อัญมณีร้าว 20+

วันรวม(ศัรตู)เพื่อน

โมโหหึง

อิสระงัวเงียตื่นขึ้นมาในตอนเช้าเอามือควานหาร่างบางที่ตัวเองนอนกอดทั้งคืนเพื่อเอามากกกอดให้ชื่นใจ หากแต่ไขว่คว้าเพียงใดก็ไม่พบเจอ มองหารอบๆห้องไม่พบเดินไปห้องน้ำห้องครัว ห้องนั่งเล่นก็ไม่เจอ จึงตะโกนเรียกลูกน้อง เสียงดังเพื่อสอบถาม

“ไอ้วิน! ไอ้ชอน!” สองบอดี้การ์ดเมื่อได้ยินเจ้านายเรียกหาก็รีบวิ่งหน้าตั้งเข้ามาหาเจ้านายหนุ่ม เมื่อลูกน้องวิ่งเข้ามาในห้องก็ถามขึ้นทันที

“พวกมึง เห็นหมอกไหม?”

“เออ.. คุณหมอกกลับไปแล้วครับนาย” ลูกน้องตอบแบบกล้าๆกลัวๆเมื่อเห็นอารมณ์เจ้านาย

“ พวกมึงปล่อยให้ หมอก กลับไปได้ยังไง ห๊า?! แล้วทำไมพวกมึงไม่เข้ามาปลุกกู?” ตะคอกถามลูกน้องเสียงดัง สอบบอดี้การ์ดคนสนิทถึงกับหน้าหน้าซีด

“ เออ.. คุณหมอก..เธอ บอกว่าเจ้านายต้องการพักผ่อนไม่อยากให้ใครรบกวนจึงอนุญาตให้เธอกลับได้ครับ และก่อนไป..เธอ ยังกำชับพวกเราอีกว่าอย่าไปรบกวนเจ้านายครับ เพราะเจ้านายเหนื่อยมาก ” ลูกน้องตอบเสียงตะกุกตะกัก ไปตามที่หญิงสาวบอก

“ แล้วพวกมึงก็เชื่อ ?” ตะคอกใส่ลูกน้องเสียงดัง

“ครับ” สองบอดี้การ์ดหนุ่มตอบรับพร้อมกันเสียงอ่อย แล้วลอบกลืนน้ำลายเหนียวลงคอ ตั้งแต่อยู่รับใช้เจ้านายมาตั้งแต่เด็กพวกเขาไม่เคยเห็นเจ้านายหนุ่มโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงขนาดนี้มาก่อน

“พวกมึงทั้งคู่ ออกไปให้พ้นๆหน้ากูเลยไป๊ ” ไล่ลูกน้องออกไป แล้วตัวเองก็เดินกลับเข้าไปในห้องนอนด้วยอารมณ์ที่โกรธกรุ่น

“แม่ตัวดี บังอาจหนีกลับบ้าน อย่าคิดว่าฉันจะปล่อยเธอไปนะ รินหมอก” พูดเสียงรอดไรฟันออกมาด้วยความขัดใจ

ด้านอัญมณีนั้น เธอนั่งแท็กซี่กลับมาถึงคอนโดด้วยความเสียใจ ที่เป็นหญิงใจง่ายมีอะไรกับผู้ชายตอนเมาทั้งๆที่เรื่องของแฟนหนุ่มยังคาราคาซังอยู่ เธอเดินขึ้นห้อง เข้าไปอาบน้ำขัดถูตามเนื้อตัวอย่างรุนแรงหวังว่าสายน้ำจะช่วยพัดพาเอาความอัปยศให้หลุดลอกออกจากร่างกายไปได้

จากนั้นหญิงสาวก็หาอะไรกินรองท้องแล้วล้มตัวลงนอนแล้วผล็อยหลับไปเพราะความเพลีย ตื่นมาอีกทีก็ปาเข้าไปบ่ายโมง

“กริ้งงง กริ้งงงง” อัญมณีไม่มองดูเบอร์ให้เสียเวลาเพราะเสียงริงโทนพิเศษทำให้เธอรู้ว่าเป็นเพื่อนรัก จึงกดรับสาย เสียงงัวเงีย

“ว่าไงฝน”

“หมอกแกเป็นยังไงบ้าง? ทำไมไม่รับสายฉันๆโทรหาแกเป็นร้อยๆสายได้แล้วมั้ง เกิดอะไรขึ้นกับแกหรือเปล่า? ศรัณย่าถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง

“เออ.. ฉันไม่สบายนิดหน่อยแก รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวแล้วปวดหัวมากเลย ฉันกินยาแล้วนอนน่ะแกเพิ่งตื่นตอนที่แกโทรมาเนี่ยแหละ ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นแล้ว” อัญมณีโกหกออกไปเพราะไม่อยากให้เพื่อนคิดมาก

“ ดีแล้ว พักผ่อนเยอะๆนะแกฉันเป็นห่วง แต่ว่าตอนนี้แกไหวแน่นะ ทำไมเสียงยังอู้อี้อยู่ให้ ฉันไปหาไหม?” เพราะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมาหลายปีจึงทำให้ศรัณย่าจับน้ำเสียงของเพื่อนได้ เธอคิดว่าเพื่อนเธอคงจะไม่สบายมาก

“ ไม่ต้องหรอกแกนอนพักสักหน่อยก็หายแล้ว” อัญมณีปฎิเสธเพื่อนเพราะตอนนี้เธอยังไม่อยากพบใครทั้งนั้น

“ เออๆ..งั้นแกดูแลตัวเองดีๆด้วยล่ะ หาอะไรกินแล้วก็กินยา นอนพักผ่อนซะ ฉันไม่กวนแกแล้ว รักแกนะ”

“อือ ฉันก็รักแกเหมือนกัน” หลังจากวางสายกับเพื่อนรักแล้วหญิงสาวก็ลุกจากที่นอนเดินเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำ ขณะที่กำลังจะเดินเข้าไปในห้องน้ำนั้นเอง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

“กริ้งงงง กริ้งงงงงงง!!!” หญิงสาวเหลือบมองดูเบอร์แล้วถอนหายใจยาวออกมาก่อนจะกดรับสาย “ เราไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก คุณไม่ต้องโทรมาหาฉันอีกแล้วนะคะขอให้เรื่องของเรามันจบแค่นี้ เถอะค่ะ” เธอตัดสินใจได้แล้ว ถึงเธอจะรักเขา แต่มันก็ไม่มากพอเท่าที่เธอรักเพื่อน

“พี่ไม่ยอมนะหมอกๆต้องฟังพี่พูด ฟังพี่อธิบายก่อน เรื่องมันไม่ได้เป็นอย่างที่หมอกคิด หมอกเข้าใจนะ”

“ไม่จำเป็นค่ะ ดิฉันเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้ว”

“หมอกได้โปรดเถอะที่รัก ขอให้พี่ได้มีโอกาสพูดได้อธิบายความจริงให้หมอกฟังก่อน ออกมาพบพี่ได้ไหมที่รัก ถ้าหมอกไม่ยอมออกมาพบพี่เดี๋ยวพี่จะไปหาหมอกที่คอนโดเดี๋ยวนี้เลย” ลูเชียโน่อ้อนวอนขอร้องแฟนสาวให้ออกมาพบตน มีหลายเรื่องที่เขายังไม่ได้บอกเธอ ไม่ได้พูดไม่ได้อธิบายกับเธอ แต่พยายามอ้อนวอนอย่างไรเธอก็ไม่ยอมออกมา เขาจึงขู่ว่าจะไปหาเธอเอง อัญมณีฟังเขาพูดออดอ้อนขอร้องเธอด้วยความปวดใจ แต่ตอนนี้เธอยังไม่อยากพบเขา เธอยังทำใจไม่ได้

“ไม่ต้องมาหรอกค่ะ ตอนนี้ฉันยังไม่พร้อมที่จะพบหน้าหรือพูดคุยกับคุณ”

“ ได้โปรดเถอะหมอกขอให้พี่ได้เจอหมอกได้อธิบายให้หมอกเข้าใจ แล้วพี่จะไม่รบกวนหมอกอีกเลยพี่ขอร้องนะคนดี”

“ก็ได้ค่ะฉันจะไปพบคุณ วันอาทิตย์หน้าที่ร้านเดิมที่เคยเรานัดกันไว้”

หลังจากวางสายกับลุกซ์แล้วหญิงสาวก็ทรุดตัวลงกับที่นอน ก้มหน้าร้องไห้จนผล็อยหลับ

ตอนเช้าหญิงสาวก็มาทำงานตามปกติและเมื่อเจอหน้าอิสระเธอก็ไหว้ทักทายเขาเป็นปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเธอกับเขา

“น้องหมอก เรามีเรื่องต้องคุยกัน” ชายหนุ่มพูดขึ้นขณะทีเดินมาหาเธอที่หน้าโต๊ะทำงานของเธอ ในห้องทำงานส่วนตัวของเธอ เพราะเขาทนไม่ได้ที่หญิงสาวเฉยชาใส่เขาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อคืนวาน ทั้งๆที่เธอเป็นฝ่ายเสียหายเขาจึงเดินมาหาเธอที่ห้องทำงานของเธอเพื่อพูดคุยเจรจา ตกลงกับเรื่องที่ตัวเองก่อ

“พูดมาสิคะ ฉันฟังอยู่” อัญมณีเงยหน้าจากกองเอกสารบนโต๊ะ พูดเสียงเรียบ มองดูเขาด้วยใบหน้าเฉยชาปราศจากอารมณ์ใดๆ

“คือเรื่องที่เกิดขึ้น เมื่อคืนวานนี้พี่ยินดีรับผิดชอบนะครับ” ชายหนุ่มเสนอตัวรับผิด นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาอยากรับผิดชอบ

“ ไม่ต้องหรอกค่ะ! คุณไม่ได้ผิด แต่เป็นเพราะฉันเมาขาดสติ ขาดความยั้งคิด ถ้าจะมีคนผิดเราก็ผิดด้วยกันทั้งคู่ ดังนั้นคุณไม่ต้องมารับผิดชอบฉันหรอกค่ะ” เธอพูดออกไปแล้วหันไปมองหน้าเขาอย่างเฉยชา แต่ชายหนุ่มกลับมองเธอเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อเธอไม่ต้องการความรับผิดชอบจากเขา เหตุผลเพราะเธอเมาขาดสติ ขาดความยั้งคิด แต่ถ้าเขาไม่ใช่คนเริ่มก่อนมีเหรอว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้เพราะเขาตั้งใจต่างหาก

“ผมไม่ยอม ได้ผมแล้วคิดจะสลัดผมทิ้งเหรอไม่มีทาง!! คุณบอกว่าคุณเมาขาดสติแล้วเผลอมีอะไรกับผมคุณคิดว่าแค่คุณเมาคุณจะปล้ำผมได้เหรอถ้าผมไม่ได้เป็นคนเริ่มไม่ให้ความร่วมมือและอีกอย่างผมก็ไม่ได้เมา ผมตั้งใจมีอะไรกับคุณ หรือคุณจะให้ผมกินฟรีๆงั้นเหรอ? พูดตะคอกกลับเพราะความโกรธ

“ถึงคุณจะบอกว่าคุณตั้งใจก็เถอะ แต่ความจริงก็คือความจริง ฉันเมาขาดสติขาดความยั้งคิดเผลอตัวเผลอใจมีอะไรกับคุณ ฉันเองก็เสียใจไม่น้อยเหมือนกัน ไหนๆเรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว ฉันขอให้เรื่องจบแค่ลงแค่นี้นะคะฉันขอยืนยันว่าฉันไม่เรียกร้องอะไร” หญิงสาวมองเขาด้วยสายตาเย็นชา ตอบเสียงเรียบใบหน้าไร้ความรู้สึก

“ เธอคิดจะกลับไปหาไอ้ลุกซ์มันเหรอ อย่าฝันไปเลยมันเป็นคู่หมั้นของเพื่อนรักเธอนะ”

“ คุณอิฐ!” หญิงสาวอุทานออกมา เธอไม่รู้ว่าเขาไปรู้อะไรมา เพราะไม่มีใครรู้เรื่องของเธอกับลุกซ์ว่าเป็นแฟนกันเลยนอกจากเพื่อนนางแบบของเธอที่อเมริกาไม่กี่คน และลูกน้องของแฟนหนุ่มเอง

“ ฉันจะกลับไปหาใครหรือมีใครมันก็เรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวกับคุณๆไม่มีธุระอะไรอีกแล้วใช่ไหมคะ งั้นดิฉันขอตัวทำงานต่อ ” พูดจบหญิงสาวก็ก้มหน้าก้มทำงานไม่สนใจเขาอีก

“ โธ่โว๊ย!!” ชายหนุ่มฮึดฮัดเดินออกจากห้องทำงานของหญิงสาวด้วยความโกรธกรุ่นไม่ดั่งใจ คำรามออกมาเสียงดังเมื่อเดินกลับมาถึงหน้าห้องทำงานของตัวเอง จากนั้นก็กระชากประตูเปิดเข้าไปในห้องด้วยอารมณ์ที่โกรธกรุ่น

“เฮ้ย ไอ้อิฐ มึงไปกินรังแตนมาจากไหนวะเพื่อน ??” ศรายุที่มานั่งรอเพื่อนรักในห้องทำงานถามขึ้นเมื่อเห็นเจ้าของห้องเปิดประตูห้องเข้ามาด้วยหน้าตาบูดบึ้ง

“อ้าวไอ้ยุ มึงมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วลมอะไรหอบมึงมาที่อ๊อฟฟิศกู” อิสระเมื่อเห็นว่าเพื่อนรักมารอตัวเองอยู่ในห้องก็รีบปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ

“ลมคิดถึงว่ะเพื่อน บังเอิญกูผ่านมาทางนี้เลยแวะหามึง กูกะว่าจะมาชวนมึงไปกินข้าวเที่ยงว่ะ” พูดจบก็สอดส่ายสายตาไปรอบๆโดยไม่สนใจจะซักถามเรื่องราวของเพื่อนต่อเลย

“ ก็ไปสิ แต่เดี๋ยวกูเคลียร์งานแป๊ปนึงก่อน”

“ตามสบายเลยครับเพื่อน” ปากบอกเพื่อนแต่สายตาสอดส่ายไปทั่ว

“ แล้วนี่มึงมองหาใครวะไอ้ยุ กูสังเกตุเห็นท่าทางลุกลี้ลุกลนของมึงตั้งแต่กูเดินเข้ามาแล้ว” อิสระถามเพื่อน เพราะตั้งแต่เขาเดินเขามาแล้วไอ้เพื่อนของเขามาเปิดดูนั่น เดินไปดูนี่อยู่ไม่สุข

“ เปล่าไม่มี๊” ปฎิเสธเพื่อนเสียงสูง มีพิรุธเต็มๆ

“ ไอ้ยุ!!” อิสระเรียกเพื่อนเสียงเข้มจ้องตาเขาไม่กระพริบ

“ ปฎิเสธเสียงสูงอย่างนี้ แล้วมึงบอกกูว่าไม่มีอะไร มึงไม่ได้แค่ผ่านมาและมึงไม่ได้แค่มาชวนกูไปกินข้าว มึงต้องการอะไรไอ้ยุสารภาพมาเลยมึง!!” อิสระขู่เพื่อนเสียงดัง ศรายุยิ้มกว้างให้เพื่อนเมื่อเพื่อนรู้ทันตัวเอง

“เออ..ไอ้อิฐ วันนี้น้องหมอกไม่มาทำงานเหรอวะ ทำไมกูไม่เห็นน้องเขาเลย” อิสระเหลือบตามองเพื่อนด้วยสีหน้าไม่พอใจก่อนตอบ

“มา แล้วมึงถามหาเขาทำไม? ”

“ คือกูอยากจะชวนน้องเขาไปกินข้าวกับเราด้วยน่ะ”

“มึงหยุดเลยไอ้ยุ มึงอย่ามาก้อล่อก้อติกกับลูกน้องของกูนะโว๊ย เดี๋ยวมันเสียการปกครอง เดี๋ยวมึงก็ทิ้งเขาไปอีกกูไม่อยากโดนด่าเหมือนคนที่แล้ว และอีกอย่าง มึงอย่ามาทำลายอนาคตของเด็กมันเลยว่ะปล่อยให้เขาไปได้ดีบ้างเถอะ” อิสระพูดกันเพื่อนด้วยสีหน้าจริงจัง แต่ในใจนั้นให้พรไปเรียบร้อยแล้ว โธ่ไอ้เพื่อนเลวเล็งใครไม่เล็งเสือกมาเล็งเมียกู

“ เฮ้ย..ไอ้อิฐ แต่คนนี้กูจริงจัง รักจริงหวังแต่งนะโว๊ย.. น้องหมอกเขาอยู่ห้องไหนเดี๋ยวกูไปชวนน้องเขาเอง”

“งั้นมึงก็ไปหาเอาเองเถอะ” ชายหนุ่มบอกเพื่อนรักไปทั้งที่ในใจเขาตอนนี้เดือดจนปรอทจะแตกอยู่แล้ว

“ก๊อก ก๊อก ก๊อก สวัสดีค่ะน้องหมอก” ชายหนุ่มทักขึ้นเมื่อเปิดหาห้องหญิงสาวที่เขาเฝ้าละเมอหาตั้งแต่คืนก่อนแล้ว

” คุณศรายุ” อัญมณีอุทานชื่อเขาออกมา มองเขาด้วยสายตาเย็นชาแม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนานผู้ชายคนนี้ยังหล่อเหมือนเดิมรูปร่างสูงใหญ่ใบหน้าคมคิ้วเข้มจมูกโด่งเป็นสันตาเหยี่ยวคมในตาสีเหล็กปากเรียวหยักผมดกดำจัดแต่งเซ็ทเป็นทรงได้อย่างลงตัวเขาหล่อกว่าใครในบรรดาเพื่อนๆในกลุ่มของเขาสมกับฉายาที่เขาตั้งให้แล้ว คาสโนว่าหน้าหล่อ แต่มันก็แค่รูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้นแหละแต่จิตใจเขามันช่างเลวทรามต่ำช้าเหลือเกินทำลายได้แม้กระทั่งอนาคตของเด็กสาวบริสุทธิ์คนหนึ่งเพียงเพื่อความสนุกความท้าทาย ไอ้ผู้ชายสารเลว หญิงสาวยิ้มบางๆให้เขาแต่ในใจนั้นก่นด่า แววตาหยันเหยียด

“คุณศรายุมีอะไรกับดิฉันเหรอคะ? หญิงสาวถามเสียงเรียบ ชายหนุ่มหาได้สนใจอาการของเธอไม่ เขาทำเป็นไม่สนใจสายตา ที่เธอมองเขาด้วยสายตาเย็นชาหยันเหยียด ส่งยิ้มเจ้าเสน่ห์ให้หญิงสาว

“ ตอนนี้มันเที่ยงแล้วนะคะพี่มาชวนน้องหมอกไปทานอานอาหารกลางวันด้วยกันค่ะ” พูดเสียงหวานใส่หญิงสาวอย่าง สนิทสนมคนคุ้นเคย

“เออ..เดี๋ยวดิฉันออกไปทานกับเพื่อนค่ะ เกรงใจคุณยุเปล่าๆ” หญิงสาวปฎิเสธเสียงเรียบ

“ไม่เอาสิคะ ไปทานกับพี่นะคะพี่แวะมาชวนน้องหมอกไปทานข้าวโดยเฉพาะนะคะ” ชายหนุ่มออดอ้อน อัญมณียิ้มเยาะในใจ คุณต้องการอะไรล่ะคราวนี้ ไม่ว่าคุณจะต้องการอะไรจากฉันก็ตาม ศรายุลูกอ้อนมุกเก่าใช้กับฉันไม่ได้อีกแล้วล่ะฉันมันพวกเจ็บแล้วจำหญิงสาวคิด เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นเจ้านายยืนแอบอยู่ตรงประตูเธอจึงตอบรับคำชวน

“ก็ได้ค่ะ เดี๋ยวดิฉันออกไปทานข้าวกับคุณก็ได้”

“ น้องหมอกขาน้องหมอกเป็นเพื่อนกับยัยฝนไม่ต้องเรียกพี่ว่าคุณหรอกค่ะ เรียกพี่ยุเหมือนยัยฝนแล้วแทนตัวเองว่าหมอกนะคะ” ชายหนุ่มออดอ้อนเสียงหวาน หญิงสาวมองหน้าเขาแล้วยิ้มที่มุมปากก่อนจะ แล้วตอบรับคำขอ

“ได้ค่ะ พี่ยุ” พูดจาเหมือนอ่อนหวาน แต่ถ้าคนตั้งใจฟังจะสัมผัสได้ถึงความเย็นชาและเหยียดหยัน

“ไปกันได้หรือยัง กูหิวไส้จะขาดแล้ว” อิสระซึ่งตามแอบตามเพื่อนมาด้วยความหึง เขายืนแอบมองแม่ตัวดีอยู่ด้านนอกด้วยความไม่พอใจ ที่กับเขาคุณอย่างงั้น ฉันอย่างนี้ ที่กับเพื่อนเขา เรียกพี่เห็นแล้วโมโห

“ไปกันเถอะค่ะน้องหมอก” ชายหนุ่มถือวิสาสะจับมือหญิงสาวเดินออกไป แต่เธอก็ดึงออกด้วยความนุ่มนวลทำให้ชายหนุ่มอีกคนพอใจเป็นอย่างมาก

ที่ร้านอาหารไทย ใกล้ที่ทำงาน

“น้องหมอกอยากทานอะไรคะ? เดี๋ยวพี่ยุเลี้ยงเองค่ะ” หญิงสาวมองหน้าแล้วขอบคุณ แล้วเธอเริ่มสั่งอาหารที่ชายหนุ่มชอบมาสองสามอย่าง ลองดูซิว่าเขาจะจำเธอได้ไหม

“ อุ้ยน้องหมอก ก็ชอบทานแกงเผ็ดเป็ดย่างด้วยเหรอคะ อาหารที่น้องหมอกสั่งมานี่มีแต่อาหารมีแต่อาหารจานโปรดพี่ทั้งนั้นเลย ใจเราสองคนตรงกันนี่ สงสัยจะเป็นเนื้อคู่กัน” ชายหนุ่มหยอดมุกหวานเลี่ยนยิ้มหวานเยิ้มให้กับหญิงสาว

“ถ้าชอบก็ทานเยอะๆสิคะ เดี๋ยวหมอกตักให้” หญิงสาวหยอดคำหวานแล้วยิ้มที่เยาะที่มุมปากพร้อมกับตักอาหารให้ชายหนุ่มอย่างเอาใจ ท่าทีของเธอที่มีให้แก่ชายหนุ่มตรงหน้าทำให้ชายอีกคนถึงกับไม่พอใจเธอทำราวกับว่าเขาไม่มีตัวตน เขาได้แต่กำมือแน่นด้วยความโกรธโมโหหึง มองหน้าหญิงสาวอย่างอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ หลังจากศรายุกลับไปแล้วอัญมณีกำลังเดินกลับเข้าห้องทำงานของตัวเอง

”เดี๋ยว จะรีบไปไหนคุยกันก่อนสิ” หญิงสาวหันมามองหน้าเขาด้วยใบหน้าเรียบเฉยไม่บ่งบอกอารมณ์ ถามขึ้นเสียงเรียบ

“คุณมีอะไรเหรอคะ”? เจ้านายหนุ่มจ้องหน้าแล้วจับแขนเธอบีบด้วยความโกรธระคนหึงหวงแล้วกระชากอย่างแรงจนร่างบางเสียหลักชนเข้ากับอกแกร่ง

“โอ๊ย ปล่อยคะคุณอิฐ ฉันเจ็บ” เธอร้องประท้วง

“ เจ็บสิดีจะได้หายร่านซะที เธอนี่มันร่านดีจริงๆเลยนะ เมื่อวานยังนอนให้ฉันเสียบฟรีๆอยู่เลย แล้ววันนี้ยังให้ท่าไอ้ยุเพื่อนฉันอีก แล้วไหนจะไอ้ลุกซ์อีกสุดยอดจริงๆเลยเธอเนี่ย ยังเหลือไอ้พอลอีกคนนะทำไมไม่เหมาให้ครบทุกคนเลยล่ะ” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับเหยียดยิ้มที่มุมปากอย่างดูถูกเหยียดหยาม

“เพี๊ย” เสียงฝ่ามือเรียวกระทบแก้มสาก ชายหนุ่มตะลึงงันเพราะตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครกล้าทำอย่างนี้กับเขาเลย มือสางลูบแก้มข้างที่โดนตบ

“นี่เธอกล้าตบฉันเหรอรินหมอก”

“นี่ยังน้อยไปซะด้วยซ้ำกับคำพูดพล่อยๆดูถูกหยามเกียรติของฉัน และจงโปรดเข้าใจไว้ด้วยนะคะคุณอิสระ เราไม่ได้เป็นอะไรกันและคุณก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะมากล่าวหาหรือก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของดิฉันถึงฉันจะร่าน แต่ฉันก็ไม่เคยทำให้ใครต้องเดือดร้อนมาก่อน มีแต่จะทำให้คนเขาติดใจมากขึ้น ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวกลับไปทำงาน” กล่าวจบแล้วสะบัดแขนเรียวออกอย่างแรงเพื่อให้หลุดพ้นจากมือใหญ่แต่ไม่เป็นผลมือใหญ่ยิ่งบีบแน่นราวกับคีมหนีบเหล็ก

“รินหมอก!!” ชายหนุ่มตะคอกใส่หญิงสาวด้วยความโมโห

“ เธออย่ามาอวดดีกับฉันนะ ถ้าเธอทำอย่างนั้นจริงๆฉันฆ่าเธอแน่ และเธออย่าหวังจะให้ไอ้ตัวผู้หน้าไหนมาทับรอยฉันได้ แม้ว่ามันจะเป็นเพื่อนของฉันก็ตาม ฉันไม่ปล่อยมันไว้แน่และสิทธิ์ที่เธอถามหาฉันมีแน่” พูดจบดึงร่างบางเข้าแนบชิดอกโอบรัดเอวบางไว้แน่นส่วนมืออีกข้างก็กดท้ายทอยไว้ไม่ให้หญิงสาวส่ายหน้าหนีแล้วโน้มปากหนามาปิดริมฝีปากบางจูบหนักๆที่ปากอิ่มบดขยี้ปากสวยด้วยความโมโหจนปากบวมเจ่อโดย ไม่สนใจเสียงร้องอู้อี้และดิ้นหนีของหญิงสาวแม้แต่น้อย

”อื้อ อ่อย อั๋น ” เสียงบอกให้ปล่อยแล้วใช้มือผลักอกแกร่งเพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นแต่ ชายหนุ่มไม่สนใจอะไรทั้งนั้นเขาโมโหจนหน้ามืดและต้องการลงโทษที่เธอพูดจาแบบนั้นออกมาและยิ่งเห็นเธอระริกระรี้หยอกล้อเอาใจเพื่อนรักของเขาแล้วยิ่งคิดยิ่งโมโห คิดจะให้ใครมาทับรอยรอให้เขาตายไปก่อนเถอะ ‘เมียข้าผู้ชายหน้าไหนก็ห้ามแตะ’ จากจูบลงโทษก็เปลี่ยนเป็นจูบอ่อนหวานแต่เร่าร้อนมือหนาปล่อยท้ายทอยของเธอแล้วเปลี่ยนมาขยำเต้างามอย่างเมามันส์ ริมฝีปากละเลียดชิมความหวานจนได้ยินเสียงหอบดังจากริมฝีปากบางเมื่อหญิงสาวเริ่มดิ้นเพื่อหาอากาศหายใจชายหนุ่มค่อยๆถอนริมฝีปากออกแล้วประกบปากหยักลงไปใหม่อย่างรวดเร็วมือไม้เริ่มซุกเข้าไปในเสื้อที่ถูกปลดกระดุมออกตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้แล้วบีบเคล้นอกสวยได้รูปของหญิงสาวตามแรงอารมณ์ แต่ไม่นานเขาก็หยุดและถอนริมฝีปากออกเมื่อร่างบางนิ่งไม่ตอบสนองก่อนจะผละออกเพื่อมองดู ทางด้านอัญมณีทีแรกประท้วงไม่เป็นผลและเผลอเคลิ้บเคลิ้มกับรสสัมผัสของชายหนุ่มในตอนแรก เมื่อได้สติคืนมาเธอก็ปล่อยเขาให้รุกรามตามใจโดยไม่ปัดป้องพอเขาผละออกจากเธอเธอก็เงยหน้ามองเขาแล้วพูดขึ้น

“ถ้าสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่นี้มันคือความสุขของคุณ และการที่คุณเหยียบย่ำหยามเกียรติของฉันด้วยการกระทำที่ต่ำช้า วาจาอันร้ายกาจไร้ความคิดมันคือความสุขของคุณก็ทำไปเถอะค่ะฉันไม่ว่าอะไร ฉันจะถือว่าฉันทำทานครั้งใหญ่และหวังว่าต่อไปนี้ชีวิตของฉันจะได้พบแต่สิ่งดีๆอย่าได้เจอกับเรื่องที่อัปยศอดสูเช่นนี้อีก เธอพูดและมองดูเขาด้วยสายตานิ่งเรียบและเย็นชา จนชายหนุ่มใจสั่นๆชาวาบไปทั้งตัวกับสายตาที่มองมาที่อย่างว่างเปล่า

“ หมอก พี่ขอโทษ” เขาเอ่ยแล้วมองหน้าหญิงสาวด้วยความรู้สึกผิดแต่ยังไม่ทันกล่าวจบเธอก็พูดขึ้นมาก่อน

“ถ้าคุณอิสระ ไม่มีอะไรแล้ว ดิฉันขอตัวไปทำงานต่อนะคะ”

“เดี๋ยวหมอก” ชายหนุ่มยื่นมืออกไปหวังจะคว้าเธอไว้แต่เธอก็รีบเดินออกไปเสียแล้ว

“โธ่เว๊ย!!!” เขาสบถออกมาเสียงดังพร้อมทุบกำปั้นลงโต๊ะทำงานจนสะเทือน เพราะความโมโหหึงจึงทำให้เขาพูดจาแบบนั้นออกไปอย่างไม่ได้คิดหน้าคิดหลัง ด้านอัญมณีเมื่อออกจากห้องชายหนุ่มมาเธอก็ตรงเข้าห้องน้ำทันทีเพื่อจัดแจงเสื้อผ้าของตัวเองให้เรียบร้อย ใครว่าเธอไม่เจ็บ ใครว่าเธอไม่รู้สึก แต่ที่เธอไม่แสดงออกมาเพราะเธอไม่อยากให้เขาหรือใครๆได้เห็นว่าเธอนั้นมันอ่อนแอ น่าสมเพชแค่ไหน เธอเจ็บจุกจากคำพูดของเขาจนพูดไม่ออก โดยเฉพาะการกระทำของเขาที่ทำเหมือนว่าเธอไม่มีศักดิ์ศรียิ่งเจ็บ หญิงสาวค่อยๆหลับตาลงตั้งสติปรับอารมณ์ประมวลความคิดใหม่แล้วลืมตามองตัวเองในกระจก เธอบอกตัวเองว่าไม่ควรใส่ใจว่าเขาจะคิดอย่างไรไม่ต้องไปแคร์ว่าเขาจะพูดอะไรกับเธอ เพราะเขามันก็แค่หมากในกระดานตัวหนึ่งที่เธอพลาดท่าเสียทีให้ เขาไม่มีความสำคัญใดๆกับเธอ เพราะเธอมีหมากตัวอื่นที่สำคัญกว่าที่ต้องจัดการรออยู่ข้างหน้า เมื่อจัดการกับความคิด อารมณ์อ่อนไหวของตัวเองได้แล้ว หญิงสาวก็จัดการล้างหน้าล้างตาสำรวจตัวเองให้เรียบร้อยแล้วเดินกลับไปทำงานต่อ

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว