เส้นทางอสนีบาต - The Road Lightning

ตอนที่ 10 อาวุธใหม่

กุลนารีอาบน้ำเปลี่ยนเป็นชุดนอนเรียบร้อย ออกมานั่งที่บนเตียงที่ธีราทรจัดไว้ให้ ชายหนุ่มคนเดิมนอนดูทีวี อย่างสบายใจ ขวดเหล้ากับแก้วยังตั้งไว้ที่เดิม แม่ของเขาเช็ดตัวให้แล้ว


“มานี่” ชายหนุ่มเอ่ยเรียก แต่ไม่หันหน้ามาทางเธอ กุลนารีเดินไปยืนข้างเตียง เธอใส่ชุดนอนสีฟ้าอ่อน เสื้อแขนสั้น กางเกงขายาว


“รินเหล้าให้หน่อย” ชายหนุ่มบอก พลางตบที่นอนให้หญิงสาวนั่งลงข้าง ๆ


“ไหนนายบอกจะไม่กินแล้ว” หญิงสาวถามอย่างสงสัย ก่อนจะนั่งลง


“เอ่อน่ะ รินก่อน” กุลนารีทำตามชายหนุ่ม เมื่อรินเหล้าเสร็จแล้ว จึงยกขึ้นมาส่งให้เขา


“กินมันเข้าไป” ชายหนุ่มบอก จ้องหน้าหญิงสาวข้างๆ อย่างสนใจ


“ฉันไม่ดื่ม จะนอนแล้ว” กุลนารีบอกเขา


“กิน” รชตตะคอก “บอกให้กินไง” เขาถลึงตาใส่หญิงสาว เธอไม่เข้าใจ และงุนงงกับการกระทำของชายหนุ่มตรงหน้า อดไม่ได้ที่จะคิดว่า อุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้เขาเป็นไบโพล่าหรือเปล่า ชายหนุ่มกระชากแก้วในมือหญิงสาวมา จ่อเข้าปากตัวเอง กุลนารีเห็นท่าแบบนั้นจึงดึงข้อมือชายหนุ่มไว้ ก่อนจะส่งน้ำสีอำพันลงคอตัวเองไป


“อึก อะ แค่ก ๆ” เธอสำลักความเข้มของเหล้าชั้นดี กินเพียวขนาดนั้น ผู้ชายยังซู้ดปาก เพราะความแรงของดีกรี


“เอาแก้วมา” รชตบอกหญิงสาว มือขวายกขวดเหล้า เทลงแก้วให้เธออีกครึ่งแก้ว


“พอแล้วได้ไหม” กุลนารีถามชายหนุ่มที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่หน้าเธอ แก้วเมื่อสักครู่สร้างความร้อนวูบวาบไปทั่วร่างกาย เลือดสูบฉีด ใจเต้นตึกๆ ชายหนุ่มส่ายหน้า จ้องเธอเขม็ง กุลนารีจำเป็นต้องกลืนแก้วที่สองลงคออีกครั้ง


“อา” กุลนารีหน้าตาเหยเก เพราะสุราแก้วที่สอง อากาศร้อนขึ้นมาในบัดดล แสบคอ เธอขยับร่างกายจะลุกขึ้น แต่กลับโดนเสียง จิ๊ ปากของชายหนุ่ม จึงนั่งลงต่อ หยิบน้ำเปล่าที่วางข้างๆ ดื่มเสียอึกใหญ่


“กินจนกว่าผมจะพอใจ” ชายหนุ่มรินเหล้าให้หญิงสาวหลายต่อหลายครั้ง จนเธอเมามาก


“ไปได้ละ” เขาบอก เมื่อเห็นหญิงสาวตรงหน้าคอพับคออ่อน เอนกายหลายครั้งจะฟุบลงที่เตียงของเขา กุลนารีได้ฟังจึงลุกขึ้น แต่ก็โงนเงน ดวงตาเยิ้มส่งมาที่ชายหนุ่ม กระดุมหนึ่งเม็ดบนสุด ถูกปลดออก เพราะเธอบ่นว่าร้อน แก้มทั้งสองสีแดงปลั่ง รอยยิ้มน้อย ๆ ไม่ยอมหุบ


ตุบ!!!


กุลนารีล้มลงบนร่างของชายหนุ่ม ส่วนหัวทับลงที่อกแกร่งของเขา ตาหลับพริ้ม มือน้อยๆ พยายามดันร่างตัวเองหลายครั้งแต่ก็ลุกไม่ไหว เธอจึงฟุบหน้าซบลงตรงนั้น ชายหนุ่มใช้แขนขวาผลักเธอออก แต่ไม่เป็นผล แขนซ้ายที่มีเฝือกของเขาถูกเธอทับเช่นเดียวกัน กลิ่นแอลกอฮอล์และกลิ่นสบู่อ่อน ๆ ปะทะจมูก หน้าเขาห่างจากหัวของเธอไม่เกินความยาวไม้บรรทัด ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่า แก่นกลางชายเริ่มพองตัวทีละหน่อย ๆ นานเกินเดือนแล้วที่เขายังไม่ได้ปลดปล่อยมันออกไป


“เธอ นี่ เธอ ตื่นได้แล้ว กลับไปนอนที่ตัวเอง” ชายหนุ่มพูดอยู่คนเดียว และการบอกของเขาคงไม่ประสบผล เพราะตอนนี้หญิงสาวบนร่างเขา นอนนิ่งลมหายใจสม่ำเสมอเข้าสู่ห้วงนินทาไปแล้ว ชายหนุ่มเผลอเอื้อมมือลูบหัวเธอ ก่อนจะฉุกคิดได้แล้วผละมือออกอย่างรวดเร็ว ดันร่างเธออีกครั้ง แต่ก็เหมือนเดิม สักพักจึงหลับตาตามเธอไป


“นี่เธอทำอะไร” เสียงแม่ของชายหนุ่มดังขึ้น ปลุกให้กุลนารีและชายหนุ่มตื่นลืมตาขึ้นมา เธอซุกตัวอยู่ที่อกเขาหนุนแขนขวาเขาด้วย มือข้างขวาของตัวเองวางพาดไว้บนอกชายหนุ่ม เมื่อได้สติคนทั้งสองจึงรีบผละออกจากกัน มารดาชักสีหน้าไม่พอใจหนักมาก ก่อนจะก่นด่าเธอเสียๆ หายๆ ว่าเธออ่อยลูกชายของเขา จะใช้ร่างกายชดเชยความผิดบ้าง ใช้มารยาหญิงบ้าง ชายหนุ่มตรงหน้าไม่พูดอะไรสักคำ ที่แย่กว่านั้นเขาดูจะชอบที่แม่ของเขาด่าเธอแบบนี้ นั่นยิ่งทำให้เธอไม่เข้าใจ


“ไม่ต้องมาเฝ้าแล้ว เธอกลับไปได้” หญิงสูงวัยกว่า บอกอย่างหัวเสีย


“หนูไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้น เราไม่ได้มีอะไรเกินเลยนะคะ” กุลนารีพยายามอธิบาย


“เธอทำร้ายลูกฉันครั้งเดียวยังไม่พออีกเหรอ ฉันคงจะเชื่อหรอกนะว่าลูกชายฉันพาเธอขึ้นมานอนด้วย เขาเดินไม่ถนัดแบบนั้น” มารดาชายหนุ่มกล่าวโทษ ก็จริงของเธอ เขาเดินไม่ได้ ก็มีแต่เธอที่ขึ้นมาหาเขาเอง แต่ว่ามันมีเหตุการณ์ก่อนหน้านั้น


“แต่ว่า” กุลนารีจะอธิบายซ้ำ แต่แม่ของชายหนุ่ม ไม่ฟัง บอกให้เธอกลับ เก็บของออกไปเร็วๆ


“ไม่มีอะไรครับแม่ แม่แค่เข้าใจผิดไปเอง ผมอยากอาบน้ำแล้ว” รชตบอกก่อนจะส่งสัญญาณให้กุลนารีพาเขาไปอาบน้ำ แม่ของเขาทำท่าจะพาเขาไป แต่ชายหนุ่มก็ปฏิเสธแบบนุ่มนวล ให้แม่ไปทำกับข้าวต่อ

รีวิวจากผู้อ่าน
ยังไม่มีรีวิวสำหรับเรื่องนี้

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว