ยามราตรีโปรยความมืดคลุมทั่วจวนแม่ทัพ ห้วงเวลาที่ผู้คนล้วนหลับใหลกลายเป็นเพียงฉากหน้าของเมืองที่เต็มไปด้วยแรงปรารถนา หลงหยางเฉิน แม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ แผ่นหลังเปลือยเปล่าของเขาเผยให้เห็นรอยแผลเป็นจากสมรภูมิ ดวงตาคมกริบประดุจเปลวเพลิงทอดมองออกไปนอกหน้าต่างในขณะที่ร่างกายเปี่ยมไปด้วยความปรารถนาที่เก็บซ่อนไว้ ชื่อเสียงของเขาเล่าลือไปไกล ไม่เพียงแต่ในสนามรบ ทว่าในห้องหับของเหล่าสตรีผู้โชคดีที่เคยได้สัมผัสความร้อนแรงของเขา
ทว่าน่าแปลก... ฮูหยินอันฉิงหรู ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของหัวใจและกายตามตำแหน่ง กลับไม่เคยลิ้มรสความเร่าร้อนนี้เลยแม้แต่น้อย สตรีที่เคยเป็นดั่งดอกไม้เลอค่าอันดับหนึ่งของแผ่นดิน ผู้ที่หลงหยางเฉินควรจะเฝ้าทะนุถนอม กลับถูกเขามองข้ามดั่งเพียงเครื่องประดับหนึ่งชิ้น
ภายในจวนโอ่อ่า อันฉิงหรูนั่งอยู่บนเตียงผ้าไหม ดวงตาของนางแฝงไปด้วยความว่างเปล่าที่ขับเน้นความงดงามของนางให้ยิ่งเย้ายวน ริมฝีปากแดงฉ่ำนั้นครั้งหนึ่งเคยเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม แต่บัดนี้เหลือเพียงความเจ็บปวดที่ถูกซ่อนไว้ลึกในใจ "ข้าเป็นถึงฮูหยินของแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ แต่กลับไม่มีค่าพอให้เขาเหลียวมอง..." เสียงกระซิบของนางเจือด้วยความขมขื่น
ในค่ำคืนที่เปลี่ยวเหงานี้ ความคิดหนึ่งได้แวบเข้ามาในใจ "ทำไมข้าต้องรอเขา? ความเร่าร้อนและปรารถนานั้น ข้าก็หาได้เอง!"
เสียงฝีเท้าของบ่าวชายผู้หนึ่งดังขึ้นเบาๆ ในความเงียบ เสียงประตูเลื่อนเปิดออกช้าๆ ร่างของชายหนุ่มที่น้อมตัวอยู่ต่อหน้าเธอนั้นดวงตาฉายแววสั่นไหว ผิวแก้มของเขาแดงก่ำเมื่อได้สัมผัสกับสายตาอันแหลมคมของนายหญิงที่นั่งอยู่บนเตียง
"เจ้า... กลัวหรือ?" อันฉิงหรูเอ่ยเสียงแผ่ว ทว่ามันเปี่ยมไปด้วยแรงดึงดูดที่ไม่อาจต้านทาน
ชายหนุ่มเพียงส่ายศีรษะ ก่อนที่เธอจะลุกขึ้นช้าๆ ความเงียบปกคลุมห้อง มีเพียงเปลวไฟในตะเกียงที่ไหวระริกตามแรงอารมณ์ที่คุกรุ่น "ถ้าหลงหยางเฉินไม่เห็นค่าข้า... ข้าจะให้ผู้อื่นได้ลิ้มรสสิ่งที่เขาเมินเฉยเอง"
ราตรีนี้จึงไม่เพียงเป็นช่วงเวลาแห่งความลับ แต่เป็นจุดเริ่มต้นของแรงปรารถนาอันเร่าร้อน