เฟยฮวาที่อยากพักผ่อนนอนนิ่งอยู่บนเตียง เพื่อรักษาอาการเอวเคล็ดหลังยอกที่ได้รับจากบุรุษหน้าตายเมื่อคืนให้หายดี แต่กลับต้องมานั่งปั้นหน้ายิ้มรับแขกที่ไม่ได้รับเชิญแทน
"รบกวนเวลานายหญิงไป๋แล้ว"
"ไม่รบกวนเลยเจ้าค่ะ ใต้เท้าหลู่ต้องทำตามหน้าที่อยู่แล้ว" แม้ในใจจะก่นด่าไปหลายสิบประโยค แต่หญิงสาวกลับยังรักษามารยาทได้ดี ไม่ให้อีกฝ่ายจับผิดได้ ว่าเขากำลังรบกวนเวลาของนางอยู่มากเพียงใด
ยังคงเป็นเรื่องเดิม ๆ หากนางได้พบหน้าบุรุษตรงหน้า นั้นหมายความว่ามีคนร้องเรียนเรื่องโรงพนันของนาง ไม่รุ้ว่าคนเหล่านั้นว่างมากนักหรืออย่างไร แทนที่จะทำกิจการของใครของมันไป แต่นี่พวกมันกลับจ้องหวังจะเล่นงานโรงพนันเล็ก ๆ ของนางไม่เลิกเสียที
ในหนึ่งเดือนต้องมีไม่ต่ำกว่าสองหรือสามครั้ง ที่ทางการจะส่งคนมาตรวจสอบโรงพนันซือเมี่ยว ยังดีที่นางเลือกผูกมิตรกับจิ้นเล่อไว้ ทำให้ไม่ต้องเป็นกังวลมากนัก
แม้เจ้าจิ้งจอกเจ้าเล่ห์นั่นจะขอค่าตอบแทนมากกว่าที่เคยตกลงกันไว้ แต่แลกกับหูตาที่เขามอบให้ ก็นับว่าคุ้มค่ากับการลงทุนในครั้งนี้
"มาวันนี้ไม่ทราบมีผู้ใดไปร้องเรียนใต้เท้าหลู่เกี่ยวกับซือเมี่ยวของเราอีกหรือเจ้าคะ" เฟยฮวาคลี่รอยยิ้มแต่ดวงตากลับไร้แววเป็นมิตร เพราะนางเบื่อที่จะพบหน้ากับอีกฝ่ายเต็มทน
"ข้ามาในครั้งนี้มิใช่เพราะเรื่องร้องเรียน แต่เป็นเรื่องตามหาคน เมื่อหลายวันก่อนเถ้าแก่จินได้หายตัวไปพร้อมเงินจำนวนมาก หลังจากสอบถามคนรอบตัวแล้ว เถ้าแก่จินแจ้งว่าจะมาเสี่ยงดวงที่ซือเมี่ยว
แต่หลังจากผ่านไปหลายวันเขากลับหายตัวไป ไม่มีใครได้พบเถ้าแก่จินอีกเลย ข้าเลยอยากมาตรวจสอบว่าคนของที่นี้เคยพบ หรือมีส่วนรู้เห็นที่เถ้าแก่จินหายตัวไปหรือไม่ หวังว่านายหญิงไป๋จะให้ความร่วมมือในการสืบหาคน" หลู่เหยียนมองสตรีงดงามตรงหน้าก่อนจะแสร้งทำเป็นมองสำรวจตัวอาคารโดยรอบ
มุมปากหยักยกยิ้มขึ้นเมื่อเห็นลำคอระหงขาวผ่อง ปรากฎร่องรอยสีแดงกุหลาบช้ำหลายจุด แม้นางจะพยายามใส่เสื้อปกปิดไว้ก็ตาม
ไม่ว่าจะกี่ครั้งที่เขาหาเรื่องหามานาง ก็มักพบรอยแบบนี้ปรากฏตามผิวขาวเสมอ แต่เขากลับไม่เคยเห็นเจ้าของรอยนั่นว่าเป็นใคร ทำให้รู้สึกค้างคาใจยิ่งนัก
"เถ้าแก่จินหรือ อ่อ คงเป็นชายผู้นั้น ข้าได้พบกับเขาจริง แต่เรื่องที่เขาหายตัวไปไหน ข้าคงให้คำตอบไม่ได้"
"แล้วไม่ทราบนายหญิงไป๋ได้พูดคุยกับเขาหรือไม่" ท่าทีไม่ทุกข์ร้อนของหญิงสาว ทำให้หลู่เหยียนคาดเดาได้ว่านางคงรู้ก่อนหน้าแล้วว่าเขาจะมาตามหาคน
"เดิมทีข้าไม่รู้จักเถ้าแก่จินผู้นี้ แต่วันก่อนเขาหอบเงินมาก้อนใหญ่ พร้อมจูงมือพนักงานของซือเมี่ยวเข้ามาขอพบข้า พวกเขามาบอกว่าต่างรักกันด้วยใจจริง เถ้าแก่จินเลยอยากจะขอไถ่ตัวพนักงานหญิงคนนั้น
ข้าเห็นว่าไม่ใช่เรื่องที่ต้องขัดขว้างจึงอนุญาตไป แต่หลังจากนั้นพวกเขาจะไปอยู่ที่ไหนกัน ข้าก็ไม่รู้ด้วยแล้ว"
"แล้วพนักงานหญิงนางนั้นพักอาศัยอยู่ที่ใด"
"นางอาศัยอยู่ที่นี้ แต่ตามกฏของซือเมี่ยว หากพนักงานคนไหนถูกไถ่ตัวหรือออกไปแล้ว ห้ามกลับเข้ามาที่นี้อีก หรือแม้แต่จะพบหน้าคนที่นี้ก็ไม่มีสิทธิ์ ทำให้ตอนนี้ไม่มีใครติดต่อนางได้ ข้าคงช่วยใต้เท้าหลู่ได้เพียงเท่านี้" กฏของซือเมี่ยวมีจริงอย่างที่นางพูด เพราะในเมื่อเลือกที่จะไม่อยู่ที่นี้แล้ว ก็ไม่มีสิทธิ์เข้ามาในซือเมี่ยวอีก แม้แต่จะกลับมาในฐานะลูกค้าก็ไม่ได้
กลโกงหรือวิธีการทุกอย่างจะถูกสับเปลี่ยนใหม่ทุกครั้งหลังมีคนออก เพื่อกันไม่ให้ความลับหรือข้อมูลอื่น ๆ ในซือเมี่ยวถูกส่งต่อ นางจึงตั้งกฏเหล็กนี้ขึ้นมา และทุกคนต้องทำตามอย่างเคร่งครัด
หลู่เหยียนหลังจากได้ฟังคำตอบของหญิงสาว ทำให้เขาหมดเรื่องที่จะถามนางต่อ แต่เขายังไม่ยอมที่จะกลับโดยง่าย ใช้ข้ออ้างขอสอบถามพนักงานซือเมี่ยวทั้งหมด เพื่อให้เขาได้ใช้เวลาอยู่กับนายหญิงไป๋ได้นานขึ้น
แท้จริงหลู่เหยียนมิได้คิดอยากตามหาเถ้าแก่จินเท่าไหร่นัก แค่เพียงได้ยินว่าซือเมี่ยวมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เขาจึงเสนอตัวเพื่อได้มาพบหญิงสาวอย่างเช่นทุกครั้ง
แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไร นอกจากเรื่องที่เขาสอบถามแล้ว นางก็ไม่คิดสนทนากับเขาเรื่องอื่นอีกเลย
หลู่เหยียนเห็นหญิงสาวเลือกจะหันหน้าเหม่อมองทางนอกหน้าต่าง แทนสนใจเขาที่นั่งอยู่ตรงหน้า เขาจึงใช้โอกาสนี้มองสำรวจความงามของนาง
ดวงตาของชายหนุ่มที่ทอดมองร่างบางล้วนเต็มไปด้วยความหลงใหล เขาไม่เคยพบสตรีใดงดงามเท่านายหญิงไป๋มาก่อน แม้แต่คู่หมั่นของเขาที่ถูกผู้คนเอ่ยชมว่ารูปโฉมเพียบพร้อม ก็ยังเทียบไม่ได้กับความงามของนายหญิงไป๋
ชายหนุ่มเผลอมองมือเรียวขาวที่ยกจอกชาขึ้นดื่ม พรางคิดสงสัยว่าหากได้จับสัมผัสจะรู้สึกเนียนนุ่มมากเพียงใด ก่อนจะชะงักได้สติเมื่อเห็นริมฝีปากบางอมชมพูมีแผลแตกเล็กน้อย ซึ่งเขาที่เป็นบุรุษย่อมมองออกว่ามันเกิดจากสาเหตุใด ทำให้มือใหญ่อดจะกำหมัดแน่นด้วยความเจ็บใจไม่ได้
คนที่ทำ ต้องเป็นคนเดียวกันกับที่ฝากรอยไว้บนลำคอนางอย่างแน่นอน
".....ใต้เท้าหลู่"
"วะ ว่าอย่างไรขอรับ" หลู่เหยียนมัวตกอยู่ในภวังค์ความคิดตนเอง จึงได้ยินเพียงเสียงหวานเรียกเท่านั้น แต่ไม่ทันได้ยินว่าก่อนหน้านางพูดกับเขาว่าอย่างไร
"ท่านสอบถามลูกน้องข้าทุกคนแล้ว จะทำอย่างไรต่อเจ้าคะ"
"ออ เอ่อ ถ้าอย่างนั้นวันนี้ข้าคงรบกวนนายหญิงไป๋เพียงเท่านี้ แต่หากมีข้อสงสัยอีก คงต้องมารบกวนนายหญิงไป๋อีกรอบแล้ว" หลู่เหยียนมองลูกน้องที่พยักหน้าส่งสัญญาณว่าไม่มีความผิดปรกติ เขาจึงไม่มีข้ออ้างที่จะอยู่กับหญิงสาวต่อ
"ยินดีเจ้าค่ะ ข้าไม่ส่งนะเจ้าคะ เชิญใต้เท้าหลู่กลับดี ๆ"
"ขอตัวลา" คำพูดของหญิงสาวระบุชัดเจนว่าไล่เขากลับแล้ว แม้หลู่เหยียนอยากจะอยู่ต่อมากเพียงใด ก็ไร้ข้ออ้างอีกต่อไป เขาจึงนำกำลังคนที่นำมาทั้งหมดกลับอย่างน่าเสียดาย
"ตัดไอ้นั่นของเถ้าแก่จินให้เป็ดกินเสีย แล้วเอาตัวไปทิ้งไว้ข้างตรอกคณิกา" เสียงหวานออกคำสั่งให้เฮ่อเจาไปจัดการเรื่องที่ค้างคาอยู่ให้แล้วเสร็จ หลังคล้อยหลังกลุ่มคนของทางการ
เฟยฮวายกจอกชาใบเดิมขึ้นดื่มด้วยความเบื่อหน่าย รอยยิ้มที่เคยมีก่อนหน้าเปลี่ยนเป็นเรียบเฉย ก่อนจะหลับดวงตาคู่สวยลงด้วยความเมื่อยล้า
แท้จริงเรื่องเถ้าแก่จินมาขอไถ่ตัวพนักงานหญิงของนางนั้นไม่เป็นความจริง ตาแก่นั่นหอบเงินมาที่นี้จริง แต่มาเล่นพนันจนหมดตัว แล้วสุดท้ายจะคิดข่มเหงพนักงานหญิงของนาง โชคยังดีที่เขาเลือกเล่นในห้องปิด ไม่มีคนรู้แม้เขาจะโวยวายแค่ไหน
และไม่มีใครเห็นว่าซือเมี่ยวจัดการกับเขาอย่างไรด้วยเช่นกัน
"เหตุใดเสี่ยวจิวถึงได้ใจร้ายนักเล่า"
"ถ้ายังพูดมากอีก จะเป็นของท่านอีกคนที่จะถูกตัดให้เป็นอาหารเป็ด"
จิ้นเล่อคลี่รอยยิ้มละมุนหลังจากได้ยินคำจากหญิงสาว เขาก้าวเดินมายืนอยู่ด้านหลังร่างบาง ใช้ฝ่ามือบรรจงบีบนวดบ่าเล็กให้นางอย่างเอาใจ
เมื่อเช้าพอเขากลับไปถึงหน่วย คนสนิทก็เข้ามารายงานเรื่องที่หลู่เยียนจะมาสืบค้นหาคนหายที่ซือเมี่ยว ทำให้เขาต้องกลับเอาเรื่องมาบอกกับหญิงสาวอีกครั้ง แม้จะไม่รู้ว่าคนที่หายไป นางได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่านางรู้เห็นด้วยทั้งหมด ทั้งยังเป็นคนสั่งการด้วยตนเองอีกตั้งหาก
"ข้าหรืออุตส่าห์รีบมาบอกให้เสี่ยวจิวได้ตั้งรับทัน ไม่เห็นถึงความดี กลับจะทำร้ายกันอีก มันน่าน้อยใจนัก"
"ไม่ยักรู้มาก่อนว่าใต้เท้าเผยแห่งหน่วยสืบสวนที่ยากจะหาคนต่อกรได้ จะเป็นคนอารมณ์อ่อนไหวเช่นนี้"
"อารมณ์ข้า....ขึ้นกับว่าอยู่กับผู้ใด"
"เหอะ ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดี เรื่องจบก็ไปได้แล้ว" เฟยฮวาที่กำลังเพลินกับแรงบีบนวดจากฝ่ามือชายหนุ่ม จำต้องเอียงกายหลบ เมื่ออยู่ ๆ เขาก็ก้มลงมาส่งเสียงกระซิบพ่นลมร้อนเข้ารูหู พาให้นางรู้สึกวูบไหวจนขนลุกชัน
"หมดประโยชน์ก็ไล่กันเช่นนี้ ไม่ง่ายไปหน่อยหรือ"
"วันหน้า..." ใบหน้าสวยผินหนีด้วยความเขินอาย หลังจากเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงบางเบา
จิ้นเล่อคลี่รอยยิ้มกว้างเมื่อได้รับคำตอบที่พอใจ เขาฉวยจังหวะที่หญิงสาวไม่ทันระวังตัว ก้มลงหอมพวงแก้มเนียนฟอดใหญ่ ก่อนรีบกระโดดหนีออกทางหน้าต่าง ลัดเลาะกลับทางเดิมโดยไม่สนใจว่าเสียงหวานจะตะโกนด่าเขาตามหลังว่าอย่างไร
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว