[จบแล้ว] เมียชัง Yaoi/Mpreg

ตอนที่ 5

ตอนที่ 5

“ไม่ใช่ว่าเราเพิ่งทะเลาะกันไปกับภวัฒน์เหรอ วันนั้นแค่เห็นกันก็แทบจะกินหัวกันแล้ว อะไรทำให้วันนี้มาขอให้ปู่ช่วยเรื่องแต่งงาน” ฉัตรปวีร์ถูกปู่ซักทันทีและไม่เพียงปู่ของตัวเองเท่านั้นที่มึนงงกับคำขอเมื่อสักครู่เพราะปู่ของภวัฒน์เองก็รู้สึกไม่ต่างกัน

“ฉัตรเกิดตกหลุมรักคุณภวัฒน์เข้าอย่างจังน่ะครับ ยิ่งคุณภวัฒน์ไม่สนใจฉัตรยิ่งอยากลงแข่งเป็นว่าที่ภรรยาของคุณยุวเรศ ถ้าได้ปู่ลพมาช่วยเชียร์ด้วยก็จะเพิ่มเปอร์เซ็นต์ความสมหวังเข้าไปอีก” ฉัตรปวีร์ตอบปู่หน้าซื่ออย่างที่ยุวเรศทำใส่ต่อหน้า ซึ่งทำเอานายลพหัวเราะออกมาด้วยความพอใจ

“เราน่ะเหรอจะตกหลุมรักคนอย่างเจ้าวัฒน์ มีคนมาให้ฉัตรเลือกเยอะแยะจะตาย หลานชายปู่ที่ออกจะบื้อเรื่องเลือกคู่ครองไม่อยู่ในลิสต์ฉัตรด้วยซ้ำ บอกปู่มาตรงๆเถอะว่าทำไมอยากแต่งงานกับเจ้าวัฒน์ของปู่ขึ้นมา” ปู่ของภวัฒน์ที่พอจะมองออกว่าฉัตรปวีร์แกล้งพูดไปอย่างนั้นเรื่องตกหลุมรักหลานชายของท่าน เอ่ยถามมายิ้มๆ

“แหม ทำไมคุณภวัฒน์ไม่ได้ความฉลาดหลักแหลมมองคนทะลุปรุโปร่งสักเสี้ยวของปู่ลพเลยนะครับ ฉัตรพูดแค่นี้ปู่ลพก็ดูออกหมดแล้ว”

“ฮ่าๆๆๆๆ นั่นน่ะสิ ปู่ก็นึกสงสัยเหมือนกันว่าทำไมหลานปู่บริหารบริษัทออกจะเก่งแต่มองคนไม่ออกว่าคนไหนจริงใจคนไหนเสแสร้ง เฮ้อ นี่ละนะเขาถึงว่าคนเราต้องมีสักเรื่องที่ไม่เก่ง เผอิญว่าหลานปู่ดันมาบื้อเรื่องเล่ห์เหลี่ยมผู้หญิงแถมยังขี้สงสารเหมือนแม่เขาไม่มีผิดถึงโดนจับจุดง่ายๆ พอตกหลุมพรางความสงสารแล้วก็เลยตกหลุมมารยาหญิงไปด้วย”

“นี่กำลังพูดถึงใครกันฉันตามไม่ทัน แฟนตาวัฒน์เหรอ” ปู่ของฉัตรปวีร์ถามขึ้น

“ใช่น่ะสิ อย่างที่เคยเล่ากับแก เรื่องเดียวที่ฉันเป็นห่วงหลานแต่ไม่รู้จะทำยังไง ตาวัฒน์มันก็สงสารเขาเหลือเกินจนความสงสารบังตามองไม่เห็นความผิดปกติ เฮ้อ จริงๆก็ไม่ได้อยากจะยุ่งอะไรกับเรื่องนี้หรอกนะ ชีวิตมันก็อยากให้วัฒน์มันเลือกเอง แต่พอคิดว่ายังไม่ทันตายก็จะได้เห็นหลานชายตกนรกทั้งเป็นเพราะได้เห็นธาตุแท้เมียหลังแต่งงานฉันก็กลุ้มแสนกลุ้มแล้วล่ะ”

“งั้นให้ฉัตรช่วยกระชากหน้ากากผู้หญิงคนนั้นออกมาไหมครับ” ฉัตรปวีร์ได้จังหวะเอ่ยอาสาออกมาทันที หากแต่ก็ถูกปู่ของภวัฒน์เหล่ตามอง

“ฉัตรไปเจออะไรมา ทำไมเกิดอยากอาสาช่วย เรากับนายวัฒน์น่ะหน้าแทบจะไม่มองกันเลยไม่ใช่เหรอวันนั้นน่ะ”

“ผู้หญิงคนนั้นทำเรื่องเลวร้ายไว้กับคนรู้จักของฉัตรครับ พอฉัตรไปคุยเพื่ออยากได้คำขอโทษจากเขา ยุวเรศก็ปัดความรับผิดชอบ ตีหน้าซื่อว่าตัวเองไม่ได้ทำโดยมีคุณภวัฒน์เข้ามาช่วยปกป้องทั้งที่ยังไม่ได้สืบสาวหาความจริงเลย เขาหลงผู้หญิงคนนั้นมากอย่างที่ปู่ลพกังวลนั่นแหละครับ ผิดชอบชั่วดีเขาก็พร้อมปัดทิ้งหมดเพียงถูกยุวเรศออดอ้อนเข้าใส่ ฉัตรถึงอยากเป็นคนกระชากหน้ากากของผู้หญิงคนนั้นออกมาต่อหน้าคุณภวัฒน์ด้วยตัวเอง” ฉัตรปวีร์บอกตามตรง

“ปู่ขอค้านสักหน่อยนะลูก เข้าใจว่าฉัตรอาจจะโกรธแทนคนรู้จัก แต่การเอาตัวลงไปทุ่มแบบนี้จะดีเหรอ แต่งงานมันเป็นเรื่องใหญ่นะลูก ยิ่งกับฉัตรที่หวงความโสดแล้วด้วย”

“ฉัตรหวงความโสดมากจริงๆครับแต่ก็โกรธมากด้วย สุดท้ายถ้าฉัตรกระชากหน้ากากผู้หญิงคนนั้นออกมาได้ปู่ลพก็จะได้ไม่ต้องกังวลใจกับหลานชาย ส่วนฉัตรก็จะได้แก้แค้นแทนคนที่ฉัตรรู้จักคนนั้นและให้บทเรียนยุวเรศอย่างสาสมว่าอย่าเที่ยวไปทำตัวเลวใส่คนอื่นอีก ฉัตรเชื่อว่าคุ้มกับการเอาตัวลงไปเล่นครับ”

“เรื่องมันสาหัสขนาดที่ฉัตรต้องใช้วิธีนี้แก้แค้นแบบนี้เลยเหรอลูก ทำไมไม่เอาหลักฐานไปให้เจ้าวัฒน์ดูแล้วก็พูดคุยกันดีๆ ปู่ว่าถ้าเจ้าวัฒน์มันเห็นหลักฐานมันคงไม่หูตามืดบอดหรอกนะ” ปู่ของฉัตรปวีร์ยังไม่เห็นด้วยเรื่องแต่งงานและพยายามหาทางอื่นในการแก้แค้น

“ฉัตรเอาหลักฐานไปให้ดูถึงบ้านมาแล้วครับ แต่นอกจากคุณภวัฒน์จะไม่สนใจสืบสาวจากหลักฐานที่ฉัตรให้ยังหลับหูหลับตาเข้าข้างผู้หญิงคนนั้นกล่าวหาฉัตรว่าแพ้แล้วพาล ฉัตรเลยอยากค่อยๆทรมานเขาและคนรักให้สาสมกับสิ่งที่เขาทำกับฉัตรและคนที่ฉัตรรู้จัก ขอโทษนะครับปู่ลพที่ฉัตรต้องพูดแบบนี้ แต่เขาหูตามืดบอดจริงๆ ฉัตรเลยอยากช่วยปู่ลพเอาผู้หญิงคนนั้นออกไปจากชีวิตของหลานชายและอยากให้บทเรียนที่เขาตัดสินคนอื่นโดยไม่คิดไตร่ตรองให้ดีด้วยครับ”

“ฮ่าๆๆๆ ตาวัฒน์มันสมควรโดนแล้วแหละ มีอย่างที่ไหนไปกล่าวหาคนอื่นทั้งที่ตัวเองไม่ยอมสืบสาวราวเรื่อง เอาล่ะถ้าฉัตรอยากจะทำแบบนี้ปู่ก็จะช่วยบีบตาวัฒน์ให้รับข้อเสนออีกทางและปู่จะใช้สถานการณ์นี้เป็นบททดสอบด่านแรกของยุวเรศด้วย ถ้าผู้หญิงคนนั้นดีจริงและไม่ได้หวังที่จะจับตาวัฒน์จะต้องไม่เดือดร้อนแม้ปู่ให้ตาวัฒน์ไปแต่งงานกับคนอื่น แต่ถ้าเป็นคนโลภยังไงก็จะแสดงธาตุแท้ออกมาให้เห็นไม่ช้าก็เร็วแน่นอน” นายลพไม่เดือดเนื้อร้อนใจที่หลานชายจะถูกดัดนิสัย ในทางตรงกันข้ามกลับยิ่งเห็นดีเห็นงามด้วยซ้ำ ใครจะรู้ว่าการแต่งงานเพราะอยากแก้แค้นสุดท้ายอาจจบลงด้วยความรักก็ได้เมื่อได้ใกล้ชิดกัน โอกาสน้อยนิดหากแต่ก็ไม่ใช่ไม่มีโอกาสเลย

“ปู่ต้องอนุญาตแล้วล่ะครับ ปู่ลพตัดสินใจจะร่วมมือกับฉัตรแล้ว” ฉัตรปวีร์หันมาถามปู่ของตัวเองยิ้มๆ นายฉายส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ

“เราน่ะมันคนจริงเกินไป ถ้าได้โกรธอะไรล่ะเป็นทุ่มตัวลงไปจัดการทุกที ว่าแต่เรื่องมันใหญ่โตขนาดไหนถึงทำให้เราโกรธได้ขนาดนี้ ยุวเรศไปทำอะไรใครเหรอ ขอปู่รู้เหตุผลหน่อยได้ไหมก่อนอนุญาตน่ะ หืม”

“ยุวเรศบีบให้ผู้หญิงคนหนึ่งต้องกินยาขับเลือดและเกือบตายเพราะเสียเลือดมาก เท่านั้นยังไม่พอยังบอกให้พาผู้หญิงคนนั้นไปทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตามลำพังอีก ถ้าฉัตรไม่ได้ไปเห็นสภาพของผู้หญิงคนนั้นด้วยตาตัวเองฉัตรคงไม่โกรธขนาดนี้หรอกนะครับ” คำบอกเล่าของฉัตรปวีร์ทำให้ผู้เฒ่าทั้งสองถึงกับงันไปเพราะคาดไม่ถึงว่าเรื่องจะร้ายแรงมากขนาดนี้ ฉัตรปวีร์เล่าต่อด้วยสายตาเรืองรองเต็มไปด้วยความโกรธ “การกระทำเหมือนไม่ใช่คนแบบนี้ฉัตรยอมไม่ได้ ผู้หญิงคนนั้นไม่สมควรได้สุขสบายอยู่บนกองเงินกองทองของตระกูลเรืองรังสิต เธอสมควรได้รับความเจ็บช้ำอย่างที่เธอทำกับคนอื่น”

“ใครเหรอผู้หญิงคนนั้นบอกปู่ได้ไหม ทำไมยุวเรศถึงได้มาทำแบบนั้นได้แล้วเกี่ยวข้องกับฉัตรยังไง”

“ฉัตรบอกไม่ได้จริงๆครับ เธอบอบช้ำมากและไม่ต้องการให้ใครรู้ แต่เธอเป็นคนดีมาก ที่เกิดเรื่องน่าเศร้านี้ขึ้นเพราะถูกหลอก ตอนนี้เธอกำลังพยายามรักษาตัวและรักษาใจให้เข้มแข็งอยู่”

นายลพพยักหน้าเข้าใจ สีหน้าขรึมลงเป็นอย่างมากเมื่อได้รับฟังเรื่องทั้งหมดจากปากฉัตรปวีร์ แน่นอนว่าไม่มีความสงสัยใดใดเลยแม้แต่นิดเพราะรู้ว่าฉัตรปวีร์หวงความโสดมาก การที่จะยอมสละความโสดทิ้งแล้วทุ่มตัวลงมาทำในเรื่องนี้ต้องมีเรื่องร้ายแรงมากระตุ้นเจ้าตัวให้ลงมือทำอย่างนี้ได้

“เอางั้นก็เอา ถ้าฉัตรยืนยันว่าอยากจะแต่งงานกับเจ้าวัฒน์จริงๆปู่ตกลงจะช่วยด้วยอีกแรง แต่ฉัตรก็รู้ใช่ไหมลูกว่าปากของหลานปู่น่ะมันร้ายแค่ไหน อย่างที่ฉัตรก็เห็นแล้ววันที่ทะเลาะกันที่ภัตตาคารอาหารจีนนั่น ฉัตรจะทนมันได้เหรอถ้าหากว่าได้แต่งงานกันจริงๆแล้วต้องลับฝีปากกันทุกวัน”

ฉัตรปวีร์ยิ้มให้ปู่ของภวัฒน์แล้วเอ่ยอย่างไม่ทุกข์ร้อน “ปากฉัตรก็ไม่น้อยหน้าคุณภวัฒน์หรอกครับปู่ลพ เรียกได้ว่าเราเป็นคู่กิ่งทองใบหยกในด้านปากร้ายเลยก็ว่าได้ ถ้าแต่งกันไปคนที่จะลำบากอาจจะเป็นปู่ลพที่ต้องเห็นเราเถียงกันทุกวันก็ได้ครับ”

“ฮ่าๆๆๆ อย่างนั้นสินะ ถ้างั้นปู่ก็ไม่ห่วงฉัตรแล้วล่ะ” นายลพหัวเราะออกมาอย่างพออกพอใจ แทบจะมองเห็นภาพชัดเจนว่าบ้านหลังใหญ่ที่เงียบเหงามานานจะวุ่นวายแค่ไหนเมื่อทั้งสองแต่งงานกันแล้วย้ายเข้าไปอยู่ด้วย

“ยังจะหัวเราะอยู่อีก หาเหาใส่หัวชัดๆ คราวนี้ล่ะชีวิตแกจะหาความสงบสุขไม่ได้เพราะมีคนมาทะเลาะกันเช้าเย็นให้ฟัง” นายฉายเอ่ยบ่นเพื่อนสนิทอย่างเอือมระอาเพราะรู้ฤทธิ์ของหลานตัวเองดี

“ดีเสียอีกตาวัฒน์มันจะได้มีคู่ปรับมาคอยกระทุ้งบ่อยๆจนอาจจะนึกสงสัยในตัวแฟนของมันขึ้นมาก็ได้ ตอนนี้มันมั่นอกมั่นใจนักหนาว่าหญิงในดวงใจเป็นคนดีเลิศประเสริฐศรีทั้งที่คนอื่นเขาเห็นกันทั่วว่าเป็นคนยังไง ได้ฉัตรไปปะทะฝีปากมันบ่อยๆก็ดีเหมือนกัน”

ฉัตรปวีร์หัวเราะออกมาเมื่อเห็นปู่ของภวัฒน์เอ่ยอย่างเอือมระอาในความมั่นใจของหลานชายตัวเอง ดูเหมือนใครต่อใครจะได้รู้จักวีรกรรมของหญิงสาวคนนั้นกันถ้วนหน้า มีเพียงคนซื่อบื้อคนเดียวเท่านั้นที่ตามืดบอดไม่รับรู้ความจริงอะไรเลยสักอย่าง แต่ก็ดีแล้วล่ะเพราะฉัตรปวีร์จะเป็นคนไปกระชากหน้ากากที่ยุวเรศซุกซ่อนอยู่ออกมาประจานเอง รอก่อนเถอะนายภวัฒน์!




“ว่าไงนะครับปู่!”

“ปู่บอกว่าอยากให้แกแต่งงานกับหนูฉัตร”

“ไม่มีทางเด็ดขาด หัวเด็ดตีนขาดผมก็จะไม่แต่งงานกับคุณหนูนิสัยเสียนั่น ที่สำคัญผมมีคนรักที่จะแต่งงานด้วยอยู่แล้ว คุณหนูนั่นก็คงไม่ได้อยากแต่งกับผมสักเท่าไหร่หรอก ปู่ก็เห็นว่าเราแทบจะกินหัวกันตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันด้วยซ้ำ เพราะงั้นเลิกคิดเรื่องนี้ไปเลยดีกว่าครับ”

“แล้วถ้าหนูฉัตรตอบตกลงแต่งกับแกล่ะ แกกล้าตอบตกลงกลับคืนไหม” ปู่ถามหลานชายยิ้มๆ

“ไม่มีทาง เราเกลียดขี้หน้ากันจะตาย ผมไม่ชอบนิสัยเขา เขาไม่ชอบนิสัยผม แต่งกันไม่ได้หรอกครับและผมก็เชื่อว่าเขาไม่มีวันแต่งกับผมหรอก” หลานชายยืนกรานคำเดิม

“แต่เผอิญหนูฉัตรตอบตกลงคำขอของปู่แล้ว เหลือแค่แกคนเดียวที่จะตอบตกลงและปู่ก็เห็นด้วยที่อยากให้เรืองรังสิตของเราได้รวมกับวรรณพิทักษ์ของเพื่อนสนิทปู่”

“ว่าไงนะครับ! คุณหนูนิสัยเสียนั่นตอบตกลงจะแต่งงานกับผมเหรอ” ภวัฒน์ถามออกมาแทบเป็นตะโกน

“ใช่ หนูฉัตรตอบตกลงมาแล้วว่าจะแต่งงานกับแก ปู่ถึงได้มาถามความเห็นแกไงล่ะ ว่าไง”

“จะว่ายังไงล่ะครับผมต้องปฏิเสธอยู่แล้วสิ ผมมีเรศอยู่แล้วนะครับปู่ก็รู้และผมก็วางแผนไว้แล้วว่าหลังจากรับตำแหน่งประธานบริษัทอย่างเป็นทางการผมจะขอเรศแต่งงาน” ภวัฒน์ปฏิเสธเสียงเด็ดขาดออกมาทันทีโดยแทบไม่ต้องหยุดคิด ในใจรู้สึกฉุนฉัตรปวีร์ขึ้นมานิดๆที่กล้าตอบรับเรื่องบ้าบอแบบนี้จากปู่ของเขา

“งั้นแกก็จะไม่ได้ตำแหน่งประธานบริษัทต่อจากฉันรวมถึงทรัพย์สมบัติของฉันด้วย ถ้าฉันตายฉันจะบริจาคให้เป็นของสาธารณะทั้งหมด ส่วนแกจะได้เฉพาะหุ้นที่ฉันเคยโอนให้ เงินเดือนประจำตำแหน่งของผู้บริหารระดับสูงในบริษัท แล้วก็มรดกในส่วนพ่อแม่ที่ทิ้งไว้ให้แกเท่านั้น อ้อ ถ้าแกแต่งกับแฟนของแกจะย้ายออกไปอยู่ข้างนอกเสียก็ได้ ปู่ไม่ห้าม แฟนแกเขาคงไม่อยากอยู่ร่วมกับปู่นักหรอก” นายลพใช้แผนเด็ดทันที นอกจากจะเป็นการบีบหลานชายแล้วยังเป็นการทดสอบยุวเรศไปในตัวด้วย

“ปู่!” หลานชายร้องเรียกจนแทบเป็นตะโกนเมื่อได้ฟังจบ ภวัฒน์หน้าแดงกล่ำขึ้นมาด้วยความโกรธขยับเข้ามาเท้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่ในห้องสมุดประจำบ้านซึ่งปู่นั่งอยู่แล้วยื่นหน้าไปพูดกับท่านใกล้ๆ “ปู่จะทำแบบนี้ไม่ได้นะครับ ปู่ก็รู้ว่าผมรักบริษัทของเราแค่ไหน ทุ่มเทพัฒนามันมาตั้งแต่ก้าวเข้ามาทำงานวันแรกแล้วปู่จะยกตำแหน่งประธานบริษัทให้คนอื่นเพียงเพราะผมไม่ยอมแต่งงานกับคนที่ปู่เลือกให้เหรอครับ ไม่ยุติธรรมกับผมสักนิด ส่วนสมบัติผมไม่ขัด มันเป็นส่วนที่ปู่หามาด้วยน้ำพักน้ำแรงจะยกให้ใครหรือสาธารณะประโยชน์ก็ได้ แต่เรื่องตำแหน่งประธานบริษัทผมขอค้าน”

“งั้นปู่ก็ขอค้านการแต่งงานของแกกับยุวเรศ แลกกัน ถ้าแกอยากได้บริษัทแกต้องแต่งงานกับหนูฉัตร แต่ถ้าแกไม่แคร์แกก็แต่งกับคนรักของแกไป จบเท่านั้น”

“ปู่ใจร้าย ปู่ฟังคนอื่นเป่าหูมาแล้วมาพาลเอากับเรศ ปู่ไม่ยุติธรรมเลย ผมนึกว่าปู่จะเป็นคนมีเหตุผลมากกว่านี้เสียอีก” หลานชายตัดพ้อด้วยความน้อยใจโดยไม่ทันระวังคำพูด

“หยุดนะภวัฒน์! นี่แกเห็นคนอื่นดีกว่าปู่จนกล้าดูถูกปู่แล้วเหรอ” นายลพตบโต๊ะดังสนั่น ริมฝีปากสั่นด้วยความโกรธ หลานชายที่เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองเผลอพูดแรงเกินไปเสียงอ่อนลงทันที

“ขอโทษครับ วัฒน์ไม่ได้ตั้งใจจะหยาบคายใส่ปู่ เพียงแต่น้อยใจที่ปู่ไปคุยกับเขาแล้วกลับมาบีบวัฒน์แบบนี้ทั้งที่วัฒน์กับเขาไม่ชอบหน้ากันสักนิด แถมวัฒน์ก็ยังมีคนรักอยู่แล้วด้วย ปู่ครับวัฒน์ถามจริงๆว่าคุณฉัตรปวีร์มาพูดอะไรทำไมปู่ถึงได้มีความคิดอยากให้วัฒน์กับเขาแต่งงานกันอย่างกะทันหันแบบนี้”

“ปู่ไม่ได้เพิ่งมาคิดเรื่องที่ไม่อยากให้แกแต่งกับผู้หญิงคนนั้น แต่ปู่คิดตั้งแต่เขาจงใจวิ่งตัดหน้ารถแกแล้วค่อยๆแทรกซึมเข้ามาในชีวิตแกจนได้เป็นเลขาและตอนนี้ได้ขึ้นมาเป็นคนรักแกแล้ว แกคิดว่าคนแบบนี้น่าไว้ใจเหรอตาวัฒน์”

หลานชายถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่ายเมื่อปู่เอ่ยเรื่องเก่าขึ้นมาเป็นข้ออ้าง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ท่านแสดงความไม่ไว้ใจต่อตัวคนรักของเขา ภวัฒน์จึงย้ำคำตอบเดิมกับปู่อย่างที่เคยตอบกลับมาตลอด “วัฒน์ไว้ใจเรศครับ เราคบกันมานานและวัฒน์ก็เห็นว่าเรศเป็นคนยังไง เรศทำงานเก่ง สวย อ่อนหวาน งานบ้านงานเรือนก็ไม่ขาดตกบกพร่อง ส่วนเรื่องที่คนกล่าวหาว่าเรศวิ่งตัดหน้ารถวัฒน์วันนั้นก็ไม่เป็นความจริง ฝนตกหนักเราต่างมองไม่เห็นทางถึงได้เกิดอุบติเหตุขึ้น”

“หึ เป็นอย่างหนูฉัตรว่าไว้ไม่มีผิด”

“คุณหนูนิสัยเสียนั่นกล่าวหาวัฒน์ว่ายังไงบ้างครับ ปู่บอกให้วัฒน์ฟังหน่อย” ภวัฒน์ถามปู่หน้าตึงทันที

“เขาว่าแกน่ะซื่อบื้อ มองมารยาหญิงไม่ออกซึ่งปู่ก็เห็นด้วยเพราะแกมันทั้งขี้สงสารทั้งเชื่อคนง่าย ซึ่งมันกลายเป็นจุดอ่อนของแก”

“ปู่ต่างหากที่มองคนไม่ออก ปู่รู้มั้ยว่าทำไมเขาอยากแต่งงานกับวัฒน์ เพราะเขาโดนวัฒน์กับเรศหักหน้าที่งานแต่งงานเพื่อนสนิทของวัฒน์มาก่อนตอนที่เขาเข้ามากอดสุ่มสี่สุ่มห้าจากด้านหลัง นิสัยคลอเคลียคนไปทั่วจนเคยตัวพอเจอวัฒน์ไม่เล่นด้วยเหมือนหนุ่มคนอื่นๆ เขาก็เลยแค้นวัฒน์อยากเอาคืนวัฒน์ถึงได้ตกลงเรื่องแต่งงานง่ายๆ นี่ยังไม่รวมมาหาเรื่องเรศถึงบ้าน สร้างหลักฐานปลอมมากล่าวหาเรศในสิ่งที่เรศไม่ได้ทำด้วยนะครับ คุณฉัตรปวีร์ต่างหากที่เป็นฝ่ายร้ายไม่ใช่เรศของวัฒน์”

“แล้วแกก็ปกป้องแฟนโดยที่ไม่สืบสาวราวเรื่องว่าที่หนูฉัตรพูดจริงหรือไม่จริงน่ะเหรอ ไม่ด่วนตัดสินคนไปหรือไง” ปู่ย้อนถามกลับ

“ถ้าเป็นคนอื่นวัฒน์คงจะใจเย็นแล้วถามดีๆกว่านี้ แต่กับคนนี้ไม่จำเป็นต้องถามหรอกครับ เอาแต่ใจตัวเองอย่างกับอะไร คิดว่าตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางของโลกและทำถูกไปเสียหมด” ภวัฒน์เอ่ยเสียงเยาะเมื่อนึกถึงใบหน้าเชิดรั้นหยิ่งผยองของฉัตรปวีร์

“อย่าให้อคติบังตาจนตัดสินคนอื่นเร็วแบบนี้ เรื่องนี้แกควรตรวจสอบหลักฐานที่หนูฉัตรเอามาให้ดูเสียก่อน ก่อนที่จะปักใจเชื่ออะไร”

“กับคนนี้ผมไม่ต้องตรวจสอบครับ ดูก็รู้ว่าตั้งใจมาหาเรื่องเพราะไม่ได้ดั่งใจก็เท่านั้น ปู่เองก็อย่าไปฟังคนแบบนั้นนักเลย ช่วยเปิดใจมองความดีของเรศเขาบ้างเถอะครับหรือปู่รังเกียจที่เรศจน”

“ปู่น่ะเหรอจะรังเกียจใครเพราะความจน แกอย่ามาดูถูกปู่นักเลยนะเจ้าวัฒน์ แม่แกก็เป็นแม่ค้าขายขนมที่พ่อแกไปตกหลุมรัก ปู่ยังไม่เคยขัดขวางเลยสักนิด กลับสนับสนุนให้ได้แต่งกับคนทำมาหากินเก่งอย่างแม่แกด้วยซ้ำ” ปู่เอ่ยเสียงตึง ภวัฒน์เมื่อเห็นอย่างนั้นก็ยกมือขึ้นพนมไหว้ทันที

“วัฒน์ขอโทษครับ ไม่ได้ตั้งใจจะว่าปู่แต่ปู่ก็เห็นว่าเรศไม่ได้มีพิษมีภัยอะไร วัฒน์กับเขาคบกันมาก็ไม่ได้มีปัญหา เรศไม่เคยเรียกร้องเอาอะไรจากวัฒน์ มีแต่วัฒน์เต็มใจให้เขาทั้งนั้น”

“งั้นแกก็ลองขอเขาแต่งงานดูสิ แต่ต้องบอกเงื่อนไขในการแต่งงานครั้งนี้ด้วยว่าแกจะไม่ได้ตำแหน่งประธานบริษัทและสมบัติจากฉันสักชิ้นหากแต่งกับเขา ทั้งหมดที่ฉันสร้างมาฉันจะบริจาคให้สาธารณะ ฉันเองก็อยากจะเห็นน้ำใจแฟนแกเหมือนกัน” นายลพท้าหลานชาย

“ได้ครับ วัฒน์จะไปขอเรศแต่งงาน แล้วปู่จะได้เห็นว่าเรารักกันมากแค่ไหนแม้จะไม่ได้อะไรจากปู่เลยเรศก็จะไม่รู้สึกอะไร” หลานชายเอ่ยอย่างมั่นอกมั่นใจและก่อนจะเดินออกไปจากห้องก็หันมาเอ่ยประโยคสุดท้ายกับปู่ “ฝากบอกคุณหนูนิสัยเสียฉัตรปวีร์นั่นด้วยว่าวัฒน์ไม่มีวันแต่งงานกับเขาถึงเขาจะใช้วิธีการสกปรกแค่ไหนมาบีบวัฒน์ก็ตาม เขาไม่มีวันแก้แค้นวัฒน์ได้ด้วยการแยกพวกเราสองคนออกจากกัน”

“ฉันยังไม่บอกหนูฉัตรหรอก ฉันจะดูว่าแฟนแกจะตอบรับคำขอแต่งงานของแกหรือเปล่าหลังจากที่ชวดตำแหน่งประธานบริษัทและทรัพย์สมบัติทั้งหมด” นายลพเอ่ยอย่างใจเย็นและยิ้มมุมปาก

“งั้นปู่รอฟังข่าวดีของวัฒน์กับเรศได้เลยครับ” หลานชายเอ่ยจบก็เดินฮึดฮัดออกไป

ภวัฒน์เดินอย่างหัวเสียออกมาพลางนึกถึงใบหน้าเชิดรั้นราวนางพญาของฉัตรปวีร์และยังคำดูถูกที่อีกฝ่ายบอกว่าเขาเป็นคนซื่อบื้อยิ่งเดือดพล่านไปด้วยความโกรธไปใหญ่ ชายหนุ่มควานหาโทรศัพท์มือถือมากดโทรออกหาคนรัก “เรศว่างไหมครับ เย็นนี้เราไปดินเนอร์กันมั้ย”

[ว่างค่ะพี่วัฒน์ ออกกี่โมงดีคะ]

“สักหกโมงครึ่งพี่ไปรับ แต่งตัวสวยๆรอนะครับคนดี วันนี้พี่มีเซอร์ไพรส์สำคัญให้เรศด้วย” ภวัฒน์เอ่ยอ่อนหวาน รู้สึกใจเย็นลงเมื่อได้ยินเสียงของคนรัก

[แน้ จะเซอร์ไพรส์อะไรเรศคะ]

“อ๊ะๆ ยังบอกไม่ได้เดี๋ยวไม่เซอร์ไพรส์ ไว้เจอกันแล้วจะบอกนะครับ”

เสียงหัวเราะใสใสดังมาตามสายพาให้ภวัฒน์คลายอารมณ์ขุ่นมัวลงได้มาก [โอเคค่ะ เรศจะแต่งตัวสวยๆรอนะคะ เจอกันค่ะ]

“เจอกันครับ”

ภวัฒน์กดวางสายแล้วโทรศัพท์ต่อไปยังร้านดอกไม้ให้มาส่งที่บ้าน เสร็จแล้วก็เข้าไปในห้องเก็บตู้เซฟใส่ของสำคัญของบ้านเพื่อหยิบแหวนแต่งงานของพ่อที่ใช้สวมให้แม่ในวันแต่งงานออกมา คืนนี้เขาจะใช้แหวนวงนี้ขอคนรักแต่งงานและจะประกาศชัยชนะต่อหน้าปู่และฉัตรปวีร์ว่าเขาจะไม่พ่ายแพ้เพียงแค่ถูกบีบด้วยเรื่องแค่นี้หรอก!



………………





รีวิวจากผู้อ่าน
ยังไม่มีรีวิวสำหรับเรื่องนี้

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว