หลินชิงเยว่ หญิงสาวผู้เกิดในครอบครัวที่ยากจน แต่กลับโดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่ดึงดูดสายตาผู้คน ความงามของเธอไม่เพียงแต่สะกดจิตวิญญาณของผู้ที่พบเห็น แต่ยังเป็นดั่งดอกไม้กลางพายุ ที่ทั้งน่าหลงใหลและเปราะบาง
เมื่อเสียงชื่นชมถึงโฉมงามลือไปถึงหูของ ไป๋อวิ๋นเช่อ บุตรชายของตระกูลไป๋ผู้ร่ำรวยและทรงอิทธิพล การพบหน้ากันเพียงครั้งเดียวก็ทำให้เขาตัดสินใจยื่นข้อเสนอแต่งงานอย่างไม่ลังเล
คืนแต่งงานแรกของเธอที่ควรเต็มไปด้วยความสุขกลับกลายเป็นความผิดหวัง ไป๋อวิ๋นเช่อ ที่ดูสมบูรณ์แบบในสายตาคนนอก กลับเป็นเพียงบุรุษผู้ไร้ความสามารถในเรื่องบนเตียง เขาดื่มจนเมามายไร้สติ ทิ้งให้เจ้าสาวของเขานั่งเดียวดายท่ามกลางความเงียบงัน ความอ้างว้างค่อย ๆ กัดกินหัวใจของหลินชิงเยว่
ในค่ำคืนที่ดวงจันทร์ซ่อนตัวอยู่หลังม่านเมฆา หลินชิงเยว่ หญิงสาวผู้เปี่ยมด้วยความงดงามไร้ที่ติ เดินไปตามทางเดินในเรือนใหญ่ด้วยหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยความอ้างว้าง เธอไม่อาจหลับลงได้ในค่ำคืนนี้ เสียงร้องครวญครางอันแผ่วเบาที่ดังขึ้นในความมืด ทำให้เธอสะดุ้งตื่น หัวใจของเธอเต้นแรงอย่างไร้เหตุผล
ด้วยความสงสัยที่เพิ่มพูนขึ้นทุกวัน เธอลอบเดินตามเสียงนั้นไปจนถึงเรือนหลังที่เธอไม่เคยกล้าก้าวย่างเข้าใกล้ ภาพที่ปรากฏตรงหน้าทำให้เธอต้องเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง ไป๋เหวินหรง ผู้นำตระกูล ผู้ที่ถูกกล่าวขานว่าเป็นชายผู้สง่างามและทรงอำนาจที่สุด กำลังหลอมรวมเรือนร่างของเขากับหญิงสาวแปลกหน้าด้วยท่วงท่าที่เร่าร้อน
ดวงตาของเขาฉายแววปรารถนาและความเข้มข้นที่ยากจะลืมเลือน ท่ามกลางแสงเทียนที่ริบหรี่ เขาขยับกายราวกับนักดนตรีผู้บรรเลงบทเพลงบนเครื่องดนตรีชิ้นเอก เสียงของหญิงสาวผสานกับจังหวะที่เขาขับขานออกมาราวกับกำลังบรรเลงบทกวีแห่งความหฤหรรษ์
แต่สิ่งที่ทำให้หลินชิงเยว่ต้องยืนนิ่งงัน ไม่ใช่เพียงการกระทำของเขา หากแต่เป็นปฏิกิริยาของตัวเธอเอง หัวใจของเธอเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกจากอก เรือนร่างของเธอร้อนผ่าว และในห้วงความคิดของเธอเอง เธอกลับรู้สึกได้ถึงความตื่นเต้นที่ไม่เคยพบพานมาก่อน