DENUDE #เปลือยจันทร์

ธามเจ้าขา EP.03

ธามเจ้าขา EP.03
JAOKA TALK
1 สัปดาห์ต่อมา
ตั้งแต่วันนั้นที่เขาช่วยฉันไว้ ตัวฉันเองก็เหมือนเจอรักแรกพบ แล้วยิ่งได้รู้ว่าเขาคือเจ้าของโรงงานผลิตชุดชั้นใน ที่ฉันคิดจะทำงานด้วย นั่นทำให้ฉันอยากรู้จักเขาให้มากขึ้น แรก ๆ ฉันก็ใช้เรื่องงานเพื่อคุยกับเขา แต่ธามใจแข็งมาเลยค่ะ นี่ก็สองปีมาแล้ว เฮ้อ...แต่ถึงฉันจะคลั่งไคล้เขาแค่ไหน เรื่องงานของฉันก็สำคัญอยู่ดี
“สวัสดีค่ะพี่สาว ธามอยู่ไหมคะ” ฉันเอ่ยทักเลขาหน้าห้องของธามอย่างเป็นกันเอง แต่พอพี่เขาเห็นหน้าฉันก็ยิ้มแหย ๆ ออกมา
“อา...คุณเจ้าขาคะ พอดีคุณธามมีแขกอยู่รอสักครู่นะคะ” แขกงั้นเหรอ แปลกจัง...ปกติเวลาทำงานเขาไม่ค่อยเจอใครนี่นา วันนี้ฉันมีธุระไม่ว่างเสียด้วยสิ แต่ก็อยากเห็นหน้าคนที่ไม่ได้เจอมาหลายวัน เขาจะคิดถึงฉันเหมือนที่ฉันคิดถึงเขาหรือเปล่านะ
“นานไหมคะ ถ้านานเจ้าขาฝากเอกสารไว้แล้วกันนะ วันนี้มีธุระค่ะไว้วันหลังค่อยมาจีบเขาอีกที” ฉันบอกพี่สาวเลขาของเขาที่กำลังส่งยิ้มมาให้ แต่ในจังหวะที่ฉันกำลังจะหันหลังกลับนั้น
แกร็ก ครืด...
“ขอบคุณนะธาม...” ฉันมองดูสองร่างที่เดินออกมาจากห้องทำงานใหญ่นั่น คนหนึ่งคือผู้ชายที่ฉันกำลังคิดถึง ส่วนอีกคนก็คือ...ผู้หญิงคนนั้นคนที่เราเจอวันนั้น ไหมแพร ทันทีที่ธามหันมาเห็นฉันเขาก็ทำหน้านิ่งไม่เหมือนตอนที่ยิ้มให้ผู้หญิงคนนี้ ฉันเลือกที่จะเดินเข้าไปหาคนตัวสูง
“ธามคุยธุระเสร็จแล้วเหรอคะ งั้นเจ้าขาคุยงานด้วยหน่อยได้ไหม” ฉันเดินเข้าไปกอดแขนของธามทันที เขาไม่ได้ดึงมือฉันออก แต่ใบหน้าก็บ่งบอกว่าไม่พอใจ ฉันสนที่ไหนล่ะเรื่องอะไรจะปล่อยให้คนอื่นสำคัญกว่า ฉันจีบมาตั้งหลายปี
“แจ้งคุณสาวไว้เลยครับ ผมไม่ว่าง” เขาหันกลับมาบอกฉันด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง แต่ฉันก็ยังคงยิ้มตอบเขาไป
“เอ่อ...ถ้าธามมีงานเดี๋ยวแพรไปเองก็ได้” เสียงของผู้หญิงตรงหน้าฟังดูเกรงอกเกรงใจ หึหึ ถ้าเกรงใจจริงก็ไม่ควรมาแต่แรกแล้วปะ ขนาดแต่งงานแล้วยังมาหาผู้ชายอื่นถึงที่หน้าด้าน ฉันเบ้หน้าเล็กน้อยอย่างไม่ปิดบัง
“ไม่เป็นไรผมรับปากแพรแล้ว ใครไม่ได้นัดก็ควรนัดก่อนสิ” อา...เป็นว่าที่แฟนที่ทำตัวไม่น่ารักกับฉันเสียเลยนะธาม แต่คนอย่างเจ้าขา ไม่ยอมแพ้เพียงแค่มีผู้หญิงคนอื่นเข้ามาหรอกนะ
“หึหึ คุณไหมแพรให้ธามไปด้วยเถอะค่ะ เจ้าขารอได้เพราะยังไงเราก็เจอกันแทบทุกวันอยู่แล้ว ขอตัวนะคะ จุ๊บ...” ฉันพูดจบก็ยิ้มให้ทั้งสองคน ก่อนจะเดินตรงมาที่ลิฟต์เพื่อกลับ ถามว่าหัวเสียไหมตอบเลยว่ามาก แต่ฉันไม่แสดงออกมาให้เห็นหรอก วันนี้ฉันมีธุระด้วยแหละ เพราะงั้นปล่อยไปก่อนก็ได้ ธามต้องเป็นของเจ้าขาเท่านั้นค่ะ

2 วันถัดมา
@บ้านตระกูลรัตนโรจน์มงคล
“มึงไปวิ่งตามผู้ชายอีกแล้ว?” ฉันก้าวลงมาจากชั้นบนของบ้าน ก็ได้ยินเสียงหมาที่ชอบมาเฝ้าบ้านช่วงนี้ถามขึ้น
“ภพ...มึงช่วยอะไรกูหน่อยได้มะ” ตอนแรกที่ฉันตั้งใจจะออกไปข้างนอก แต่เห็นไอ้ว่าที่พี่เขยมันทักฉันก็เลยเดินเข้าไปหามันแทน
“ช่วย? ช่วยอะไร” มันมองฉันด้วยความสงสัย มันคงแปลกใจว่าอยู่ดี ๆ ฉันพูดกับมันโดยไม่ด่าตั้งแต่ประโยคแรก
“อยากได้ยาปลุกเซ็กซ์” ฉันบอกออกไป เพราะฉันอดทนมาสองปีแล้ว ถ้าปล่อยไปแบบนี้เขาอาจจะตกเป็นของคนอื่นก็ได้ ฉันไม่ใช่คนดีที่จะยอมปล่อยมือเขาไปง่าย ๆ
“นี่มึงไร้ความสามารถถึงกับต้องพึ่งยา?” คำถามของไอ้ว่าที่พี่เขยทำให้ฉันชะงักเล็กน้อย ก่อนจะตอบมันกลับไปว่า
“แล้วคนมีความสามารถอย่างมึงง้อพี่กูได้ยังล่ะ ถึงมานั่งเฝ้าเป็นหมาตรงนี้ ถ้ายังก็อย่าปากดี” ฉันพูดความจริงค่ะ ไอ้นี่มันเป็นฝรั่งปากดี เหมือนผีเจาะปากมันมาพูด คงเพราะก่อนหน้านี้มันสมองเสื่อมไปอยู่วัดนาน มันก็เลยพูดไทยชัดเจนแถมปากโคตรดี
“ปากมึงนี่มันไม่น่าให้จริง ๆ” เห็นไหม ฉันบอกแล้วเรื่องเถียงคำไม่ตกฟากยกให้มันเลยไม่มีใครเสมอเหมือน แต่สิ่งที่ฉันสงสัยก็คือ
“สรุปมีจริง?” ใช่ค่ะ คนบ้าอะไรมียาปลุกเซ็กซ์ติดตัว แต่ก็ไม่แน่หรอก ไอนี่มันคนเหี้ยประจำปีไม่มีอะไรที่มันทำไมไม่ได้
“ไม่มีโว้ย! แต่ก็หาได้” อา...ค่อยสบายใจนึกว่ามันมีจริง ๆ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นพี่สาวฉันต้องน่าเป็นห่วงแน่นอน
“กูจ่ายเงินได้” ฉันบอกออกไป เพราะคิดว่ามันไม่น่าจะยอมยกให้ฉันฟรี ๆ ก็เลยยื่นข้อเสนอให้มันไปแต่คำตอบที่ได้กลับมาก็คือ
“หมั่นไส้มึงไม่หาให้หรอก”
“อืม กูหาเองได้ แต่เดี๋ยวหาผัวใหม่ให้จันทร์ไปพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า บาย” อา...ได้ดิไอ้ฝรั่งขี้นก เล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับเจ้าขา หึ ฉันไม่ปล่อยให้มันแกล้งฉันได้ฝ่ายเดียวหรอกค่ะ มันไม่ใช่นิสัย
“เฮ้ย! มึงอย่ามาเหี้ยกับกูแบบนี้ได้ปะ?” มันโวยวายขึ้นมาทันที แน่นอนละ ก็มันกำลังง้อพี่สาวฉันเพราะเมื่อก่อนทำเลวเอาไว้เยอะ เยอะจนพี่ฉันที่เคยมีความอดทนก็ทนไม่ไหว
“ทีมึงเหี้ยกับพี่กู กูด่ามึงยัง? อย่าพูดดีไอ้หมาบ้าน” ฉันยังคงด่ามันกลับไปเหมือนเดิม
“เกลียดมึงนัก” มันโต้ตอบเช่นกัน ซึ่งฉันก็หาได้แคร์ไม่ ฉันไหวไหล่เล็กน้อยแล้วตอบมันกลับไปว่า
“กูก็ไม่ได้รักมึงเนอะ”
“มึงเอาจริงเหรอ?” อยู่ดี ๆ มันก็ถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง ต่างจากตอนแรกที่กำลังกวนประสาทไม่เลิก
“ก็แค่อยากเผื่อเอาไว้” ฉันคิดอยู่สักพักก่อนจะตอบออกไป แรก ๆ ก็คือ ไม่ได้ด้วยเล่ห์ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนตร์ต้องได้ด้วยคาถา แต่ฉันว่าไม่มีอะไรจะทำให้สำเร็จได้เท่าตัวเราเองหรอกค่ะ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
“อยากได้อะไรขนาดนั้นวะ” มันถามราวกับว่าสงสัยในการกระทำของฉันเป็นอย่างมาก ไม่แปลกหรอกค่ะที่มันจะสงสัย เพราะฉันเป็นคนไม่ได้หน้าตาขี้เหร่อะไร อีกทั้งยังมีคนมาจีบมากมายสมกับฉายานางฟ้า แต่ทำไงได้ในเมื่อ...
“กูรักเขา”
“มึงนี่เหมือนคนที่อะไรนะ ไอ้ชัชเคยสอนไว้เล่นอะไร อ๋อ...คนเล่นของ” คำพูดของไอ้ฝรั่ง ที่ชอบสรรหาคำพูดไทยแบบแปลก ๆ มาพูดให้ฟัง
“เล่นของอะไรของมึง” ฉันถามมันกลับไป พอเข้าใจค่ะ มันคงหมายถึงเล่นพวกคาถามนตร์ดำอะไรแบบนี้ ไอ้หมอนี่ไปอยู่วัดได้อะไรมาบ้าง มีเรื่องดี ๆ บ้างไหมเนี่ย
“ก็เล่นมากของเข้าตัว” คำตอบของคนตรงหน้า ทำให้ฉันได้แต่ขมวดคิ้วมองมันไม่วางตา เพื่อรอฟังในสิ่งที่มันจะพูดต่อ
“…” พอเห็นฉันไม่พูดอะไรออกมา มันก็ยิ้มแล้วพูดด้วยภาษาไทยสำเนียงแปล่ง ๆ ว่า
“จากเขารักเขาหลง เป็นมึงรักมึงหลงแทน ฮ่า ๆ”

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว