ได้ ก่อนจะหันหลังก้าวฉับ ๆ โดยไม่หันมามองทางอัสมานแต่อย่างใด อัสมานเฝ้ามองหญิงสาวเดินหายเข้าไปในอาคารใหญ่ก่อนจะเลี้ยวรถกลับแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว
พริซเซียร่าเดินเข้ามาในบริษัทอย่างมาดมั่น ทุกสาวตาจับจ้องมาที่หญิงสาวนั่นทำให้พริซเซียร่าไม่ค่อยจะพอใจนักกับสายตาแปลก ๆ ที่พนักงานในบริษัทจ้องมอง แต่กระนั้นพริซเซียร่าก็ไม่ค่อยได้สนใจเท่าไรนัก ก้าวเข้าห้องทำงานสำหรับผู้บริหารระดับสูง
“สวัสดีค่ะ...คุณ....บริส จอนท์โต่เน่ ” พริซเซียร่ายื่นส่งมือเข้าไปเพื่อทักทายบริส จอนท์โต่เน่ เพื่อนคุณพ่อเธอที่ได้ร่วมหุ้นกว่าครึ่งหนึ่งแต่บัดนี้ได้ขายหุ้นให้กับนักธุรกิจดูไบคนหนึ่งซึ่งเธอเองก็ทราบว่าคืออัสมานนั่นเอง แล้วซึ่งต่อจากนี้ไปพริซเซียร่าจะต้องศึกษางานให้รวดเร็วที่สุดเนื่องจาก บริส จอนท์โต่เน่ จะบินกลับอเมริกาภายในอาทิตย์นี้ พริซเซียร่าต้องศึกษาเกี่ยวกับระบบงานทุกอย่างโดย บริส จอนท์โต่เน่ ได้เอาเอกสารเกี่ยวกับงานทุกอย่างให้พริซเซียร่าศึกษาคราว ๆ แล้วซึ่งเธอก็เข้าใจการทำงานดี
พริซเซียร่าเหลือบมองดูนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลาเที่ยงครึ่งแล้วซึ่งเธอเองก็เริ่มหิวแล้วด้วย เมื่อนึกขึ้นได้ก็ล้วงมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าหรูขึ้นมากดดูเบอร์โทรออกล่าสุดซึ่งมันเป็นเบอร์ของนายอิสลุนตัวร้ายนั่นเองหล่อนกดปุ่มโทรออกอีกครั้ง เสียงสัญญานดังขึ้นสองสามครั้งปลายสายก็กดรับทันที
“สวัสดีครับ....คุณพริซ” อัสมานกรอกเสียงทุ้มนุ่มออกไป
“นี่....ใครให้นายเรียกชื่อเล่นฉัน” พริซเซียร่าตวาดเสียงขึ้นอย่างไม่พอใจกับการถือดีมาเรียกชื่อเล่นเธอ
“ก็ผมนี่ไงให้เรียกได้” อัสมานยังคงพูดจายียวนพริซเซียร่าต่อไป
“แต่ฉันไม่..” ยังไม่ทันที่พริซเซียร่าจะกล่าวจบ อัสมานก็พูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน
“อ่า..ๆๆๆ....ผมไม่เถียงแล้วคุณจะให้ผมไปรับใช่หรือเปล่า?” อัสมานถามออกมา
“ใช่....แล้วก็รีบมาด้วยฉันหิวแล้ว” พริซเซียร่ากดวางสายโดยไม่ได้กล่าวคำลาแม้แต่น้อย
“อ้าว...วางไปซะแล้ว...สั่ง ๆๆๆจริง ๆเล้ย” อัสมานส่ายหัวไปมาอย่างเหนื่อยใจ เขาคิดผิดหรือคิดถูกที่มาจีบพริซเซียร่าด้วยวิธีนี้กันนะ แต่คนอย่างอัสมานอยากได้อะไรแล้วต้องได้ไม่มีคำว่าไม่ได้เด็ดขาด
รถหรูของอัสมานแล่นมาจอดสนิทอยู่หน้าบริษัท ฮัสเบรนพริซ แต่ยังไม่มีวีแววของคนที่บอกว่าหิวเลยสักนิด อัสมานรออยู่เกือบ ๆ ครึ่งชั่วโมงแต่ก็ยังไม่เห็นพริซเซียร่าออกมาจากบริษัทเสียทีจึงอดรนทนไม่ไหวต้องกดโทรหาเธอในที่สุด
ติ้ด ๆๆ ติ๊ด ๆๆ เสียงโทรศัพท์มมือถือของพริซเซียร่าดังขึ้นระหว่างที่เธอกำลังจะก้าวออกมาจากห้องทำงานส่วนตัว เมื่อลอบมองดูเบอร์ที่ขึ้นโชว์ก็ทราบว่าเป็นใคร
“กล้าดียังไงมาโทรจิกฉัน” พริซเซียร่าเป่าลมหายใจออกจากปากอย่างเหลืออดเหลือทนกับพฤติกรรมของอิสลุนคนขับรถของโรงแรมแฮนด์เบอร์ ในความเข้าใจของเธอ
เมื่อเดินจนมาถึงที่รถหรูที่อัสมานจอดรออยู่พริซเซียร่าก็กระชากประตูด้านหลังคนขับขึ้นไปนั่งทันที
“นี่....นายกล้าดียังไงมาโทรจิกฉันห่ะอิสลุน” พริซเซียร่าตะคอกอัสมานออกไปอย่างไม่สบอารมณ์
“ก็คุณมาช้านี่ครับผมเป็นห่วงคิดว่าเป็นอะไร” อัสมานตอบตามความจริงเขารู้สึกเป็นห่วง
“ฉันไม่เป็นอะไรง่าย ๆ หรอกน่า” พริซเซียร่าเสมองไปทางอื่นหล่อนรู้สึกว่าอิสลุนพูดจากแปลก ๆ
“แล้วคุณก็ช่วยมานั่งข้างผมด้วยครับ” อัสมานบอกพร้อมลอบมองพริซเซียร่าผ่านกระจกหลัง
“นี่....มันจะมากไปแล้วนะ.....ทำไมฉันต้องไปนั่ง...ฉันไม่ใช่....” พริซเซียร่าหยุดคำพูดไว้เพียงเท่านั้นเพราะกำลังจะบอกอัสมานว่า ‘ฉันไม่ใช้แฟนนานสักหน่อย’
“แต่ว่าผมก็ไม่ใช้ขี้ข้าของคุณนะ” อัสมานสบถออกมาพลางหันหน้ามามองหญิงสาวอีกครั้งก่อนจะหันหน้ากลับไป
“แต่คุณอัสมานให้อำนาจฉันเต็มที่เพราะฉะนั้นตอนนี้ฉันเป็นนาย” พริซเซียร่ายิ้มเจ้าเล่ห์อย่างผู้มีชัย
“งั้นผมไม่ไป.....คุณลงไปได้แล้ว” อัสมานกล่าวไล่พริซเซียร่า
“กรี๊ด ๆๆๆๆ แก....แกกล้าไล่ฉันเหรอไอบ้า....ไอขี้ข้า” พริซเซียร่าเต้นร่า ๆ อย่าขัดใจชี้หน้าอัสมานอย่างคาดโทษ
“ผมไม่ใช้ขี้ข้าใคร....ลงไป” อัสมานกล่าวเสียงเฉียบ
“ฉันไม่ลง....แกจะทำไมฉันห่ะ” พริซเซียร่าเชิดหน้าตอบอย่างถือดี
“ผมไม่ทำไมหรอกก็แค่ไม่ออกรถ” อัสมานยกมุมปากหยักสวยได้รูปขึ้นอย่างมีชัย
“นี่....ฉันหิวจะตายอยู่แล้วนะ...ออกรถสิ...โธ่โว้ย” พริซเซียร่าเห็นท่าว่าอิสลุนไม่ยอมเธอเป็นแน่เธอเองก็ไม่อยากจะยอมหมอนี่เท่าไรหรอกแต่ว่าเธอหิวจนใส่จะขาดหวิ่งอยู่แล้ว จำต้องลงจากรถแล้วย้ายตัวเองให้ขึ้นไปนั่งข้างหน้ากับอิสลุนจนได้
“พอใจหรือยังล่ะ” พริซเซียร่ากอดอกเสหน้าไปอีกทาง ริมฝีปากบางเม้นเข้าหากันจนเป็นเส้นตรงบ่งบอกให้รู้ว่าเธอไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“ไปไหนดีครับ” อัสมานถามออกมาอย่างอารมณ์ดีที่เอาชนะพริซเซียร่าได้ในที่สุด
“ไปไหนก็ได้.....” พริซเซียร่าตอบเสียงห้วน
รถของอัสมานเลี้ยวเข้ามาจอดยังพัตคารหรูแห่งหนึ่งใดดูไบ พนักงานทุกคนล้วนใส่เครื่องแบบที่เหมือนกันคือสูทสีดำแน็คไทล์สีทองซึ้งดูเป็นทางการเอามาก ๆ
“เชิญครับ” อัสมานเดินอ้อมรถมาเปิดประตูให้พริซเซียร่าพร้อมผายมือเชื้อเชิญ
“ทีต่อหน้าคนอื่นทำเป็นสุภาพบุรุษนะอิสลุน” พริซเซียร่าเปล่งเสียงลอดไรฟันอย่างหมั่นไส้
อัสมานเดินตามพริซเซียร่าเข้าไปโดยเธอเดินนำลิ่ว ๆ ไปก่อนแล้ว เมื่อพนักงานต้อนรับเห็นอัสมานก็โค้งคำนับ
“สวัสดีครับท่านอัสมาน” อัสมานรีบมองหญิงสาวว่าหล่อนเห็นการกระทำนี้หรือไม่โชคดีที่พริซเซียร่าไม่ได้หันกลับมามองแต่อย่างใดเขาจึงเดินตามพริซเซียร่าไปยังห้องอาหาร
“เอะนาย....เข้ามาทำไม” พริซเซียร่าขะหมวดคิ้วเข้าหากันอย่างสงสัยว่าอิสลุนเข้ามากับเธอทำไม
“ผมก็มาทานอาหารกับคุณไง...ผมก็หิวเป็นนะครับ” อัสมานพูดลอยหน้าลอยตา
“มีปัญญาจ่ายเหรอ” พริซเซียร่าพูดอย่างดูแคลน เขาเป็นแค่คนขับรถยังกล้าเสนอหน้ามากินอาหารแพงๆ
“ผมมีก็แล้วกัน....เลี้ยงคุณก็ได้อีกด้วย” อัสมานตอบทำท่าเอามือตบกระเป๋ากางเกง
พริซเซียร่านึกแผนการที่จะแกล้งอัสมานออกจึงลอบยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์
“ก็ได้....นายบอกเองนะว่าจะจ่ายน่ะ” พริซเซียร่าเอียงคอถามเพื่อความแน่ใจ
“ครับมื้อนี้ผมเลี้ยงคุณเอง” อัสมานเดินไปเลื่อนเก้าอี้ให้กับพริซเซียร่า
“เชิญครับ” พริซเซียร่ายอมนั่งลงโดยง่าย พลางคิดในใจ 'ฉันจะเอาให้แกหน้าเหลืองเลยคอยดู'
พริซเซียร่าสั่งอาหารที่มีราคาแพง ๆ มาหลาย ๆ อย่างที่เธอคิดว่าอิสลุนจะไม่มีปัญญาจ่ายไหวแน่นนอนเมื่อสังเกตกิริยาของฝ่ายตรงข้าม ก็ต้องนิ่วหน้ามองอย่างสงสัยว่าทำไมเขาไม่รู้ร้อนรู้หนาวใด ๆ สักนิดเมื่ออาหารทุกอย่างมากพร้อมแล้วอัสมานก็คอยตักโน่นตักนี่ให้พริซเซียร่าตลอดซึ่งเธอก็ไม่ได้ขัดอะไรเมื่อนึกถึงหน้าอิสลุนตอนไม่มีเงินจ่ายก็รู้สึกสะใจขึ้นมา แต่เมื่อถึงเวลาจ่ายเงินพริซเซียร่าต้องตกใจเมื่อเขาไม่ได้รู้สึกรู้สาถึงราคาที่ปรากฏอยู่ในบิลแม้แต่น้อย แต่กลับมีเงินสด ๆ จ่าย
“ไม่ต้องทอน” อัสมานลุกขึ้นจากเก้าอี้มองพริซเซียร่ายิ้ม ๆ
“ไปไหนกันต่อดีครับ” อัสมานแกล้วถามเย้ยพริซเซียร่าที่ต้องการแกล้งเขาแต่ไม่สำเร็จ
“........” ไม่มีคำตอบใด ๆ ออกมาจากปากของพริซเซียร่าหล่อนก้าวฉับ ๆ ไปที่รถทันที
อัสมานขับรถกลับมาส่งพริซเซียร่าที่โรงแรมตามเดิมแต่ยังไม่ทันที่พริซเซียร่าจะลงไปเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น
“ฮัลโหล.....ที่รัก...” พริซเซียร่ากรอกเสียงหวาน ๆ เป็นภาษาอังกฤษลงไปตามสาย ซึ่งนั่นสร้างความไม่พอใจให้อัสมานเป็นอย่างมาก หญิงสาวที่เขาหมายปองเอาไว้มีคนรักแล้วอย่างนั้นหรือนี่
“คิดถึงมาร์คเหมือนกันค่ะ....แล้วจะมาวันไหนค่ะ...พริซจะได้ไปรับ” พริซเซียร่ายังคงพูดโทรศัพท์ต่อไปโดยไม่ทันได้สังเกตว่าคนตรงหน้าบีบมือแน่นอย่างไม่พอใจ
“โอเคค่ะที่รัก....แล้วเจอกัน....บาย” พริซเซียร่ากดวางโทรศัพท์พลางหันไปบอกอัสมาน
“นี่..นาย...ฉันยังไม่เข้าโรงแรมนะ...พาฉันไปช้อปปิ้งก่อน” อัสมานออกรถอย่างรวดเร็วไม่พูดจาใด ๆ ทั้งสิ้น
เมื่อขับรถมาได้สักพักพริซเซียร่าเริ่มเห็นความผิดปกติเกิดขึ้นเมื่อเส้นทางที่อิสลุนใช้นั้นเริ่มไม่มีผู้คนหรือตึกราบ้านช่องแต่กลับมีแต่ทะเลทรายโล่ง ๆ เท่านั้น
“นี่.....นายจะพาฉันไปไหนห๊ะอิสลุน” พริซเซียร่าหันรีหันขวางมองสองข้างทางอย่างตื่นตะหนกตกใจ
“จอดรถเดี๋ยวนี้นะ.....ฉันบอกให้จอดไง” พริซเซียร่าตะโกนลั่นแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าอิสลุนจะจอดรถแม้แต่น้อย
“นายจะทำอะไรนะ....จอดรถฉันบอกให้จอด” เมื่อไม่ได้ดั่งใจพริซเซียร่าจึงสะบัดมือตบไปที่หน้าของอัสมานจนขึ้นรอยแดงเป็นปื่นตามแรงตบ
“เดี๋ยวคุณก็รู้พริซเซียร่า” อัสมานหันหน้ามาบอกกับพริซเซียร่าเสียงเย็นก่อนจะเอามือเช็ดคราบเลือดที่ไหลซิบออกมาจากมุมปากที่แตกเพราะแรงตบกระทบกับฟันเข้าอย่างจัง
“ไอขี้ข้า....แกจอดรถเดี๋ยวนี้เลยนะ” พริซเซียร่าด่าทอออกมาอย่างเกลียดชัง
“คำก็ไอขี้ข้า.....สองคำก็ไอขี้ข้า....ถ้าคุณเป็นเมียไอขี้ข้าคนนี้คุณยังจะว่าผมอยู่อีกไหม” อัสมานหันมามองพริซเซียร่าด้วยสายตาคมกริบอย่างเสือจ้องจะกินเหยื่ออย่างไรอย่างนั้น เขามีเลือดนักธุรกิจที่เมื่อเล็งผลกำไรเอาไว้แล้วว่าต้องได้เท่าไร่ยังไงเขาไม่มีทางที่จะยอมเสียเปรียบอะไรง่าย ๆ เช่นเดียวกับเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ หากเขาต้องการจะได้ใครแล้วไม่มีคำว่าแห้ว เมื่อเข้ามาจีบดี ๆ สาวเจ้าไม่เห็นใจก็ขอใช้วิชาดิบ ๆ เถื่อน ๆ แบบซาตานร้ายเลยก็แล้วกัน
“หมายความว่ายังไง.....ปล่อยฉันลงไปนะ...ปล่อย....ช่วยด้วย....ช่วยด้วย” พริซเซียร่าพยายามดึงกระชากประตูรถให้เปิดออกแต่ก็ไร้ผล
“อย่าเสียเวลาเลย....มาถึงขั้นนี้แล้วผมไม่ปล่อยคุณไปง่าย ๆ หรอก” อัสมานหันมาบอกกับพริซเซียร่าพร้อมเร่งฝีเท้าเหยียบคันเร่งให้ไวกว่าเดิม
พริซเซียร่าเห็นท่าไม่ดีจึงพยายามขัดขวางไม่ให้อัสมานทำอะไรไปมากกว่านี้ตรงเข้าแย่งพวงมาลัยกับอัสมานจนเขาต้องเบรกอย่างแรงทำให้พริซเซียร่ากระแทกเข้ากับกระจกรถอย่างจัง
“โอ้ย.....ไอบ้าแกทำอะไร...ดีนะคอฉันไม่หัก” พริซเซียร่าพูดพลางเอามือกุมที่คออย่างร้าวระบม
“คุณนั่นแหละอยากตายนักหรือไง...ถึงทำแบบนี้” อัสมานบริภาษด้วยสายตาอย่างดุกร้าว
พริซเซียร่าและอัสมานต่างก็จ้องหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใครสักพักเสียงโทรศัพท์ของพริซเซียร่าก็ดังขึ้น พริซเซียร่ารีบหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อที่จะบอกว่าเธออยู่ในอันตรายแต่ไม่ไวเท่าอัสมานเข้าคว้าโทรศัพท์ออกมาจากมือของพริซเซียร่าแล้วปาออกไปจากรถ แล้วเร่งฝีเท้าเหยียบคันเร่งออกรถไปทันที
“นี่นาย....รู้มัยโทรศัพท์เครื่องนั้นราคาเท่าไร” พริซเซียร่าตะคอกอัสมานเสียงดัง
“ไม่รู้” เขาตอบออกมาหน้าตาเฉย
“กรี๊ดๆๆๆๆ” พริซเซียร่าเหลืออดกับพฤติกรรมสุดทุเรศของอัสมานเต็มทนหล่อนไม่รู้จะทำเช่นไรได้แต่กรี๊ดออกมาอย่างนั้น
“หยุด....ผมหนวกหู” อัสมานตะคอกเสียงดังแต่มีหรือว่าคนอย่างพริซเซียร่าจะยอมหยุด
“กรี๊ดๆๆๆๆ” อัสมานชักทนกับการกระทำของหล่อนไม่ไหว
“ถ้าคุณไม่หยุดผมฆ่าเธอแน่” อัสมานชักปืนออกมาจ่อที่เอวของพริซเซียร่าทำให้หล่อนหยุดชะงักการกระทำทุกอย่าง นั่งนิ่งตัวแข็งทื่อ
“ถ้าพูดกันดีดีแต่แรกก็สิ้นเรื่อง” จริง ๆ แล้วปืนที่อัสมานขู่พริซเซียร่านั้นไม่ได้ใส่ลูกกระสุนสักเม็ดเขาต้องการเอามาขู่พริซเซียร่าเท่านั้นเอง