หากรู้ว่ารัก-6.วังไม่ใช่บ่อน (3)

โดย  รสิตา เพียงพิณ

หากรู้ว่ารัก

6.วังไม่ใช่บ่อน (3)

‘ไปสนุกกัน คุณหญิงมาอยู่ไม่นานก็ต้องกลับอังกฤษแล้ว ไปเจอเพื่อนๆ กันนะคะ’

ภาวิณีโทรมาชวนไปกินเลี้ยงเล็กๆ ที่บ้านของเยาวลักษณ์เพราะเพื่อนๆ นัดรวมกลุ่มเจอกัน เนื่องจากคุณหญิงขวัญสุดากับคุณหญิงวรางคณากลับมาเมืองไทย แม้ไม่พร้อมหน้ากันทั้งห้อง แต่ก็เป็นกลุ่มใหญ่ และเพื่อนที่เยาวลักษณ์สนิทสนมด้วย ในตอนนี้เจ้าตัวเป็นลูกสาวรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ ใครๆ ก็อยากทำความรู้จัก

เยาวลักษณ์เรียนครุศาสตร์ในมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของไทย เจ้าตัวไม่อยากไปเรียนต่อต่างประเทศ ทั้งยังมีเป้าหมายและความสนใจอยู่ที่เรื่องอื่นมากกว่า การเรียนเป็นเรื่องรองเพื่อไม่ให้บิดามารดาเสียหน้าตาเท่านั้น

ในตอนแรกคุณหญิงขวัญสุดาไม่อยากไป ทว่ามาคิดดูแล้ว การไปที่บ้านของเยาวลักษณ์อาจทำให้ตนได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณหญิงยุพามารดาของอีกฝ่ายเรื่องวังกรณ์ภิรมย์ จึงตกลงตอบรับคำชวนของเพื่อนสนิทที่ยังเขียนจดหมายถึงกันเป็นระยะ แต่รถที่วังต้องไปส่งหม่อมสาวิตรีซึ่งออกไปข้างนอก คุณหญิงจึงต้องให้อีกฝ่ายมารับและภาวิณีก็ยินดี

คนที่มาร่วมในงานเลี้ยงมีเพื่อนสมัยเรียนมัธยมปลายห้าคนนอกจากคุณหญิงขวัญสุดากับคุณหญิงวรางคณาและภาวิณี ส่วนอีกหกถึงเจ็ดคนเป็นกลุ่มเพื่อนในมหาวิทยาลัยของเยาวลักษณ์กับภาวิณีที่เรียนครุศาสตร์ที่เดียวกัน ดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะพูดคุยอย่างถูกคอ สนิทสนมกันมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน

คุณหญิงขวัญสุดารู้ว่าตนเป็นจุดสนใจ ผู้คนทักทายสั้นๆ เล็กน้อยแล้วต่างแอบลอบมอง ไม่เข้ามาคุยด้วยเป็นจริงเป็นจัง คุณหญิงเองก็ไม่คุยกับใครนอกจากภาวิณี แม้แต่คุณหญิงวรางคณา ทั้งสองเพียงสบตากันแล้วเมินไปทางอื่น อีกอย่างตนสนใจอยากรู้ว่าคุณหญิงยุพาอยู่บ้านหรือไม่ และอยู่มุมไหนของบ้านมากกว่า

“ขอโทษนะจ๊ะ ห้องน้ำไปทางไหน”

เมื่อมีสาวใช้ยกขนมมาเพิ่มเพราะเป็นบุฟเฟ่ต์ เลือกทานได้ตามความชอบ คุณหญิงขวัญสุดาก็ได้โอกาสถามเพื่อเลี่ยงจากสวนสวยร่มรื่น ที่แม้จัดงานตอนกลางวันก็ไม่ร้อนเท่าไร

“เชิญทางนี้ค่ะ”

สาวใช้นำทางแทนที่จะบอก แต่อย่างน้อยคุณหญิงก็เดินเข้าตึกหลังใหญ่ได้โดยไม่เป็นที่สงสัย

“มีอะไรก็ไปทำเถิดจ้ะ ฉันจำทางได้”

เมื่ออีกฝ่ายเลี่ยงไป คุณหญิงจึงเข้าไปทำธุระส่วนตัว ก่อนจะออกมาจงใจเดินไปคนละทางกับสวน เดาว่าส่วนนี้เป็นห้องรับแขก แต่ก็ไม่เห็นใคร เดินกลับไปแอบมองส่วนที่ตรงไปทางเรือนเล็กซึ่งมีคนเดินเข้าออกตลอดเวลา คิดว่าเป็นเรือนครัว คุณหญิงยุพาน่าจะไม่อยู่ที่นั่น แต่จะเข้าไปเปิดประตูทุกห้องในตัวบ้านดูก็เสียมารยาทสุดท้ายจึงกลับไปที่บริเวณจัดงานเลี้ยง ทว่ายังไปไม่ถึงก็ได้ยินเสียงแว่วมา

“ตายจริง ถึงกับไม่มีรถมาที่นี่เลยหรือ โถ...คุณหญิงขวัญสุดา น่าเวทนาอะไรอย่างนี้”

เหมือนจะเป็นเสียงของวิไล

ริมฝีปากอิ่มเม้มขณะพยายามสูดลมหายใจเข้าลึก ทำใจให้ยอมรับให้ได้ว่าต้องมีคนนินทาอยู่แล้ว หากเท้าเล็กก็อดไม่ได้ที่จะขยับเข้าไปอีกหน่อยกระทั่งได้ยินเสียงชัดขึ้นและเห็นคนสี่คนยืนอยู่ที่มุมเครื่องดื่มไม่ห่างจากศาลานั่งเล่นนัก ส่วนคุณหญิงขวัญสุดายืนหลบตรงต้นไม้ดัดไม่สูงนักแต่ก็พอช่วยบดบังร่างอรชรได้

“เธอก็พูดเกินไปวิไล”

แม้จะตำหนิเพื่อน แต่ภาวิณีกลับยิ้มบาง สีหน้าแววตาราวสนุกขบขันเสียมากกว่า

“ก็จริงนี่ เมื่อก่อนเชิดหน้าชูคอ ไม่เห็นหัวใครแม้แต่คุณหญิงนาง ดูตอนนี้สิ ต้องอาศัยรถเธอมางานเลี้ยง แล้วดูชุดที่ใส่สิ ฉันจำได้ว่าเป็นชุดที่เคยใส่โชว์เดี่ยวเปียโนงานอะไรสักอย่างของโรงเรียนเนี่ยแหละ”

“อะไรจะขนาดนั้น”

เพื่อนอีกคนที่คุณหญิงไม่จัก น่าจะเป็นเพื่อนในมหาวิทยาลัยเอ่ยราวไม่อยากเชื่อ

“จริงนะ เธอก็จำได้ใช่ไหมภาวณี”

“จำได้”

ภาวิณีเสริมคำพูดของวิไลให้น่าเชื่อถือ

“เธอรู้ไหม ที่ได้ไปเรียนก็เพราะทุนจากมูลนิธิที่บ้านของเยาวลักษณ์เป็นผู้สนับสนุนใหญ่ งานนี้เยาวลักษณ์ก็เป็นคนจัดต้อนรับคุณหญิงวรางคณา ใครก็รู้ว่าสองคนสนิทกันมาก รถก็ไม่มี ชุดจะใส่ก็ไม่มี เป็นฉันคงไม่กล้ามา อายคน จากคุณหญิงผู้เฉิดฉายกลายเป็นคุณหญิงยาจก ฮึๆๆ”

“แหม คุณหญิงยาจกเลยหรือวิไล”

อีกหนึ่งคนที่คุณหญิงขวัญสุดาไม่รู้จักพูดยิ้มๆ

“ไม่เกินจริงหรอกจ้ะ ราชวิกรณ์น่ะจนกรอบจนไม่เหลืออะไรแล้ว จากที่รู้มาหม่อมแม่เลี้ยงคุณหญิงขนทุกอย่างขายไปเข้าบ่อนจนวังโล่งทีเดียว นี่เผลอๆ สักวันคงต้องขายวังกิน”

“จะผ่านไปกี่ปี เธอก็ยังนินทาชาวบ้านเก่งไม่เปลี่ยนเลยนะ”

วิไลถึงกับอ้าปากค้างที่อยู่ๆ เสียงคุณหญิงขวัญสุดาก็สวนขึ้นมา


=====

วิไลก็ยังนินทาคุณหญิงได้ตลอด ^^" แต่ภาวิณีนี่สิ คุณหญิงไม่เหลือเพื่อนที่จริงใจเลย T^T

ฝากติดตามด้วยนะคะ คอมเม้นต์พูดคุยกันได้นะคะ

เอ็นดูเรื่องนี้ ขอให้หัวใจ ช่วยผลักช่วยดัน เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนด้วยนะคะ เลิฟ เลิฟ^^

เฟซบุ๊กเพจ รสิตา เพียงพิณ

https://twitter.com/rasitawriter

รีวิวจากผู้อ่าน
ยังไม่มีรีวิวสำหรับเรื่องนี้

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว